ธุรกิจต่างประเทศที่น่าสนใจ

Show

HOMEลงทุนแมน101ลงทุนตูนบริษัทไทยเศรษฐกิจแนวคิดการลงทุนบริษัทต่างประเทศประวัติศาสตร์ABOUTCAREERS

ธุรกิจต่างประเทศที่น่าสนใจ

นักธุรกิจที่รวยสุด ของแต่ละประเทศ ในเอเชีย ทำธุรกิจอะไร ?

12 ก.ย. 2021

Tag: เอเชียนักธุรกิจรวยสุด

DARK MODE

HOME

ลงทุนแมน101

ลงทุนตูน

บริษัทไทย

เศรษฐกิจ

แนวคิดการลงทุน

บริษัทต่างประเทศ

ประวัติศาสตร์

เทคโนโลยี

บุคคลที่น่าสนใจ

อินโฟกราฟิก

อื่นๆ

ARCHIVES

ABOUT

CAREERS

© 2022 Longtunman. All rights reserved.

บริษัทญี่ปุ่นร่วมตอบแบบสอบถาม จัดอันดับ 10 ประเทศน่าลงทุนระหว่างปี 2021 - 2023 

1. เวียดนาม 28.8%
2. จีน 7.4%
3. เมียนมา 7.3%
4. อินเดีย 6.2%
5. อินโดนีเซีย 6.1%
6. สหรัฐอเมริกา 6.0%
7. ไทย 5.9%
8. ฟิลิปปินส์ 3.9%
9. ไต้หวัน 1.8%
10. เม็กซิโก 1.6%

เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2020 ที่ผ่านมา Japan Finance Corporation สถาบันการเงินสำหรับธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก ภายใต้การกำกับดูแลของของรัฐบาลญี่ปุ่น ได้เปิดเผยรายงานการสำรวจสภาพธุรกิจครั้งที่ 10 ของธุรกิจญี่ปุ่นในต่างประเทศ โดยมีผู้ตอบแบบสอบถาม 1,529 บริษัท โดยมีธุรกิจในอุตสาหกรรมการผลิต 67.6% ร่วมตอบแบบสอบถาม

โดยภาพรวม ธุรกิจญี่ปุ่นส่วนใหญ่ยังรอดูสถานการณ์จากความไม่แน่นอนของโรคโควิด-19 มากถึง 51.8% อย่างไรก็ตาม พบว่าธุรกิจญี่ปุ่่น 33.4% มีแผนขยายการลงทุนในต่างประเทศภายในช่วง 3 ปีข้างหน้านี้ (ปี 2021-2023) ซึ่งเป็นตัวเลขที่ลดลงจากปีก่อนหน้า 9.7% ส่วนธุรกิจที่มีแนวโน้มชะลอการลงทุน และเลิกกิจการ อยู่ที่ 6.9% และ 2.7% ตามลำดับ และยังไม่มีแนวทางชัดเจนอีก 5.2%

1. เวียดนาม

เวียดนามครองแชมป์ต่อเนื่องปีที่ 7 ด้วยคะแนนโหวต 28.8% เนื่องจากตลาดมีศักยภาพในการเติบโตสูง ค่าแรงต่ำ มีความมั่นคงทางการเมือง การเข้าลงทุนมีความสะดวก และตลาดแรงงานมีคุณภาพ โดยมีบริษัทที่มีแผนลงทุนใน 3 ปีข้างหน้าแล้วมากถึง 43.8%

  • เวียดนาม ครองแชมป์อันดับ 1 ประเทศน่าลงทุนในสายตาญี่ปุ่น

2. จีน

จีนอยู่ในอันดับ 2 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 ด้วยคะแนนโหวต 7.4% โดยมีสาเหตุหลักมาจากศัยภาพในการเติบโตของตลาด มีการเข้าลงทุนโดยบริษัทญี่ปุ่นอยู่แล้วหลายราย มีซัพพลายเชนที่มั่นคง ตลาดแรงงานมีขนาดใหญ่ และบุคลากรมีคุณภาพสูง อย่างไรก็ตามมีบริษัทที่มีแผนลงทุนใน 3 ปีข้างหน้าเพียง 12.9% เท่านั้น

3. เมียนมา

เมียนมาเลื่อนขึ้นมาเป็นอันดับ 3 จากอันดับ 6 ในปีที่แล้ว ด้วยคะแนนโหวต 7.3% เนื่องจากมีแรงงานจำนวนมาก ศักยภาพการเติบโตของตลาดสูง บุคลากรมีคุณภาพ และมีข้อได้เปรียบทางภูมิศาสตร์ 

4. อินเดีย

อินเดียตกลงมาอยู่อันดับ 4 ด้วยคะแนนโหวต 6.2% เนื่องจากตลาดมีแนวโน้มการเติบโตสูง มีการเข้าลงทุนโดยธุรกิจญี่ปุ่นอยู่แล้วเป็นจำนวนมาก ค่าแรงต่ำ บุคลากรคุณภาพสูง และมีข้อได้เปรียบทางภูมิศาสตร์

5. อินโดนีเซีย

อินโดนีเซียตกลงมาอยู่อันดับ 5 ด้วยคะแนนโหวต 6.1% เนื่องจากตลาดมีแนวโน้มการเติบโตสูง ค่าแรงต่ำ มีธุรกิจญี่ปุ่นอยู่แล้วเป็นจำนวนมาก บุคลากรมีคุณภาพ และสามารถเข้าถึงวัตถุดิบราคาถูกได้สะดวก โดยมีบริษัทที่มีแผนลงทุนใน 3 ปีข้างหน้าแล้ว 38.7%

6. สหรัฐอเมริกา

สหรัฐฯ เลื่อนขึ้นมาอยู่อันดับ 6 จากเดิมอันดับ 8 ด้วยคะแนนโหวต 6.0% เนื่องจากตลาดมีแนวโน้มการเติบโตสูง ค่าแรงต่ำ มีการเข้าลงทุนโดยธุรกิจญี่ปุ่นอยู่แล้วหลายราย โครงสร้างพื้นฐานและบุคลากรมีคุณภาพสูง

7. ไทย

ไทยตกมาอยู่อันดับ 7 จากเดิมอันดับ 5 ด้วยคะแนนโหวต 5.9% เนื่องจากมีการเข้ามาลงทุนโดยบริษัทญี่ปุ่นอยู่แล้วเป็นจำนวนมาก และตลาดยังมีศักยภาพในการเติบโตอยู่ โดยมีบริษัทที่มีแผนลงทุนใน 3 ปีข้างหน้าแล้ว 29.8%

8. ฟิลิปปินส์

ฟิลิปปินส์ตกตกมาอยู่อันดับ 8 จากเดิมอันดับ 7 ด้วยคะแนนโหวต 3.9% และบริษัทที่มีแผนลงทุนใน 3 ปีข้างหน้าแล้ว 34.7%

9. ไต้หวัน

ไต้หวันครองอันดับที่ 9 ด้วยคะแนนโหวต 1.8%

10. เม็กซิโก

เม็กซิโกครองอันดับที่ 10 ด้วยคะแนนโหวต 1.6%

#ประเทศน่าลงทุน 2021 #10 อันดับ ประเทศน่าลงทุน #ประเทศน่าลงทุน #ลงทุน 2021 #บริษัทญี่ปุ่น #ธุรกิจ ญี่ปุ่น #อุตสาหกรรม #วงในอุตสาหกรรม #ข่าวอุตสาหกรรม #Mreport #M Report #mreportth

บทความยอดนิยม 10 อันดับ

  • เทคโนโลยีแห่ง G สู่ 5G เครือข่ายไร้สาย
  • บทเรียน 'หมิงตี้ เคมีคอล' สู่มาตรการป้องกันไฟไหม้โรงงาน ระยะสั้น-ยาว
  • เทคโนโลยีสำหรับโลจิสติกส์ ทางเลือกสู่ทางรอด ปรับก่อนโดนเบียด
  • ธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ปี 2564
  • กลยุทธ์การ PR และ Communication ในยุคดิจิทัล
  • นิยามใหม่ SME ใช้ “รายได้” เป็นตัวกำหนด
  • แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนคืออะไร ตลาดจะก้าวไปในทางไหนในปี 2030?
  • อุตสาหกรรมรถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์ไทย ปี 2564
  • ปัญหาตู้คอนเทนเนอร์ขาดแคลน เจาะลึกตู้สินค้าหายไปไหน?
  • อุตสาหกรรม 4.0 การผลิตแห่งอนาคต

อัปเดตข่าวทุกวันที่นี่ www.mreport.co.th   

Line / Facebook / Twitter / YouTube @MreportTH