Show
เรียนต่ออเมริกา ทำงานพาร์ทไทม์ระหว่างเรียนได้หรือไม่? คำตอบคือ เรียนต่ออเมริกา สามารถทำได้ ไม่ว่าจะเป็นเรียนภาษา เรียนประกาศนียบัตร เรียนอนุปริญญา เรียนปริญญาตรี แต่เงื่อนไขการทำงาน จะมีเงื่อนไขและข้อกำหนดแตกต่างกันในแต่ละวุฒิการศึกษา และรูปแบบการทำงานยังแตกต่างกันออกไปทั้ง การทำงานภายในวิทยาเขต On-Campus และการทำงานนอกวิทยาเขต Off-Campus นอกจากนี้ ยังมีการทำงานแบบ CPT และ OPT ที่จะต้องพิจารณา และศึกษาเงื่อนไข วิธีการให้ครบถ้วน โดยในบทความนี้ ศูนย์ฯ เดอะเบสท์ จะมาสรุปข้อมูล เกี่ยวกับการทำงานระหว่างเรียนในอเมริกา มีกี่ประเภท แต่ละประเภทแตกต่างกันอย่างไร เรียนจบแล้ว อยู่ทำงานต่อได้หรือไม่ รวมถึงคำถามยอดนิยม เรียนภาษาที่อเมริกาทำงานระหว่างเรียนได้หรือไม่ หาคำตอบในบทความนี้ได้เลยค่ะ การทำงานระหว่างเรียนต่ออเมริกาประเทศสหรัฐอเมริกา หรืออเมริกา (United State of America หรือ USA) เป็นประเทศแห่งเสรีภาพ และโอกาสที่เปิดกว้าง ทุกๆ ปี มีนักเรียน นักศึกษาต่างชาติเดินทางมาเรียนต่ออเมริกากว่า 4 แสนคน และมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ส่วนใหญ่เลือกเรียนต่อในระดับปริญญาตรี และปริญญาโท เหตุผลหลักในการเลือกเรียนต่ออเมริกาคือ เพื่อโอกาส และความก้าวหน้าในอนาคต เนื่องจากประเทศอเมริกาเป็นชั้นนำด้านการเรียนต่อ มหาวิทยาลัยระดับโลกหลายแห่ง เช่น MIT, Stanford University, Harvard University มีมาตรฐานทางวิชาการสูง การเรียนการสอนเข้มงวด เน้นวิชาการและงานวิจัย มีหลักสูตรการศึกษาทุกหลักสูตร สหรัฐอเมริกาเป็นสังคมหลายเชื้อชาติซึมซับวัฒนธรรมใหม่ๆ ตลอดเวลา ยอมรับและเปิดกว้าง ไม่ว่าจะเรียนที่ไหนในอเมริกา ก็จะได้สัมผัสวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น ภูมิภาคชายฝั่งตะวันตก มีชายหาดกิจกรรมกลางแจ้งมากมายผู้คนจะมีสไตล์สโลไลฟ์ ชื่นชอบการพักผ่อน มิดเวสต์มีมหาวิทยาลัยวิจัยขนาดใหญ่หลายแห่งและผู้คนขึ้นชื่อเรื่องการต้อนรับและความมีน้ำใจ เนื่องจาก การเรียนต่ออเมริกามีค่าใช้จ่ายที่สูง นักเรียน นักศึกษาหลายคนจึงเลือกที่จะทำงานระหว่างเรียน เพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย ค่าอาหารบางส่วน หรือนักเรียนบางคน อาจทำงานพาร์ทไทม์เพื่อหาประสบการณ์ เพื่อเพียบพร้อมสำหรับการทำงานหลังสำเร็จการศึกษา โดยสถาบันการศึกษาในอเมริกา เปิดโอกาสให้นักเรียน นักศึกษา สามารถทำงานระหว่างเรียนได้ภายในบริเวณสถาบัน On-Campus และมีโปรแกรมฝึกงาน เพื่อโอกาสในการทำงานหลังเรียนจบที่อเมริกา ทำไมต้องมาเรียนต่ออเมริกา?
ค่าแรงขั้นต่ำในสหรัฐอเมริกาเท่าไหร่?ค่าแรงขั้นต่ำของรัฐบาลกลาง คือ $ 7.25 ต่อชั่วโมง ซึ่งได้รับการกำหนดโดย Fair Labor Standards Act (FLSA) โดยจะได้มากกว่า หรือน้อยกว่า ขึ้นอยู่กับประเภทงานที่ทำ และกฏหมายค่าแรงขั้นต่ำของแต่ละรัฐที่กำหนด โดยมหานครนิวยอร์ก เป็นเมืองที่มีค่าแรงขั้นต่ำสูงที่สุด อยู่ที่ $15.00 ต่อชั่วโมง รองลงมาคือ ลองไอส์แลนด์ และเวสต์เชสเตอร์ มีค่าแรงขั้นต่ำอยู่ที่ $13.00 ต่อชั่วโมง
วีซ่านักเรียนอเมริกา มีกี่ประเภท?วีซ่านักเรียนอเมริกา แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ F M และ J
นักเรียนต่างชาติ ที่เดินทางมาเรียนที่อเมริกามักจะถือวีซ่านักเรียน F-1 เป็นหลัก ซึ่ง เงื่อนไขของวีซ่า F-1 คือ อนุญาตให้ชาวต่างชาติ ซึ่งไม่ใช่พลเมืองของอเมริกา หรือสัญชาติอมเริกา สามารถเดินทาง และศึกษาในอเมริกาได้ ไม่ใช่วีซ่าสำหรับการทำงาน แต่อนุญาตให้ทำงานบางประเภทในขณะที่เรียนอยู่ในอเมริกา และหลังเรียนจบเป็นช่วงระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น โดยในบทความนี้ ศูนย์ฯ เดอะเบสท์ จะอธิบายรายละเอียดทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการทำงานระหว่างเรียนในอเมริกาสำหรับวีซ่านักเรียน F-1 เท่านั้น เรียนต่ออเมริกา วีซ่านักเรียนอเมริกา F-1 สามารถทำงานระหว่างเรียนได้หรือไม่?สามารถทำได้ นักเรียนต่างชาติส่วนใหญ่ในอเมริกาที่ถือวีซ่า F-1 อนุญาตให้ทำงานในอเมริกาได้ โดยจะต้องติดต่อกับเจ้าหน้าที่ของหน่วยงาน DSO (Designated School Officials) ซึ่งหนึ่งในผู้กำกับดูแลนักเรียน นักศึกษาต่างชาติเป็นหลัก รวมถึงนักเรียนแลกเปลี่ยน ทำหน้าที่ในการติดต่อ ประสานงานสำหรับปัญหาต่างๆ เช่น การเสนอชื่อโรงเรียนที่ได้รับการรับรอง SEVP อัปเดทข้อมูลนักเรียน ให้คำแนะนำนักเรียน ภายใต้เงื่อนไขโดย United States Citizenship and Immigration Service (USCIS) อย่างไรก็ตาม วัตถุประสงค์ของวีซ่านักเรียน F-1 คือ อนุญาตให้ผู้ที่ถือวีซ่า มาเรียนและอาศัยอยู่ในอเมริกาได้ช่วงระยะเวลาหนึ่ง การทำงานระหว่างเรียน เป็นเพียงสิทธิ์ที่ผู้ถือวีซ่านักเรียน F-1 สามารถขอได้ และต้องปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฏหมาย และไม่แนะนำให้ผู้ถือวีซ่านักเรียน F-1 ทำผิดกฏหมายใดๆ ถ้าหากถูกจับจะโดนยกเลิกวีซ่า โดนส่งกลับประเทศ ถูกดำเนินคดีตามกฏหมาย หรือโดนแบนห้ามเข้าประเทศอเมริกา นอกจากนี้ ยังทำให้นักศึกษารุ่นหลังๆ ที่ตั้งใจไปเรียนต่ออเมริกาจริงๆ ขอวีซ่าลำบากขึ้นด้วย
การทำงานระหว่างเรียนด้วยวีซ่านักเรียน F-1 แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
1. การทำงาน On-Campus ระหว่างเรียน ด้วยวีซ่านักเรียน F-1สำหรับนักเรียนต่างชาติอเมริกาที่มีวีซ่า F-1 การทำงาน On-Campus เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด และ เป็นทางเลือกเดียวสำหรับวีซ่านักเรียน F-1 ในช่วงปีการศึกษาแรกในอเมริกา โดยสามารถทำงานได้ 20 ชั่วโมง ต่อสัปดาห์ ในช่วงเปิดภาคการศึกษา และมากกว่า 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ในช่วงปิดภาคการศึกษา โอกาสในการทำงานในมหาวิทยาลัย On-Campus นั่นค่อนข้างสูง เนื่องจาก มหาวิทยาลัยในอเมริกามีขนาดใหญ่มากๆ บางมหาวิทยาลัยอาจเทียบได้เป็นเมือง เมืองหนึ่ง ที่มีร้านค้า ร้านอาหาร ร้านกาแฟ มากมาย รวมถึงยังมีโอกาสทำงานที่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยด้วย เช่น งานธุรการ บรรณารักษ์ พนักงานร้านขายหนังสือ พนักงานร้านซุปเปอร์มาร์เก็ต เทรนเนอร์ในฟิตเนสเซ็นเตอร์ บางมหาวิทยาลัยที่มี Campus ใหญ่ๆ อาจมีทั้งโรงพยาบาล สถานีตำรวจ โรงเรียนประถม โรงเรียนมัธยมรวมอยู่ใน Campus ด้วย ซึ่งโอกาสการหางานทำก็จะเพิ่มมากขึ้นไปด้วย ตัวอย่างภาพอาณาเขตของมหาวิทยาลัย University of Nebraska–Lincoln 1 ใน 10 มหาวิทยาลัยที่มีพื้นที่กว้างที่สุดในอเมริกา มีพื้นที่ทั้งหมด 856 เอเคอร์ (ประมาณ 2,166 ไร่) การทำงานในมหาวิทยาลัย On-Campus จะต้องปฏิบัติตามกฎต่อไปนี้
ขั้นตอนการทำงานระหว่างเรียน On-Campus
ตัวอย่างงาน On-Campus ยอดนิยมสำหรับนักศึกษาในสหรัฐอเมริกา
2. การทำงาน Off-Campus ระหว่างเรียน และหลังเรียนจบ ด้วยวีซ่านักเรียน F-1การทำงาน Off-Campus มีกฏที่ว่า นักศึกษาจะต้องเรียนจบปีการศึกษาแรกก่อน “Academic Year Rule” ถึงจะได้รับอนุญาตให้ทำงาน Off-Campus โดยมีการทำงาน 2 รูปแบบ คือ
Curricular Practical Training (CPT)Curricular Practical Training (CPT) เป็นการทำงานนอกสถาบันการศึกษา Off-Campus ที่เป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตร เช่น การฝึกงาน (Internship) และได้รับเครดิตทางวิชาการ ซึ่งอนุญาตให้ผู้ถือวีซ่านักเรียน F-1 ทำงานนอกสถาบันการศึกษา Off-Campus เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตร เช่น การศึกษาทางเลือก การฝึกงานสหกิจศึกษา นักศึกษาจึงสามารถขอ CPT ได้ โดยสามารถทำงานแบบได้รับค่าตอบแทน Paid หรือไม่ได้รับค่าตอบแทน Unpaid ก็ได้ ข้อกำหนด CPT
ขั้นตอนการขอ CPT
Optional Practical Training (OPT)Optional Practical Training (OPT) เป็นการทำงานนอกวิทยาเขต Off-Campus สำหรับนักศึกษาที่ไม่มีหลักสูตรฝึกงาน Internship สามารถขอ OPT ได้ทั้งในระหว่างและหลังจากสำเร็จการศึกษา การขอ OPT จะต้องได้รับอนุญาตล่วงหน้าจาก U.S. Citizenship and Immigration Service (USCIS) โดย OPT ช่วยให้นักศึกษาสามารถฝึกทักษะและประสบการณ์ในสาขาวิชาของนักเรียนได้ ยกตัวอย่าง เช่น นักศึกษาธุรกิจสามารถฝึกงานกับ บริษัทบัญชี หรือ นักศึกษาหลักสูตรการโรงแรม สามารถฝึกงานในโรงแรม หรือภัตราคารได้ ข้อกำหนด OPT
OPT แบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ Pre-Completion OPT และ Post-Completion OPT
ขั้นตอนการขอ OPT
การขอขยายเวลา OPT ด้วยสิทธิ์ STEM OPT ExtensionSTEM ย่อมาจาก Science Technology Engineering Math เป็นหลักสูตรที่เรียนเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรม และคณิตศาสตร์ รวมถึงเทคโนโลยีทางการทหารการแพทย์ และวิทยาศาสตร์กายภาพ สาขาวิชา STEM สามารถขยาย OPT ได้อีก 24 เดือนทำให้ระยะเวลา OPT รวม 36 เดือน ข้อกำหนด STEM OPT Extensionนักศึกษาสามารถขอ STEM OPT Extension ได้สูงสุด 2 ครั้ง โดย การขอ STEM OPT Extension ครั้งที่ 2 ระดับการศึกษาจะต้องสูงกกว่าระดับแรก ตัวอย่าง เช่น หากเรียนในระดับปริญญาตรี Bachelor’s Degree in Engineering เมื่อเรียนจบ สามารถขอ STEM OPT Extension ระยะเวลา 24 เดือน เมื่อสิ้นสุดระยะเวลา STEM OPT Extension แล้ว จะต้องเรียนในระดับปริญญาโท Master’s Degree in Engineering ถึงจะสามารถขอ STEM OPT Extension ได้อีก 1 ครั้ง แต่จะไม่มีสิทธิ์ขอ STEM OPT Extension ครั้งที่ 3 ถึงแม้จะเรียนจบในระดับปริญญาเอก
ขั้นตอนการขอ STEM OPT Extension เรียนหลักสูตรอะไรถึงสามารถทำงานระหว่างเรียนได้บ้าง?
เรียนภาษาอังกฤษที่อเมริกา สามารถทำงานระหว่างเรียนได้หรือไม่?สามารถทำได้แบบ On-Campus เท่านั้น ถ้าหากเลือกเรียนสถาบันสอนภาษาอังกฤษ ที่ตั้งอยู่ในภายในสถาบันการศึกษา เช่น สถาบัน ELS วิทยาเขต Houston รัฐ Texas ตั้งอยู่ในมหาวิทยาลัย University of St.Thomas สามารถทำงานระหว่างเรียนแบบ On-Campus ได้ โดยสามารถทำงานในร้านอาหาร ร้านค้า หรือห้างสรรพสินค้าในบริเวณมหาวิทยาลัยได้ แต่ถ้าหากเลือกเรียนภาษาอังกฤษ ที่อยู่ใจกลางเมือง ไม่ได้อยู่ในเขตสถาบันการศึกษา จะสามารถทำงานได้เฉพาะในโรงเรียนสอนภาษาเท่านั้น ไม่มีสิทธิ์ทำงานร้านอาหาร ร้านค้า หรือห้างสรรพสินค้าใกล้เคียง และแน่นอนว่า ไม่สามารถทำงาน Off-Campus ได้ทุกกรณี สำหรับผู้ที่ต้องการเรียนภาษาอังกฤษ และทำงานพาร์ทไทม์นอกสถาบันการศึกษา ทางศูนย์ฯ เดอะเบสท์ ขอแนะนำให้เลือกเรียนที่ประเทศออสเตรเลีย หรือ นิวซีแลนด์ จะดีกว่า เนื่องจาก ประเทศออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ เปิดกว้างให้ผู้ที่ถือวีซ่านักเรียน สามารถทำงานพาร์ทไทม์ได้ทันที ไม่ต้องขออนุญาต และสามารถทำได้ทั้งในสถาบันการศึกษา และนอกสถาบันการศึกษา กฏ และเงื่อนไขของการทำงานระหว่างเรียนด้วยวีซ่านักเรียน F-1 ประเทศอเมริกาประเทศสหรัฐอเมริกา มีกฏระเบียบที่เข้มงวด รวมถึงกฏระเบียบการทำงานระหว่างเรียนสำหรับนักเรียน นักศึกษาต่างชาติด้วย ดังนั้น ไม่แนะนำให้ละเมิดกฏ ทำงานผิดกฏหมาย การทำงานที่ไม่ได้รับการอนุญาตกับทาง DSO หรือทำงานเกินชั่วโมงที่กำหนดเพราะถ้าหากถูกจับได้จะถูกส่งกลับทันที และอาจจะโดนแบนด์ห้ามเข้าประเทศสหรัฐอเมริกาสูงสุด 20 ปี นอกจากนี้ การทำงานกับร้านที่ไม่ได้รับอนุญาต หรือ การทำงานโดยรับเงินสด หรือทำงานกับร้านที่ไม่ปฏิบัติตามกฏหมายแรงงานของอเมริกา ถือว่ามีความผิดด้วยเช่นกัน ข้อจำกัดของการทำงานระหว่างที่ด้วยวีซ่านักเรียนอเมริกา F-1
ในช่วงเปิดภาคการศึกษา หากทำงานเกิน 20 ชั่วโมง/สัปดาห์ จะเกิดอะไรขึ้น?การทำงานระหว่างเรียนจำกัดชั่วโมงสำหรับนักศึกษาต่างชาติเท่านั้น ดังนั้น นายจ้างจะไม่ทราบว่า ลูกจ้างทำงานเกินเวลาหรือไม่ และนักศึกษาจะต้องรับผิดชอบ และตรวจสอบให้แน่ใจด้วยตนเองว่าไม่ได้ทำงานเกิน 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ระหว่างเปิดภาคการศึกษาถึงแม้ว่าจะทำงานเกินเพียง 15 นาที นั่นแสดงว่า ได้ละเมิดกฏการจ้างงานของสถานะวีซ่านักเรียน F-1 เรียบร้อยแล้ว โดยเจ้าหน้าที่จะสามารถทราบได้จากบัญชีของนายจ้าง ที่ส่งให้กับทางสำนักงานบัญชี ซึ่งทางสำนักงานบัญชีจะส่งข้อมูลให้กับทาง DSO โดยตรงหากมีการทำงานเกินขีดจำกัด หากได้ทำการละเมิดกฏการทำงานระหว่างเรียนไปแล้ว ควรทำอย่างไร?หากได้ทำการละเมิดการจ้างงานไม่ว่าจะเป็นการทำงานนอกวิทยาเขตโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือทำงานเกินขีดจำกัดรายสัปดาห์ จะต้องยื่นขอคืนสถานะวีซ่าที่ชอบด้วยกฏหมาย Reinstatement to lawful F-1 status ทันที โดยทาง DSO จะช่วยขอคืนสถานะวีซ่านักเรียนให้ โดยจะต้องขอคืนสถานะภายใน 5 เดือนหลังทำผิดกฏ ในระหว่างที่รอการคืนสถานะวีซ่า จะต้องหยุดการทำงานทั้งหมดทันที และควรจะเข้าเรียนต่อในสถาบันการศึกษา หากไม่ขอคืนสถานะวีซ่านักเรียน F-1 หรือสถานะถูกปฏิเสธจาก USCIS จะต้องติดต่อทนายความด้านการย้ายถิ่นถาน ถึงแม้การละเมิดกฏการทำงาน เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ แต่ก็เป็นสิทธิ์ที่จะขอยื่นคำร้องขอคืนสถานะวีซ่านักเรียน วิธีการเตรียมตัวสำหรับการหางานในสหรัฐอเมริกาไม่ว่าคุณจะอยู่ในระดับอนุปริญญาตรี ปริญญาตรี ปริญญาโท หรือปริญญาเอก สิ่งแรกที่คุณต้องทำเพื่อหางานทำในสหรัฐอเมริกาคือการเตรียมประวัติส่วนตัวหรือเรซูเม่ Resume ซึ่ง เรซูเม่นี้ควรมีประวัติการเรียน ประวัติการฝึกอบรม ประวัติการทำงาน ทักษะ และความสามารถที่โดดเด่น นอกจากนี้ หากมีประสบการณ์การเป็นอาสาสมัคร Volunteer เช่น เป็นส่วนหนึ่งของทีมกีฬา หรือชมรมอาสาสมัครช่วยเหลือสังคม จะถือว่าเรซูเม่มีความโดดเด่นอย่างมาก เรซูเม่ไม่ควรเน้นเฉพาะลักษณะบุคลิกภาพเชิงบวกของ หรือประสบการณ์การทำงานเท่านั้น แต่ยังควรให้ความสำคัญกับแผนการณ์ในอนาคต หรือสิ่งที่ต้องการให้เกิดความเปลี่ยนแปลงบบริษัท หรืองานที่สมัครด้วย เป็นอย่างไรบ้างคะ กับข้อมูลการทำงานระหว่างเรียนในอเมริกา ด้วยวีซ่านักเรียน F-1 ที่ทาง ศูนย์ฯ เดอะเบสท์ ได้สรุปมาให้ น้องๆ คงพอจะเข้าใจมากขึ้นแล้วใช่ไหมคะ? อย่างไรก็ตาม หากน้องๆ คนไหนที่ยังมีคำถาม หรือสงสัยในส่วนไหน สามารถสอบถาม ศูนย์ฯ เดอะเบสท์ เพื่อขอคำแนะนำเพิ่มเติมได้เลยค่ะ ติดต่อเดอะเบสท์เพื่อสอบถามข้อมูลการเรียนต่อต่างประเทศเพิ่มเติมเดอะเบสท์ เป็นศูนย์บริการให้คำปรึกษาเรียนต่อต่างประเทศครบวงจร เราเป็นตัวแทนที่ให้บริการแนะแนวศึกษาต่อต่างประเทศ เช่น ออสเตรเลีย อังกฤษ สหรัฐอเมริกา นิวซีแลนด์ สิงคโปร์ และ ประเทศอื่นๆ อีก 25 ประเทศทั่วโลก เรายินดีให้ความช่วยเหลือตั้งแต่เริ่มสมัครเรียน จนสำเร็จการศึกษา รวมถึงดูแลนักเรียนระหว่างเรียนจนนักเรียนเรียนจบด้วยทีมผู้เชียวชาญในด้านการเรียนต่อต่างประเทศ ที่มีประสบการณ์มากกว่า 10 ปี ขั้นตอนเหล่านี้เราดำเนินการให้ฟรี และเราพร้อมที่จะทำตามคุณภาพ และมาตรฐานดังสโลแกนที่ว่า “We are Quality” บริการของเรามีอะไรบ้าง ?
“เรายินดีที่จะดูแลนักเรียนทุกคน ตั้งแต่เริ่มต้นจนนักเรียนสำเร็จการศึกษา และทำให้การเรียนต่อของคุณเป็นเรื่องง่าย ” สอบถามข้อมูลการบริการเพิ่มเติมติดต่อ Related |