ขึ้นเงินเดือนปีละกี่เปอร์เซ็น

ขึ้นเงินเดือนปีละกี่เปอร์เซ็น

เปิดยอดโบนัสธุรกิจกลุ่มงานสายเปย์ ปี 64/65 แจก 1-5 เดือน ขึ้นเงินเดือนสูงสุด 4-5%  ด้าน สายยานยนต์อู้ฟู่แชมป์หลายสมัยจ่ายโบนัสพิเศษ

สมาคมการจัดการงานบุคคลแห่งประเทศไทย (PMAT) เปิดเผยข้อมูลกับ TODAY Bizview ถึงผลการดำเนินการสำรวจค่าตอบแทนรวม ประจำปี 2564/2565 จากการสำรวจจำนวน 103 บริษัทนั้น พบว่า มีแนวโน้มการปรับเงินเดือนประจำปี ตามผลงาน และการจ่ายเงินโบนัส ปี 2564-2565 ดังนี้

เศรษฐกิจถดถอยแต่ยังกำไร ปรับเงินเดือนขึ้นสูงสุด 4-5%

การปรับเงินเดือนประจำปี ตามผลงานในปี 2564 เฉลี่ยอยู่ที่ 3.93% ซึ่งลดลงจากปี 2563 โดยกลุ่มธุรกิจที่มีอัตราการขึ้น เงินเดือนเฉลี่ยสูงสุด 3 อันดับแรกได้แก่ กลุ่มทรัพยากร กลุ่มปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ และกลุ่มพาณิชยกรรมและบริการ มีอัตราการขึ้นเงินเดือนเฉลี่ยอยู่ที่ 5%, 4.69% และ 4.09% ตามลำดับ

ประมาณการการขึ้นเงินเดือนในปี 2565 เฉลี่ยอยู่ที่ 4.12% กลุ่มธุรกิจที่มีอัตราการขึ้นเงินเดือนเฉลี่ยสูงสุด 3 อันดับแรก ยังคงเป็น กลุ่มทรัพยากร กลุ่มปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ และกลุ่มพาณิชยกรรมและบริการ เช่นเดิม มีอัตราการขึ้นเงินเดือนเฉลี่ยอยู่ที่ 5%, 4.5% และ 4.27% ตามลำดับ

ปี 64 จ่ายโบนัสเฉลี่ย 1.32 เดือน ลดลงเล็กน้อยกว่าปี 63

ส่วนการจ่ายโบนัสคงที่ (Fix bonus) ปี 2564 เฉลี่ยอยู่ในอัตรา 1.32 เดือน ซึ่งลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปี 2563 กลุ่มธุรกิจที่มีอัตราการจ่ายโบนัสคงที่สูงสุด 3 อันดับแรกได้แก่ กลุ่มปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ กลุ่มสินค้าอุปโภคและบริโภค และกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร มีอัตราการจ่ายโบนัสคงที่ในอัตราเฉลี่ย 1.84, 1.38 และ 1.33 เดือนตามลำดับ

ประมาณการการจ่ายโบนัสคงที่ลดลงเป็น 1.22 เดือนในปี 2565 กลุ่มธุรกิจที่มีอัตราการจ่ายโบนัสคงที่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม กลุ่มยานยนต์ และกลุ่มปิ โตรเคมีและเคมีภัณฑ์ มีอัตราการจ่ายโบนัสคงที่ในอัตราเฉลี่ย 2.1, 1.5 และ1.5 เดือนตามลำดับ (กลุ่มยานยนต์เท่ากับกลุ่มปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์)

กลุ่ม ยานยนต์แชมป์จ่ายโบนัสพิเศษ

สำหรับการจ่ายโบนัสผันแปร (Variable Bonus) ปี 2564 เฉลี่ยอยู่ในอัตรา 2.45 เดือน ซึ่งลดลงจากปี 2563 เล็กน้อย กลุ่มธุรกิจที่มีอัตราการจ่ายโบนัสผันแปรสูงสุด 3 อันดับแรกได้แก่ กลุ่มยานยนต์ กลุ่มเทคโนโลยี และกลุ่มพาณิชยกรรมและบริการ มีอัตราการจ่ายโบนัสผันแปรในอัตราเฉลี่ย 3.66, 2.5 และ 2.41 เดือนตามลำดับ

ประมาณการจ่ายโบนัสผันแปรปี 2565 เฉลี่ยอยู่ที่อัตรา 1.96 เดือน กลุ่มธุรกิจที่มีอัตราการจ่ายโบนัสผันแปรสูงสุด 3 อันดับแรกได้แก่ กลุ่มยานยนต์ กลุ่มปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ และกลุ่มสินค้าอุปโภคและบริโภค มีอัตราการจ่ายโบนัสผันแปรในอัตราเฉลี่ย 3.21,3 และ 2 เดือนตามลำดับ

ทั้งนี้ โดยภาพรวมการปรับเงินเดือนประจำปี ตามผลงาน และการจ่ายเงินโบนัส ปี 2564-2565 มีแนวโน้มลดลงเมื่อเทียบกับปี 2563 ซึ่งเป็นผลจากสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว

อย่างไรก็ตามหลาย ๆ องค์การยังคงมีการปรับเงินเดือนประจำปีเพื่อรักษาบุคลากรที่มีผลงานและศักยภาพดีไว้กับองค์การ ส่วนการจ่ายโบนัสผันแปรก็ยังคงมีในอัตราที่ลดลง เพื่อให้สอดคล้องกับผลประกอบการดำเนินงานของแต่ละองค์การ

การเพิ่มขึ้นของเงินเดือนมีหลายรูปแบบ คุณอาจจะได้เพิ่มเงินเดือนหรือได้เลื่อนตำแหน่ง หรือคุณอาจจะได้งานใหม่ที่เงินเดือนมากกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นการขึ้นเงินเดือนแบบไหน คุณก็อาจจะอยากคำนวณเงินที่เพิ่มขึ้นจากอัตราเงินเดือนเก่าออกมาเป็นเปอร์เซ็นต์ และเนื่องจากว่าอัตราเงินเฟ้อและสถิติค่าครองชีพก็คำนวณออกมาเป็นเปอร์เซ็นต์เหมือนกัน ดังนั้นการคำนวณเงินเดือนที่เพิ่มขึ้นออกมาเป็นเปอร์เซ็นต์จึงช่วยให้คุณสามารถเปรียบเทียบจำนวนเงินที่เพิ่มมากับปัจจัยอื่นๆ เช่น เงินเฟ้อ ได้ นอกจากนี้การเรียนรู้วิธีการคำนวณเงินเดือนที่เพิ่มขึ้นออกมาเป็นเปอร์เซ็นต์ยังช่วยให้คุณสามารถเปรียบเทียบเงินเดือนตัวเองกับคนอื่นๆ ในสาขาเดียวกันได้

  1. ขึ้นเงินเดือนปีละกี่เปอร์เซ็น

    1

    เอาเงินเดือนใหม่ลบด้วยเงินเดือนเก่า. สมมุติว่ารายได้จากงานเก่าของคุณอยู่ที่ 1,350,000 บาทต่อปี และรายได้ของงานใหม่อยู่ที่ 1,500,000 ต่อปี คุณก็ต้องเอา 1,500,000 ลบด้วย 1,350,000 ก็จะเท่ากับ 150,000 บาท

    • ถ้าคุณได้รับค่าจ้างเป็นรายชั่วโมงและไม่รู้ว่ารายได้สุทธิต่อปีคือเท่าไหร่ ก็แค่เอาอัตราค่าจ้างรายชั่วโมงเดิมมาลบด้วยอัตราใหม่ เช่น ถ้าคุณได้ค่าจ้างเพิ่มจากชั่วโมงละ 420 เป็น 480 บาท คุณก็ต้องเอา 150 - 120 = 60 บาท

  2. ขึ้นเงินเดือนปีละกี่เปอร์เซ็น

    2

    เอาส่วนต่างหารด้วยเงินเดือนเก่า. ในการคำนวณเงินเดือนที่เพิ่มขึ้นออกมาเป็นเปอร์เซ็นต์นั้น คุณต้องคำนวณออกมาเป็นเลขทศนิยมก่อน และการจะได้เลขทศนิยมคือคุณต้องเอาตัวเลขที่ได้จากคำนวณในขั้นตอน 1 มาหารด้วยเงินเดือนเก่า

    • จากตัวอย่างในขั้นตอน 1 คุณจะต้องเอา 1,500,000 หารด้วย 1,350,000 ก็จะได้เท่ากับ 0.111
    • ถ้าคุณคำนวณรายได้ที่เพิ่มขึ้นเป็นรายชั่วโมง ก็ใช้หลักการเดียวกันคือ จากตัวอย่างข้างต้น ให้เอา 60 หาร 420 = 0.143

  3. ขึ้นเงินเดือนปีละกี่เปอร์เซ็น

    3

    เอา 100 คูณเลขทศนิยมที่ได้. การเปลี่ยนจากตัวเลขทศนิยมเป็นเปอร์เซ็นต์นั้น ก็แค่เอาเลขทศนิยมคูณ 100 จากตัวอย่างก่อนหน้า คุณก็จะต้องเอา 0.111 คูณ 100 ก็คือ 0.111 x 100 = 11.1% หมายความว่ารายได้ต่อปีที่ 1,500,000 มีค่าประมาณ 111.1% ของรายได้ 1,350,000 ที่เป็นรายได้เดิม หรือว่าคุณมีรายได้เพิ่มขึ้น 11% นั่นเอง

    • สำหรับตัวอย่างที่เป็นค่าจ้างรายชั่วโมง คุณก็ยังคงใช้หลักการเดียวกันคือเอาเลขทศนิยมคูณ 100 ซึ่งจากตัวอย่างข้างต้นก็จะได้ 0.143 x 100 = 14.3%
    • ในการตรวจสอบว่าถูกต้องหรือไม่ ให้เอาเงินเดือนเก่าหรือค่าจ้างรายชั่วโมงคูณด้วยเปอร์เซ็นต์ของเงินที่เพิ่ม เช่น ถ้าคุณเอา 1,350,000 x 1.111 คำตอบก็คือ 1,4999,850 ซึ่งตีเป็นตัวเลขกลมๆ ก็คือ 1,500,000 เช่นเดียวกับ 420 x 1.143 = 480.06

  4. ขึ้นเงินเดือนปีละกี่เปอร์เซ็น

    4

    ใส่สวัสดิการเพิ่มเติมถ้ามี. ถ้าคุณกำลังเปรียบเทียบสวัสดิการของงานที่บริษัทใหม่หรือการเลื่อนตำแหน่งในบริษัทเดิมที่นอกเหนือไปจากเรื่องเงินเดือนที่เพิ่มขึ้น เงินเดือนก็จะเป็นแค่ส่วนหนึ่งของสวัสดิการทั้งหมดที่คุณจะต้องพิจารณา คุณจะต้องนำสวัสดิการด้านอื่นๆ มาพิจารณานอกเหนือจากฐานเงินเดือนที่เพิ่มขึ้นด้วย สวัสดิการด้านอื่นๆ ก็เช่น

    • ประกันสุขภาพ/เบี้ยประกัน ถ้าทั้งสองงานให้ความคุ้มครองด้านการประกันสุขภาพจากการจ้างงานทั้งคู่ คุณก็จะต้องเปรียบเทียบความคุ้มครองของแผนประกัน และต้องนำเบี้ยประกันที่ต้องหักออกจากเงินเดือน (ถ้ามี) มาประกอบการตัดสินใจด้วย เช่น การจ่ายเบี้ยประกันจากเดือนละ 3,000 บาทเป็น 6,000 บาทที่ความคุ้มครองเท่ากันก็จะไปหักลบกับจำนวนเงินเดือนที่เพิ่มขึ้นมา นอกจากนี้ให้พิจารณาความครอบคลุมของประกัน (ครอบคลุมการหาทันตแพทย์และจักษุแพทย์ไหม) และค่าเสียหายส่วนแรกรายปีโดยรวมที่คุณอาจจะต้องจ่าย เป็นต้น
    • โบนัสหรือค่าคอมมิชชัน แม้ว่าจะไม่ได้รวมอยู่ในฐานเงินเดือน แต่ก็อย่าลืมใส่โบนัสและ/หรือค่าคอมมิชชันเข้าไปในการคำนวณด้วย เงินเดือนใหม่อาจจะจ่ายต่อเดือนมากกว่า แต่ถ้างานปัจจุบันมีโอกาสที่จะได้โบนัสรายไตรมาส รายได้ต่อเดือนที่เพิ่มขึ้นยังจะมากกว่าอยู่หรือเปล่า เป็นต้น แต่ก็ต้องนึกไว้ด้วยว่าจำนวนเงินที่ว่านี้ก็อาจจะไม่แน่นอนเพราะว่ามันขึ้นอยู่กับผลงานของคุณและ/หรือผลงานของบริษัท
    • แผนการเกษียณ บริษัทบางที่จะมีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่ให้คุณนำรายได้ก่อนหักภาษีไปไว้ในแผนการเกษียณ เรียกว่า “เงินสะสม” ซึ่งกฎหมายกำหนดให้สะสมได้ 2-15% ของเงินเดือน และเงินที่นายจ้างจ่ายเข้ากองทุนให้อีกส่วนหนึ่งเรียกว่า “เงินสมทบ” ซึ่งกฎหมายกำหนดให้สมทบในอัตราที่ไม่ต่ำกว่าเงินสะสมของลูกจ้าง เพราะฉะนั้นถ้าบริษัทปัจจุบันให้เก็บเงินสะสมที่ 5% แต่บริษัทใหม่เก็บที่ 15% คุณก็ต้องพิจารณาจำนวนเงินสมทบที่จะได้มาฟรีๆ ในแผนการเกษียณของคุณด้วย
    • เงินบำนาญ งานที่มีเงินบำนาญให้หลังจากการทำงานอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาตามที่ระบุไว้ก็ต้องนำมาพิจารณาเหมือนกัน ถ้างานของคุณมีเงินบำนาญก้อนโตที่จะให้หลังจากทำงานครบ 25 ปี แต่งานใหม่ไม่มีเงินบำนาญให้เลย คุณก็ต้องนำข้อนี้ไปพิจารณาเหมือนกัน รายได้ต่อปีที่สูงขึ้นอาจจะหมายถึงเงินที่เพิ่มขึ้นในทันที แต่คุณก็ควรพิจารณาโอกาสทางการเงินที่คุณจะได้ตลอดทั้งชีวิตของแต่ละงานด้วย ทั้งนี้ต้องไม่ลืมว่าบริษัทที่มีบำนาญให้ด้วยนั้นหาไม่ได้ง่ายๆ แล้วในปัจจุบัน หรือถึงบางบริษัทจะยังมีอยู่แต่ก็ไม่ได้จ่ายก้อนโตอย่างที่หวัง เพราะบางครั้งก็เกิดการบริหารเงินทุนผิดพลาดและแทบไม่มีหรือไม่มีเงินให้พนักงานไว้ใช้ตอนเกษียณเลย

    โฆษณา

  1. ขึ้นเงินเดือนปีละกี่เปอร์เซ็น

    1

    เข้าใจคำว่าเงินเฟ้อ. เงินเฟ้อคือการเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าและบริการ เพราะฉะนั้นมันจึงมีผลต่อค่าครองชีพ เช่น เงินเฟ้อสูงก็คือการเพิ่มขึ้นของราคาอาหาร สาธารณูปโภค และน้ำมัน คนมักจะจับจ่ายน้อยลงในช่วงเงินเฟ้อสูงเพราะช่วงนี้จะเป็นช่วงที่ของราคาแพงขึ้น

  2. ขึ้นเงินเดือนปีละกี่เปอร์เซ็น

    2

    ข้อมูลเรื่องเงินเฟ้อ. เงินเฟ้อของสกุลเงินเกิดจากปัจจัยต่างๆ มากมาย ธนาคารแห่งประเทศจะมีรายงานนโยบายการเงิน โดยคุณสามารถเข้าไปที่เว็บไซต์ของธนาคารแห่งประเทศไทย[1] เพื่อดูข้อมูลสรุปประมาณการเศรษฐกิจและเงินเฟ้อในประเทศไทยได้

  3. ขึ้นเงินเดือนปีละกี่เปอร์เซ็น

    3

    ลบอัตราเงินเฟ้อออกจากเปอร์เซ็นต์เงินเดือนที่เพิ่มขึ้น. ในการหาว่าอัตราเงินเฟ้อมีผลกระทบต่อเงินเดือนที่เพิ่มขึ้นของคุณแค่ไหน ก็แค่เอาอัตราเงินเฟ้อไปลบจากเปอร์เซ็นต์เงินเดือนที่เพิ่มขึ้นที่คุณคำนวณไว้ในขั้นตอน 1 เช่นค่าเงินเฟ้อเฉลี่ยในปี 2561 อยู่ที่ 1.1%[2] จากตัวเลข 11.1% ที่เราคำนวณได้ในขั้นตอน 1 คุณจะสามารถคำนวณผลกระทบของอัตราเงินเฟ้อที่มีต่อเงินเดือนที่เพิ่มขึ้นโดยนำ 11.1% - 1.1% = 10% หมายความว่าพอคุณนำปัจจัยเรื่องเงินเฟ้อของราคาสินค้าและบริการไปคำนวณด้วยแล้ว เงินเดือนของคุณถือว่าเพิ่มมาแค่ 10% เท่านั้น เพราะเงินมีค่าน้อยลงจากปีที่แล้ว 1.1%

    • พูดอีกอย่างก็คือ ในปี 2561 คุณจะต้องใช้เงินมากขึ้นโดยเฉลี่ย 1.1% ในการซื้อของแบบเดียวกันกับที่ซื้อในปี 2560

  4. ขึ้นเงินเดือนปีละกี่เปอร์เซ็น

    4

    เชื่อมโยงผลกระทบของเงินเฟ้อกับอำนาจการซื้อ. อำนาจการซื้อหมายถึงต้นทุนการผลิตเชิงเปรียบเทียบของสินค้าและบริการในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง เช่น สมมุติว่าคุณมีรายได้ 1,500,000 บาทในขั้นตอน 1 ตอนนี้สมมุติว่าเงินเฟ้อคงที่ที่ 0% ในปีที่คุณได้เงินเดือนเพิ่ม แต่ไปเพิ่มขึ้น 1.1% ในปีถัดมาที่คุณไม่ได้เงินเดือนเพิ่มเลย หมายความว่าคุณต้องใช้เงินเพิ่ม 1.1% ในการซื้อสินค้าและบริการพื้นฐานแบบเดียวกัน 1.1% ของเงิน 1,500,000 ก็คือ 0.011 x 1,500,000 = 16,500 บาท เท่ากับว่าอำนาจการซื้อโดยรวมที่แท้จริงของคุณจากพื้นฐานของอัตราเงินเฟ้อจะน้อยลงกว่าเมื่อปีที่แล้วอยู่ 16,500 บาท

    • คุณสามารถคำนวณจำนวนเงินเทียบเท่ากับจำนวนเงินในปีต่อๆ ไปหรือในปีที่ผ่านมาได้ง่ายๆ[3] โดยเข้าไปที่ลิงก์ http://www.thaifranchisecenter.com/calculator/inflation.php

    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • มีเครื่องคำนวณออนไลน์มากมายที่ช่วยคำนวณอัตราเงินเดือนที่เพิ่มขึ้นเป็นเปอร์เซ็นต์ได้อย่างรวดเร็ว
  • ตัวอย่างการคำนวณในข้างต้นสามารถใช้กับสกุลเงินอื่นๆ ได้

โฆษณา

สิ่งของที่ใช้

  • เครื่องคิดเลข

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 59,705 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

เงินเดือนเพิ่มขึ้นกี่เปอร์เซ็นต์

วิธีคิดว่า ได้เงินเดือนขึ้นกี่ % สูตร เงินเดือนใหม่ - เงินเดือนเก่า x 100 ÷ เงินเดือนเก่า = % ตัวอย่าง ก่อนหน้านี้อัตราเงินเดือนอยู่ที่ 35,000 บาท เดือนนี้ถูกปรับขึ้นเงินเดือนเป็น 36,750 บาท เท่ากับว่า เราได้เงินเดือนเพิ่มขึ้น 36,750 - 35,000 x 100 ÷ 35,000 = 5%

เงินเดือนควรเพิ่มปีละกี่เปอร์เซ็น

ถ้าเงินเดือนต่ำกว่า 20K เงินเดือนควรขึ้นอย่างน้อย 7-10 % ค่ะ

เงินเดือนขึ้นปีละกี่เปอร์เซ็นต์ 2565

ประมาณการการขึ้นเงินเดือนในปี 2565 เฉลี่ยอยู่ที่ 4.12% กลุ่มธุรกิจที่มีอัตราการขึ้นเงินเดือนเฉลี่ยสูงสุด 3 อันดับแรก ยังคงเป็น กลุ่มทรัพยากร กลุ่มปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ และกลุ่มพาณิชยกรรมและบริการ เช่นเดิม มีอัตราการขึ้นเงินเดือนเฉลี่ยอยู่ที่ 5%, 4.5% และ 4.27% ตามลำดับ

เงินเดือนขึ้นปีละกี่เปอร์เซ็นต์ 2563

เปิดผลสำรวจ 'อัตราค่าตอบแทนรวมในประเทศไทยประจำปี 2563' (Annual Thailand Total Remuneration Survey 2020) พบว่า ค่ากลางของอัตราการขึ้น 'เงินเดือน' ของปีนี้ปรับลดลงอยู่ที่ 3.7% เป็นครั้งแรกในรอบทศวรรษต่ำกว่า 5% ซึ่งแต่ละอุตสาหกรรมได้รับผลกระทบแตกต่างกันไป ส่วนในปี 2564 คาดการณ์ว่าอัตราเงินเดือนจะเพิ่มสูงขึ้นที่ 5%