Iphone 7 เคร องนอกม ป ญหาไหม

คุณอาจไม่สามารถโทรออกหรือรับสายบน iPhone ได้หากคุณเปิดการตั้งค่าบางอย่างไว้ หากซอฟต์แวร์ของคุณไม่อัพเดท หรือหากมีปัญหาบางอย่างกับเครือข่ายของคุณ

หากคุณไม่สามารถโทรออกหรือรับสายบน iPhone ได้

ดูสิ่งที่ควรทำหากคุณเห็น "ไม่มีบริการ" หรือ "กำลังค้นหา" ในแถบสถานะ หากคุณไม่สามารถโทรออกหรือรับสายบน iPhone ได้ ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้ โดยทดสอบหลังจากทำตามแต่ละขั้นตอน ดังนี้

ติดต่อผู้ให้บริการเครือข่าย

เมื่อคุณติดต่อผู้ให้บริการเครือข่าย ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเป็นไปตามนี้

• บัญชีของคุณมีการตั้งค่าให้ใช้กับ iPhone
• ไม่มีปัญหาสัญญาณขาดหายของบริการในพื้นที่
• บัญชีของคุณไม่ได้ถูกระงับเนื่องจากปัญหาเกี่ยวกับการเรียกเก็บเงิน
• การโทรของคุณไม่มีข้อผิดพลาดในระบบของผู้ให้บริการเครือข่าย

ตรวจสอบการตั้งค่า iPhone

1. เปิดและปิดโหมดเครื่องบิน ไปที่ การตั้งค่า แล้วเปิดโหมดเครื่องบิน รอห้านาที จากนั้นปิดโหมด
2. ตรวจสอบห้ามรบกวน ไปที่ การตั้งค่า > โฟกัส > ห้ามรบกวน แล้วตรวจสอบให้แน่ใจว่าปิดโหมดนี้แล้ว
3. ตรวจสอบว่ามีหมายเลขโทรศัพท์ที่บล็อคไว้หรือไม่ ไปที่การตั้งค่า > โทรศัพท์ > รายชื่อที่ปิดกั้น
4. ดูว่าเปิดใช้งานการโอนสายอยู่หรือไม่ ไปที่ การตั้งค่า > โทรศัพท์ > การโอนสาย แล้วตรวจสอบให้แน่ใจว่าปิดโหมดนี้แล้ว
5. ตรวจสอบเพื่อดูว่า Silence Unknown Callers เปิดอยู่หรือไม่ หากการตั้งค่าเปิดอยู่ ผู้โทรต้องมีรายชื่ออยู่ใน "รายชื่อ" หรือ "ล่าสุด" หรือผู้โทรต้องแชร์หมายเลขของพวกเขาในแอพเมลหรือส่งข้อความถึงคุณโดยใช้หมายเลขนั้น จึงจะสามารถโทรติดต่อคุณได้ เพิ่มหมายเลขของผู้โทรในรายชื่อเพื่อให้แน่ใจว่าโทรศัพท์จะส่งเสียงเรียกเข้า การโทรจากแอพของบริษัทอื่นอาจถูกบล็อคด้วย

ตรวจสอบการตั้งค่าเครือข่าย

1. รีเซ็ตการตั้งค่าเครือข่าย ไปที่การตั้งค่า > ทั่วไป > ถ่ายโอนหรือรีเซ็ต iPhone > รีเซ็ต > รีเซ็ตการตั้งค่าเครือข่าย การดำเนินการนี้จะลบข้อมูลการตั้งค่าที่บันทึกไว้ในปัจจุบันทั้งหมด รวมถึงรหัสผ่าน Wi-Fi เครือข่ายที่ต้องการ และการตั้งค่า VPN
2. ลองโทรออกหรือรับสายในตำแหน่งที่ตั้งอื่น

ติดต่อฝ่ายบริการช่วยเหลือของ Apple

วันที่เผยแพร่: 17 ธันวาคม 2564

เนื่องจาก ณ ขณะช่วงเวลานั้นที่คุณซื้อ iFIX SIM จะเป็น Hardware ใหม่ รองรับกับ iOS ใหม่ล่าสุดในขณะนั้น
ทำให้สามารถใช้งานได้ตามปกติ แม้ว่าคุณจะอับเดท iOS ไปด้วยก็ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด

แต่หากคุณนำเครื่องไปล้างค่าทั้งหมดจะถูกล้างออกทำให้
iFIX SIM ที่มี Hardware ตัวเดิมนั้นไม่สัมพันธ์กับ iOS ตัวเวอร์ชั่นใหม่
จึงทำให้คุณต้องซื้อ iFIX SIM รุ่นใหม่ที่รองรับ iOS ล่าสุด

ในบางกรณีสามารถอับเกรดได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนตัว iFIX SIM เพราะ iFIX SIM ออกแบบมาให้อับเกรดได้อยู่แล้ว แต่ในบางครั้ง Apple ก็ออกเวอร์ชั่นมาบล็อค Hardware ตัวนี้ทำให้คุณต้องซื้อใหม่

แต่ถ้าคุณใช้งานโดยไม่ถอดออกเลย ไม่ล้างเครื่องเลย สามารถอยู่ได้ยาวนานตลอดไปครับ

iPhone ซื้อเครื่องศูนย์หรือเครื่องหิ้ว ต่างกันอย่างไร วิธีดูว่าเครื่องไหนมาจากไหน

สินค้าไอทีต่าง ๆ อย่าง “มือถือ” เป็นสินค้าที่นำเข้าจากต่างประเทศ แน่นอนว่าย่อมการปรับปรุงสินค้าก่อนจำหน่ายในไทยด้วย ทำให้ทั้งมือถือเครื่องนอกและเครื่องไทยมีความแตกต่างกัน และมีส่วนทำให้เราต้องเลือกซื้ออย่างใดอย่างหนึ่ง เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเครื่องไหนเป็นแบบไหน แตกต่างกันอย่างไร และเราควรซื้อแบบไหนกันแน่

วิธีตรวจสอบว่าไอโฟนเป็นเครื่องศูนย์ไทยหรือไม่

ดู “Model Regions” (ตัวย่อรหัสประเทศ)

ให้เข้าไปที่ “การตั้งค่า” (Setting) >> เลือก “ทั่วไป” (General) >> เลือก “เกี่ยวกับ” (About) เมื่อเข้าแล้วจะมีรหัสโมเดล (Model) ของเครื่องบอกอยู่ ให้ดูว่ามีตัวอักษรลงท้ายด้วย TH หรือไม่ เช่น MD233TH/A, MF355TH/A นั่นคือถ้ารหัสโมเดลไม่มีตัว TH แสดงว่าไม่ใช่เครื่องจากศูนย์ไทย สามารถดูตัวย่อรหัสประเทศของอุปกรณ์ iOS หรือ “Model Regions” ได้ >> ที่นี่ 

ตรวจสอบด้วยเลข IMEI

IMEI เป็นเลขประจำตัวสินค้าเสมือนพาสปอร์ตของอุปกรณ์มือถือ สามารถค้นหา IMEI ได้หลายวิธีเช่นในเมนู “การตั้งค่า” หรือกด *#06# ก็ได้ จากนั้นให้นำเลข IMEI ที่ได้ไปตรวจสอบที่เว็บ iphoneimei.info เราจะพบรายละเอียดต่าง ๆ รวมไปถึงประเทศที่จำหน่ายมือถือ (Country Purchased) เครื่องนั้นด้วยอย่างชัดเจน

ดูหรัสของรุ่นสินค้าที่จำหน่ายในประเทศ

ต้องบอกว่าการดูรหัสโมเดลและ IMEI ของเครื่องนั้นเป็นวิธีที่ดีมาก แต่ก็มีวิธีที่จะดูว่าเป็นเครื่องไทยโดยไม่ต้องเปิดเครื่องหรือใช้รหัสเหมือนกัน นั่นคือการดูรหัสรุ่นสินค้าว่ารุ่นไหนใช้รหัสอะไร ซึ่งทาง Apple กำหนดไว้แล้ว เช่น iPhone XS มีรหัสรุ่น คือ A1920, A2097, A2098 (ญี่ปุ่น), A2100 (จีน) ถ้ารหัสที่ได้มาไม่ตรงกับที่มีอยู่ แสดงว่าอาจเป็นรุ่นสินค้าที่ยังไม่มีในประเทศไทย สามารถดูรหัสของไอโฟนรุ่นต่าง ๆ ได้ >> ที่นี่ 

สรุปแล้วเครื่องนอกกับเครื่องไทย แบบไหนดีกว่ากัน?

ข้อแตกต่างระหว่างเครื่องไทยหรือที่เรียกว่า “เครื่องศูนย์” กับ เครื่องต่างประเทศที่เรียกว่า “เครื่องหิ้ว” นั้น มีจุดสำคัญที่เรื่องการประกันสินค้า โดยเครื่องศูนย์ที่ได้มาจาก iStudio, Apple Store หรือค่ายมือถือโดยตรง จะมีรับประกันสินค้า 1-2 ปีและบริการหลังการขายที่ดี แต่จะมีข้อเสียที่จะถูกลดสเปคลงไป ส่วนเครื่องหิ้วสเปคจะดีกว่าและราคาโดยรวมถูกกว่าเครื่องศูนย์ที่มักจะบวกราคาเพิ่มจากปัจจัยอื่น ๆ แต่มีข้อเสียเรื่องปัญหาเครือข่ายและสัญญาณมือถือ ที่สำคัญอาจไม่มีเวอร์ชั่นภาษาไทยรองรับด้วย

จะเห็นได้ว่าเครื่องไทยมีข้อได้เปรียบที่เรื่องประกันสินค้า เหมาะสำหรับคนที่ต้องการสิทธิพิเศษและบริการที่ดี ส่วนเครื่องนอกจะได้เปรียบเรื่องสเปคและราคาที่ถูกกว่า และไม่สนใจเรื่องการเคลมประกันใด ๆ ตอนนี้ใครอยากได้ไอโฟนดี ๆ สักเครื่อง ตอนนี้ใน Lazada ก็มีโปรโมชั่นมือถือน่าสนใจ แถมยังเป็นเครื่องศูนย์ลดราคาอีกด้วย หาซื้อกันได้กับเทศกาลช้อปฉลองครบรอบ 7 ปีลาซาด้า วันที่ 27 มีนาคมนี้เท่านั้น

   อ่านเพิ่มเติม   

• Lazada เปิดพรีออเดอร์ OPPO F11 Pro อีกครั้ง! พร้อมข้อเสนอ และ ส่วนลดจัดเต็มเช่นเดิม
• Redmi Note 7 มือถือสเปคดีขายราคาครึ่งเดียว จำหน่ายจริง 27 มีนาคมนี้ที่ Lazada
• Laz Game เล่น 3 เกมผ่านแอพ Lazada วันนี้ ลุ้นรับคูปองส่วนลดสูงสุด 777 บาท
• Honor V20 รุ่น 6/128GB มือถือเล่นเกมระดับเรือธง มีวางจำหน่ายแล้วที่ Lazada