ถ้านักเรียนต้องการเล่นกีฬาเพื่อสร้างความคล่องตัว

ความอ่อนตัว คือ ความสามารถ ในการเคลื่อนไหวข้อต่อ และกล้ามเนื้อ ที่ได้ระยะทาง หรือมุมการเคลื่อนไหวมากที่สุด เป็นองค์ประกอบของ สมรรถภาพทางกายเพื่อสุขภาพที่สำคัญ และส่งผลต่อความสามารถในการเคลื่อนไหว

ถ้านักเรียนต้องการเล่นกีฬาเพื่อสร้างความคล่องตัว

ความอ่อนตัวหรือความยืดหยุ่นตัวของกล้ามเนื้อและข้อต่อ (Flexibility) เป็นทักษะที่มีความสำคัญต่อผู้ออกกำลังกายหรือนักกีฬาอย่างมาก เพราะถ้าขาดความอ่อนตัวจะส่งผลให้ ความสัมพันธ์และ ความสามารถในการเคลื่อนไหวลดลง มีโอกาสที่จะประสบอุบัติเหตุหรือได้รับบาดเจ็บ นอกจากนี้ความอ่อนตัวยังเป็นองค์ประกอบของสมรรถภาพทางกายเพื่อสุขภาพ (Health-Related Physical Fitness) ที่มีความสำคัญและส่งผลต่อความสามารถทางกลไกการเคลื่อนไหวของร่างกายในขณะเล่นกีฬาหรือออกกำลังกาย ถ้าขาดความอ่อนตัวอาจจะทำให้การพัฒนาสมรรถภาพทางกายด้านต่างๆ เป็นไปได้ยาก (กรมพลศึกษา, 2556 และเจริญ กระบวนรัตน์, 2557)

ถ้านักเรียนต้องการเล่นกีฬาเพื่อสร้างความคล่องตัว

          ความอ่อนตัวจะลดลงตามการใช้งานข้อต่อที่น้อยลงและอายุที่เพิ่มขึ้น ดังนั้น วิธีการพัฒนาความอ่อนตัวที่มีประสิทธิภาพมากวิธีหนึ่ง คือ การยืดเหยียดกล้ามเนื้อ ซึ่งควรปฏิบัติเป็นประจำ สม่ำเสมอตังแต่อายุยังน้อย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเคลื่อนไหว ป้องกันการบาดเจ็บและป้องกันการสูญเสียความอ่อนตัวที่เร็วเกินวัย

อ้างอิง / Reference
กรมพลศึกษา. (2556). การยืดเหยียดกล้ามเนิ้อแบบ Dynamic Stretching ส าหรับนักกีฬา.กรุงเทพฯ : กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา.
เจริญ กระบวนรัตน์. (2552). การยืดเหยียดกล้ามเนื้อ.กรุงเทพฯ : คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
นิวัฒน์ บุญสม. (2560). การพัฒนาความอ่อนตัวด้วยการยืดเหยียดกล้ามเนื้อ. วารสารวิชาการ Veridian E-Journal Silpakorn University.
        10(2). สืบค้น 24 มกราคม 2562, จาก https://www.tci-thaijo.org/index.php/Veridian-E-Journal/article/view/103459/82745 

สนใจเรียนเต้นกับ The Wonder Studio ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ทาง
• Tel. 085-1232348
• Line @ Click
• Facebook Click
♥ รายละเอียดคลาสเต้น by The Wonder Studio Click

บทวามนี้ เหมาะกับคนที่เคยสงสัยว่า ทำอย่างไร เราจะแข็งแรง ว่องไว และเป็นยอดมนุษย์ได้

ก่อนอื่นขอแบ่งเป้าหมายสำหรับการออกกำลังหลักๆก่อนนะครับ

ถ้านักเรียนต้องการเล่นกีฬาเพื่อสร้างความคล่องตัว
  1. อยากหุ่นดี: อยากมีกล้าม มี sixpack หุ่นเทพ ไขมันน้อยๆ
  2. อยากแข็งแรง Performance ยอด: เน้นเรื่องสมรรถภาพ ไม่ได้เน้นกล้ามใหญ่
  3. อยากสุขภาพดี: วิ่งลดพุง จะได้ไม่เสี่ยงเป็นโรคนั่นโรคนี่

  • นิยามสมรรถภาพต่างๆ
  • Speed + Agility
  • Power
  • Strength
  • อุปกรณ์ในการฝึกที่ควรมี
  • กีฬาไหน ต้องฝึกอะไรเพิ่ม
  • วิธีการฝึก

สมรรถภาพคืออะไร?

คือ ความสามารถของร่างกายในการประกอบการงาน หรือ กิจกรรมทางกายที่ส่งผลในทางการกีฬา  สมรรถภาพทางกายเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาการทางด้านร่างกาย ของมนุษย์ สมรรถภาพทางกายของบุคคลทั่วไปจะเกิดขึ้นได้จากการเคลื่อนไหวร่างกาย หรือออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ แต่ถ้าหยุดออกกำลังกายหรือเคลื่อนไหวร่างกายน้อยลงเมื่อใด สมรรถภาพทางกายจะลดลงทันที

บทความนี้ สำหรับคนที่คิดว่าอยากมีสมรรถภาพร่างกายยอดเยี่ยม หลักๆที่หลายๆคนอยากจะได้ก็น่าจะมีสมรรถภาพเหล่านี้

ถ้านักเรียนต้องการเล่นกีฬาเพื่อสร้างความคล่องตัว
  • วิ่งเร็ว
  • แข็งแรง
  • กระโดดสูงและไกล
  • แรงปะทะเยอะ
  • อัตราการเร่งสูง
  • อึด
  • ทรงตัวเยี่ยม

วันนี้เราจะมาพูดถึงการฝึกฝนแบบ sports performance กัน ว่าในทางวิทยาศาสตร์การกีฬานั้น มีอะไรบ้าง

และอยากจะให้เข้าใจไว้เสมอว่า คนเรามีเวลาเท่ากัน แต่เรามีสิ่งต่างๆที่ต้องพัฒนาต่างกัน


Speed และ Agility คืออะไร / เทรนยังไง

Speed กับ Agility นั้นต่างกัน ถ้าให้เปรียบเทียบแบบเห็นภาพชัดเจนขึ้น

ถ้านักเรียนต้องการเล่นกีฬาเพื่อสร้างความคล่องตัว

Speed: นักวิ่ง 100 เมตร สามารถวิ่งได้เร็วมากๆ ใช้เวลา 9-10 วินาที ต่อ 100 เมตร แต่วิ่งเป็นทางตรง

Agility: นักฟุตบอล วิ่ง 100 เมตรได้ 11 วินาที แต่สามารถวิ่ง zig zag ผ่านกรวยและสิ่งกีดขวางได้เร็วกว่า

คำว่า Speed แปลว่าความเร็วในการวิ่ง ออกตัว ซึ่งในเชิงกีฬานั้น Speed มีตัวแปลหลายอย่าง เช่น ความเร็วในการตอบสนองของประสาท (ตอบสนองช้าก็ทำเวลาได้ไม่ดี) ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ (แรงน้อย ก็วิ่งได้ไม่เร็ว)

Agility แปลได้ว่าความคล่องตัว และความเร็วในการตอบสนอง เปลี่ยนทิศทาง ซึ่งต่างจาก Speed ตรงที่นอกจากจะต้องเคลื่อนที่เร็วแล้ว ยังต้องตอบสนอง และเปลี่ยนทิศทางได้เร็วด้วย

การฝึก Speed

Speed นั้นอาสัยความต่อเนื่องในการทำงานของระบบ Anaerobic ให้แปลเป็นภาษาคนก็คือการทำยังไงให้ร่างกายเราทำงานหนักมากๆ ได้นานขึ้น (วิ่งเร็วได้ speed ไม่ตก) ซึ่งคำตอบก็คือการฝึกให้ร่างกายชินกับการใช้ระบบที่ไม่พึง Oxygen ได้นานขึ้นนั่นเอง

ตัวอย่างก็มีตั้งแต่การฝึก

  • Shuttle Run Drill
  • Sprint Drill
  • ฝึก Cardio ใน zone ที่เข้มข้นมากๆ

การฝึก agility

การพัฒนาความสามารถของสมรรถภาพทางกายของนักกีฬาในด้านความคล่องแคล่วว่องไว   หรือ Agility  Trainning จะทำให้เราสามารถเปลี่ยนทิศทางได้อย่างรวดเร็ว และมีการตอบสนองต่อระบบประสาทสั่งการได้ดีอีกด้วย ซึ่งการฝึกนั้นจะต้องมีความควบคู่กัน เนื่องจากจะมีการส่งผลต่อสมรรถภาพของร่างกายในการเคลื่อไหวและปฏิกิริยาตอบสนองต่อกีฬาที่เล่นอย่างรวดเร็ว อทิช่น การกระโดดปัดลูกฟุตบอล  การที่เราสามารถรบการต่อยของคู่ต่อสู้ได้การคล่องตัวจึงเป็นพื้นฐานของสมรรถภาพทางกาย  และเป็นปัจจัยสำคัญต่อการเล่นกีฬาหลายชนิด

วิธีการฝึก Agility ก็มีตั้งแต่

  • การใช้ ladder drill
  • การใช้ cone ในการฝึกหรือการฝึกหลบหลีกสิ่งกีดขวางต่างๆ
  • และการฝึกประสาทสั่งการต่างๆ
ถ้านักเรียนต้องการเล่นกีฬาเพื่อสร้างความคล่องตัว

Speed + Agility ในชีวิตจริง มีประโยชน์อย่างไร

Speed:

  • วิ่งเร็วขึ้น ทำให้วิ่งไล่คู่แข่งทัน หรือทิ้งห่าง
  • ทำเวลาที่ดีขึ้น สำหรับนักวิ่ง
  • หรือ…. วิ่งหนีโจร หรือโจทย์เก่า นี่ก็ใช้ Speed นะ!

Agility:

  • หลบหมัดคู่ต่อสู้
  • เลี้ยงบอลหลบคู่แข่ง
  • หรือ…. วิ่งฝ่าดงอุนจิหมา ขณะเล่น iphone ไปด้วย ในช่วงเวลาเร่งรีบ ก็ใช้ Agility นะ

Power  (explosiveness) คืออะไร / เทรนยังไง

หลายๆคนอาจจะเข้าใจ Power และ Strength ต่างกัน ดังนั้นเราขอทับศัพท์ เนื่องจากการแปลศัพท์ทางการเป็นภาษาไทยแล้วเราจะงง!

Power คือการออกแรงระยะสั้น ซึ่งตัวแปลหลักๆก็คือ Speed X Strength หรือพูดง่ายๆ ว่าเป็นการออกแรงให้มากที่สุด ในระยะเวลาน้อยที่สุด

ตัวอย่างของ Power ในชีวิตจริง

ก็มีตั้งแต่การปล่อยหมัด ยิ่งเราออกแรงเยอะและมีความเร็วมาก ก็ยิ่งทำให้มี Power มาก ช่วยเพิ่มแรงปะทะได้ หรือการยกน้ำหนักแบบ Olympic Lifting ที่ต้องยกน้ำหนักมากๆ ในท่าเช่น Clean and Jerk ซึ่งต้องออกแรงรวดเดียว หรือการกระโดดสูง หรือยิงบอลได้แรงๆ

Power ในชีวิตจริงก็… เอาง่ายๆ เวลาเราจาม เคยสังเกตุมั้ยว่าตัวเราจะพับเร็วมาก เพราะกล้ามเนื้อหลายส่วนเกร็งพร้อมๆกันในเวลาอันสั้น นั่นหละ Power

การฝึก Power ก็มีตั้งแต่

  • Plyometric Training: คือการเกร็งกล้ามเนื้ออย่างรวดเร็ว ก็มีตั้งแต่การ Box Jump กระโดดขึ้นกล่อง หรือ Power Push Up (วิดพื้น  (และเดินลง – อันนี้หลายคนทำผิด คือกระโดดลงด้วย ซึ่งไม่ดีต่อข้อต่อครับ)
  • Olympic Lifting: ฝึกยกน้ำหนักด้วยท่าที่ต้องกระชาก เช่น Clean / Jerk / Snatch
  • Vertical Jump: หรือการฝึกกระโดด โดยที่เราจะใช้เวลาบนพื้นให้น้อยที่สุด (แตะพื้นปุป ออกตัวเร็ว)
  • การฝึก Power นั้นมีข้อควรระวังคือสำหรับมือใหม่นั้น จะค่อนข้างเสี่ยงต่อการบาดเจ็บข้อต่อและกล้ามเนื้อได้ ดังนั้นควรค่อยๆเป็นค่อยๆไปครับ
ถ้านักเรียนต้องการเล่นกีฬาเพื่อสร้างความคล่องตัว

Strength คืออะไร / เทรนยังไง

strength คือ ความสามารถในการออกแรง ต้านทานที่สามารถกระทำได้ระหว่างการใช้แรงในขณะมีการเคลื่อนที่อย่างเต็มแรงของข้อต่อ ซึ่งเอาเข้าใจง่ายๆเลย คือ การใช้แรง แบบเต็มเนี่ยวได้แบบไม่เหนื่อย และทรงพลังมากในการทำกิจกรรมนั้นๆ โดยความแข็งแรงจะส่งผลต่อตัวรูปร่างของคนๆนั้นด้วย

Strength คือการออกแรงด้วยการเกร็งกล้ามเนื้อ เพื่อต้านแรง หรือยกสิ่งของ ซึ่งถ้าจะเปรียบกันระหว่าง power กับ Strength ให้เห็น

ขา:

  • Power ทำให้กระโดดได้สูงมาก
  • Strength: ยกรถยนต์ลอยจากพื้นได้

หลัง:

  • Power: ทำ muscle up ได้
  • Strength: ดึงข้อมือเดียวได้

อก:

  • Power: ทำ pushup jump ได้
  • Strength: bench press ได้ 200kg

ถ้าเรามองโดยรวมๆ จะเห็นว่าการฝึกแบบ Power นั้น ต้องควบคู่กับการฝึกทักษะไปด้วย นั่นเป็นสาเหตุว่าทำไมนักกีฬาที่เน้น power รูปร่างจะแตกต่างจากนักเพาะกาย หรือนายแบบครับ

วิธีการฝึกเพื่อพัฒนา strength นั้นมีหลายแบบ  ซึ่งแต่ละแบบต่างก็ยึดเอาแรงต้านทาน  เป็นสำคัญสำหรับพัฒนาความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ  หรือยึดหลัก  “Overload  Principle” โดยให้ร่างกายฝึกเลยขีดความสามารถปกติ (Normal Capacity) เล็กน้อย  ซึ่งการออกกำลังกายที่เกินขีดจำกัดจะทำให้ร่างกายเกิดการสับสน ในระยะ 2 – 3 วันแรก  หลังจากนั้น  ร่างกายจะมีการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์    จะทำให้ร่างกายทำงานในขีดความสามารถธรรมดาใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ  นั่นคือ  ร่างกายมีความแข็งแรงเพิ่มขึ้น  ขีดความสามารถก็สูงขึ้นด้วย

คุ้นๆมั้ย… การเล่นเวท (แบบถูกวิธี) ก็คือการ strenght training นั่นเอง!

การฝึก strength มีนิยมมากในปัจจุบันของนักกีฬาคือ Isometric Exercise  และที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลย ก็คือการฝึกแบบ Calisthenics หรือการฝึกโดยใช้แค่น้ำหนักตัว (body weight) ในการออกกำลัง นี่ก็ strength training นะ

ที่อยากฝากไว้คือ ไม่ว่าจะเล่น POWER หรือ STRENGTH หรือ SPEED ร่างกายจะ Lean หรือไม่ขึ้นอยู่กับโภชนาและการพักผ่อนด้วยครับ การฝึกเป็นเพียง 1 ใน 3 สิ่งสำคัญเท่านั้นครับ