สามารถนำหลักเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้กับสหกรณ์ได้อย่างไร

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานแนวทางหลักการดำเนินชีวิตและกิจการด้วยปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ในปี พ.ศ. 2517 ซึ่งเน้นการพัฒนาคนเป็นหลัก และรวมถึงหลักการของการดำเนินชีวิต โดยยึดหลักคุณธรรม พระองค์ทรงวางหลักการพื้นฐานของปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไว้ด้วยการยึดแนวทางความพอประมาณ ความมีเหตุผล และการมีภูมิคุ้มกันที่ดี 

ที่ผ่านมามีหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนได้น้อมนำปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาปฏิบัติใช้ในหลากหลายกิจกรรม หนึ่งในนั้นก็มีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ได้ดำเนินโครงการขับเคลื่อนปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในสหกรณ์    และกลุ่มเกษตรกรขึ้นและดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง

ดร.วิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์เปิดเผยว่าการน้อมนำแนวพระราชดำริปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ของกรมส่งเสริมสหกรณ์นั้น ถือเป็นเรื่องสำคัญที่กรมจะต้องดำเนินการ โดยให้ส่วนราชการในสังกัดได้นำแนวปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาปฏิบัติพร้อมส่งเสริมสนับสนุนให้เกษตรกรนำไปปฏิบัติใช้ในการบริหารจัดการกิจการของตัวเองด้วย เพราะปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงหากนำมาปฏิบัติใช้จะสามารถแก้ปัญหาทุกเรื่องได้ และถ้าดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมอย่างต่อเนื่อง เกษตรกรในภาคเกษตร สมาชิกสหกรณ์ รวมทั้งสหกรณ์เองก็จะมีความเข้มแข็ง มีความกินดีอยู่ดีอย่างแน่นอน

ในการดำเนินการเพื่อให้สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรน้อมนำแนวทางตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาปฏิบัติใช้นั้นที่ผ่านมากรมส่งเสริมสหกรณ์ได้ดำเนินการไปแล้วในสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรหลายแห่งด้วยกัน ด้วยการส่งเสริมสนับสนุนให้มีการดำเนินชีวิต ประกอบอาชีพ และทำธุรกิจแบบเศรษฐกิจพอเพียง อย่างเช่นที่สหกรณ์ประมงพาน อ.พาน จ.เชียงราย ที่นั่นได้มีการส่งเสริมสนับสนุน   ให้สมาชิกที่เลี้ยงปลานิล ซึ่งเป็นพันธ์ุปลาพระราชทานได้มีการน้อมนำปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาปฏิบัติใช้ในการประกอบอาชีพ  ซึ่งนอกเหนือจะทำการเลี้ยงปลานิลเพียงอย่างเดียว เกษตรกรสมาชิกสหกรณ์จะมีการปลูกพืชผัก ทั้งพืชยืนต้นและพืชล้มลุกบริเวณขอบบ่อเลี้ยงปลานิลด้วย  เพื่อเป็นรายได้อีกทางหนึ่งในระหว่างที่ยังไม่จับปลานิลส่งจำหน่าย ซึ่งเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีแก่รายได้ของเกษตรกรสมาชิกสหกรณ์

นายถวิล พักนิล  เกษตรกรเลี้ยงปลานิล บ้านป่าก่อ หมู่ที่ 9 ต.เจริญเมือง อ.พาน จ.เชียงราย  หนึ่งในสมาชิกสหกรณ์ที่ได้รับการส่งเสริมจากสหกรณ์ประมงพาน จำกัด ให้บริการกิจการการเลี้ยงปลานิลภายใต้แนวทางปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเปิดเผยว่า  เดิมตนและครอบครัวมีอาชีพทำนา ใช้แรงงานภายในครอบครัวก็ได้เห็นทางทีวีเกี่ยวกับพระราชดำริเรื่องแนวทางการทำมาหากินของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  ก็มาทำ แบ่งที่นาซึ่งมีประมาณ 6 ไร่ โดยเอาส่วนหนึ่งมาขุดบ่อเลี้ยงปลานิล ส่วนหนึ่งเลี้ยงหมู เลี้ยงเป็ด ขอบบ่อปลูกมะนาว มะม่วง  แก้วมังกร  ทำมาประมาณ 6 ปี มีรายได้ดีกว่าใช้พื้นที่ทั้งหมดทำนาเพียงอย่างเดียว ทำแบบนี้มีรายได้ตลอดทั้งปี สามารถส่งลูกเรียนหนังสือได้อย่างไม่ขัดสน

“การเลี้ยงปลาก็ไปเป็นสมาชิกสหกรณ์ เวลาจับปลาก็ให้ทางสหกรณ์มาจับ ประมาณ 6-7 เดือน จับออกจำหน่ายครั้งหนึ่ง  สหกรณ์ก็ช่วยจัดหาลูกปลา หาอาหารปลามาให้ ในราคาที่ถูกกว่าซื้อที่ร้านค้าทั่วไป   สิ้นปีสหกรณ์ก็มีการปันผลคืนให้กับสมาชิก” นายถวิล พักนิล  เล่าให้ฟัง

แนวคิดในการดำเนินงานของสหกรณ์นั้นนับว่าสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับแนวทางปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงได้อย่างลงตัว ด้วยสหกรณ์มีวัตถุประสงค์หลักในการพัฒนาสังคม และเศรษฐกิจของชุมชนซึ่งแนวทางของปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงก็เน้นการพัฒนาคน ควบคู่ไปกับการพัฒนาด้านชีวิตความ เป็นอยู่ รายได้ รายจ่าย และการดำเนินการผลิต เพื่อการดำรงชีพอย่างยั่งยืน  ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งของการดำเนินงานที่เป็นไปตามพระราชประสงค์อย่างแท้จริง ด้วยทำให้ประชาชนอยู่ดีกินดี มีสุข อย่างมั่นคงแบบยั่งยืน.