ผลกระทบของเครือข่ายไร้สาย 5G มีกี่ด้าน *

เป็นเทคโนโลยีเครือข่ายไร้สายรุ่นล่าสุดที่เริ่มใช้งานอย่างแพร่หลาย ซึ่งช่วยให้การถ่ายโอนข้อมูลเร็วขึ้นกว่าเดิม ใช้เวลาแฝงที่ต่ำกว่า และความจุของเครือข่ายที่มากขึ้น จึงมีแนวโน้มที่จะส่งอิทธิพลและสร้างโอกาสอันยิ่งใหญ่ให้กับธุรกิจและอุตสาหกรรมต่างๆ มากมายทั่วโลก

ถ้าอยากรู้ว่า 5G คืออะไร? พร้อมตัวอย่างอุตสาหกรรมที่ได้รับอิทธิพลจากเทคโนโลยี 5G บทความนี้ PTT ExpresSo มีคำตอบ

ผลกระทบของเครือข่ายไร้สาย 5G มีกี่ด้าน *

5G คืออะไร? 

5G เป็นเทคโนโลยีเครือข่ายไร้สายรุ่นที่ 5 มาตรฐานระดับโลก มีความเร็วในการส่งต่อข้อมูลสูงสุดแบบ Multi-Gbps ซึ่งใช้เวลาแฝงต่ำมาก แต่มีความจุเครือข่ายใหญ่ขึ้น ความพร้อมใช้งานที่เพิ่มขึ้น และสามารถสร้างประสบการณ์ที่เป็นหนึ่งเดียวให้กับผู้ใช้ได้มากกว่าเครือข่าย 4G, 3G, 2G และ 1G ที่เคยมีก่อนหน้านี้ จึงเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่ช่วยเชื่อมต่อทุกคนและทุกสิ่งเข้าด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องจักร วัตถุ และอุปกรณ์ต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูงสุดเท่าที่โลกเคยมีมา

ข้อมูลของ Viavi Solutions ระบุว่าเมื่อเดือนมิถุนายน 2021 การให้บริการ 5G เชิงพาณิชย์ได้ถูกนำไปใช้มากกว่า 1,500 เมืองใน 60 ประเทศทั่วโลกแล้ว นอกจากนี้ เทคโนโลยี 5G จะยิ่งทวีความสำคัญเมื่อมีการใช้งานอุปกรณ์ IoT (Internet of Things) มากขึ้น เพราะจำเป็นต้องใช้ 5G ในการรับส่งข้อมูลมหาศาลแบบเรียลไทม์ โดยคาดว่าอุปกรณ์ IoT จะเพิ่มจำนวนขึ้นจาก 12,000 ล้านในปี 2020 เป็นมากกว่า 30,000 ล้านในปี 2025 

ตัวอย่าง 3 อุตสาหกรรมที่ได้รับอิทธิพลจาก 5G

ปัจจุบัน เจ้าของธุรกิจในอุตสาหกรรมต่างๆ จำเป็นต้องปรับตัวเพื่อใช้ประโยชน์จาก 5G ให้ได้สูงสุด ต่อไปนี้ คือ ตัวอย่าง 3 อุตสาหกรรมที่ได้รับอิทธิพลจากเทคโนโลยี 5G

ผลกระทบของเครือข่ายไร้สาย 5G มีกี่ด้าน *

1. การผลิต

5G ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการผลิตอย่างมาก ตามรายงานของ IHS Markit คาดการณ์ว่าการเชื่อมต่อที่ดีขึ้นผ่าน 5G จะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจทั่วโลกจากอุตสาหกรรมต่างๆ ได้ถึง 13 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2035 โดยหนึ่งในสามของมูลค่าทั้งหมดจะมาจากภาคการผลิตเพียงอย่างเดียว

เนื่องจาก 5G ช่วยให้กระบวนการผลิตในโรงงานอุตสาหกรรมมีความยืดหยุ่น อีกทั้งยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัยที่มากขึ้น ทำให้ผู้ผลิตสามารถสร้าง “โรงงานอัจฉริยะ” ที่ใช้ทั้งระบบอัตโนมัติ (Automation) เทคโนโลยี AR (Augmented Reality) ปัญญาประดิษฐ์ (AI) อุปกรณ์ IoT และเซ็นเซอร์จำนวนมาก ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถขับเคลื่อนและเชื่อมต่อสายการผลิตทั่วทั้งโรงงานได้ด้วยเทคโนโลยี 5G

2. พลังงานและสาธารณูปโภค

5G เป็นเทคโนโลยีที่มีอิทธิพลต่อการพัฒนาโซลูชันและนวัตกรรมด้านพลังงาน เช่น การเพิ่มคุณสมบัติและศักยภาพของสมาร์ทกริดให้เชื่อมต่อกันได้ดีขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้โครงข่ายพลังงานและสาธารณูปโภคได้รับการจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ เกิดการหยุดชะงักหรือขัดข้องน้อยลง ช่วยลดค่าไฟฟ้าและค่าใช้จ่ายด้านพลังงานโดยรวม

นอกจากนี้ 5G ยังมีประสิทธิภาพในการใช้พลังงานรับส่งข้อมูลต่อหน่วยมากกว่าเครือข่าย 4G ถึง 90% และอาจช่วยเพิ่มอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ในอุปกรณ์ต่างๆ ได้มากถึง 10 ปี รวมทั้งช่วยปรับการใช้เซ็นเซอร์ IoT จำนวนมากให้กลายเป็นโซลูชันที่ใช้งานได้จริงในอุตสาหกรรมพลังงาน เช่น การใช้โดรนผ่าน 5G เพื่อตรวจสอบโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานและการบำรุงรักษา

ผลกระทบของเครือข่ายไร้สาย 5G มีกี่ด้าน *

3. ยานยนต์และการคมนาคมขนส่ง

เมื่อเครือข่าย 5G เป็นที่แพร่หลาย เมืองต่างๆ จะสามารถออกแบบการจัดการจราจรอัจฉริยะที่ขับเคลื่อนด้วยการเชื่อมต่อ 5G ทำให้ระบบขนส่งสาธารณะมีประสิทธิภาพและยืดหยุ่นมากขึ้นผ่านการวางแผนเส้นทางตามสภาพการจราจรหรือสภาพอากาศ ช่วยประหยัดเวลาให้ผู้ขับขี่และลดการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงขณะรถติดไฟแดงได้อีกด้วย โดยผลการศึกษาของมหาวิทยาลัย Carnegie Mellon พบว่า สัญญาณไฟจราจรที่รวบรวมข้อมูลแบบเรียลไทม์ช่วยลดปัญหารถติด 40% ลดการปล่อยมลพิษ 21% และลดเวลาเดินทาง 26%

นอกจากนี้ 5G ยังมีบทบาทสำคัญต่อการใช้ระบบ C-V2X หรือ Cellular-Vehicle-to-Everything ซึ่งเป็นโซลูชัน Smart City ที่ช่วยในการบริหารระบบนิเวศการคมนาคมขนส่งด้วยเทคโนโลยีการสื่อสารไร้สายความเร็วสูง เช่น ยานยนต์ไร้คนขับที่สามารถตรวจสอบสภาพแวดล้อมทางกายภาพ สัญญาณไฟจราจร ป้ายก่อสร้างบนถนน เพื่อให้การขับขี่ดำเนินไปอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

ด้วยเหตุนี้ นักวิจัยจึงเชื่อว่า 5G จะเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยผลักดันให้อุตสาหกรรมยานยนต์ไร้คนขับ (Autonomous Vehicle) เกิดขึ้นได้อย่างสมบูรณ์ในอนาคต โดยข้อมูลของ Analysys Mason บริษัทที่ปรึกษาด้านโทรคมนาคมคาดการณ์ว่า จำนวนการเชื่อมต่อ 5G สำหรับยานยนต์จะเพิ่มสูงขึ้นถึง 96 ล้านคันภายในปี 2027

สรุป

5G กำลังส่งอิทธิพลอย่างมากในการสร้างสรรค์นวัตกรรมและโซลูชันสำหรับอุตสาหกรรมอัจฉริยะ ช่วยปรับปรุงวิธีการทำงานและกระบวนการผลิตให้ดียิ่งขึ้น ปัจจุบันมีธุรกิจและอุตสาหกรรมจำนวนมากที่เริ่มนำเทคโนโลยี 5G ไปปรับใช้ เพื่อพัฒนาระบบต่างๆ ให้ทันสมัย ก้าวทันยุค Industry 4.0 และเตรียมพร้อมรับมือกับความท้าทายที่อาจเกิดขึ้น

ทั้งนี้ การเปลี่ยนผ่านสู่เทคโนโลยี 5G ยังมีโอกาสอีกมากมายให้เจ้าของธุรกิจต่างๆ ได้กำหนดทิศทางเชิงกลยุทธ์ใหม่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถทางการแข่งขันในโลกอนาคต