สมหวังเชื่อว่า ในปัจจุบันนี้ที่ใครๆ ก็ซื้อรถใหม่ได้ง่ายๆ เพราะโปรโมชั่นจากบรรดาค่ายรถที่งัดกันออกมาเอาใจลูกค้า ไม่ว่าจะฟรีดาวน์ ฟรีประกันภัย ผ่อนสบาย ดอกเบี้ยต่ำ แถมชุดแต่งรอบคัน หรือผ่อนได้ยาวๆ 6 -7 ปีกันเลยทีเดียว ทำให้ผู้ที่ฝันอยากมีรถเป็นของตัวเองสักคันก็ทำให้เป็นจริงได้ โดยที่แทบจะไม่ต้องมีเงินในกระเป๋าเลยด้วยซ้ำ ถูกต้องไหมครับ Show แต่สิ่งที่ตามมาหลังจากนั้น คือหลายๆ คนที่คิดว่า ซื้อรถยนต์เพราะผ่อนไหว ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว ค่าใช้จ่ายในการ maintenance นั้นยังมีอีกมาก ไม่ว่าจะเป็นค่าประกันภัย ค่าพรบ. ค่าน้ำมัน ค่าที่จอดรถ ค่าเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง เข้าศูนย์ตามระยะ ฯลฯ รวมๆ แล้วก็ทำให้แบกรับภาระไม่ไหว แต่จะถ้าไม่จ่ายก็อาจจะกลายเป็นเสียเครดิต หรือจะให้ประกาศขายก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะมีความจำเป็นต้องใช้รถแบบนี้จะไปต่ออย่างไรดีล่ะ? วันนี้สมหวังมีคำแนะนำดีๆ มาฝากครับ โดยปกติแล้ว ไฟแนนซ์มักจะยอมให้ลูกค้าขาดชำระค่างวดติดต่อกันได้ไม่เกิน 3 งวด หากเกินจากนั้น ไฟแนนซ์มีสิทธิ์ยึดรถเราได้ตามกฎหมาย บางคนก็คิดว่าปล่อยให้ยึดไปเถอะ ดีกว่าไม่มีเงินจะผ่อนต่อ แต่การยึดรถนี้ รู้กันไหมว่าไฟแนนซ์จะนำเอารถของเราไปขายทอดตลาด ซึ่งมักจะได้ราคาที่ต่ำกว่าราคาตลาดเป็นอย่างมาก เมื่อขายได้ก็จะนำมาหักลบกลบหนี้กับลูกหนี้ ที่ยังคงค้างไว้ บวกกับค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าขาดระโยชน์, ค่าติดตามทวงถาม, ค่าครอบครองรถขณะขายทอดตลาด ทำให้ส่วนมากมักจะทำให้เงินที่ขายรถทอดตลาดได้มา ไม่พอกับหนี้ที่คงเหลือ ก็จะเป็นภาระหนี้อีกก้อนหนึ่งที่เพิ่มขึ้นมา และถ้าลูกหนี้ยังไม่จ่ายในส่วนนี้ จะก็ถูกดำเนินการฟ้องร้องต่อไปอีกด้วย แต่ในขณะเดียวกัน ผู้ที่ผ่อนรถต่อไปไม่ไหว ก็ยังมีทางออกที่เรียกว่า "การปรับปรุงโครงสร้างหนี้" ซึ่งนั่นก็คือการขยายช่วงเวลาผ่อนชำระให้นานขึ้นไปอีก ซึ่งโดยมาจะสูงที่สุดอยู่ที่ 48 เดือน แต่รวมกับงวดผ่อนชำระคงเหลือเดิมแล้วไม่เกิน 96 เดือน (เงื่อนไขแตกต่างกันไปตามแต่ละสถาบันการเงิน) จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ผ่อนมาแล้วอย่างน้อยประมาณ 1 ปี มีการต่อภาระรถยนต์ตรงตามเวลา และมีผู้ค้ำประกันด้วย โดยการปรับปรุงโครงสร้างหนี้นั้น จะทำให้ยอดผ่อนแต่ละเดือนนั้นลดลง ทำให้เราผ่อนชำระได้สบายขึ้น ลดโอกาสการขาดชำระ ไม่เสียประวัติ และไม่ทำให้เสียเครดิตด้วย แต่ทั้งนี้ การปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ก็จะแลกมาด้วย ดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น และงวดผ่อนที่นานขึ้นนั่นเอง ซึ่งอาจจะเป็นประโยชน์กับผู้ที่ชักหน้าไม่ถึงหลังจริงๆ ซึ่งก็ยังดีกว่าปล่อยให้ประวัติการชำระหนี้ของเราเสียไปนะครับ ฉะนั้นการจะซื้อรถ อย่าตัดสินใจเพียงแค่ว่าเราผ่อนไหว แต่ให้มองอย่างรอบด้านเพื่อให้เรามั่นใจว่า ซื้อแล้วจะไม่เป็นภาระจนเกินตัวของเราด้วยนั่นเอง ขอบคุณข้อมูลจาก Sanook auto วิธีการขายดาวน์รถยนต์ แบบคร่าว ๆ นะ ต้องทำตามสเตปนี้เท่านั้น อ่านให้เข้าใจนะ 1. คนขายดาวน์ ยื่นเจตจำนงค์กรอกเอกสารส่งสำนักงานไฟแนนซ์ อาจมีเสียค่าธรรมเนียม เกี่ยวกับการต้องการเปลี่ยนชื่อคู่สัญญาไฟแนนซ์ 2. ไฟแนนซ์ จะตรวจสอบว่า คนขายดาวน์ มีคุณสมบัติที่จะเปลี่ยนชื่อคู่สัญญาเป็นผู้อื่นได้ไหม เช่น ค้างค่างวดไหม เพราะบางครั้งสัญญาระบุว่า ต้องจ่ายก่อน 12
งวด ถึงสามารถเปลี่ยนสัญญาได้ 3. คนขายดาวน์ คนซื้อดาวน์ คนค้ำประกันของคนซื้อดาวน์ โดย 3 คนนี้ ต้องไปกรอกเอกสารและยื่นหลักฐานต่าง ๆ รวมถึงหลักฐานทางการเงินที่สำนักงานไฟแนนซ์ หลักฐานใช้อะไรบ้าง ให้ถามไฟแนนซ์เอา แล้วไฟแนนซ์จะตรวจสอบว่า … 4. เมื่อไฟแนนซ์ตรวจสอบแล้ว พบว่า คนซื้อดาวน์ คุณสมบัติไม่ครบ ไม่ผ่าน การเปลี่ยนชื่อในสัญญาก็ไม่สามารถทำได้ หรือ ตรวจสอบแล้วพบว่า คนค้ำประกันของคนซื้อดาวน์ มีคุณสมบัติไม่ครบ ไม่ผ่าน การเปลี่ยนชื่อในสัญญาก็ไม่สามารถทำได้ 5. แต่… เมื่อไฟแนนซ์ตรวจสอบแล้ว พบว่า คนซื้อดาวน์ คุณสมบัติครบ ผ่าน การเปลี่ยนชื่อในสัญญาก็สามารถทำได้ หรือ ตรวจสอบแล้วพบว่า คนค้ำประกันของคนซื้อดาวน์ มีคุณสมบัติครบ ผ่าน การเปลี่ยนชื่อในสัญญาก็สามารถทำได้ ( คุณสมบัติต้องผ่านทั้งคนซื้อดาวน์และคนค้ำประกันนะ ) 6. ต่อจากข้อ 5. เมื่อคุณสมบัติคนซื้อดาวน์ผ่าน คุณสมบัติคนค้ำประกันผ่าน จากนั้นไฟแนนซ์จะโทรหาคนขายดาวน์ จะโทรหาคนซื้อดาวน์ ให้มาเซ็นเอกสารเปลี่ยนชื่อคู่สัญญาไฟแนนซ์กันที่สำนักงานไฟแนนซ์กันอีกครั้ง รอบนี้คนค้ำประกันไม่ต้องไป โดยการเปลี่ยนชื่อคู่สัญญาไฟแนนซ์มีค่าใช้จ่ายราว 4,000 บาท หรือกี่บาท ถามไฟแนนซ์เอา ตรงนี้ใครจ่ายตกลงกันเอง 7. เมื่อนัดกันแล้ว ไปเซ็นเอกสารกันที่สำนักงานไฟแนนซ์แล้ว เปลี่ยนชื่อแล้ว เซ็นเอกสารเสร็จก็จบ จ่ายเงินซื้อดาวน์ เงินสด แคชเชียร์เช็ค หรือถ้ายกรถให้ฟรีก็แล้วแต่ รับกุญแจรถไป แยกย้ายกลับบ้าน เสร็จ จบ .. 8. การขายดาวน์ การซื้อดาวน์ การยกรถให้ไปผ่อนต่อฟรี ห้ามทำนอกเหนือจากหลักการที่ผมบอกตั้งแต่ข้อ 1 – 7 โดยเด็ดขาด !! การเปลี่ยนชื่อคู่สัญญาไฟแนนซ์ มันยุ่งยากเหมือนกับการซื้อรถป้ายแดงแล้วผ่อนกับไฟแนนซ์หรือลิสซิ่งโดยตรงเลย ไปทำสัญญาอะไรกันเอาเอง อะไรมันไม่มีผลต่อไฟแนนซ์นะ บางคนตกงาน ไม่มีเงินจ่ายค่างวดรถ เลยขายดาวน์รถตัวเอง โตโยต้า ยารีส ไปนัดขายดาวน์กันที่ร้าน KFC มันเอาเอกสารมาให้เซ็น มันเอาใบมอบฉันทะบ้าบอไรมาให้เซ็น มันจ่ายเงินสดมาให้ 50,000 บาท ดีใจ ขายดาวน์ได้แล้ว ! มันบอกจะไปเปลี่ยนชื่อที่ไฟแนนซ์ให้ สุดท้ายมันเชิดรถหนี หนี้ไฟแนนซ์เหลืออยู่ 380,000 ได้เงินจากมันมา 50,000 แต่ยังต้องตามใช้หนี้ไฟแนนซ์อีก 330,000 ต้องได้ไปแจ้งความ ขึ้นโรงพักวุ่นวาย หาตัวมันไม่เจอแล้ว มันหนีไปแล้ว .. cr. คุณโชคชัย บุญวรเมธี เปลี่ยนสัญญาเช่าซื้อรถมอไซค์ กี่บาทค่าใช้จ่ายต่างๆในการเปลี่ยนสัญญา
ค่าเปลี่ยนสัญญา หรือ ค่าทำเองการเปลี่ยนชื่อบุคคลหนึ่งไปสู่อีกบุคคลหนึ่งจะมีค่าใช้จ่ายค่าดำเนินการประมาณ 2,000-3,000 บาท ในการทำเอกสารของไฟแนนซ์
ออกรถมอไซค์กี่เดือนถึงเปลี่ยนสัญญาได้ในกรณีที่ผ่อนรถมาได้ไม่ถึงปี แต่อยากเปลี่ยนสัญญา บางที่สามารถรับการโปะค่างวดให้ครบ 12 เดือนได้ เช่น ผ่อนไปได้ 9 เดือน หากอยากเปลี่ยนสัญญา ให้ชำระค่างวดที่ค้างอีก 3 เดือน ซึ่งในจุดนี้ ขึ้นอยู่กับการตกลง ว่าใครที่จะเป็นคนจ่าย ต้องปิดค่างวดสำหรับ 1 ปีก่อนดำเนินการ
เปลี่ยนสัญญาเช่าซื้อรถมอไซค์ กรุงศรี กี่วันทางผู้เช่าซื้อใหม่และผู้ค้ำประกันใหม่ ต้องชำระค่าธรรมเนียมการพิจารณาคุณสมบัติ ท่านละ 500 บาท โดยทางกรุงศรี ออโต้ฯ จะใช้เวลาในการพิจารณาประมาณ 7 วันทำการ หลังจากที่ผ่านการพิจารณาแล้ว ทางเจ้าหน้าที่จะนัดผู้เช่าซื้อเดิม ผู้เช่าซื้อใหม่และผู้ค้ำประกันใหม่เข้ามาทำสัญญาที่ธนาคารฯ และผู้เช่าซื้อท่านใหม่จะชำระเงิน ดังนี้
เปลี่ยนสัญญาเช่าซื้อรถยนต์ กรุงศรี ใช้เงินกี่บาท1. ค่าธรรมเนียมการโอนสิทธิสัญญาเช่าซื้อ 1,200 บาท 2. ค่าดำเนินการเปลี่ยนชื่อผู้ครอบครอง 2,000 บาท
|