จะมั่นใจได้อย่างไรว่าเครื่อง iPhone ที่ซื้อมาเป็นเครื่องใหม่ ? ซึ่งอาการเช่นนี้มักจะเกิดกับผู้ที่ไปซื้อเครื่องตามร้านค้าที่ไม่ได้ขึ้นตรงกับศูนย์อย่างเป็นทางการ เพราะบางทีเครื่องที่ได้มาอาจจะเป็นเครื่องที่ผ่านการรีเฟอร์บิช (Refurbished) หรือเป็นเครื่องจากศูนย์ที่ให้มาใช้ก่อนในระหว่างเครื่องหลักอยู่ในช่วงการเคลม เรียกว่า Replacement แต่หลังจากนี้ไม่ต้องเป็นห่วงไป เพราะทางเรามีวิธีตรวจสอบให้แน่ใจว่า เครื่องที่ซื้อมาเป็นเครื่องใหม่หรือไม่ ? Show 1. ไปที่ การตั้งค่า > ทั่วไป > เกี่ยวกับ Kuo เผยว่า iPhone 15 Pro, 15 Pro Max จะใช้พอร์ต USB-C ที่รองรับการเชื่อมต่อรับ-ส่งข้อมูลแบบเร็ว ส่วน iPhone 15, 15 Plus จะใช้พอร์ต USB-C แบบ USB 2.0 มีความเร็วการรับ-ส่งข้อมูลผ่านสายเท่ากับพอร์ต Lightning
ดังนั้นจึงมีความเป็นได้ว่าพอร์ต USB-C ของ iPhone 15 Pro, 15 Pro Max จะเป็นแบบ USB 3.2 หรือไม่ก็ Thunderbolt 3 USB 2.0 นั้นมีความเร็วการรับ-ส่ง ข้อมูลผ่านสายอยู่ที่ 480Mb/s, USB 3.2 อยู่ที่ 20GB/s ส่วน Thunderbolt 3 อยู่ที่ 40GB/s ซึ่งต้องลุ้นกันว่าจะเป็นแบบไหน รีวิว iPhone 14 Plus หน้าจอ 6.7 นิ้ว ใหญ่แต่เบา แม้ใช้ชิป A15 แต่แรงดีไม่มีตก สเปคเทียบเท่า iPhone 13 Pro Max ตัวท็อป พร้อมเปรียบเทียบกับ iPhone 14 Pro Max ให้ได้ชม ไปชมรีวิวพร้อมฟังการวิเคราะห์กันครับ รีวิว iPhone 14 Plus รุ่นเริ่มต้นจอใหญ่ แต่น้ำหนักเบา สำหรับ iPhone 14 Series ทั้งหมดนี้ จะมี ด้วยกันทั้งหมด 4 รุ่น ได้แก่
(ใช้เครื่อง iPhone 13 Pro แทน iPhone 14 Pro ซึ่งมีดีไซน์เท่ากัน) ดีไซน์ตัวเครื่องiPhone 14 Plus นั้นมีขนาดหน้าจอ 6.7 นิ้ว เทียบเท่ากับ iPhone 14 Pro Max (และ iPhone 13 Pro Max ด้วย) เมื่อเทียบกันวัสดุของ iPhone 14 Plus จะใช้วัสดุอลูมิเนียม ด้านหลังเป็นกระจก Ceramic Sheild และ iPhone 14 Pro Max ใช้วัสดุแบบสแตนเลสสตีลที่จะสังเกตุได้ว่ามีความมันวาวมากกว่า เทียบด้านหลังจะเห็นว่ากล้อง iPhone 14 Plus จะเป็นแบบกล้องคู่ ส่วน iPhone 14 Pro Max นั้น จะมีกล้องทั้งหมด 3 ตัว สำหรับกล้องหน้าจะเป็นกล้อง TureDepth เหมือนกัน ต่างกันตรงที่ ดีไซน์ของ iPhone 14 Plus ใช้ดีไซน์รอยบาก และ iPhone 14 Pro Max ใช้ดีไซน์บนจอแบบใหม่ที่เรียกว่า Dynamic Island หน้าจอหน้าจอ iPhone 14 Plus มีอัตรารีเฟรชอยู่ที่ 60Hz จอภาพ OLED ความละเอียด 2778×1284 พิกเซล iPhone 14 Pro Max แตกต่างออกไปตรงที่มีอัตรารีเฟรชเรทสูงสุดอยู่ที่ 120 Hz ทำให้การใช้งานนั้นมีความลื่นไหลมากกว่า iPhone 14 Pro Max มีฟีเจอร์ใหม่ Always-on Display เมื่อล็อคหน้าจอ ก็จะยังแสงข้อมูลให้หน้าจอล็อคอยู่ เป็นฟีเจอร์ที่มีสำหรับ iPhone รุ่นที่มีอัตรารีเฟรชหน้าจอ 1-120Hz ซึ่ง iPhone 14 Plus นั้นยังไม่มี
เหตุผลที่ iPhone 14 Plus มีหน้าจอที่ใหญ่ 6.7″เมื่อเทียบย้อนกลับไปใน iPhone 13 Series หากเราต้องการ iPhone ที่มีขนาดหน้าจอที่ใหญ่ 6.7″ จะต้องข้ามไปยังรุ่น Pro Max เลย ซึ่งมีราคาที่ค่อนข้างสูง ผู้ใช้บางรายอาจไม่ได้ต้องการฟีเจอร์การใช้งานระดับ Pro, ทุนอาจจะไม่เพียงพอ และฟีเจอร์การใช้งานในรุ่นปกตินั้นก็ตอบโจทย์อยู่แล้ว การเลือกรุ่น Mini ก็จะมีปัญหาในเรื่องแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้เต็มวัน ค่อนข้างลำบาก ตรงนี้ก็อาจจะเป็นเหตุผลที่ Apple เพิ่ม iPhone 14 Plus เข้ามา เพื่อตอบโจทย์กลุ่มผู้ใช้งานตรงนี้ให้มากขึ้นนั่นเอง รวมถึง iPhone 14 Plus นั้นมีน้ำหนักที่เบามากเมื่อเทียบกับรุ่นอื่น ๆ แล้ว
แบตเตอรี่ & การเชื่อมต่อเริ่มต้นด้วยการทดสอบดูคลิปบน Youtube ใช้เวล่ทั้งหมด 1 ชั่วโมง แบตเตอรี่เริ่มต้น 95% ใช้สัญญาณ Wi-Fi ในการดู ปรับความสว่างและเสียงในระดับสูงสุด ผลที่ได้คือ ตัวเครื่องไม่ร้อน แบตเตอรี่ลดลงไป 2% เหลือ 93% ทำการเล่นเกม League of Legends: Wild Rift ระยะเวลาเล่น 30 นาที จากนั้นทำการเล่นเกม Apex Legends ระยะเวลาเล่น 30 นาที การทดสอบแบตเตอรี่ช่วงสุดท้ายเป็นการทดสอบการถ่ายวีดีโอ 4K 60fps ใช้ระยะเวลาทั้งหมด 30 นาที การชาร์จไฟด้วยอะแดปเตอร์กำลังไฟ ไม่เกิน 30W ด้วยการชาร์จผ่านสาย Lightning และไม่เกิน 15W เมื่อชาร์จผ่าน MagSafe
กล้องเมื่อเทียบขนาดกันและดูลักษณะกล้องหลังเราจะสังเกตุได้เลยว่า
สิ่งที่ iPhone 14 ทำได้ดีขึ้นคือ สามารถจับภาพได้ดีขึ้นในที่แสงน้อย และมีสิ่งที่น่าสนใจคือ iPhone 14 Plus ทำการบีบอัดไฟล์ได้ดีกว่า iPhone 13 Pro Max อาจจะด้วยฟีเจอร์ที่เพิ่มเข้ามาอย่าง Photonic Engine |