วงมโหรีเครื่องสี่ Show วงมโหรีเครื่องหก ความรุ่งเรืองของ เครื่องดนตรีจำพวกเครื่องสายในสมัยอยุธยาได้มีอยู่แล้วหลายอย่าง
สมัยอยุธยาคงจะมีผู้เล่นดนตรีจำพวกซอขลุ่ย เป็นจำนวนมากและอาจจะเล่นกันแพร่หลายจนความสนุกสนานเพลิดเพลิน ทำให้เล่นกันเกินขอบเขต เข้าไปจนใกล้เขตพระราชฐาน จึงมีบทบัญญัติกำหนดโทษ ไว้ในกฎมลเฑียรบาล ในตอนหนึ่งไว้ดังนี้ “อนึ่งในท่อน้ำ ในสระแก้ว ผู้ใดขี่เรือคฤ เรือปทุน เรือกูบ และเรือสาตราวุธ และใส่หมวกคลุมหัวนอนมา ชายหญิงนั่งมาด้วยกัน อนึ่งชเลาะ ตีด่ากัน ร้องเพลงเรือ เป่าปี่ เป่าขลุ่ย สีซอ ดีดจะเข้ กระจับปี่ ตีโทนทับ โห่ร้องนี่นั้น อนึ่งพิริยะหมู่แขก ขอม ลาว พะม่า เมง มอญ มสุม แสง จีน จาม ชวา นานาประเทศทั้งปวงและเข้ามาเดินท้ายสนมก็ดี ทั้งนี้อัยการขุนสนมห้าม ถ้ามิได้ห้ามปรามเกาะกุมเอามาถึงศาลาให้แก่เจ้าน้ำเจ้าท่าแลให้นานา ประเทศไปมาในท้ายสนมได้ โทษเจ้าพนักงานถึงตาย” เครื่องดนตรีต่างๆที่ได้ระบุมาในกฎมลเฑียรบาลนี้ นอกจากปี่ซึ่งอยู่ในวงปี่พาทย์ และกระจับปี่อยู่ในวงมโหรีแล้ว ก็ล้วนแต่เป็นเครื่องดนตรีที่อยู่ในวงเครื่องสายทั้งสิ้น ส่วนซอนั้นจะเป็นซอสามสายอย่าวงมโหรีหรือ ซอด้วง ซออู้อย่างที่เราบรรเลงอยู่ในวงเครื่องสายปัจจุบันก็ไม่ทราบได้
แต่เท่าที่พิจารณาตามสภาพการณ์ซึ่งเล่นกันมากมายแพร่หลายถึงต้องมีข้อบัญญัติห้ามไว้ คงต้องเป็นของที่ค่อนข้างเล่นง่ายและหาง่าย จึงเข้าใจว่าซอที่ระบุใน กฎมลเฑียรบาลนี้น่าจะเป็นซออู้ ซอด้วง ที่บัญญัติไว้ว่า “ ซอ” เฉยๆก็เพื่อให้ครอบคลุมถึงซอสามสายและซออื่นๆที่จะมีผู้คิดสร้างเลี่ยงกฎหมาย ภายหลัง ปี่พาทย์เครื่องห้าอย่างหนัก ยังเป็นปี่พาทย์เครื่องห้าคงเดิม แต่เพิ่มระนาดเอกในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ซึ่งไทยคิดเองหรือได้ตัวอย่างมาจากมอญก็ไม่ทราบ แต่ถึงแม้จะมีระนาดเพิ่มก็ยังเรียกปี่พาทย์เครื่องห้าเช่นเดิม เพราะเห็นว่าฉิ่งเป็นเครื่องดนตรีกำกับจังหวะที่เล็ก จึงไม่นับ
ลักษณะวงดนตรีไทยในสมัยอยุธยามีรูปแบบที่แตกต่างกันไปจากสุโขทัยยังไงหรือไม่ อย่างไรสมัยกรุงศรีอยุธยา มีวงปี่พาทย์ที่ยังคงรูปแบบปี่พาทย์เครื่องห้าเหมือนเช่นสมัยกรุงสุโขทัย แต่เพิ่มระนาดเอกเข้าไป นับแต่นั้นวงปี่พาทย์จึงประกอบด้วย ระนาดเอก ปี่ใน ฆ้องวงใหญ่ กลองทัด ตะโพน ฉิ่ง ส่วนวงมโหรีพัฒนาจากวงมโหรีเครื่องสี่ เป็นมโหรีเครื่องหก เพิ่มขลุ่ย และรำมะนา รวมเป็นมี ซอสามสาย กระจับปี่ ทับ (โทน) รำมะนา ขลุ่ย ...
วงดนตรีไทยที่มีมาตั้งแต่สมัยสุโขทัยคือวงดนตรีวงใด *วงขับไม้เป็นวงดนตรีไทยประเภทหนึ่ง มีมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย โดยเริ่มแรกมีคนเล่นสามคนดังนี้ คนขับลำนำ ๑ คนไกวบัณเฑาะว์ ๑ คนสีซอสามสาย ๑
สมัยสุโขทัยเรียกวงปี่พาทย์ว่าอะไรสมัยสุโขทัย
3. วงปี่พาทย์ เป็นลักษณะของวงปี่พาทย์เครื่อง 5 มี 2 ชนิด คือ วงปี่พาทย์เครื่องห้า อย่างเบา ประกอบด้วยเครื่องดนตรีชนิดเล็ก ๆ จำนวน 5 ชิ้น คือ 1. ปี่ 2. กลองชาตรี 3. ทับ (โทน) 4. ฆ้องคู่ และ 5. ฉิ่ง ใช้บรรเลงประกอบการแสดง ละครชาตรี (เป็นละครเก่าแก่ที่สุดของไทย)
วงดนตรีไทยในสมัยสุโขทัยมีอะไรบ้างและมีลักษณะอย่างไรการประสมวงดนตรีไทย
สมัยสุโขทัย มีการประสมวง 4 แบบ คือ การบรรเลงพิณ วงขับไม วงปพาทยเครื่องหา และ วงเครื่องประโคม สมัยกรุงศรีอยุธยา มีการประสมวง 4 แบบ คือ วงขับไม วงปพาทย วงเครื่องสาย และวง มโหรี สมัยรัตนโกสินทร มีการประสมวง 5 แบบ คือ วงขับไม วงเครื่องกลองแขก วงเครื่องสาย วงปพาทย และวงมโหรี
|