วรรณะในสังคมชมพูทวีปแบ่งออกเป็นกี่วรรณะ อะไรบ้าง

.   คนในชมพูทวีปแบ่งเป็นกี่วรรณะ ? อะไรบ้าง ? พระพุทธบิดาอยู่ในวรรณะอะไร ?

.    แบ่งเป็น ๔ วรรณะ ฯ   คือ วรรณะกษัตริย์ วรรณะพราหมณ์

      วรรณะแพศย์ วรรณะศูทร ฯ อยู่ในวรรณะกษัตริย์ ฯ

.   อสิตดาบสได้ทำนายสิทธัตถกุมารไว้อย่างไร ?

.   ทำนายไว้ว่า ถ้าอยู่ครองสมบัติ จักได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ

ถ้าออกบวช จักได้เป็นพระศาสดาเอกในโลก ฯ

.   พระกระยาหารมื้อแรกของพระพุทธเจ้าหลังตรัสรู้คืออะไร ?         ใครเป็นผู้ถวาย ?

.   คือ ข้าวสัตตุผง ข้าวสัตตุก้อน ฯ พ่อค้า ๒ คน ชื่อตปุสสะและภัลลิกะ ฯ

.     พระอรหันตสาวก ๕ รูปแรก คือใครบ้าง ?

.     คือ ๑. พระโกณฑัญญะ ๒. วัปปะ ๓. ภัททิยะ ๔. มหานามะ
๕. อัสสชิ ฯ

.   พระพุทธเจ้าทรงแสดงอาทิตตปริยายสูตรแก่ใคร ? ที่ไหน ?

.   แก่ชฎิล ๓ พี่น้อง และบริวาร ๑,๐๐๐ คน ฯ

ที่ตำบลคยาสีสะ ใกล้แม่น้ำคยา ฯ

.    จาตุรงคสันนิบาต คือ การประชุมที่ประกอบด้วยองค์อะไรบ้าง ?

.    ด้วยองค์ คือ

๑. พระสาวกผู้เข้าประชุมนั้น ล้วนเป็นพระอรหันต์

๒. ทุกท่านล้วนได้รับเอหิภิกขุอุปสัมปทา

๓. ไม่ได้มีการนัดหมาย ต่างมาประชุมพร้อมกันเอง

๔. วันนั้นเป็นวันเพ็ญเดือนมาฆะ และพระศาสดาประทาน

    พระบรมพุทโธวาท ซึ่งเรียกว่า โอวาทปาฏิโมกข์ ฯ

.    สถานที่ต่อไปนี้เกี่ยวข้องกับพระพุทธเจ้าอย่างไร

      ก. ลุมพินีวัน ข. อิสิปตนมฤคทายวัน ค. สาลวโนทยาน

.   ก. ลุมพินีวัน เป็นสถานที่ประสูติ

ข. อิสิปตนมฤคทายวัน เป็นสถานที่ทรงแสดงปฐมเทศนา

ค. สาลวโนทยาน เป็นสถานที่ปรินิพพาน


ศาสนพิธี

.    คำอาราธนาเบญจศีล ว่าอย่างไร ?  

.   มยํ ภนฺเต, วิสุวิสุ รกฺขนตฺถาย, ติสรเณน สห ปญฺจสีลานิ ยาจาม

        ทุติยมฺปิ มยํ ภนฺเต, วิสุวิสุ รกฺขนตฺถาย, ติสรเณน สห ปญฺจสีลานิ  ยาจาม

        ตติยมฺปิ มยํ ภนฺเต, วิสุวิสุรกฺขนตฺถาย, ติสรเณน สห ปญฺจสีลานิ  ยาจาม ฯ

.    ในพิธีทำบุญงานมงคล  เจ้าภาพพึงจุดเทียนน้ำมนต์  เมื่อพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์สูตรใด ?

.    มงคลสูตร ฯ

๑๐. คำอาราธนาพระสงฆ์มาสวดมนต์ในพิธีทำบุญงานมงคลกับในพิธีทำ

      บุญงานอวมงคล ต่างกันอย่างไร ?

๑๐. ในงานมงคล ใช้คำว่า ขออาราธนาเจริญพระพุทธมนต์

     ส่วนในงานอวมงคล ใช้คำว่า ขออาราธนาสวดพระพุทธมนต์

ประเทศอินเดีย เป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานตั้งแต่สมัยก่อนพุทธกาลจนมาถึงปัจจุบัน สภาพสังคม เศรษฐกิจ และการเมือง จึงเป็นการผสมผสานระหว่างระบบเก่าและระบบใหม่

รายงานพิเศษชุด ท่องแดนพุทธภูมิ ตอนที่ 4

ประเทศอินเดีย เป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานตั้งแต่สมัยก่อนพุทธกาลจนมาถึงปัจจุบัน สภาพสังคม เศรษฐกิจ และการเมือง จึงเป็นการผสมผสานระหว่างระบบเก่าและระบบใหม่  อินเดียเป็นประเทศที่ได้รับอิทธิพลจากศาสนาฮินดู พุทธและมุสลิม

หลังอินเดียได้รับเอกราชจากอังกฤษ ในปี ค.ศ. 1947  อินเดียปกครองในระบอบประชาธิปไตยภายใต้โครงสร้างสาธารณรัฐ  แบ่งเป็น 28 รัฐ และดินแดนกึ่งรัฐอีก 7 แห่ง อินเดียมีประชากรกว่า 1 พันล้านคน นับถือศาสนาฮินดูร้อยละ 82.41 นับถืออิสลามร้อยละ 11.67 นับถือศาสนาพุทธเพียงร้อยละ 0.77  แม้อินเดียจะเป็นดินแดนที่ประสูติ ตรัสรู้และปรินิพพานขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ตาม

วิถีชีวิตของคนอินเดียได้รับอิทธิพลความเชื่อ ความศรัทธาจากศาสนาฮินดูเป็นส่วนใหญ่ และมีวิธีชีวิตภายใต้ศรัทธาของตนอย่างเคร่งครัด   เห็นได้ชัดจากการถือระบบ "วรรณะ" อย่างเคร่งครัด

ระบบวรรณะทั้ง 4 เกิดจากชาวอารยัน เข้ามารุกรานชนพื้นเมืองอินเดีย ทำสงครามกับเจ้าของถิ่นเดิมที่เรียกว่าพวกมิลักขะ  จนได้รับชัยชนะ พวกมิลักขะต้องถอยร่นไปทางใต้  เหล่าอารยันจึงใช้ศาสนาพราหมณ์เป็นเครื่องมือในการแบ่งวรรณะ  โดยถือว่า วรรณะทั้ง  4  เกิดจากอวัยวะของพระพรหมที่ต่างกัน

วรรณะแรก คือ วรรณะพราหมณ์ เกิดจากพระโอษฐ์ หรือปากของพระพรหม สีเครื่องแต่งกายประจำวรรณะคือสีขาว  มีหน้าที่ กล่าวมนตร์ ให้คำปรึกษาแก่พระเจ้าแผ่นดิน  ส่วนพวกนักบวชทำหน้าที่สอนศาสนา

วรรณะที่สอง คือ วรรณะกษัตริย์  เกิดจากพระอุระ หรืออกของพระพรหม ถือว่าสืบเชื้อสายมาจากพระอาทิตย์   สีเครื่องแต่งกายประจำวรรณะ คือสีแดง หมายถึง นักรบ ทำหน้าที่รบเพื่อป้องกันอาณาจักร รวมทั้งพระเจ้าแผ่นดิน  นักปกครอง

วรรณะที่สาม คือ วรรณะแพศย์  เกิดจากพระเพลา หรือตัก ของพระพรหม สีเครื่องแต่งกายประจำวรรณะคือ สีเหลือง  มีหน้าที่เป็น พ่อค้า คหบดี เศรษฐี และเกษตรกร

วรรณะที่สี่  คือ วรรณะศูทร เกิดจากพระบาท หรือเท้าของพระพรหม สีเครื่องแต่งกายประจำคือ สีดำ หรือสีอื่นๆ ที่ไม่มีความสดใส  มีหน้าที่เป็นกรรมกร ลูกจ้าง 

นอกจากนี้ยังมีคนอีกวรรณะหนึ่งซึ่งถือว่าเป็นพวกต่ำที่สุด คือ จัณฑาล  หมายถึง ลูกที่เกิดจากพ่อแม่ต่างวรรณะกัน  ซึ่งจะถูกรังเกียจ เหยียดหยาม ไม่มีคนในวรรณะอื่นคบหาสมาคมด้วย

การถือวรรณะอย่างรุนแรงเป็นพื้นฐานสำคัญของสังคมอินเดียทั้งก่อนพุทธกาล และสมัยพุทธกาล แต่ดูเหมือนชาวอินเดียจะยอมรับวรรณะตามชาติกำเนิดโดยไม่ต่อต้าน  แม้จะมีความแตกต่างทางชั้นวรรณะ แต่สิ่งหนึ่งที่สวนทางคือ ระบบการศึกษา โดยองค์การยูเนสโกจัดอันดับให้อินเดียเป็นประเทศที่มีระบบการศึกษาดีที่สุดเป็นอันดับ 4 ของโลก  ดังนั้นจึงมีนักศึกษาจากต่างประเทศ รวมถึงพระสงฆ์จากประเทศไทยไปศึกษาเล่าเรียนที่มหาวิทยาลัยในอินเดียจำนวนมาก  เพราะนอกจากมาตรฐานการศึกษาแล้ว ค่าเล่าเรียนก็ไม่สูงเมื่อเทียบกับประเทศตะวันตก

แม้ชาวอินเดียจะนับถือศาสนาพุทธน้อยมาก ไม่ถึงร้อยละ 1 แต่ชาวพุทธจากทั่วโลกต่างแสวงหาโอกาสไปแสวงบุญ ณ ดินแดนพุทธภูมิแห่งนี้   เช่นเดียวกับคณะจากสถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 กว่า 30 ชีวิตที่เดินทางไปอินเดีย  มีผู้อุปสมบทใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์เป็นพระ 5 องค์ และเณรน้อยอีก 1 องค์  เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลในเทศกาลมาฆบูชา  พระบวชใหม่ทุกรูปมีศรัทธาตั้งมั่น และรู้สึกปิติที่ได้เดินทางมาบวช ณ แดนพุทธภูมิ

โครงการนำผู้มีส่วนชี้นำสังคม เช่น สื่อมวลชน  นักปกครอง เป็นโครงการนำร่องของสถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980  หลังจากดำเนินโครงการปฎิบัติธรรมเชิงลึกของพระสงฆ์ มาแล้ว 4 รุ่น นอกจากพระสงฆ์ไทยแล้ว ยังขยายความร่วมมือด้านศาสนาไปยังประเทศ กัมพูชา ลาว  เวียดนาม และพม่า  โดยชูแนวคิด "พุทธพลิกโลก" คือ การพลิกจากมิจฉาทิษฐิ เป็นสัมมาทิษฐิ  พลิกจากความมืดเป็นความสว่าง  และยังต้องการพลิกฟื้นแดนสุวรรณภูมิ ที่อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี  ซึ่งมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ว่าเป็นศูนย์กลางของพระพุทธศาสนา  ณ ดินเแดนสุวรรณภูมิ  

สถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 จึงเดินหน้าสานความร่วมมือกับสมเด็จพระสังฆราชของประเทศเพื่อนบ้าน คือ ลาว กัมพูชา  เวียดนาม และพม่า โดยใช้"ศาสนาพุทธ" เป็นสะพานเชื่อมความสัมพันธ์

เพราะเหตุใดสังคมชมพูทวีปจึงมีรูปแบบการแบ่งชนชั้นวรรณะ

สภาพสังคมอินเดียได้จัดแบ่งผู้คนออกเป็นชนชั้นเรียกว่า “วรรณะเพราะ ตามความเชื่อทางศาสนาพราหมณ์ถือเอาเชื้อชาติเป็นเกณฑ์ในการแบ่ง คนเกิดใน วรรณะใดจะมีสิทธิและแนวทางดำเนินชีวิตตามหลักคำสอนที่ได้วางไว้โดยขัดขื่น ไม่ได้ระบบวรรณะนั้นชาวอินเดียถือว่ากำหนดไว้ตายตัวโดยพระผู้เป็นเจ้า การเปลี่ยนแปลงสภาพทางสังคม เช่น คนเกิดในวรรณะ ...

วรรณะในสังคมชมพูทวีปแบ่งออกเป็นกี่วรรณะ

นอกจากวรรณะทั้ง ๔ คือ กษัตริย์ พราหมณ์ แพศย์ ศูทรแล้ว ในสังคมอินเดียยังมีชนชั้นอีกวรรณะหนึ่ง เรียกว่า วรรณะจัณฑาล คือ บุคคลที่เกิดจากบิดามารดาต่างวรรณะกัน ชนชั้นนี้จะถูกเหยียดหยามว่าเป็นชนชั้นต่ำา ซึ่งเป็น ลักษณะความเชื่อตามหลักศาสนาพราหมณ์ แต่ทั้งนี้ทางพระพุทธศาสนาปฏิเสธเรื่องวรรณะเพราะถือว่าบุคคลจะดี หรือเลว มิได้ ...

สภาพสังคมของชมพูทวีปมีลักษณะแบบใด

ลักษณะทางสังคม การปกครอง สมัยก่อนพุทธกาล ชาวชมพูทวีปมักจะปกครองกันโดยสามัคคีธรรม คือ พระราชวงศ์ ชั้นผู้ใหญ่และประชาชนมีสิทธิในการปกครองด้วย เมื่อกษัตริย์ผู้ปกครองทรงประพฤติผิดราชธรรม ประชาชนก็อาจทูลเชิญให้สละราชสมบัติได้ อาจทูลเชิญให้กระทำการอย่างใดอย่างหนึ่ง กษัตริย์ในสมัยนั้นจึงยังไม่มีอำนาจมาก

สภาพสังคมในชมพูทวีปในสมัยพระพุทธกาลมีลักษณะอย่างไร

1. ชาวอารยันส่วนใหญ่อยู่ในเขตปัจจันตชนบท 2. การปกครองแบบรวมศูนย์ในระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ 3. ระบบวรรณะมี 4 วรรณะ ได้แก่ กษัตริย์ พราหมณ์ แพศย์ ศูทร 4. วรรณะศูทรและพวกจัณฑาลถือเป็นชนชั้นที่มีฐานะต่ำเสมอกัน