Show การบริการอาหาร (Food Service)ในการบริการอาหารแบบตะวันตกหรือแบบยุโรปนั้นมีอยู่หลายแบบด้วยกัน และในปัจจุบันนี้ถือว่าการบริการอาหารแบบตะวันตกนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก แต่ถ้าจะกล่าวหรือแบ่งการบริการอาหารแบบตะวันตกออกเป็นประเภท ๆ นั้น ก็พอแบ่งออกได้ 2 ประเภท โดยถือลักษณะของการบริการเป็นหลัก คือ 1. การบริการอาหารโดยใช้บริกร (Table Service) หมายถึงการบริการอาหารโดยให้การบริการกับผู้มาใช้บริการถึงโต๊ะโดยมีพนักงานบริการคอยรับคำสั่ง (Take Order) และนำอาหารไปเสิร์ฟให้กับผู้มาใช้บริการที่โต๊ะ ซึ่งการให้บริการแบบนี้เป็นการบริการที่ได้รับความนิยมกันมากในปัจจุบันตามห้องอาหารและภัตตาคาร ซึ่งเหมาะมากสำหรับผู้มาใช้บริการที่มีเวลาในการรับประทานอาหารมากในแต่ละมื้อนั้นๆ ซึ่งการบริการอาหารลักษณะนี้ยังสามารถแบ่งเป็นแบบต่าง ๆ ได้อีกดังนี้คือ 1.1 การบริการแบบฝรั่งเศส (French Service)การบริการอาหารแบบนี้ถือว่าเป็นการบริการแบบเป็นทางการ (Formal Type) ซึ่งเป็นการบริการที่ค่อนข้างหรูหรา สำหรับพนักงานบริการที่ให้การบริการแบบนี้จะต้องเป็นผู้ที่ผ่านการอบรมและฝึกฝนมาเป็นอย่างดีพอ ในการบริการแบบนี้จะต้องใช้พนักงานบริการจำนวนมากเมื่อเปรียบเทียบกับผู้มาใช้บริการ การบริการอาหารแบบฝรั่งเศสนี้ อาหารที่จะนำไปเสิร์ฟให้กับผู้มาใช้บริการนั้นจะต้องถูกนำมาแบ่งและปรุงแต่งใส่จานต่อหน้าผู้มาใช้บริการ กล่าวคืออาหารที่จะนำมาเสิร์ฟนั้นจะนำมาปรุงแต่ง และใส่จานบนที่อุ่นอาหาร (Chafing Dish) หรือที่พักอาหารรถเข็นที่เรียกว่าเกริดอง (Gueridon) แล้วจึงนำไปเสิร์ฟ และการเข้าเสิร์ฟนั้นพนักงานบริการจะนำอาหารเข้าเสิร์ฟทางขวามือของผู้มาใช้บริการด้วยขวามือทุกชนิด ยกเว้นขนมปัง เนย และสลัด ที่จะต้องเข้าเสิร์ฟทางซ้ายมือของผู้มาใช้บริการ และเมื่อผู้มาใช้บริการรับประทานอาหารเสร็จพนักงานนบริการก็จะเข้าเก็บจานหรือถอนจานอาหารโดยเข้าทางขวามือของผู้มาใช้บริการ ยกเว้น จานขนมปังและจานสลัดที่ต้องเข้าถอนจานทางซ้ายมือ การบริการอาหารแบบฝรั่งเศสนี้ เป็นการบริการที่ได้รับความนิยมมาก ทั้งนี้เนื่องจากถือว่าเป็นการบริการที่หรูหรา และมีระเบียบความสวยงาม ดังนั้นตามห้องอาหารหรือภัตตาคารที่มีมาตรฐานระดับสูง ๆ จึงมักใช้บริการแบบนี้ 1.2 การบริการแบบรัสเซีย (Russian Service)
เป็นการบริการอีกแบบหนึ่งที่มีลักษณะคล้ายกับการบริการแบบฝรั่งเศสมาก แต่จะมีข้อแตกต่างกันตรงที่การบริการอาหารแบบนี้จะใช้พนักงานบริการจำนวนน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับผู้มาใช้บริการ ในการเสิร์ฟ ฉะนั้นพนักงานบริการจะต้องเป็นผู้ที่มีความสามารถและมีความชำนาญในการบริการมากพอ การบริการแบบรัสเซียนี้อาหารที่จะนำไปเสิร์ฟนั้นจะมีการเตรียมการและการประกอบปรุงแต่งเสร็จเรียบร้อยแล้วมาจากครัว ซึ่งอาหารจะถูกจัดใส่ถาดตามจำนวนลูกค้าในแต่ละโต๊ะเพื่อส่งให้พนักงานบริการ จากนั้นพนักงานบริการก็จะนำอาหารไปตักแบ่งเสิร์ฟ ก่อนที่จะเข้าเสิร์ฟ พนักงานบริการจะไปนำจานมาจัดไว้ตรงหน้าแขก โดยเข้าบริการทางขวามือของผู้มาใช้บริการโดยจัดวางจานไป รอบ ๆ ตามเข็มนาฬิกา และเมื่อจัดวางจานเสร็จครบทุกคนแล้ว พนักงานบริการก็จะไปนำถาดอาหารไปตักแบ่งเสิร์ฟ ต่อหน้าผู้มาใช้บริการโดยใช้มือซ้ายถือถาดอาหารมือขวาถือช้อนส้อมเสิร์ฟตักคีบอาหารเสิร์ฟใส่จานให้กับแขกไปทีละคนจนครบ สำหรับการเข้าเสิร์ฟนั้นจะเข้าเสิร์ฟทางซ้ายมือหรือทวนเข็มนาฬิกาจนครบทุกคน 1.3 การบริการแบบอังกฤษ (English Service)การบริการอาหารแบบนี้ในปัจจุบันมีใช้กันน้อยมากโดยเฉพาะตามห้องอาหารหรือภัตตาคารโดยทั่วไป แต่อาจจะมีบางครั้งในการจัดเลี้ยงในโอกาสพิเศษที่จัดขึ้นโดยเฉพาะ เช่น งานจัดเลี้ยงภายในครอบครัว ซึ่งการบริการอาหารแบบอังกฤษนี้อาหารจะถูกประกอบและปรุงแต่งจัดใส่จานหรือถาดเสร็จเรียบร้อยจากครัว ซึ่งพนักงานบริการก็จะนำอาหารไปวางไว้ที่โต๊ะพักอาหารที่จัดไว้ต่อจากนั้นเจ้าภาพผู้จัดงานเลี้ยงก็จะเป็นผู้มาตักอาหารแบ่งใส่จาน แล้วให้พนักงานบริการนำไปเสิร์ฟให้กับแขก สำหรับวิธีการเข้าเสิร์ฟนั้นก็เหมือนกับการบริการอาหารแบบฝรั่งเศส 1.4 การบริการแบบอเมริกัน (American Service)การบริการแบบนี้ถือว่าเป็นการบริการที่มีลักษณะเป็นทางการน้อยกว่าการบริการอาหารแบบอื่น ๆ และเป็นการบริการอาหารที่นิยมใช้กันมากที่สุดตามห้องอาหารและภัตตาคารในทุกวันนี้ เนื่องจากเป็นการบริการที่ไม่มีพิธีรีตองมากนัก การบริการอาหารแบบนี้จะมีลักษณะที่แตกต่างไปจากการบริการแบบอื่น ๆ คือ อาหารที่จะนำมาเสิร์ฟนั้นจะปรุงเฉพาะคนมาจากกครัว ซึ่งพนักงานบริการสามารรถจะนำไปเสิร์ฟได้เลย ยกเว้น ขนมปัง เนย แลละสลัด พนักงานบริการอาจจะนำมาตักแบ่งใส่จานให้กับผู้มาใช้บริการที่โต๊ะ สำหรับวิธีการเข้าเสิร์ฟพนักงานบริการจะนำอาหารเข้ามาเสิร์ฟทางขวามือของผู้มาใช้บริการโดยใช้มือขวาในการเสิร์ฟ ส่วนการเก็บจานอาหารหรือถอนจานอาหารพนักงานบริการจะเข้าถอนทางขวามือของผู้มาใช้บริการ ยกเว้นจานนขนมปัง และจานสลัด American table manners Table Setting
General Behavior
Utensils
Dining
At the end of the meal
2. การบริการอาหารโดยไม่ใช้บริกรหรือ โดยการช่วยตนเอง (Self Service) หมายถึงการบริการอาหารโดยผู้มาใช้บริการหรือผู้รับประทานอาหารช่วยตัวเองโดยไม่ต้องมีพนักงานบริการนำอาหารมาเสิร์ฟที่โต๊ะ นอกจากพนักงานจะทำหน้าที่เสิร์ฟพวกเครื่องดื่มหรือทำหน้าที่เก็บจานที่สกปรกออกจากโต๊ะ และบริการอย่างอื่นตามแต่ผู้มาใช้บริการ จะต้องการ กล่าวคือการบริการอาหารแบบนี้อาหารทุกชนิดจะถูกจัดและตกแต่งอย่างสวยงามวางไว้ที่โต๊ะที่จัดไว้มุมใดมุมหนึ่งของสถานที่ พร้อมกับภาชนะและอุปกรณ์เครื่องใช้ในการรับประทานอาหาร เช่น จาน, ช้อน และส้อม เป็นต้น จะถูกจัดวางไว้ที่โต๊ะที่จัดไว้เช่นเดียวกัน เมื่อถึงเวลารับประทานผู้มาใช้บริการหรือแขกก็จะมาหยิบภาชนะและเครื่องใช้ในการรับประทานอาหารที่จัดไว้ให้ และจะไปตักแบ่งอาหารที่ จัดไว้ใส่จานตามใจชอบด้วยตนเอง ซึ่งการบริการอาหารแบบนี้นั้น ในปัจจุบันได้รับความนิยมกันมาก ไม่ว่าในการจัดเลี้ยงตามห้องอาหาร หรือภัตตาคารต่าง ๆ ที่มีการจัดเลี้ยงในโอกาสต่าง ๆ การบริการอาหารแบบนี้ที่เรารู้จักกันโดยทั่วไปว่าการบริการอาหารแบบ บุฟเฟ่ต์ (Buffet) นั่นเอง และการบริการอาหารแบบนี้ยังเป็นการบริการที่นิยมกันมากที่สุดในประเทศแถบสแกนดิเนเวีย จนทำให้บางครั้งเรียกว่าเป็นการบริการ อาหารแบบสแกนดิเนเวีย การบริการอาหารแบบต่าง ๆ ตามที่กล่าวมาแล้วนั้น เป็นการบริการอาหารแบบตะวันตกหรือแบบยุโรป แต่ในปัจจุบันนี้ในบ้านเรานั้นนอกจากจะมีการบริการอาหารตะวันตกที่มีใช้กันมากตามห้องอาหารของโรงแรมชั้นหนึ่งและห้องอาหารภัตตาคาร ที่มีชื่อเสียงอยู่แล้วก็ตาม ยังมีการบริการอีกแบบหนึ่งที่มีบทบาทมากในปัจจุบัน ไม่ว่าในงานเลี้ยงพิธีต่าง ๆ หรือในงานจัดเลี้ยงโอกาสต่าง ๆ ตามห้องอาหารของโรงแรมชั้นหนึ่ง หรือห้องอาหารและภัตตาคารทั่ว ๆ ไป การบริการอาหารที่กล่าวถึงก็คือ การบริการอาหารแบบโต๊ะจีนซึ่งถือว่าเป็นการบริการอาหารโดยใช้บริกร (Table Service) อีกแบบหนึ่งนั่นเอง การบริการอาหารแบบเอเชียเป็นการบริการที่ไม่มีพิธีรีตองมากนักมักจะคำนึงถึงความสะดวกรวดเร็วมากกว่าอย่างอื่น ผู้แสดงความคิดเห็นK Samui วันที่ลงประกาศ 2008-07-30 19:59:38 IP : 203.156.144.153 มารยาทบนโต๊ะอาหาร ที่มาจาก http://www.pooyingnaka.com มารยาทบนโต๊ะอาหารสากล Do เมื่อนั่งเก้าอีกแล้ว ให้หยิบผ้าเช็ดปากบนโต๊ะมากางออกแล้วพับวางไว้บนตัก เมื่อต้องลุกออกจากโต๊ะระหว่างรับประทานอาหาร ให้วางผ้าเช็ดปากนั้นลงบนเก้าอี้ หรือพนักวางแขน เมื่อรับประทานเสร็จแล้ว ขยุ้มๆผ้าวางไว้บนโต๊ะด้านขวา จำไว้ว่า จานขนมปังจะอยู่ทางซ้ายมือของคุณเสมอ หากหยิบผิดเมื่อไหร่ ก็จะผิดตามกันไปหมดทั้งโต๊ะ เริ่มรับประทานขนมปังได้เมื่ออาหารจานแรกเสิร์ฟแล้ว วิธีรับประทานที่ถูกต้องคือ บิขนมปังด้วยมือแล้วก็ทาเนยตรงชิ้นที่บินั้นก่อนนำเข้าปาก เมื่อใช้มีดป้ายเนยทาขนมปังเสร็จแล้ว ต้องวางคืนไว้ที่จานขนมปัง ท่องเอาไว้ว่า ใช้ช้อน ส้อม มีด จากด้านนอกสุดเข้ามาด้านในสุด และเวลารับประทานให้หั่นเป็นชิ้น กินทีละคำ อิ่มแล้ว ให้วางมีดและส้อมในจานเป็นรูปเข็มบอกเวลา 10 นาฬิกา เวลารับประทานซุป ให้ใช้ช้อนที่วางอยู่ทางขวามือ ตักซุปออกจากตัว จากนั้นให้วางช้อนบนจานรองถ้วยซุป Don’t ห้ามใช้มีดตักอาหารใส่ปากเด็ดขาด เพราะทุกคนจะหันมาจ้องมองคุณจนตาค้างเลยทีเดียว ไม่ควรเอาปลายมีดหรือส้อมชี้ไปทางโน้นทีทางนี้ที หรือชี้หน้าคนอื่น ไม่ควรวางผ้าเช็ดปากไว้บนโต๊ะ หากยังรับประทานอาหารไม่เสร็จ ไม่เท้าคางบนโต๊ะอาหารเด็ดขาด สูบบุหรี่และแคะฟันบนโต๊ะอาหาร ถือเป็นการเสียมารยาทที่สุด จีน Do ควรให้เจ้าภาพเป็นผู้เลือกหรือสั่งอาหาร และรอจนกว่าเจ้าภาพจะเชิญให้รับประทานอาหารได้ หากรับประทานแบบพิธีการ พนักงานจะเป็นผู้แบ่งอาหารให้ โดยอาหารที่นำมาเสริฟจะมีฝาปิดมาด้วย เมื่อมาถึงโต๊ะ พนักงานจะเปิดฝาออกและวางลงบน Lazy Susan (ที่สำหรับวางอาหาร อยู่ตรงกลางโต๊ะ และสามารถหมุนได้โดยรอบ) จากนั้นก็หมุนเพื่อให้แขกได้เห็นก่อนยกออกมาตักให้แขกแต่ละท่าน สามารถยกถ้วยข้าวขึ้นมาเพื่อจะได้พุ้ยข้าวเข้าปากด้วยตะเกียบได้อย่างถนัดถนี่ Don’t ไม่ควรรับประทานอาหารโดยใช้มือแทะ แต่ถ้ามากับครอบครัวก็ทำได้ค่ะ เสียงซู้ดซ้าดและการซดอาหารเสียงดังนั้นดูไม่สุภาพสำหรับโต๊ะอาหารอย่างเป็นทางการของจีน ไม่ควรคายก้าง หรือกระดูกลงบนโต๊ะอาหาร ห้ามใช้ตะเกียบหรือช้อนส่วนตัวตักอาหารจานรวม ไม่สั่งอาหารนอกเหนือจากที่เจ้าภาพเตรียมไว้ให้ Chinese table mannersMany of these rules concern the use of chopsticks. Generally, Chinese table manners are relatively more informal compared to in the West. Chopstick usage
Communal chopsticks
Other eating utensils
Eating from common dishes
Seniority and guests at the table
Drinks
Business meals
Miscellaneous
อินเดีย Do การรับประทานปอปิดัมหรือแป้งย่าง ซึ่งจะเสิร์ฟเป็นจานแรกนั้น ให้หยิบปอปิดัมออกมาใส่จานเล็ก แล้วตักน้ำจิ้มหรือที่เขาเรียกว่าดิปมาใส่ไว้ข้างจาน จากนั้นก็หักปอปิดัมให้พอดีคำ จิ้มน้ำจิ้ม แล้วก็อ้ำ… สำหรับการเสิร์ฟแบบ Fine Dining นั้น พนักงานจะเสิร์ฟอาหารที่สั่งให้ทุกท่าน ซึ่งถ้าคุณไม่ต้องการอาหารจานไหนก็สามารถบอกเขาได้ว่า “ไม่รับค่ะ/ครับ” ให้เกียรติผู้ใหญ่ด้วยการเสิร์ฟอาหารให้ก่อน แล้วจึงตามมาด้วยผู้หญิง เด็ก และผู้ชายเป็นคนสุดท้าย ใช้มือหยิบแป้งนานขึ้นมารับประทานดีกว่า ขืนใช้มีดกับส้อมนี่สิประหลาดแย่ อุปกรณ์ที่ใช้ในการรับประทานอาหารอินเดียก็คือ ช้อน ส้อม และมีด โดยที่คุณสามารถใช้มือหยิบอาหาร เช่น แป้งนาน ไก่ หรืออะไรก็ตามที่ใช้มือหยิบแล้วสะดวกกว่า Don’t ไม่พูดเรื่องประหลาด ความทุกข์ใจหรือปัญหาต่างๆบนโต๊ะอหาร ใครๆก็คงไม่อยากฟังเรื่องไม่สบายให้อาหารบูดหรอกนะ ไม่ลุกจากโต๊ะอาหารก่อนผู้ใหญ่ คนไทยเขาเรียกว่ากินรามือรอผู้ใหญ่ไงล่ะคะ ห้ามวิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่อร่อยอย่างนั้นอย่างนี้ ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตามควรให้เกียรติเจ้าภาพว่าอาหารมื้อนั้นๆอร่อยเสมอ ไม่ผลักจานอาหารออกจากตัวเมื่อรับประทานเสร็จแล้ว ไม่ดื่มเหล้าเมามายระหว่างมื้ออาหาร Indian table mannersMain article: Etiquette of Indian dining
อิตาเลียน Do ควรให้พนักงานแนะนำอาหารก่อนตัดสินใจสั่ง ตามธรรมเนียมแล้ว คนอิตาเลียนจะรับประทานอาหารตามลำดับดังต่อไปนี้ สลัด ซุป พาสต้า เมนคอร์ส (เนื้อหรือปลา) ของหวาน กาแฟ (ที่นิยมคือเอสเพรสโซ) คนอิตาเลียนนิยมดื่มน้ำจากขวดมากกว่าแก้ว และจะต้องตบท้ายมื้ออาหารด้วยเอสเพรสโซทุกครั้ง เพื่ออรรถรสในการรับประทานอาหารอิตาเลียน ควรละเมียดอาหารอย่างช้าๆ Don’t ไม่ควรใส่ชีสลงบนพาสต้าแบบซีฟู้ด อย่าตัดเส้นพาสต้าด้วยมีด แต่ควรบิดเส้นด้วยส้อมบนจานหรือช้อนแทน สำหรับคนอิตาเลียนแล้ว อาหารทะเลและเนื้อเนี่ยไปกันไม่ได้ในมื้อเดียวกัน เลยล่ะ คนอิตาเลียนจะมีระเบียบและพิถีพิถันในเรื่องการกินมากเป็นพิเศษ เพราะฉะนั้นหลังจากรับประทานเมนคอร์สแล้วก็จะไม่มีการรับประทานของหวานพวกบิสกิต หรือขนมจุบจิบอื่นๆอีก นอกจากไวน์หรือกาแฟเอสเพรสโซแสนเข้มข้น ตามธรรมเนียมแล้ว ไม่ควรไปดินเนอร์ก่อนหนึ่งทุ่ม เพราะช่วงก่อนหน้านั้นจะเป็นเวลาที่พนักงานของทางร้านเขารับประทานอาหารกัน ญี่ปุ่น Do ก่อนรับประทานอาหารให้พูดคำว่า “อิตะดะกิมะชุ” เพื่อแสดงความขอบคุณต่อธรรมชาติอันสมบูรณ์ หลังรับประทานเสร็จให้พูดคำว่ “โกะชิโชชะมะ” ซึ่งแปลว่า “ขอบคุณสำหรับอาหารที่เลี้ยง” ถ้วยข้าวต้องวางอยู่ซ้ายมือและถ้วยซุปต้องอยู่ทางขวามือ ถ้าวางสลับกันจะถือว่าเป็นตำแหน่งสำหรับคนที่เสียชีวิตแล้ว ให้ตักน้ำซุปก่อน 1 คำ จากนั้นจึงรับประทานข้าวและกับข้าวสลับกันไป หลังรับประทานอาหารเสร็จให้ยกฝาปิดถ้วยทั้งหมด และเช็ดปลายตะเกียบด้วยกระดาษเช็ดปาก และวางลงข้างหน้า ข้าวปั้นชิ้นใหญ่ หรือที่เรียกว่า “โอนิกิริ” อนุญาตให้ใช้มือหยิบรับประทานได้ เวลารับประทานอาหารประเภทเส้นให้ส่งเสียงซู้ดซ้าดเสียงดังเพื่อแสดงความเอร็ดอร่อยและยังช่วยระบายความร้อนของอาหารได้อีกด้วย Don’t เลียอาหารที่ติดอยู่ปลายตะเกียบแบบนั้น ไม่น่ารักเลยนะ เวลาฉีกตะเกียบไม่ควรทำให้เกิดเสียงดังหรือทำเป็นเรื่องตลก และไม่เอาตะเกียบมาถูกันเพื่อทำให้เรียบ ไม่ส่งและรับอาหารด้วยตะเกียบ เพราะลักษณะเช่นนี้คือการหยิบและส่งต่อกระดูกของศพที่เผาแล้วในพิธีงานศพ ห้ามใช้ตะเกียบเลื่อนภาชนะ อย่าใช้ตะเกียบจิ้ม หรือเสียบอาหารโดยเด็ดขาด เพราะถือว่าเป็นข้าวสำหรับคนที่เสียชีวิตแล้ว ไม่เอาตะเกียบแทงของกิน ใช้ชี้คนอื่นและคุ้ยหาอาหารชิ้นที่ต้องการในถ้วย ห้ามใช้ตะเกียบวนไปมาเหนืออาหาร เหมือนเลือกไม่ได้สักทีว่าจะคีบอะไร (ดูเหมือนจะหลายใจมะ) คนญี่ปุ่นถือว่าการมาเยี่ยมบ้านคนอื่นในช่วงเวลาการรับประทานอาหารถือเป็นเรื่องเสียมารยาท
Japanese table manners
There are additional etiquette rules specifically for sushi, especially in a restaurant.
|