การสืบค้นแบ่งออกเป็นกี่ประเภท

2. ห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์ ห้องสมุดประเภทนี้จะแตกต่างจากห้องสมุดทั่วไปเพราะสามารถใช้บริการผ่านทางอินเทอร์เน็ต การค้นหาข้อมูลสะดวก รวดเร็ว โดยสามารถค้นคว้าได้จากชื่อเรื่อง หัวเรื่อง ชื่อหนังสือ ชื่อผู้แต่ง เลขมาตรฐานสากลประจำหนังสือ (ISBN) เลขมาตรฐานสากลประจำวารสาร (ISSN) สำนักพิมพ์ ปีที่พิมพ์ เป็นต้น ซึ่งการค้นคว้าในห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์สามารถระบุข้อมูลหรือเงื่อนไขเฉพาะได้ชัดเจน เช่น ต้องการทราบผลงานของสุนทรภู่ เฉพาะเกี่ยวกับนิราศก็สามารถระบุเงื่อนไขที่เกี่ยวกับชื่อผู้แต่ง คือ สุนทรภู่ และระบุหัวข้อเรื่อง คือ นิราศ ระบบสามารถประมวลผลงานของสุนทรภู่เฉพาะเรื่องที่เป็นนิราศเท่านั้น

3. ฐานข้อมูลออนไลน์ ฐานข้อมูล คือ แหล่งจัดเก็บข้อมูลหัวข้อใดหัวข้อหนึ่ง หรือหมายหัวข้อที่รวบรวมมาจากแหล่งข้อมูลหลาย ๆ แหล่ง จำนวนข้อมูลในฐานข้อมูลมักมีมากมายนับหมื่น แสน หรือล้านรายการ
ออนไลน์ (online) เป็นคำทับศัพท์ หมายถึง การเชื่อมโยงผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
การสืบค้นข้อมูลจากฐานข้อมูลออนไลน์ให้ได้ตรงตามความต้องการ อาจใช้เทคนิคง่าย ๆ เข้าช่วย ดังนี้
1. ทำความเข้าใจความหมายของคำเชื่อมที่สำคัญ 3 คำ คือ
“และ” ใช้เพื่อจำกัดขอบเขตของข้อมูลให้แคบลง
ตัวอย่าง ระบุว่า “ว.วินิจฉัยกุล” และ “เรื่องสั้น” ข้อมูลที่ได้จะเน้นข้อมูลของ ว.วินิจฉัยกุล เฉพาะที่เกี่ยวกับเรื่องสั้นเท่านั้น จะไม่ปรากฎเรื่องราวด้านอื่น ๆ เลย
“หรือ” ใช้เพื่อเพิ่มขอบเขตของข้อมูลให้กว้างขึ้น
ตัวอย่าง ระบุว่า “ว.วินิจฉัยกุล” หรือ “ทมยันตี” ข้อมูลที่ได้จะเน้นข้อมูลที่เกี่ยวกับ ว.วินิจฉัยกุล และทมยันตี ทั้งหมดที่มีอยู่ในฐานข้อมูลนั้น
“ไม่” ใช้เพื่อลดขอบเขตของข้อมูล
ตัวอย่าง ระบุว่า “ว.วินิจฉัยกุล” ไม่ “ประวัติ” ข้อมูลที่ได้จะเน้นเรื่องราวของ ว.วินิจฉัยกุลทุกด้าน จะไม่มีเรื่องเกี่ยวกับประวัติชีวิตของ ว.วินิจฉัยกุล เลย
2. ใช้สัญลักษณ์ หากไม่ทราบวิธีสะกดคำที่ถูกต้อง
เครื่องหมายคำถาม ? ใช้แทนอักษร 1 ตัว
เครื่องหมายดอกจัน* ใช้แทนอักษรหลายตัว
ตัวอย่าง ต้องการค้นเรื่องวิญญาณ แต่ไม่แน่ใจหรือไม่ทราบว่าตัวสะกดเป็น ณ หรือ น ให้พิมพ์ “วิญญา?”
ต้องการค้นเรื่อง ปัญจวัคคีย์ แต่ไม่แน่ใจตัวการันต์ให้พิมพ์ ปัญจวัคคี*
3. ฐานข้อมูลอีริก (ERIC database) ซึ่งเป็นฐานข้อมูลด้านการศึกษาให้ใช้คำว่า NEAR สำหรับการค้นที่รวมคำที่ใกล้เคียงกับคำที่ต้องการด้วย

ในยุคแห่งเทคโนโลยีมีข้อมูลมากมายมหาศาลที่จะให้เราสืบค้น การที่จะค้นหาข้อมูลจำนวนมากมายอย่างนี้เราไม่อาจจะกดคลิกเพื่อค้นหาข้อมูลให้พบได้ง่ายๆ จึงจำเป็นจะต้องอาศัยการค้นหาข้อมูลด้วยเครื่องมือค้นหาที่เรียกว่า Search Engine เข้ามาช่วยเพื่อความสะดวกและรวดเร็ว เว็บไซต์ที่ให้บริการค้นหาข้อมูลมีมากมายหลายที่ทั้งของคนไทยและต่างประเทศ และในที่นี้จะขอยกตัวอย่างวิธีการการสืบค้นข้อมูลบนอินเตอร์เน็ต 5 วิธี ได้แก่

1. การสืบค้นข้อมูล โดยใช้ http://www.google.com

• เข้าไปที่ http://www.google.com

• พิมพ์คำที่ต้องการลงไป ตัวอย่าง พิมพ์คำว่า ความหมายของอินเตอร์เน็ต ลงไปในช่องค้นหา และเมื่อพิมพ์คำที่ต้องการค้นหาเสร็จแล้วให้กด ค้นหาด้วยGoogle

• การแสดงผลบนหน้าจอจะปรากฏรายชื่อเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับคำที่เราค้นหา โดยเรียงลำดับจากคำที่ตรงกับความต้องการมากที่สุด

• เราสามารถเลือกเว็บไซต์ใดเว็บไซต์หนึ่งที่เราต้องการ แล้วเปิดดูได้ทันที หากไม่ตรงกับที่ต้องการก็คลิกเมาส์ไปที่ปุ่ม Back เพื่อกลับไปที่หน้าเดิมอีกครั้งแล้วเลือกเว็บไซต์อื่นๆใหม่

การสืบค้นแบ่งออกเป็นกี่ประเภท

2. การสืบค้นรูปภาพ โดยใช้ http://www.google.com

• เข้าไปที่ http://www.google.com

• กดที่เปลี่ยนหมวดหมู่บริเวณด้นบนซ้ายมือ จาก เว็บ เป็น รูปภาพ

• พิมพ์คำที่ต้องการลงไป ตัวอย่าง พิมพ์คำว่า คอมพิวเตอร์ ลงไปในช่องค้นหา และเมื่อพิมพ์คำที่ต้องการค้นหาเสร็จแล้วให้กดปุ่ม ค้นหาภาพ

• การแสดงผลบนหน้าจอจะปรากฏรูปภาพจากเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับคำที่เราค้นหา โดยเรียงลำดับจากคำที่ตรงกับความต้องการมากที่สุด

• เราสามารถเลือกดูรูปภาพจากเว็บไซต์ใดเว็บไซต์หนึ่งที่เราต้องการได้ และหากไม่ตรงกับที่ต้องการก็คลิกเมาส์ไปที่ปุ่ม Back เพื่อกลับไปที่หน้าเดิมอีกครั้งแล้วเลือกรูปภาพอื่นๆใหม่

การสืบค้นแบ่งออกเป็นกี่ประเภท

3. การสืบค้นข้อมูล ในรูปแบบ Index Directory

• วิธีการค้นหาข้อมูลแบบ Index ข้อมูลจะมีความเป็นระเบียบเรียบร้อยมากกว่าการค้นหาข้อมูลด้วยวิธี Search Engine การค้นหาข้อมูลแบบ Index จะมีการคัดแยกข้อมูลออกมาเป็นหมวดหมู่ และจัดแบ่งแยก Web site ต่างๆออกเป็นประเภท
• วิธีการใช้งาน เราสามารถที่จะคลิกเลือกข้อมูลที่ต้องการจะดูได้เลยใน Web Browser
• จากนั้นหน้าจอก็จะแสดงรายละเอียดของหัวข้อปลีกย่อยที่ลึกลงมาอีกระดับหนึ่ง ปรากฏขึ้นมาให้เราเลือกอีก ส่วนจะแสดงออกมามากน้อยเพียงใดก็ขึ้นอยู่กับขนาดของฐานข้อมูลในIndex ว่าในแต่ละประเภทจัดรวบรวมเก็บเอาไว้มากน้อยเพียงใด
• เมื่อเราเข้าไปถึงฐานข้อมูลประเภทย่อยที่เราสนใจแล้ว จะมีการแสดงรายชื่อของเอกสารที่เกี่ยวข้องกับ ประเภทของข้อมูลนั้นๆออกมา หากเราสนใจเอกสารใดหรือต้องการอยากที่จะชม ก็สามารถคลิกลงไปยัง Link เพื่อขอเชื่อต่อทางไซต์ก็จะนำเอาผลของข้อมูลดังกล่าวออกมาแสดงผลทันที
• นอกจากนี้เว็บไซต์ที่แสดงออกมานั้นทางผู้ให้บริการยังได้เรียบเรียงเว็บไซต์ โดยนำเอาเว็บไซต์ที่มีความเกี่ยวข้องมากที่สุดไว้ตอนบนสุดของรายชื่อที่แสดง

การสืบค้นแบ่งออกเป็นกี่ประเภท

4. การสืบค้นข้อมูล ในรูปแบบ ห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์

• ห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์ คือ ห้องสมุดที่สามารถใช้บริการผ่านอินเตอร์เน็ตได้ ซึ่งจะแตกต่างจากห้องสมุดแบบธรรมดาทั่วไป

• ข้อดีของห้องสมุดอีเล็กทรอนิกส์ คือ การค้นหาข้อมูลทำได้สะดวก รวดเร็ว โดยสามารถค้นหาได้จากชื่อเรื่อง หัวเรื่อง ชื่อหนังสือ ชื่อผู้แต่ง เลขมาตราฐานสากลประจำหนังสือ (ISBN) เลขมาตราฐานสากลประจำวารสาร (ISSN) สำนักพิมพ์ ปีที่พิมพ์ เป็นต้น ซึ่งการค้นคว้าในห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์ สามารถระบุข้อมูลหรือเงื่อนไขเฉพาะได้ชัดเจน เช่น ต้องการทราบผลงานของสุนทรภู่ เฉพาะเจาะจงแต่ นิราศ ก็สามารถระบุเงื่อนไขที่เกี่ยวข้องกับชื่อผู้แต่งได้ คือ สุนทรภู่ ระบุหัวข้อเรื่อง คือ นิราศ ระบบจะประมวลผลผลงานสุนทรภู่เฉพาะที่เป็นนิราศเท่านั้น

การสืบค้นแบ่งออกเป็นกี่ประเภท

5. การสืบค้นข้อมูลแผนที่ออนไลน์ ในรูปแบบ Google Maps

• Google Maps คือ บริการแผนที่ออนไลน์จาก Google แผนที่ออนไลน์นี้สามารถใช้งานได้หลายอย่าง เช่น หาตำแหน่งพิกัด ตรวจสอบสภาพการจราจร ภาพถ่ายดาวเทียม ภาพถ่ายจากอากาศยานที่มีความละเอียดของภาพสูง บริการค้านหาสถานที่ห้างร้านต่างๆ บริการค้นหาเส้นทางจากสถานที่ต้านทางไปยังสถานที่ปลายทาง บริการภาพถ่ายจากถนนในเมืองสำคัญๆ ที่ทำให้ผู้ใช้เห็นสภาพแวดล้อมและอาคารบ้านเรือนริมสองฝั่งถนน เป็นต้น

• นอกจากนี้ Google Maps ประเทศไทยยังแสดงข้อมูลที่เฉพาะเจาะจงสำหรับผู้ใช้งานคนไทยในกรอบบริเวณด้านซ้ายมือ ได้แก่ รายชื่อเมืองยอดนิยม แผนที่ยอดนิยม และ Link สำหรับเพิ่มรายชื่อธุรกิจของเราบน Google Maps

• วิธีการใช้งาน คือ เปลี่ยนหมวดหมู่ ของ Google เป็น Maps

• จากนั้นพิมพ์คำที่ต้องการค้นหาลงไปในช่องค้นหา ตัวอย่างเช่น พิมพ์คำว่า กรุงเทพ แล้วกด ค้นหาแผนที่

• หน้าจอจะแสดงผล พิกัดของกรุงเทพบนแผนที่ประเทศไทย และด้านซ้ายมือจะเป็นสถานที่สำคัญ สถานที่ยอดนิยม ฯลฯ ตามที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้น

การสืบค้นแบ่งออกเป็นกี่ประเภท

ประโยชน์การสืบค้น

การสืบค้นข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตนั้น มีประโยชน์อยู่หลายด้านด้วยกัน เช่น
1. ประหยัดเวลา :: อย่างที่รู้กันอยู่แล้วว่า มีทุกอย่างอยู่ในอินเทอร์เน็ต ขึ้นอยู่กับว่าเราจะมีวิธีการ
ค้นหาและนำมาใช้ได้อย่างไร โดยไม่ต้องเสียเวลาไปเสาะหาข้อมูลจากแหล่งความรู้จริง เช่นห้องสมุด
หนังสือ วารสาร หรือจากบุคคลผู้รู้อื่น ๆ
2. ได้ข้อมูลครบถ้วน :: เนื่องจากการสืบค้นข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตนั้น เราสามารถสืบค้นข้อมูล
ได้อย่างหลากวิธีแบบ เช่น ข้อมูลข้อความ ข้อมูลรูปภาพ ข้อมูลมัลติมีเดีย หรืออื่น ๆ
ในเนื้อหาหนึ่ง ๆ ก็สามารถนำข้อมูลที่หลากหลายรูปแบบมาอ้างอิงได้อย่างหลากหลาย
3. มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน :: ชุมชนในการเรียนรู้บนอินเทอร์เน็ตนั้น เป็นชุมชนที่
มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารกัน ในลักษณะให้ฟรี หรือมีค่าใช้จ่ายบ้าง ถ้าหากเรามีการแลกเปลี่ยน
ข้อมูลระหว่างกัน ย่อมทำให้การค้นหาข้อมูลที่สำคัญมีความหลากหลายมากขึ้น แหล่งที่สามารถ
สืบค้นข้อมูลได้ ได้แก่ เว็บไซต์ที่ให้บริการข้อมูลต่าง ๆ หรือ เว็บไซต์ที่มีเว็บบอร์ดเพื่อแลกเปลี่ยน
ข้อมูลข่าวสารระหว่างกัน เป็นต้น

ประโยชน์ที่ได้รับจาก Search Engine

1. ค้นหาเว็บที่ต้องการได้สะดวก รวดเร็ว
2. สามารถค้นหาแบบเจาะลึกได้ ไม่ว่าจะเป็น รูปภาพ, ข่าว, MP3 และอื่นๆ อีกมากมาย
3. สามารถค้นหาจากเว็บไซต์เฉพาะทาง ที่มีการจัดทำไว้ เช่น download.com เว็บไซต์
เกี่ยวกับข้อมูล และซอร์ฟแวร์ เป็นต้น
4. มีความหลากหลายในการค้นหาข้อมูล
5. รองรับการค้นหา ภาษาไทย

ในโลกยุคอินเทอร์เน็ทในปัจจุบันนี้มีข้อมูลมากมายมหาศาล การที่จะค้นหาข้อมูล
จำนวนมากมาย อย่างนี้เราไม่อาจจะคลิก เพื่อค้นหาข้อมูลพบได้ง่ายๆ จำเป็นจะต้องอาศัย
การค้นหาข้อมูลด้วยเครื่องมือ ค้นหา ที่เรียกว่า Search Engine เข้ามาช่วยเพื่อ
ความสะดวกและรวดเร็ว เว็บไซต์ที่ให้บริการค้นหาข้อมูลมีมากมายหลายที่ทั้งของคนไทย
และต่างประเทศ ความหมาย/ประเภท ของ Search Engine การค้นหาข้อมูลบน
เครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก ถ้าเราเปิดไป
ทีละหน้าจออาจจะต้องเสีย เวลาในการค้นหา และอาจหาข้อมูลที่เราต้องการไม่พบ
การที่เราจะค้นหาข้อมูลให้พบอย่างรวดเร็วจะต้องใช้เว็บไซต์สำหรับการ ค้นหาข้อมูล
ที่เรียกว่า Search Engine Site ซึ่งจะทำหน้าที่รวบรวมรายชื่อเว็บไซต์ต่างๆ เอาไว้
โดยจัดแยกเป็นหมวดหมู่ ผู้ใช้ งานเพียงแต่ทราบหัวข้อที่ต้องการค้นหาแล้วป้อน คำ
หรือข้อความของหัวข้อนั้นๆ ลงไปในช่องที่ กำหนด Search Engine แต่ละ แห่งมีวิธีการและการจัดเก็บฐานข้อมูลที่แตกต่างกันไปตามประเภท ของ Search Engine
ที่แต่ละเว็บไซต์นำมาใช้เก็บรวบรวม ข้อมูล
ดังนั้น การที่จะเข้าไปหาข้อมูลหรือเว็บไซต์ โดยวิธีการ Search นั้น อย่างน้อย
จะต้องทราบว่า เว็บไซต์ที่เข้าไปใช้บริการ ใช้ วิธีการหรือ ประเภทของ Search Engine
อะไร เนื่องจากแต่ละประเภทมีความละเอียดในการจัดเก็บข้อมูลต่างกันไป การเลือก
ใช้เครื่องมือในการค้นหาจะต้องเข้าใจว่า ข้อมูลที่ต้องการค้นหานั้นมีลักษณะอย่างไร
มีขอบข่ายกว้างขวาง หรือแคบขนาดไหน แล้ว จึงเลือกใช้เว็บไซต์ค้นหาที่ให้บริการตรงกับ
ความต้องการของเรา

เครื่องมือที่ช่วยในการค้นหา (Search Engine) มีประโยชน์อย่างมากต่อผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตทั่วไป เนื่องจากข้อมูลข่าวสารบนโลกอินเตอร์เน็ตมีมากมายมหาศาล และเมื่อผู้ใช้ต้องการข้อมูลสารสนเทศใดๆ จึงจำเป็นต้องมีเครื่องมือที่ช่วยในการค้นหา เพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลสารสนเทศที่ผู้ใช้งานต้องการ หรือสรุปได้ดังนี้

การสืบค้นข้อมูลแบ่งออกเป็นกี่ประเภทอะไรบ้าง

การค้นหาข้อมูลมี 2 วิธี 1. การค้นหาในรูปแบบ Index Directory. 2. การค้นหาในรูปแบบ Search Engine.

โปรแกรมที่ใช้สืบค้นข้อมูลแบ่งตามลักษณะการทำงานได้กี่ประเภท

การค้นหาข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต สามารถแบ่งตามลักษณะการทำงานได้ 3 ประเภท 1. โปรแกรมการค้นหา Seach Engine 2. การค้นหาข้อมูลตามหมวดหมู่Search Directories 3. การค้นหาจากหมวดหมู่หรือ Directories.

โปรแกรมค้นหาสารสนเทศบนอินเทอร์เน็ต มีกี่ประเภท อะไรบ้าง

โดยใช้บริการจากเว็บไซต์ที่ให้บริการเครื่องมือช่วยค้นหาข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต เครื่องมือช่วยค้นหาข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตมี 5 ประเภทใหญ่ๆ คือ (Bradley, 2002).
1. Free text Search Engines..
2. Directory Search Engines..
3. Meta Search Engines..
4. Natural-language Search Engines..
5. Resource or Site-specific Search Engines..

คำค้นที่ใช้ในการสืบค้นสารสนเทศมีกี่ประเภท อะไรบ้าง จงอธิบาย

ค าค้นที่ใช้ในการค้นสารสนเทศ โดยทั่วไปแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ 1. ค าศัพท์แบบควบคุม (Controlled vocabularies) 2. ค าศัพท์แบบไม่ควบคุม (Uncontrolled vocabularies) 1. ค าศัพท์แบบควบคุม ∎ ค า กลุ่มค า หรือวลีที่ถูกก าหนดขึ้นอย่างมีระเบียบ กฎเกณฑ์อย่างเคร่งครัด เพื่อใช้เป็นค าที่เกี่ยวข้องกับ