รัฐบาลช่วยค่าไฟกี่เดือน 2565

คณะรัฐมนตรี เคาะมาตรการช่วยค่าไฟ กลุ่มผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัย ที่ใช้ไฟฟ้าระหว่าง 301-500 หน่วยต่อเดือน ลดสูงสุดร้อยละ 75 เดือน ก.ย.-ธ.ค. 65 ใช้งบฯกลางกว่า 9,100 ล้านบาท 

วันที่ 13 กันยายน 2565 ที่ทำเนียบรัฐบาล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมเป็นครั้งที่ 3

  • สุรนันทน์ เวชชาชีวะ มอบตัวกับทักษิณ จับตาต่อสายเข้าเพื่อไทย
  • ด่วน พรรคชาติไทยพัฒนา เปิดตัว สันติและพวก แพแตกจากพรรคสมคิด
  • เช็กราคาที่ดิน ม.กรุงเทพ กล้วยน้ำไท ปัจจุบันตารางวาละเท่าไร

ที่ประชุม ครม.ได้อนุมัติมาตรการบรรเทาผลกระทบด้านไฟฟ้า ของกระทรวงพลังงาน สาระสำคัญระบุว่า การช่วยเหลือค่าไฟฟ้าของกลุ่มผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 500 หน่วยต่อเดือน โดยให้ส่วนลดค่าไฟฟ้าแก่ผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัยในพื้นที่ของการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) รวมทั้งผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัยที่เป็นผู้ใช้ไฟฟ้ารายย่อย ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และผู้ใช้ไฟฟ้าในพื้นที่บริการของกิจการไฟฟ้าสวัสดิการสัมปทานของกองทัพเรือ

เป็นเวลา 4 เดือน ตั้งแต่ค่าไฟฟ้าประจำเดือนกันยายน 2565 ถึงเดือนธันวาคม 2565 ดังนี้

1.กลุ่มผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน ซึ่งเป็นกลุ่มเปราะบาง ให้ส่วนลดค่าไฟฟ้าจำนวน 92.04 สตางค์ต่อหน่วย

2.กลุ่มผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าระหว่าง 301-500 หน่วยต่อเดือน ซึ่งเป็นคนชั้นกลาง ให้ส่วนลดจากการเพิ่มขึ้นของค่า Ft เดือนกันยายน 2565 ถึงเดือนธันวาคม 2565 แบบขั้นบันได ในอัตราร้อยละ 15 ถึงร้อยละ 75 ดังนี้

2.1 ผู้ใช้ไฟฟ้าระหว่าง 301-350 หน่วย ให้ส่วนลดค่า Ft ร้อยละ 75 คือจำนวน 51.50 สตางค์ต่อหน่วย

2.2 ผู้ใช้ไฟฟ้าระหว่าง 351-400 หน่วย ให้ส่วนลดค่า Ft ร้อยละ 45 คือจำนวน 30.90 สตางค์ต่อหน่วย และ

2.3 ผู้ใช้ไฟฟ้าระหว่าง 401-500 หน่วย ให้ส่วนลดค่า Ft ร้อยละ 15 คือจำนวน 10.30 สตางค์ต่อหน่วย

Advertisement

ทั้งนี้ กำหนดให้เป็นส่วนลดค่าไฟฟ้าก่อนการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่ม

โดยคาดว่าจะมีผู้ที่ได้รับการช่วยเหลือรวมทั้งสิ้นประมาณ 21.4695 ล้านราย ใช้งบประมาณรวมทั้งสิ้นประมาณ 2,282.103 ล้านบาทต่อเดือน (ประมาณ 9,128.41 ล้านบาท สำหรับ 4 เดือน)

โดยในเบื้องต้นจะใช้แหล่งเงินจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 งบฯกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ประมาณ 2,282.103 ล้านบาท สำหรับค่าไฟฟ้าประจำเดือนกันยายน 2565 และงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 งบฯกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ประมาณ 6,846.309 ล้านบาท สำหรับค่าไฟฟ้าประจำเดือนตุลาคม 2565 ถึงเดือนธันวาคม 2565

ลงทะเบียนลดค่าไฟ ค่าน้ำ สำหรับผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ภายหลังจากที่ ครม. ได้เห็นชอบขยายมาตรการดังกล่าวออกไปอีก 7 เดือน ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2565 ถึง เดือนเมษายน 2566 โดยสามารถเช็กเงื่อนไข วิธีการลงทะเบียนที่นี่ได้เลย

ลงทะเบียนลดค่าไฟ ค่าน้ำ สำหรับผู้ที่ถือ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ภายหลังจากที่ ครม. ได้เห็นชอบขยายมาตรการดังกล่าวออกไปอีก 7 เดือน ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2565 ถึงเดือนเมษายน 2566 โดยสามารถเช็กเงื่อนไข วิธีการลงทะเบียนที่นี่ได้เลย

เงื่อนไขลงทะเบียนรับสิทธิเงินช่วยเหลือค่าไฟ "บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" 

1. ผู้ใช้ไฟฟ้าต้องเป็นผู้มีสิทธิในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะได้รับสิทธิ 1 สิทธิต่อครัวเรือนต่อบิลเดือน และต่อหนึ่งหมายเลขผู้ใช้ไฟฟ้าเท่านั้น

2. ผู้มีสิทธิในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะได้รับเงินช่วยเหลือค่าไฟฟ้าประจำเดือน ตามที่ระบุในใบแจ้งค่าไฟฟ้าแต่ไม่เกิน 315 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ต่อครัวเรือนต่อบิลเดือน / กรณีที่ค่าไฟฟ้าเกิน 315 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) จะไม่ได้สิทธิจากมาตรการนี้

3. ผู้ใช้ไฟฟ้าต้องชำระเงินค่าไฟฟ้าเต็มจำนวนตามที่ระบุในใบแจ้งค่าไฟฟ้า และกรมบัญชีกลางจะจ่ายเงินคืนผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐให้ต่อไป

4. ผู้ใช้ไฟฟ้าที่ได้รับสิทธิไฟฟ้าฟรีไม่เกิน 50 หน่วยในเดือนใด จะไม่ได้รับสิทธิตามบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในเดือนนั้น

5. ผู้มีสิทธิในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และต้องการใช้สิทธิในการช่วยเหลือค่าไฟฟ้า ต้องลงทะเบียนผ่านช่องทางที่ กฟภ. กำหนด และให้ข้อมูลถูกต้องครบถ้วน

วิธีลงทะเบียนลดค่าไฟ

  • ลดค่าไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) (คลิก)
  • ลดค่าไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) (คลิก)

ส่วนเงื่อนไขลงทะเบียนรับสิทธิ ลดค่าน้ำประปา บัตรสวัสดิการเเห่งรัฐ 2565 ประกอบด้วย

- เป็นผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่เคยลงทะเบียนรับสิทธิแล้ว ไม่ต้องลงทะเบียนใหม่

- เริ่มได้รับสิทธิตั้งแต่ใบแจ้งค่าน้ำประปาประจำเดือนตุลาคม 2564 – กันยายน 2565

- ใบแจ้งค่าน้ำประปาที่มีการใช้น้ำประปาประจำเดือนไม่เกิน 315 บาท

- ใช้น้ำประปาไม่เกิน 100 บาท ได้รับการสนับสนุนวงเงินค่าน้ำประปาตามจำนวนค่าน้ำประปาที่ใช้จริง

- ใช้น้ำประปาเกิน 100 บาท แต่ไม่เกิน 315 บาท จะได้รับการสนับสนุนวงเงินค่าน้ำประปาจำนวน 100 บาท

- ใช้น้ำประปาเกิน 315 บาท จะไม่ได้รับการสนับสนุนวงเงินค่าน้ำประปา
ต้องชำระเงินค่าน้ำประปาตามที่ระบุในใบแจ้งค่าน้ำประปา ให้การประปานครหลวง / การประปาส่วนภูมิภาค ตามปกติ กรมบัญชีกลาง จะโอนเงินคืนให้ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในกลางเดือนถัดไป

- สิทธิลดค่าน้ำนี้ไม่ครอบคลุมสำหรับผู้ใช้น้ำในหอพักหรือคอนโดมิเนียม

ลงทะเบียนลดค่าน้ำ 2565 สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ลงทะเบียนผ่านทางเว็บไซต์การประปาส่วนภูมิภาค และการประปานครหลวง ดังนี้

ผู้ที่มีความประสงค์จะขอรับสิทธิช่วยเหลือค่าไฟฟ้า ค่าน้ำ ขอให้รีบลงทะเบียนกับโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐปี 2565 ของ กระทรวงการคลัง ซึ่งได้มีการขยายเวลาลงทะเบียนจนถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2565 นี้ โดยสามารถดูรายละเอียดที่เว็บไซต์ (คลิกที่นี่)

หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ สามารถสอบถามได้ที่ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โทร.0-2109-2345 หรือสอบถามข้อมูลค่าไฟฟ้าได้ที่ช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ MEA ได้แก่ Facebook: การไฟฟ้านครหลวง MEA , Line: @meathailand, Twitter: @mea_news, และ MEA Call Center โทร. 1130 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง