การถามว่า “คุณเป็นอย่างไรบ้าง ภาษาอังกฤษมีอยู่หลายสำนวนด้วยกันนะครับ” เลือกเอาสักสองสามสำนวนไว้ถามทุกข์สุขกับเพื่อนฝรั่งกะแล้วกัน … ฝึกให้คล่อง ท่องให้แม่น รับรองว่าการสนทนาจะลื่นไหล Show สำนวนคุณเป็นอย่างไรบ้าง ภาษาอังกฤษ…สำนวนนี้เอาไว้ถามทุกข์สุขนะครับ ถ้าเป็นภาษาเราก็ประมาณว่า “สบายดีมั๊ย” ซึ่งคนไทยไม่ค่อยถามกันสักเท่าไหร่ แต่ฝรั่งเขาใช้บ่อยในชีวิตประจำวัน ไม่ต้องไปแกะทีละตัวนะครับว่าแต่ละคำแปลว่าอะไร สำนวนทั้งหมดต่อไปนี้ คำแปลก็ประมาณว่า “คุณเป็นไงบ้าง” นั่นแหละฮะ
ทั่งหมดทั้งมวลนี้เขาเรียกว่า การทักทาย คำตอบก็คงไม่ต้องคิดอะไรมาก จะสบายดีหรือไม่อย่างไร ให้ตอบไปเลยว่า “สบายดี”
ส่วน What’s up? กับ What’s new? คำแปลก็ประมาณว่า ช่วงเป็นไงบ้าง ช่วงนี้ทำอะไรอยู่ ซึ่งคำตอบแบบไม่ต้องการอธิบายอะไรให้มากความ ก็ตอบสั้นๆไปเลยว่า
คำแปลก็ประมาณว่า “ไม่มีอะไรหรอก” คำตอบนี้ก็เป็นแค่คำทักทาย ไม่ต้องไปอธิบายอะไรให้ยุ่งยาก แต่ถ้าเป็นเพื่อนสนิทกัน คำตอบจริงๆมันจะอยู่ในช่วงการสนทนานั่นแหละ ว่าช่วงนี้ทำอะไรอยู่ ชีวิตปัจจุบันเป็นไงบ้าง… บอกเลิกแบบดี ๆ และแบบแรง ๆ เป็นภาษาอังกฤษ เริ่มด้วยการบอกเลิกแบบรุนแรง We’re done. It’s over. Get out of my life! Beat it! ไสหัวไป Leave me alone. ปล่อยให้ฉันอยู่คนเดียวเถิด You’re the worst girlfriend I’ve ever had. คุณเป็นแฟนที่แย่ที่สุดที่ผมเคยมี Get out of my life and never call me again. ออกไปจากชีวิตฉันซะแล้วก็ไม่ต้องโทรมาอีกนะ ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างการใช้ประโยคบอกเลิกที่ฟังดูถนอมน้ำใจกัน หรือมีเหตุผลมากขึ้น Things aren’t working out between us anymore. อะไรๆระหว่างเรามันไม่โอเคแล้วล่ะ It’s not working anymore. มันไม่เวิ้กแล้วอะ I don’t feel the same about you anymore. ฉันไม่รู้สึกเหมือนเดิมกับคุณอีกแล้ว It’s just not the same anymore. มันไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว I think we need to start seeing other people. ฉันคิดว่าเราน่าจะลองคบคนอื่นดูบ้างนะ It’s time that we start seeing other people. ถึงเวลาที่เราน่าจะลองคบคนอื่นดูบ้าง I think it’s time we call it quits. ฉันคิดว่าถึงเวลาที่เราจะเลิกกันได้แล้ว I think it’s time we split up. ฉันคิดว่าถึงเวลาที่เราจะเลิกกันได้แล้ว We should probably break up. เราน่าจะเลิกกันนะ You know it’s not working out. Let’s just break up. คุณก็รู้ว่ามันไม่เวิ้กแล้ว เลิกกันเถอะ We both know things aren’t the way they used to be. เราทั้งสองคนต่างก็รู้ว่ามันไม่เหมือนเดิมแล้ว It’s not you, it’s me. มันไม่ใช่คุณหรอก มันเป็นที่ผมเองแหละ I’ve got so many things going on in my life. I just can’t handle this relationship anymore. You’re too good for me. I’m not good enough for you. I feel like I'm just not up to your level. ฉันรู้สึกว่าฉันไม่คู่ควรกับระดับของคุณ I’m not worthy of you. ผมไม่คู่ควรกับคุณหรอก เวลาที่เราคุยกับเพื่อนต่างชาติหรือเพื่อนคนไทยทั่วไป แล้วอยากจะ สมมติเรื่องต่าง ๆ ถ้าเป็นในภาษาไทยนั้นก็ฟังดูง่าย เพราะใช้ได้ทั้งคำว่า สมมติ, ลองนึกภาพ, ลองคิดดู หรืออื่น ๆ จริงไหมคะ ⠀ ⠀ แต่ถ้าอยากพูดเป็นภาษาอังกฤษขึ้นมาละก็… วันนี้ลองมาดูกันค่ะ ว่าเพื่อน ๆ สามารถใช้คำไหนได้บ้าง ถ้าเกิดอยากจะสมมติบางเรื่องขึ้นมา ถ้าอยากเก่งอังกฤษยิ่งขึ้นไปอีก สามารถดูวิธีการพัฒนาภาษาได้ที่ คลิก
รวม 30 Phrasal verb ที่ห้ามแปลตรงตัว ทำความเข้าใจ Adverb ควรใช้อย่างไร? วางตรงไหนของประโยค? ⠀ ⠀ Let’s say… (เลทสฺ เซย์)คำกริยาตามหลังใช้ช่อง 2 เพราะเป็นการสมมติสิ่งที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริง⠀ ⠀
Suppose (ซะโพสซฺ)คำกริยาตามหลังใช้ช่อง 2 เพราะเป็นการสมมติสิ่งที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริง ⠀ ⠀
Imagine (อิแมจ'จิน) คำนี้น่าจะได้ยินกันบ่อย เพราะแปลว่า ‘จินตนาการ’ ‘วาดฝัน’ หรือ ‘นึกภาพ’ ซึ่งเราสามารถใช้เพื่อสมมติเรื่องบางอย่างขึ้นได้ค่ะ ข้อควรระวังคือ Imagine เป็นคำกริยาที่ต้องตามด้วยคำนามหรือ หรือกลุ่มคำนาม ดังนั้นหากจะตามด้วยคำกริยา ก็จะต้องเปลี่ยนให้เป็น Gerund โดยการเติม -ing ไปด้านหลัง ⠀ ⠀
ทีนี้ถ้าอยากจะสมมติบางเรื่องขึ้นมา คราวหน้าอย่าลืมเลือกคำเหล่านี้ไปลองใช้กับเพื่อน ๆ เพื่อเพิ่มความโปรในการใช้ภาษาอังกฤษมากยิ่งขึ้นนะคะ เป็นไงเป็นกันก. ถึงเป็นอะไรก็ยอม, สู้จนถึงที่สุด.
ทํางานเป็นยังไงบ้าง ภาษาอังกฤษhow was work today? วันนี้ทำงานเป็นอย่างไรบ้าง
ว่าไง ภาษาอังกฤษแบบสุภาพถ้าอยากสุภาพ ต้องใช้คำเหล่านี้แทน ⬇️⬇️ ให้พูดว่า What is it? ว่ายังไงจ๊ะ
คุณเป็นยังไงบ้าง ภาษาอังกฤษHow have you been? ฮาว-แฮฟ-ยู-บีน คุณเป็นอย่างไรบ้าง? (ในกรณีนาน ๆ เจอกันที)
|