เราจะพบเห็นการนำเอาวิธีการต่อวงจรไฟฟ้าแบบขนานไปใช้ในการต่อเป็นไฟประดับตามสถานที่ต่าง ๆ โดยจะมีการต่อวงจรไฟฟ้าในสองลักษณะ คือ วงจรอนุกรม และวงจรผสม มารวมให้เป็นวงจรเดียวกัน ซึ่งสามารถแบ่งตามลักษณะของการต่อได้ 2 ลักษณะดังนี้ Show
ที่มา http://webhtml.horhook.com/wbi/ec/4parallel-04.htm Advertisement แบ่งปันสิ่งนี้:Like this:ถูกใจ กำลังโหลด... เนื่องด้วยตัวดิฉันเองยังไม่เคยมีประสบการณ์สอนมาก่อน แต่ตัวดิฉันเองก็เป็นคนหนึ่งที่คิดว่า การเรียนฟิสิกส์เป็นอะไรที่เข้าใจยาก และน่าเบื่อ จึงอยากนำเสนอวิธีการสอนในมุมมองส่วนตัวของตัวดิฉันเอง ซึ่งดิฉันคิดว่าน่าจะทำให้ผู้เรียนเข้าใจ และไม่เบื่อ การสอนการการต่อวงจรไฟฟ้าภายในบ้าน การต่อวงจรไฟฟ้าภายในบ้าน ก็คือการที่เราต่อไฟฟ้าจากเสาไฟฟ้ามายังบ้านเราเพื่อเชื่อมต่อกับเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆภายในบ้าน ก่อนที่เราจะไปเรียนรู้การต่อวงจรไฟฟ้าภายในบ้านเราควรรู้จักการต่อวงจรไฟฟ้าแบบต่างๆก่อน การต่อวงจรไฟฟ้านั้นมีอยู่ 3 แบบ ได้แก่ การต่อวงจรไฟฟ้าแบบอนุกรม การต่อวงจรไฟฟ้าแบบขนาน และการต่อวงจรไฟฟ้าแบบผสม 1. การต่อวงจรไฟฟ้าแบบอนุกรม จากภาพนี้จะเห็นว่า การต่อแบบอนุกรมจะเป็นการนำปลายด้านหนึ่งต่อกับตัวต่อกับตัวต้านทานหรือหลอดไฟเรียงกันไปเรื่อยๆ (ผู้สอนสอนวิธีการต่อแบบอนุกรมให้ผู้เรียนฟังแล้วให้ผู้เรียนลองต่อวงจรของจริงโดยใช้ชุดสาธิตหรือถ้าไม่มีผู้สอนควรเตรียมอุปกรณ์มาเองจะทำให้ผู้เรียนเข้าใจมากขึ้น หลังจากต่อวงจรเสร็จจึงอธิบายต่อโดยอธิบายจากวงจรที่ผู้เรียนได้ทำการต่อเอง) กระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านในวงจรจะเท่ากันหมด ความต้านทานรวมของวงจรเท่ากับผลบวกของความต้านทานแต่ละตัวแรงดันไฟฟ้ารวมภายในวงจรจะเท่ากับผลบวกของแรงดันตกคร่อมของตัวต้านทานแต่ละตัว ถ้าจุดหนึ่งจุดใดภายในวงจรขาด ไฟฟ้าจะดับหมดทุกจุด 2. การต่อวงไฟฟ้าแบบขนาน จากภาพนี้จะสังเกตว่าตัวต้านทานหรือหลอดไฟจะไม่เรียงกันเหมือนอนุกรม แต่จะอยู่ขนานกัน (สอนให้ผู้เรียนต่อวงจรแบบขนาน เสร็จแล้วก็อธิบายต่อ) ความต้านทานรวมของวงจรจะมีค่าน้อยกว่าความต้านทานตัวที่น้อยที่สุด กระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านในวงจรจะเท่ากับกระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านอุปกรณ์ไฟฟ้าแต่ละชนิดรวมกัน แรงดันไฟฟ้าที่ไหลผ่านอุปกรณ์ไฟฟ้าทุกจุดจะเท่ากัน ฉะนั้นกำลังส่องสว่างจะไม่ตก ถ้าอุปกรณ์ไฟฟ้าจุดหนึ่งจุดใดขาดไป จุดอื่นๆ ยังใช้งานได้ จึงนิยมวิธีการต่อวงจรไฟฟ้าแบบขนานในบ้านเรือน 3. การต่อวงจรไฟฟ้าแบบผสม จากภาพนี้จะเห็นว่าเป็นการต่อวงจรอนุกรมกับวงจรแบบขนานต่อรวมกันในวงจรเดียว (สอนให้ผู้เรียนต่อวงจรและอธิบาย) การต่อแบบนี้นิยมใช้กับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น โทรทัศน์ วิทยุ เครื่องคอมพิวเตอร์ เป็นต้น กระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านในวงจรทั้งหมด จะเท่ากับแรงดันไฟฟ้าที่แหล่งจ่ายภายในวงจรหารด้วยความต้านทานในวงจร ในกรณีที่อุปกรณ์ไฟฟ้าจุดใดขาด จุดอื่นๆจะยังคงใช้งานได้เป็นบางจุด และ การตรวจซ่อมจะยุ่งยาก เนื่องจากอุปกรณ์ไฟฟ้าบางจุดจะต่อเข้ารวมเป็นวงจรเดียวกัน จึงไม่นิยมการต่อวงจรไฟฟ้าแบบผสมในบ้านเรือน (เมื่อผู้เรียนเข้าใจการต่อวงจรแบบต่างๆแล้วจึงนำเข้าสู่การต่อวงจรไฟฟ้าภายในบ้าน) การต่อไฟฟ้าในบ้านเริ่มต้นจากสายไฟฟ้าใหญ่ลงมาที่มาตรไฟฟ้าจากมาตรไฟฟ้าต่อเข้าคัตเอาท์และฟิวส์ สายที่ต่อจากฟิวส์เป็นสายประธาน ซึ่งสามารถต่อแยกไปยังส่วนต่าง ๆ ของอาคารได้ วงจรไฟฟ้าภายในบ้าน ส่วนใหญ่จะเป็นการต่อแบบขนาน ซึ่งเป็นการต่อวงจรทำให้อุปกรณ์และเครื่องใช้ไฟฟ้าแต่ละชนิดอยู่คนละวงจร ซึ่งถ้าเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดหนึ่งเกิดขัดข้องเนื่องจากสาเหตุใดก็ตาม เครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดอื่นก็ยังคงใช้งานได้ตามปกติเพราะไม่ได้อยู่ในวงจรเดียวกัน ไฟฟ้าที่ใช้ในบ้านเรือนทั่วไปเป็นไฟฟ้ากระแสสลับมีความต่างศักย์ 220 โวลต์ การส่งพลังงานไฟฟ้าเข้าบ้านจะใช้สายไฟ 2 เส้น คือ 1. สายกลาง หรือสาย N มีศักย์ไฟฟ้าเป็นศูนย์ โดยปกติสาย L และสาย N ที่ต่อเข้าบ้านจะต่อเข้ากับแผงควบคุมไฟฟ้า ซึ่งเป็นที่ควบคุมการจ่ายพลังงานไฟฟ้าทั้งหมดในบ้านอย่างมีระบบ บนแผงควบคุมไฟฟ้ามักจะประกอบด้วย ฟิวส์รวม สะพานไฟรวม และสะพานไฟย่อย โดยสะพานไฟย่อยมีไว้เพื่อแยกและควบคุมการส่งพลังงานไฟฟ้าไปยังวงจรไฟฟ้าย่อยตามส่วนต่างๆ ของบ้านเรือน เช่น วงจรชั้งล่าง วงจรชั้นบน วงจรในครัว เป็นต้น ในวงจรไฟฟ้าในบ้าน กระแสไฟฟ้าจะผ่านมาตรไฟฟ้าทางสาย L เข้าสู่สะพานไฟ ผ่านฟิวส์และสวิตช์ แล้วไหลผ่านเครื่องใช้ไฟฟ้า ดังนั้นกระแสไฟฟ้าจะไหลผ่านสาย N ออกมา ดังรูป วงจรไฟฟ้าภายในบ้านแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 เรียกว่า อุปกรณ์ไฟฟ้า เช่น สายไฟ เต้ารับ เต้าเสียบ ฟิวส์ สะพานไฟ สวิตซ์ไฟ อุปกรณเหล่านี้จะต่อเข้ากับวงจรภายในบ้านแบบอนุกรม หรือต่อแบบเรียงอันดับ (ผู้สอนควรชี้ให้ผู้เรียนดูอุปกรณ์ที่ยกตัวอย่างนั้นมีลักษณะอย่างไร ซึ่งน่าจะมีอยู่แล้วในห้องเรียน) ส่วนที่ 2 เรียกว่า เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน คือ เครื่องใช้ที่อำนวยความ สะดวกในการใช้งานให้แก่ผู้ใช้ เช่น ตู้เย็น พัดลม เครื่องซักผ้า หม้อหุงข้าว ฯลฯ เครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านี้ต้องต่อเข้ากับวงจรภายในบ้านแบบขนาน (เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านที่ยกตัวอย่างผู้เรียนน่าจะรู้จักอยู่แล้ว) การต่อหลอดไฟฟ้าในบ้านเป็นการต่อแบบใดวงจรไฟฟ้าภายในบ้าน ส่วนใหญ่จะเป็นการต่อแบบขนาน ซึ่งเป็นการต่อวงจรทำให้อุปกรณ์และเครื่องใช้ไฟฟ้าแต่ละชนิดอยู่คนละวงจร ซึ่งถ้าเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดหนึ่งเกิดขัดข้องเนื่องจากสาเหตุใดก็ตาม เครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดอื่นก็ยังคงใช้งานได้ตามปกติเพราะไม่ได้อยู่ในวงจรเดียวกัน
การต่อวงจรไฟฟ้าในบ้านส่วนใหญ่เป็นการต่อแบบใด➢ วงจรไฟฟ้าภายในบ้าน ส่วนใหญ่จะเป็นการต่อแบบขนาน ซึ่งเป็นการต่อวงจรทาให้อุปกรณ์และ เครื่องใช้ไฟฟ้าแต่ละชนิดอยู่คนละวงจร ซึ่งถ้าเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดหนึ่งเกิดขัดข้องเนื่องจากสาเหตุใดก็ตาม เครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดอื่นก็ยังคงใช้งานได้ตามปกติเพราะไม่ได้อยู่ในวงจรเดียวกัน
การต่อหลอดไฟมีกี่แบบส่วนสำคัญของวงจรไฟฟ้าคือการต่อโหลดใช้งาน โหลดที่นำมาต่อใช้งานในวงจรไฟฟ้าสามารถต่อได้เป็น 3 แบบด้วยกัน ได้แก่ วงจรไฟฟ้าแบบอนุกรม (Series Electrical Circuit) วงจรไฟฟ้าแบบขนาน (Parallel Electrical Circuit) และวงจรไฟฟ้าแบบผสม (Series – Parallel Electrical Circuit)
การต่อสวิตช์กับวงจรไฟฟ้าเป็นการต่อแบบใดก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าการต่อสวิทช์ไฟต้องต่อแบบ “วงจรอนุกรม” หลายๆ คนอาจ งง อะไรคือ “วงจรอนุกรม”
|