สร้าง แบรนด์ เสื้อผ้า ด้วยตนเองได้ง่าย ๆ เพราะทุกวันนี้ คุณไม่จำเป็นจะต้องมีต้นทุนเยอะ ก็สร้างความเป็นตัวเองออกมาได้แล้ว เนื่องจากว่า แบรนด์เสื้อผ้ามักจะก่อกำเนิดขึ้นมาตามเทรนด์ต่าง ๆ เพื่อให้ตรงตามเป้าหมายของผู้ที่ต้องการจะซื้อ ซึ่งตัวของผู้ที่เป็นเจ้าของเอง ก็จะต้องมีความเข้าใจในด้านแฟชั่นอยู่บ้างพอสมควร แต่มันก็จะต้องมีบางสิ่งบางอย่างที่คุณจะต้องเรียนรู้เอาไว้ก่อนที่จะเริ่มสร้างแบรนด์ ดังนั้น เราไปดูกันดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง Show
เจ้าของแบรนด์อายุน้อย เริ่มสร้างด้วยจุดง่าย ๆ แต่คุณจะต้องตีโจทย์ให้แตก ว่าตัวคุณอยากจะ สร้าง แบรนด์ เสื้อผ้า แบบไหน เป้าหมายคือใครบ้าง แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะเริ่ม อยาก ทํา แบรนด์ เสื้อผ้า เจ๋ง ๆ ในสไตล์ตัวเองขึ้นมา เพราะฉะนั้น บทความของเราจะช่วยคุณลิสต์ว่า ก่อนการสร้างแบรนด์แฟชั่น จะต้องทำอะไรก่อนบ้าง ขั้นตอนการ สร้าง แบรนด์ เสื้อผ้า ง่าย ๆ ตามแบบฉบับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นใครที่อยากจะลอง สร้าง แบรนด์ เสื้อผ้า แต่ว่างบน้อย ต้องฟังทางนี้ เนื่องจากว่า เศรษฐกิจ และต้นทุนในการทำเสื้อผ้า ไม่ต้องใช้เงินเยอะ แต่คุณจะต้องรู้แหล่งให้ดีก่อน เพราะแหล่งทรัพยากรนั้นคือเรื่องสำคัญที่สุดในการทำมันขึ้นมา หลังจากที่คุณได้แหล่งแล้วก็เริ่มบรรเลงกันได้เลย ถ้าพร้อมแล้วก็ไปดูกันเลยดีกว่าว่าขั้นตอนการสร้างแบรนด์มีอะไรบ้าง เริ่มหาต้นทุนก่อนเป็นอันดับแรกสำหรับใครที่ อยาก ทํา แบรนด์ เสื้อผ้า ขั้นตอนแรก คุณจะต้องทำการหาทุนให้เพียงพอก่อนที่จะเริ่มต้นทุกอย่าง เพราะคุณจะต้องใช้จ่ายมันในการเริ่มต้นอีกเยอะเลยทีเดียว คอนเนคชั่นคือสิ่งสำคัญแน่นอนว่า การหาคอนเนคชั่น หรือ ผู้ที่รู้จักในแวดวงแฟชั่น คุณจะต้องรู้จักเอาไว้บ้าง เพราะพวกเขาจะช่วยคุณ สร้าง แบรนด์ เสื้อผ้า โดยการหาลูกค้า และหาช่องทางที่เหมาะสมกับแบรนด์ของคุณมาให้ และยังทำให้ได้เจอผู้คนมากมาย เพื่อที่จะเก็บไว้เป็นคอนเนคชั่นได้เรื่อย ๆ หาทรัพยากรที่จะผลิตก่อนจะเริ่มทำการขาย คุณก็ต้องหาแหล่งขาย หรือ ที่ผลิตด้วย เพราะแต่ละที่นั้น จะมีราคาต้นทุนสูงต่ำไม่เท่ากัน และจะต้องดูคุณภาพที่ตัวคุณจะได้รับด้วย เพราะฉะนั้น นี่คือ สิ่งสำคัญสำหรับคนที่อยาก ทํา แบรนด์ เสื้อผ้า เป็นของตนเอง ช่องทางในการโปรโมทแบรนด์การ สร้าง แบรนด์ เสื้อผ้า นั้น ไม่ได้มีเพียงแค่ทุน หรือ แค่คนรู้จัก แต่จะต้องมีช่องทางในการโปรโมทแบรนด์เสื้อผ้าของตนเองด้วย เพื่อที่จะให้มีการขยายวงกว้างในแวดวงของแบรนด์คุณให้ดังมากยิ่งขึ้น และยังเลือกได้อีกว่า คุณจะเลือกจุดเป้าหมายเป็นแบบไหน เช่น เด็ก วัยรุ่น หรือ วัยผู้ใหญ่ การทำรายรับรายจ่ายในการเริ่มต้นนั้น สมุดบัญชีรายรับ-รายจ่าย คือ สิ่งที่สำคัญ และเป็นสิ่งที่คุณขาดไม่ได้ ถ้าหากว่าคุณ อยากจะ สร้าง แบรนด์ เสื้อผ้า ไม่ว่าจะเป็นราคาต้นทุน กำไร หรือ รายรับที่คุณได้มา คุณจะต้องทำการเรียบเรียงให้จบในแต่ละสัปดาห์ หรือ เป็นรายเดือน เพื่อจะได้คำนวณว่า คุณไดกำไร และขาดทุนไปเท่าไหร่ หาบริการขนส่งที่ไว้ใจได้แน่นอนว่าการทำแบรนด์เสื้อผ้าหรือการขายของออนไลน์ การมีพาร์ทเนอร์ด้านการขนส่งพัสดุที่ไว้ใจได้ จะช่วยให้ธุรกิจของคุณไหลลื่นไม่สะดุด ไม่ต้องกังวลว่าการส่งของให้ลูกค้าจะมีปัญหา และทำให้คุณสามารถโฟกัสในการทำแบรนด์เสื้อผ้าได้อย่างเต็มที่ อย่างบริการขนส่งพัสดุของนินจาแวน ก็สามารถช่วยให้แบรนด์ของคุณสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืนเลย! อย่างไรก็ตาม ในการที่คุณ สร้าง แบรนด์ เสื้อผ้า รายละเอียดเล็กน้อยในเรื่องของการเงิน ต้นทุน ผลผลิต มันสำคัญมากเลยทีเดียว อาจจะไม่ได้เยอะถึงหลักหมื่นหลักแสน เนื่องจากว่า บางคนเริ่มแค่หลักพัน ก็สามารถปังได้แบบง่าย ๆ ทั้งหมดนี้ ขึ้นอยู่กับการจัดสรรปันส่วน ของการใช้ทุนของคุณเองด้วย เพราะฉะนั้น ใครที่กำลังอยาก ทํา แบรนด์ เสื้อผ้า ลองทำตามลิสต์เหล่านี้ดู เผื่อว่าจะเป็นการจัดระบบให้ตนเอง เพื่อจะสร้างแบรนด์ได้ตามใจต้องการ นี่คือประโยคคำถามที่เรามักจะได้ยินบ่อยๆในห้องบรรยาย และผลลัพธ์ของคำถามนี้ก็คือ พรึบ!! เกือบ 90% ที่ยกมือกันขึ้นมา อาจเหลือเพียงประมาณ 10% ที่กำลังเผลอฝันในห้องบรรยาย เมื่อคนเราคิดอยากทำธุรกิจเป็นของตัวเองขึ้นมา เราก็มักจะนึกถึงสิ่งที่ตัวเองคุ้นเคย ซึ่งบางครั้งคุณอาจจะชอบมันโดยไม่รู้ตัว หรือหากมองหาจากสิ่งรอบตัว สุดท้ายก็มักจะไม่พ้นหนึ่งในปัจจัย 4 ซึ่งได้แก่ อาหาร และเครื่องนุ่งห่มนั่นเอง แต่หากเป็นสาวที่ไม่ถนัดงานครัวล่ะก็ คงไม่พ้นธุรกิจเกี่ยวกับเสื้อผ้า ในทุกวันนี้เราจึงเริ่มเห็นธุรกิจย่อมๆประเภทนี้เกิดขึ้นมากมาย คือการผลิตสร้างแบรนด์เสื้อผ้าเป็นของตัวเอง แต่กว่าเธอๆทั้งหลายจะก่อร่างสร้างตัวมาได้แบบนั้น เค้าต้องผ่านการคิดกลั่นกรองอะไรมาบ้าง และจับจ่ายไปอย่างไร มาดูกันค่ะ เรื่องนี้ต้องขยายWatch this video on YouTube 1.ขายให้ใครหรืออีกความหมายหนึ่งก็คือ “กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย” ของคุณคือใคร? ลองหยิบกระดาษกับปากกา มานั่งหาคำตอบดูนะคะ เช่น เพศอะไร, ช่วงอายุประมาณเท่าไหร่, การศึกษาระดับใด, อาชีพอะไร, รายได้อยู่ในช่วงไหน และมีรูปแบบการดำเนินชีวิตอย่างไร เหล่านี้ล้วนเป็นข้อมูลเบื้องต้นที่จะนำพาคุณไปเข้าถึงกลุ่มลูกค้าของคุณได้ง่ายยิ่งขึ้นนั่นเอง 2.ขายอะไรในส่วนของเสื้อผ้านั้น มีทั้งเสื้อ, สูท, กางเกง, กระโปรง, ชุดเดรส เราจะผลิตอะไรเพื่อรองรับกลุ่มเป้าหมายคุณดีคะ แล้วสัดส่วนการผลิตของคุณนั้นคืออะไร โดยเริ่มต้นอาจทำการสำรวจข้อมูลจากพฤติกรรมการซื้อเสื้อผ้าของสาวๆรอบๆตัวคุณ ว่าสินค้าประเภทไหนลูกค้าซื้อบ่อยที่สุด และผลิตประเภทนั้นเป็นจำนวนมากแบบที่สุด และลดหลั่นลงไปตามความนิยม และเมื่อร้านคุณเริ่มเกิดยอดขายคุณก็สามารถประเมินและปรับสัดส่วนในการผลิตตามความต้องการของลูกค้าคุณได้ 3.ขายเท่าไหร่ตรงนี้ควรนึกถึงรายได้ของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเข้าไว้ หากกลุ่มลูกค้าของคุณมีรายได้สูง แน่นอนเค้ามักจะเลือกซื้อในสิ่งที่ดีและมีคุณภาพ แต่มันก็ไม่จำเป็นต้องราคาสูงเสมอไปนะคะ ของดีราคาถูกใครๆก็ชอบจริงไหมคะ ฉะนั้นกำหนดราคาสินค้าให้เหมาะสมกับคุณภาพเข้าไว้ จุดยืนของสินค้าคุณในตลาดเสื้อผ้าอยู่ตรงไหนคุณต้องบอกตัวเองอยู่เสมอ อยู่ในช่วง สูง กลาง หรือ ต่ำ และคงรักษาไว้เพื่อความเป็นแบรนด์ของคุณ 4.ขายที่ไหนคุณจะเริ่มจากการขายออนไลน์ก่อน แล้วจึงเริ่มขยับขยายเป็นมีหน้าร้านซึ่งอาจเช่าสถานที่ แล้วขายเองหรือจ้างลูกจ้าง หากงบประมาณยังไม่พร้อมขอแนะนำควรค่อยๆเริ่มทีละขั้นตอนจะดีกว่านะคะ แต่หากคุณไม่มีปัญหาในเรื่องทุนทรัพย์หรือมีทำเลที่ทางที่เหมาะเจาะแล้วล่ะก็ ลุยเลยสิคะ เพราะการมีหน้าร้านให้ลูกค้าได้เข้าไปสัมผัส และลองสวมใส่ ยังไงมันก็เป็นการเพิ่มโอกาสขายให้กับสินค้าประเภทนี้ได้อยู่แล้ว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นอย่าลืมว่า
เช่น ร้านรับตัดชุดนักเรียนที่มักจะตั้งอยู่บริเวณหน้าโรงเรียน เป็นต้น 5.ขายอย่างไรจะมีเทคนิคการขายอย่างไร เพื่อดึงดูดให้ลูกค้าเข้ามาสนใจในสินค้าของเรา มีโปรโมชั่นดีๆที่เพิ่มความคุ้มสุดคุ้มให้กับลูกค้าโดยที่เราก็ไม่ขาดทุนและยังคงได้กำไรหรือไม่ จะมีการโฆษณาหรือเข้าถึงลูกค้าได้อย่างไร เพื่อให้ลูกค้าได้รู้จักและจดจำแบรนด์ของคุณ เหล่านี้ไม่มีคำตอบที่ชัดเจนตายตัว คำตอบที่ดีที่สุดสำหรับคุณอาจไม่ใช่คำตอบที่ใช่สำหรับลูกค้า จึงจำเป็นต้องหมั่นสำรวจตลาด ดูการตลาดของคู่แข่งของคุณทั้งหลาย สู้ไหวไหม และเตรียมแผนรับมือกับมันให้พร้อม ก่อนจะเป็นเสื้อ 1 ตัวมาวางขายต้องควักไปเท่าไหร่บ้างWatch this video on YouTube สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยได้สัมผัสในขั้นตอนของการผลิตเสื้อผ้านั้น มาดูคร่าวๆกันว่างบประมาณเท่าไรที่คุณต้องตระเตรียมในแต่ละขั้นตอนและมีกลุ่มคนใดบ้างที่คุณต้องค้นหาเพื่อร่วมมือกับคุณในการสร้างแบรนด์ในฝันของคุณให้เป็นจริง 1.ออกแบบ โดยการสเก็ตภาพหรือหากใครไม่ถนัดวาดก็คงต้องเมื่อยปากกันหน่อยนะคะ เพื่อให้ผู้สร้างแพทเทิร์นเข้าใจถึงความต้องการของคุณ พยายามหาเอกลักษณ์ของแบรนด์คุณให้เจอ เพื่อให้เป็นจุดขาย และเป็นที่น่าจดจำ 2.หาวัตถุดิบควรซื้อเพื่อเย็บตัวอย่างขึ้นมาหนึ่งตัวก่อน เมื่อสรุปแบบเรียบร้อยแล้วจึงสั่งซื้อวัตถุดิบเพื่อผลิตตามจำนวนที่ต้องการ ทั้งนี้เพื่อป้องกันความผิดพลาดและการสูญเสียที่มากเกินไป ผ้า : ใช้ 2-3 หลา/1 ตัวอย่าง ราคาผ้าตัดแบ่งประมาณ 80-200 บาท/หลา ขึ้นอยู่กับชนิดและคุณภาพของผ้า ชิ้นแต่งหรือผ้าแต่ง : เช่น ผ้าซับใน ผ้าถุงกระเป๋าอาจซื้อเพียง 1 หลา ประมาณ 30-80 บาท อุปกรณ์อื่นๆ : เช่น ซิป,กระดุม,ยางยืด แต่ละชิ้นอยู่ในราคาหลักสิบโดยรวมอาจอยู่ในช่วง 50-100 บาท, ด้ายร้านเย็บมีให้ ป้ายเลเบลแบรนด์ : ต้องสั่งทำ มักมีขั้นต่ำในการผลิต เช่น 25 หลา (1 หลา=90 ซม.) จะได้ประมาณ 200-400 ชิ้น ขึ้นกับความยาวของเลเบลแต่ละชิ้น ส่วนราคาจะอยู่ในช่วง 1500-2000 บาท ขึ้นอยู่กับโลโก้และเนื้อผ้าของเลเบล 3.สร้างแพทเทิร์นและเย็บตัวอย่างงานคุณจะออกมาถูกใจแค่ไหน ขั้นนี้ถือว่ามีผลอย่างมากทีเดียว ยิ่งช่างประสบการณ์ดีนี่ยิ่งทำให้คุณยิ้มเลยล่ะ คุณควรกำหนดไซส์ตัวอย่าง โดยมากมักกำหนดเป็นไซส์กลางหรือ M หรือคุณอาจเป็นหุ่นฟิตเอง ก็อาจเลือกไซส์ที่คุณสวมได้ สร้างแพทเทิร์น : ราคาเริ่มต้นที่ 300-800 บาท/แบบ/ไซส์ ขึ้นกับความยาก ง่ายของแบบ หลังสรุปแบบหากต้องการเพิ่มไซส์ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 500 บาท/ไซส์ เย็บตัวอย่าง : ราคา 300-1,000 บาท ขึ้นกับความยากง่าย และรายละเอียดของงาน 4.ฟิตติ้งตัวอย่างและสรุปแบบถึงเวลาที่เราจะต้องมาลุ้นดูว่า เมื่อลองให้นางแบบสวมแล้ว มันกระชับได้สัดส่วน หรือมีรูปแบบได้ดั่งใจหรือไม่ จากนั้นให้ช่างปรับแก้ไข ส่วนใหญ่ช่างจะบริการปรับแก้ไขให้ฟรี 1 ครั้ง แต่ต้องไม่เกี่ยวกับการแก้แบบ 5.ซื้อวัตถุดิบสำหรับการผลิตช่างจะแจ้งจำนวนผ้าที่ต้องใช้สำหรับงานผลิต เป็นหน้าที่ของเราที่ต้องไปซื้อผ้าและอุปกรณ์มาให้ช่างเย็บ ในกรณีนี้ คุณอาจจะได้ผ้าในราคาส่ง อย่าลืมต่อราคานะคะ อาจได้ถูกกว่า 30-50 บาท/หลาทีเดียว 6.งานเย็บผลิตผู้ที่รับงานเย็บอาจเป็นเจ้าเดียวกับกับผู้ที่สร้างแพทเทิร์นและขึ้นตัวอย่างให้คุณ เนื่องจากสมัยนี้ความสะดวกสบายมักจะวิ่งเข้ามาหาเราเสมอ ส่วนใหญ่จึงมีผู้รับทำเป็นแพ็จเกจเลยทีเดียว คุณจึงไม่ต้องไปลำบากหาแหล่งเย็บให้ยุ่งยาก แต่ราคางานเย็บแต่ละที่ก็จะแตกต่างกันไป การจ่ายเงินผู้รับจ้างมักให้คุณชำระค่ามัดจำ 50% ของค่าแรงทั้งหมดก่อนจึงเริ่มผลิต และชำระอีกครั้ง 50% ในวันรับงาน ขั้นต่ำในการผลิต : ร้านมักจะกำหนด 20-50 ตัว/แบบ/3 ไซส์ ค่าแรงเย็บ : อยู่ในช่วง 100-800 บาท/ตัว ขึ้นอยู่กับคุณภาพและประเภทชิ้นงาน 7.ตรวจสอบคุณภาพสินค้าและรีด พับ แพ็คซึ่งโดยมากร้านเย็บจะดำเนินการให้เสร็จสรรพ แต่เพื่อความชัวร์คุณอาจตรวจสอบสินค้าด้วยตัวเองอีกครั้งเป็นการจบขั้นตอน กดเครื่องคิดเลขกันระรัวเลยหรือเปล่าคะคุณว่าที่เถ้าแก่ใหม่ จะทำการใดไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ สิ่งสำคัญก็คือการวางแผนก่อนลงมือทำจริง หลายคนที่ต้องเสียเงินและเสียแรงไปกับความล้มเหลว แต่หากคุณได้ทำในสิ่งที่คุณรัก คุณจะไม่เสียใจที่ได้ทำมัน รักและเรียนรู้ไปกับสิ่งที่ทำอย่างถูกวิธีแล้วคุณจะไม่รู้สึกว่าเสียอะไรเลย |