Iphone 11 pro max 64gb พอ ไหม

1. To identify your iPhone model number, see https://support.apple.com/kb/HT3939. For details on LTE support, contact your carrier and see www.apple.com/iphone/LTE. Cellular technology support is based on iPhone model number and configuration for either CDMA or GSM networks. 

2. Wireless broadband recommended; fees may apply

3. iPhone 11, iPhone 11 Pro, and iPhone 11 Pro Max are splash, water, and dust resistant and were tested under controlled laboratory conditions; iPhone 11 Pro and iPhone 11 Pro Max have a rating of IP68 under IEC standard 60529 (maximum depth of 4 meters up to 30 minutes) and iPhone 11 has a rating of IP68 under IEC standard 60529 (maximum depth of 2 meters up to 30 minutes). Splash, water, and dust resistance are not permanent conditions and resistance might decrease as a result of normal wear. Do not attempt to charge a wet iPhone; refer to the user guide for cleaning and drying instructions. Liquid damage not covered under warranty.

4. iPhone 11 Pro lasts up to 4 more hours compared with iPhone XS; iPhone 11 Pro Max lasts up to 5 more hours compared with iPhone XS Max. All battery claims depend on network configuration and many other factors; actual results will vary. Battery has limited recharge cycles and may eventually need to be replaced by Apple service provider. Battery life and charge cycles vary by use and settings. See apple.com/batteries and apple.com/iphone/battery.html for more information.

5. Testing conducted by Apple in August 2019 using preproduction iPhone 11 Pro and iPhone 11 Pro Max units and software and accessory Apple USB-C Power Adapters (18W Model A1720, 29W Model A1540, 30W Model A1882, 61W Model A1947 and 87W Model A1719). Fast-charge testing conducted with drained iPhone units. Charge time varies with environmental factors; actual results will vary.

6. Available space is less and varies due to many factors. A standard configuration uses approximately 11GB to 14GB of space (including iOS and preinstalled apps) depending on the model and settings. Preinstalled apps use about 4GB, and you can delete these apps and restore them. Storage capacity subject to change based on software version and may vary by device.

7. Data plan required. Gigabit-class LTE, VoLTE, and Wi-Fi calling are available in select markets and through select carriers. Speeds are based on theoretical throughput and vary based on site conditions and carrier. For details on LTE support, contact your carrier and see apple.com/iphone/LTE.

8. Use of eSIM requires a wireless service plan (which may include restrictions on switching service providers and roaming, even after contract expiration). Not all carriers support eSIM. Use of eSIM in iPhone may be disabled when purchased from some carriers. See your carrier for details. To learn more, visit https://support.apple.com/kb/HT209044.

9. FaceTime calling requires a FaceTime‑enabled device for the caller and recipient and a Wi‑Fi connection. Availability over a cellular network depends on carrier policies; data charges may apply.

10. Data plan required. Gigabit-class LTE, VoLTE, and Wi-Fi calling are available in select markets and through select carriers. Speeds are based on theoretical throughput and vary based on site conditions and carrier. For details on LTE support, contact your carrier and see apple.com/iphone/LTE.

11. Standard Dynamic Range video content only.

12. Siri may not be available in all languages or in all areas, and features may vary by area. Internet access required. Cellular data charges may apply.

13. All battery claims depend on network configuration and many other factors; actual results will vary. Battery has limited recharge cycles and may eventually need to be replaced by Apple service provider. Battery life and charge cycles vary by use and settings. See apple.com/batteries and apple.com/iphone/battery.html for more information.

14. Testing conducted by Apple in August 2019 using preproduction iPhone 11, iPhone 11 Pro, and iPhone 11 Pro Max units and software and accessory Apple USB-C Power Adapters (18W Model A1720, 29W Model A1540, 30W Model A1882, 61W Model A1947 and 87W Model A1719). Fast-charge testing conducted with drained iPhone units. Charge time varies with environmental factors; actual results will vary.

15. Qi wireless chargers sold separately.

16. Size and weight vary by configuration and manufacturing process.

17. Ultra Wideband availability varies by region. See apple.com/ios/feature-availability for details.

†† We approximate your location from your internet IP address by matching it to a geographic region or from the location entered during your previous visit to Apple.

Photo Credit : Soyacincau

iPhone XS Max คือที่สุดของตัวท็อปในบรรดาเหล่าไฟน ซึ่งเปิดตัวเมื่อ 12 กันยายน ปี 2018 แต่ยังคงได้ผลตอบรับดีเยี่ยมอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน เพราะเป็นโทรศัพท์ที่ดีรอบด้านจริง ๆ โดดเด่นด้วยดีไซน์หรูหราตามแบบฉบับ Apple รองรับคุณสมบัติการป้องกันน้ำ-ป้องกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP68 หน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่ถึง 6.5 นิ้ว ทำงานเร็วแรงเต็มประสิทธิภาพบนชิปเซ็ต A12 Bionic ตามชื่อรุ่น Max มีกล้องถ่ายภาพที่เก็บรายละเอียดต้นฉบับได้ดีที่สุด พร้อม AI อัจฉริยะช่วยทำงาน โดยราคาเปิดตัวของรุ่นนี้เริ่มต้นที่ 43,900 บาท แต่ว่าไอโฟน XS Max ราคาปัจจุบันถูกลงไปเยอะ ยิ่งซื้อตอนนี้ยิ่งคุ้ม เอาล่ะถ้ายังลังเล งั้นลองไปส่องรีวิวแบบเต็ม ๆ กันเลยว่ามีอะไรที่น่าสนใจบ้าง

การออกแบบ iPhone XS Max เป็นอย่างไร ?

ไอโฟน XS Max มีการดีไซน์ตัวเครื่องที่สวยงาม มีความหรูหรา แถมมาพร้อมหน้าจอขนาดใหญ่ ทำให้ใช้งานได้อย่างเต็มตา ซึ่ง

หน้าจอใหญ่คมชัด

ไอโฟน XS Max ใช้หน้าจอ OLED Super Retina HD ไร้ขอบ ไร้ปุ่มโฮมแบบ All-Screen ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด 1242 x 2688 พิกเซล ส่วนความละเอียดพิกเซลอยู่ที่ 458ppi สามารถแสดงผลได้แบบ HDR มาพร้อมสารเคลือบกันรอยนิ้วมือ และมีการครอบทับด้วยกระจกเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งอีกขึ้น ดีไซน์หน้าจอเป็นแบบไร้ขอบแบบมีรอยบากอยู่ด้านบน ตรงรอยบากนี้จะทำงานร่วมกับฟังก์ชัน Face ID เวอร์ชันใหม่ที่สามารถปลดล็อกได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ด้วยการฉายจุดแสงจับโครงสร้างใบหน้า 30,000 จุด และสามารถปลดล็อกตัวเครื่องได้แม้ในที่แสงน้อย

ขนาดพอดีมือ มีหลายสีให้เลือก

iPhone XS Max มีขนาดตัวเครื่องที่ 157.5 x 77.4 x 7.7 มิลลิเมตร และมีน้ำหนัก 208 กรัม บริเวณด้านข้างมีปุ่มสั่งงานเหมือนอย่างที่เคย เช่น ปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง หรือเปิด-ปิดเครื่อง นอกจากนี้ยังรองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดด้วย ทั้งแบบ nanoSIM และ eSIM ส่วนวัสดุที่นำมาผลิตจะเป็นโลหะกับกระจกดูเรียบหรูสวยงามและแข็งแรงทนทานสูง โดยมีมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นในระดับ IP68 สามารถอยู่ในน้ำได้ลึกถึง 2 เมตร เป็นเวลา 30 นาที ส่วนสีสันของบอดี้จะมีสีให้เลือก 3 สีด้วยกันก็คือ สีเทา Space Gray, สีเงิน Silver และสีทอง Gold

ประสิทธิภาพการทำงานของ iPhone XS Max ดีไหม ?

การเปิดตัว iPhone XS Max ทำให้สาวก Apple ได้เห็นถึงสเปคที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นของไอโฟนรุ่นนี้ บอกเลยว่าโดดเด่นในทุกด้านจริง ๆ ซึ่งรายละเอียดแบบเจาะลึกจะมีดังต่อไปนี้

ชิปเซ็ตแรง ความจุเยอะ

ชิป A12 Bionic และ Quad-core GPU ทำงานร่วมกันได้อย่างน่าประทับใจ ตัวเครื่องมีส่วนประมวลผลแบบสมองมนุษย์ (Neural Engine) 8 แกน จึงประมวลผลได้ 5 ล้านล้านครั้งในหนึ่งวินาที Core ML ซึ่งทำงานได้เร็วกว่าชิปเดิมมากถึง 9 เท่า เรียกได้ว่าเป็นที่สุดของที่สุดจริง ๆ นอกจากนี้ยังมาพร้อมหน่วยประมวลผลกราฟิก Apple GPU (4-core graphics) ช่วยเล่นเกมได้ลื่นไหลยิ่งขึ้น และช่วยประหยัดแบตเตอรี่เพิ่มขึ้นถึง 50% เลยทีเดียว ส่วนความจุจะมีรุ่นให้เลือก 3 รุ่นก็คือ รุ่น RAM 4GB + ROM 64GB / RAM 4GB + ROM 256GB / RAM 4GB + ROM 512GB ไม่รองรับหน่วยความจำเสริมจากภายนอก แต่สเปคที่จัดมาให้ก็เพียงพอครบทุกความต้องการใช้งานกันอยู่แล้ว

เล่นเกมลื่นไหลไม่มีสะดุด

ในด้านการเล่นเกมนั้น Apple iPhone XS Max ถือว่าตอบโจทย์การเล่นเกมที่มีภาพกราฟิกแบบ 3D ได้เป็นอย่างดี สามารถใช้งานได้อย่างลื่นไหลโดยที่ไม่เสียอารมณ์ จากการทดสอบโดยใช้เล่นเกม 3 เกมดังในขณะนี้อย่าง PUBG Mobile, ROV และ Ragnarok M Eternal Love ถือว่าเล่นได้อย่างสบาย ๆ ตัวเครื่องไม่มีอาการสะสมความร้อนที่ฝาหลัง ไม่เพียงเท่านั้นยังรองรับ ARKit 2 ซึ่งจะมาเปิดประสบการณ์ใหม่ เพื่อการใช้งาน AR ให้สวยงามและเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น

แบตเตอรี่อึดทน

แบตเตอรี่ของไอโฟน XS Max มีมาให้ที่ 3,174 มิลลิแอมป์ รองรับชาร์จเร็ว 15W สามารถชาร์จแบตฯ 50% ในเวลาเพียง 30 นาที และชาร์จแบบไร้สายได้ ไม่เพียงเท่านั้นยังรองรับโหมดประหยัดพลังงาน (Low Power Mode) รวมถึงสามารถตรวจสอบสถานะของแบตเตอรี่ได้ที่เมนู Battery Health ซึ่งจะเป็นการแจ้งว่า ถึงเวลาที่จะเปลี่ยนแบตเตอรี่แล้วหรือยัง โทรศัพท์รุ่นนี้นับว่าเป็นสมาร์ทโฟนแห่งโลกอนาคตที่จะตอบสนองได้ครบทุกความต้องการ ทั้งการใช้งานทั่วไป ถ่ายภาพและวิดีโอ ความบันเทิง และการเล่นเกมอย่างแท้จริง

ความปลอดภัยสูง

ระบบความปลอดภัยใน iPhone XS Max จะเป็นระบบปลดล็อกใบหน้า Face ID ที่มีความแม่นยำสูง สแกนเพื่อปลดล็อคได้ดีทุกสภาพแสงไม่ว่าจะสว่างจ้ากลางแจ้ง หรือแสงน้อย ๆ ก็ตาม และเมื่อไม่นานมานี้ทางแบรนด์ก็เพิ่งปล่อยฟีเจอร์สแกนหน้าแม้จะใส่แมสอยู่มาให้ด้วย เหมาะกับยุคปัจจุบันที่มีโรคระบาดสุก ๆ นอกจากนี้ความพิเศษของ Face ID ยังสามารถใช้ร่วมกับ iTunes & App Store, Safari Autofill รวมถึงแอปฯ อื่น ๆ ที่รองรับ ทำให้ใช้งานได้อย่างปลอดภัยมากกว่าเดิม

กล้องถ่ายรูปของ iPhone XS Max ถ่ายรูปสวยไหม ?

หากพูดถึงเรื่องการถ่ายรูป ต้องบอกเลยว่า iPhone XS Max เครื่องนี้ใส่มาให้แบบจัดเต็มทั้งกล้องหน้าและหลัง ไปดูพร้อมกันเลยว่าจะเด็ดแค่ไหน

กล้องหลังลูกเล่นเยอะ

กล้องดิจิตอลของ iPhone XS Max ก็เจ๋งเป็นอย่างมาก โดยกล้องหลังคู่มีความละเอียดที่ 12 + 12 ล้านพิกเซล กล้องตัวแรกมีขนาดรูรับแสง f/1.8 พร้อมโฟกัส PDAF และกันสั่น OIS มีไฟแฟลช Quad-LED ส่วนกล้องตัวที่สองเป็นเลนส์เทเลโฟโต้ ขนาดรูรับแสง f/2.4 มีกันสั่น OIS โฟกัส PDAF และ 2x Optical Zoom พร้อมโหมดถ่ายภาพให้เลือกมากมาย เช่น Time-Lapse, Slo-Mo, Video, Photo, Portrait, Square, Pano เป็นต้น อีกทั้งยังเสริมความสนุกมาด้วยกับ Animoji and Memoji ที่คุณสามารถสร้างตัวคาแรกเตอร์ที่เป็นเอกลักษณ์เอาไว้แชร์กับเพื่อน ๆ ได้เลย

กล้องหน้าคมชัดทุกมิติ

ในด้านของกล้องหน้าความละเอียด 7 ล้านพิกเซล ขนาดรูรับแสงขนาด f/2.2 และรองรับการถ่ายภาพ Portrait แบบหน้าชัดหลังเบลอ ที่สามารถปรับขนาดของรูรับแสงได้ตั้งแต่ f/1.4 - f/16 เหมือนกันกับกล้องหลัง และยังสามารถปรับได้ในขณะที่กำลังถ่ายภาพ หรือนำมาปรับแต่งหลังจากถ่ายภาพเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ได้ ที่สำคัญไอโฟน XS Max ยังถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุด 4K Ultra HD อีกด้วย เรียกว่าทางแบรนด์จัดเต็มเอาใจคนรักการถ่ายภาพจริง ๆ สำหรับไอโฟนรุ่นใหม่นี้

ฟีเจอร์เด็ดใน iPhone XS Max มีอะไรโดดเด่นน่าใช้บ้าง ?

iPhone XS Max ใส่ฟีเจอร์ใหม่ ๆ เข้ามาเยอะมาก ทำให้ใช้งานได้สะดวกและง่ายดายยิ่งกว่าเดิม โดยฟีเจอร์ที่น่าสนใจก็คือ

Siri

ฟีเจอร์แรกที่หลาย ๆ คนที่ชื่นชอบในการใช้ Siri จะต้องชื่นชอบอย่างแน่นอนคือ ใน iOS15 เราสามารถใช้ Siri ได้แบบออฟไลน์โดยที่ไม่ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตหรือ Wi-Fi ใด ๆ อาทิ การตั้งนาฬิกาปลุก/นาฬิกานับถอยหลัง บอก To do list ในแต่ละวัน การส่งข้อความ การโทรศัพท์/Facetime ควบคุม Volume ของเสียง อ่านข้อความให้ฟัง หรือการตั้งค่าต่าง ๆ ใน iPhone ของเรา ซึ่งบอกเลยว่าเป็นอะไรที่ Functional สุด ๆ โดยกดปุ่มด้านข้างของโทรศัพท์ค้างเอาไว้ Siri ก็จะขึ้นมาให้ ซึ่งแน่นอนว่าตอบโจทย์และใช้งานสะดวกมากขึ้นอีกด้วย

Live Text

ส่วนนี้จะเป็นฟังก์ชันกล้องที่สามารถอ่านจับข้อความในรูปภาพ ไม่ว่าจะเป็นข้อความหรือตัวเลข ซึ่งเมื่ออ่านข้อความออกมาแล้ว เราสามารถทำการคัดลอก โทรออก นำไปแปล หรือแม้กระทั้งกดส่งข้อความให้กับคนอื่นได้ แต่น่าเสียดายอย่างหนึ่งคือในส่วนที่อ่านข้อความออกมานั้น จะอ่านได้แค่ภาษาอังกฤษและตัวเลขเพียงเท่านั้น ซึ่งวิธีการใช้คือให้เราเข้าไปที่กล่องข้อความใดก็ได้ Note , Messages , Direct Message ต่าง ๆ และให้เรากดจิ้มจอทำให้คำสั่งขึ้นมา จากนั้นกดเลือกเครื่องหมายสี่เหลี่ยมที่มีข้อความด้านใน และนำกล้องไปวางบริเวณที่เราต้องการให้อ่าน

Safari

มาถึงส่วนต่อมาที่มีคนพูดถึงกันมากที่สุดอย่างการปรับดีไซน์ใหม่หน้า Safari ซึ่งต้องบอกเลยว่าการอัปเดตนั้น ปกติแล้วตรงหน้า Safari จะไม่ค่อยมีการปรับเปลี่ยนไปสักเท่าไหร่ แต่ใน iOS15 ของ iPhone Xs Max นั้นมีการเปลี่ยนแปลงในหน้าตา ลูกเล่นต่าง ๆ ที่น่าสนใจมาก เราสามารถปรับแต่งหน้าจอของหน้าแรกได้ หากเราปรับหน้าให้เป็นรูปหรือ Wallpaper น่ารัก ๆ จะทำให้เปิดมาแล้วรู้สึกไม่น่าเบื่อ และ Tab Bar ของ Safari อยู่ที่ส่วนล่างแทนส่วนบน ซึ่งเรียกว่าสิ่งนี้บางคนอาจจะรู้สึกชอบหรือบางคนอาจจะรู้สึกไม่ชอบ แต่สามารเปลี่ยนแท๊บค้นหาใน Safari ให้กลับมาอยู่ด้านบนแบบเดิมได้

Note

ส่วนต่อมาที่มีการปรับเพิ่มฟีเจอร์คือแอปพลิเคชัน Note ซึ่งเราสามารถเพิ่ม # ที่สร้างเองได้ โดยสามารถเข้าไปดู # ได้ที่ด้านหน้าของแอป Note ซึ่งความพิเศษก็คือจะช่วยจัดประเภทของโน้ตได้ดี ง่ายต่อการค้นหา อีกทั้งหากเราใช้ Note แชร์ที่ใช้ร่วมกับคนอื่นก็จะมีการแจ้งเตือนอัปเดตอีกด้วย เช่น ถ้าเราใช้คำว่า #iPhoneXSMax ที่โน้ตใด ๆ เมื่อเรากดไปที่คำนั้น ๆ ก็จะมีโน้ตทุก ๆ ข้อความที่ใส่คำนี้ เรียกได้ว่าจัดการประเภทของโน๊ตได้สะดวกสบายมาก ง่ายต่อการค้นหาด้วย

Messages

ในส่วนของ Message ก็จะมีการเพิ่มเติมในส่วนของไอเท็มตกแต่งตัว Memoji ซึ่งที่เพิ่มมาก็คือสามารถเปลี่ยนสีตา ทรงผม และมีส่วนของเหล่า Accessories เข้ามา นั้นคือแว่นตา เสื้อผ้า หรือแม้กระทั้งท่าทางของตัว Memoji เอง ซึ่งจะมีด้วยกัน 3 ท่าทางคือทำท่าคล้ายโทรศัพท์ ทำมือเป็นรูปหัวใจ โบกมือคล้ายบ๊ายบาย และเราก็ยังสามารถปรับให้ภาพที่เราต้องการจะส่งนั้นวางซ้อนกัน โดยเป็นดูแบบ Grid View แทน นั้นคือมาสามารถแสดงผลได้แบบตารางเป็นเฟรม ๆ ไป หากเป็นแบบเดิมคือถ้าเพื่อนหรือคนที่เราคุยด้วยมีการส่งภาพมาแบบเยอะ ๆ เราก็จะต้องเลื่อนไปเลื่อนมา แต่ถ้าเป็นแบบนี้ก็จะช่วยทำให้ช่องแชทของเราไม่รกด้วย

Photos

มีฟังก์ชันที่น่าสนใจเพิ่มเข้ามาซึ่งช่วยทำให้การใช้งานมีความสนุก ง่ายมากขึ้น โดยสามารถบันทึกรูปภาพจาก Safari ทีละหลาย ๆ รูป ซึ่งทำได้โดยการลากรูปจากเว็บไซต์แล้วมาวางไว้ใน Photos ซึ่งใช้งานค่อนข้างใช้ยากไปหน่อยเพราะตอนลากเราจะต้องใช้อีกนิ้วจิ้มอยู่ตลอดเวลา และยังสามารถดูข้อมูลรูปภาพได้อย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็นวันและเวลา สถานที่ในการถ่าย โทรศัพท์ที่ใช้ เลนส์โหมดของกล้อง iso ขนาดของภาพนั้น ๆ เรียกว่าจบครบ ในส่วนของ Photo Memories เราสามารถครีเอทวิดีโอเก๋ ๆ ได้จากภาพและวิดีโอของทริปนั้น ๆ อีกด้วยน่ะ เริ่ดสุด ๆ

ข้อดี-ข้อเสียของ iPhone XS Max คืออะไร ?

หากใครที่มีแพลนกำลังจะซื้อ iPhone XS Max ลองมาอ่านข้อดี-ข้อเสียที่เรานำมาฝากกันก่อน ไปอ่านพร้อมกันเลย

ข้อดี

  • หน้าจอ OLED Super Retina HD Display ขนาดใหญ่ 6.5 นิ้ว
  • มีมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นที่ระดับ IP68
  • กล้องคู่ด้านหลัง ถ่ายออกมาได้สวยงามคมชัด ดูมีมิติที่สวยงามสมจริง
  • ดีไซน์สวยงามแข็งแรงดูพรีเมี่ยม กรอบตัวเครื่องเป็น Stainless Steel ครอบทับด้วยกระจกทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
  • รองรับการใช้งานฟีเจอร์ 3D Touch
  • รองรับการชาร์จเร็วและการชาร์จแบบไร้สาย
  • รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดแบบ nanoSIM และ eSIM
  • สามารถใช้งานร่วมกับ Apple Watch ได้สบาย ๆ

ข้อเสีย

  • ไม่สามารถเพิ่มหน่วยความจำเสริมอย่าง microSD Card ได้
  • ตัวเครื่องดีไซน์เป็นกระจกจึงอาจตกแตกและเป็นรอยนิ้วมือได้ง่าย
  • สแกนหน้าได้อย่างเดียว ไม่มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ
  • แบตเตอรี่ค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับคู่แข่ง
  • ไม่มีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร และไม่มีอุปกรณ์สำหรับแปลงมาให้
  • ราคาค่อนข้างแพงเมื่อเทียบกับโทรศัพท์แบรนด์อื่น ๆ ที่มีสเปคใกล้เคียงกัน

iPhone XS Max ยังน่าซื้อไหม ?

iPhone XS Max ยังคงเป็นโทรศัพท์ที่คุ้มค่าน่าลงทุนอยู่ เพราะแม้จะเปิดตัวมาได้สักพักแล้วแต่โทรศัพท์รุ่นนี้ยังคงทำงานได้อย่างยอดเยี่ยมเหมือนกับ iPhone รุ่นใหม่ ๆ ที่เพิ่งปล่อยออกมา มีลูกเล่นที่ใกล้เคียงกับโทรศัพท์รุ่นใหม่ ๆ เลยก็ว่าได้ กล้องถ่ายรูปสวยทั้งหน้าและหลัง มาพร้อมลูกเล่นที่ครบครัน แถมแบตเตอรี่ก็อึดทน ใช้งานต่อเนื่องได้ยาว ๆ ตลอดทั้งวัน ส่วนประสิทธิภาพการทำงานก็เร็วแรง เล่นเกมหนัก ๆ ได้ไม่มีสะดุด นอกจากนี้ยังสามารถอัปเดตเป็นระบบปฏิบัติการล่าสุดได้อีกด้วย ไม่ต้องซื้อรุ่นใหม่ราคาแพงให้เปลืองเงิน คุณเองก็เป็นเจ้าของได้ง่าย ๆ เพราะไอโฟน XS Max ราคาปัจจุบันนั้นถูกมาก ๆ ถ้าเทียบกับราคาที่วางจำหน่ายในตอนแรก ถือว่าลดลงมาค่อนข้างเยอะทีเดียว ถ้าจะซื้อล่ะก็ บอกเลยว่าซื้อตอนนี้คุ้มที่สุดแล้ว

จบไปแล้วกับการรีวิว iPhone XS Max เห็นไหมล่ะว่าเป็นโทรศัพท์ที่ตอบโจทย์ทุกการใช้งานอย่างแท้จริง ตัวเครื่องหรูหราทันสมัย สเปคแน่น ทำงานเร็วแรง แฟนบอยทั้งหลายพลาดไม่ได้ อย่ารอช้า! มาลองเช็ค iPhone XS Max ราคาล่าสุด และเทียบราคาจากร้านค้าออนไลน์ทั่วประเทศ พร้อมอัปเดทส่วนลดโปรโมชั่นเด็ด ๆ โดนใจก่อนใครได้ตลอด 24 ชั่วโมงที่ iPrice Thailand ครบที่สุด คุ้มที่สุด