ถือเป็นภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จแต่กลับไม่มีภาคต่อทั้งที่มีข่าวลือว่าตัวของหนังได้รับอนุมัติในการสร้างภาคต่อแล้วสำหรับหนังหุ่นเหล็กต่อสู้อย่าง Real Steel ที่เคยประสบความสำเร็จจนเป็นปรากฏการณ์หนังฟอร์มเยี่ยมเมื่อปี 2011 แต่ทว่าการที่หนัง Real Steel หรือชื่อไทยคือ “ ศึกหุ่นเหล็กกำปั้นถล่มปฐพี ” รอที่จะสร้างภาคต่อแต่สุดท้ายทุกอย่างก็ได้ผ่านมาถึงหนึ่งทศวรรษแล้ว หนังกลับไม่มีความคืบหน้าใด ๆ ทำให้เหล่าแฟนคลับของหนังในเวลานี้ค่อนข้างที่จะหมดหวังไปเป็นที่เรียบร้อย แต่ทว่าล่าสุดความหวังของแฟน ๆ Real Steel ได้ฟื้นคืนกลับขึ้นมาอีกครั้งเมื่อผู้กำกับภาพยนตร์อย่าง ชอว์น เลวี ที่ตัวเขาได้ฝากผลงานไว้กับหนังดังมากมายในเวลาต่อมาอย่าง Stranger Things, Shadow and Bone ได้ออกมาตอบคำถามถึงเรื่อง Real Steel ว่ามีโอกาสที่หนังจะสร้างภาคต่อจริง ๆ แต่อาจจะเกิดขึ้นบนแพลตฟอร์มออนไลน์ Netflix แทน “ นี่คือเรื่องราวที่น่าทึ่งในยุคปัจจุบัน แพลตฟอร์มออนไลน์ทำให้ผู้คนมีโอกาสได้ชมหนังมากมายโดยไม่ต้องผ่านโรงภาพยนตร์ แม้ในสมัยก่อนมีการรับชมหนังผ่านทาง YouTube แต่สุดท้ายก็แพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง Netflix ได้พิสูจน์แล้วว่า ธุรกิจโรงหนังและการชมภาพยนตร์ออนไลน์ สามารถเกิดรูปแบบใหม่ขึ้นมาได้เสมอโดยมีจุดกึ่งกลางที่ลงตัว ” “ สำหรับหนังเรื่อง Real Steel ในภาคถัดไป ถือเป็นเรื่องราวที่สร้างความแปลกใจให้ผมเป็นอย่างมากเพราะหนังต้นฉบับผ่านมาเกือบ 10 ปีเต็มแล้ว แต่คนยังพูดถึงและรับชมภาพยนตร์เรื่องนี้อยู่จนทุกวันนี้ บางทีเราอาจจะสร้างหนังเรื่องดังกล่าวบนแพลตฟอร์มออนไลน์อย่างอย่าง Netflix ก็เป็นได้ ” จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ศึกหุ่นเหล็กกำปั้นถล่มปฐพี (อังกฤษ: Real Steel) เป็นภาพยนตร์แอ็คชันแนวนิยายวิทยาศาสตร์ นำแสดงโดยฮิวจ์ แจ็คแมน และกำกับโดยชอว์น เลวี ภาพยนตร์ชุดนี้อิงมาจาก "สตีล" ซึ่งเป็นเรื่องสั้น ค.ศ. 1956 ที่ประพันธ์โดยริชาร์ด แมเธสัน โดยเลวีได้จัดฉากภาพยนตร์เป็นงานแสดงประจำรัฐของอเมริกา และสิ่งที่อยู่ในสมัยเก่าของอเมริกา ศึกหุ่นเหล็กกำปั้นถล่มปฐพี ได้รับการพัฒนาหลายปีก่อนที่การผลิตได้เริ่มขึ้นในวันที่ 11 มิถุนายน ค.ศ. 2010 การถ่ายทำภาพยนตร์ใช้รัฐมิชิแกนเป็นสถานที่หลักในการถ่ายทำ หุ่นแอนิเมทรอนิกส์ได้สร้างขึ้นสำหรับภาพยนตร์ และเทคโนโลยีโมชันแคปเจอร์ได้นำมาใช้ในช่วงที่หุ่นยนต์ต่อสู้กัน ศึกหุ่นเหล็กกำปั้นถล่มปฐพี ได้เปิดตัวสู่สาธารณชนที่ออสเตรเลียในวันที่ 6 ตุลาคม ค.ศ. 2011 และในสหรัฐอเมริกากับแคนาดาวันที่ 7 ตุลาคม ค.ศ. 2011 โดยได้รับคำวิจารณ์ในเชิงบวก โดยภาพยนตร์ชุดนี้ได้เปิดตัวทั้งในโรงภาพยนตร์แบบธรรมดารวมถึงในแบบไอแม็กซ์ เนื้อเรื่องย่อ[แก้]ชาร์ลี เคนตัน ซึ่งเป็นนักมวยตกอับ เนื่องด้วยถูกแย่งงานไปโดยหุ่นยนต์ 8 ฟุต ซึ่งเขาไม่มีโอกาสได้เข้าร่วมแข่งขันใด ๆ ชาร์ลีจึงจำต้องทำหน้าที่เป็นโปรโมเตอร์มวยหุ่นยนต์ระดับพื้น ๆ มาสู้กัน โดยเดินทางจากสังเวียนแห่งหนึ่งไปยังอีกสังเวียนหนึ่ง และแล้ว แม็กซ์ ซึ่งเป็นบุตรชายที่เคยเหินห่างจากเขาไปก็ได้กลับมาใช้ชีวิตกับเขาอีกครั้งโดยไม่ตั้งตัว ซึ่งสองพ่อลูกคู่นี้ ได้ร่วมกันซ่อมแซมหุ่นธรรมดาตัวหนึ่งให้กลายเป็นผู้ท้าชิงฝีมือเยี่ยม เพื่อเดิมพันในสังเวียนที่ไร้ความปรานี นี่เป็นโอกาสสุดท้ายที่ชาร์ลีจะได้หวนกลับสู่ความยิ่งใหญ่อีกครั้ง[3] นักแสดงนำ[แก้]
หุ่นยนต์ที่ปรากฏตัว[แก้]
การสร้าง[แก้]แจ็คแมนที่ซิดนีย์ ในรอบปฐมทัศน์เดือนกันยายน ค.ศ. 2011 การถ่ายทำภาพยนตร์เริ่มในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2010 [4] และเสร็จสิ้นในวันที่ 15 ตุลาคม ค.ศ. 2010 [5] สถานที่ในการถ่ายทำครอบคลุมพื้นที่โดยรอบของดีทรอยต์ รัฐมิชิแกน และโดยทั่วทั้งรัฐ[6] สำหรับฉากหุ่นยนต์ต่อสู้กัน ได้มีการใช้เทคโนโลยีโมชันแคปเจอร์ที่พัฒนาขึ้นสำหรับภาพยนตร์ อวตาร เข้ามาใช้[7] นอกจากนี้ยังมีชูการ์ เรย์ เลนเนิร์ด ซึ่งเป็นนักมวยสากลที่มีชื่อเสียงมาเป็นที่ปรึกษาในฉากต่อสู้ของภาพยนตร์ชุดนี้อีกด้วย[8] การตอบรับ[แก้]การตอบรับด้านคำวิจารณ์[แก้]ศึกหุ่นเหล็กกำปั้นถล่มปฐพี ได้รับการตอบรับเชิงบวกจากนักวิจารณ์ เว็บไซต์รอตเทนโทเมโทส์ระบุว่า 58 เปอร์เซ็นต์จาก 192 นักวิจารณ์มอบความเห็นในเชิงบวก โดยมีคะแนนเฉลี่ยที่ 5.8 จาก 10 คะแนน[9] ส่วนเว็บไซต์เมทาคริติก คิดค่าคะแนนเฉลี่ยจาก 100 ความเห็นของนักวิจารณ์หลัก โดยให้คะแนนภาพยนตร์ชุดนี้ที่ 56 คะแนน ซึ่งอิงจาก 34 ความเห็น[10] ในขณะที่ผลสำรวจของซินีมาสกอร์รายงานเกรดที่ผู้ชมมอบให้อยู่ที่ A บวก จากเกรด A ถึง F [11] บ็อกซ์ออฟฟิศ[แก้]ศึกหุ่นเหล็กกำปั้นถล่มปฐพี ทำรายรับที่ 82,547,000 เหรียญในอเมริกาเหนือ และ 159,900,000 เหรียญในภูมิภาคอื่น ณ วันที่ 11 พฤศจิกายน ค.ศ. 2011 ซึ่งรวมทั้งหมดทั่วโลกได้ที่ 242,447,000 เหรียญ[12] โดยคิดเป็นช่วงเปิดตัวทั่วโลกที่ 49.4 ล้านเหรียญ[13] ในอเมริกาเหนือ ภาพยนตร์ชุดนี้อยู่ในอันดับสูงสุดของบ็อกซ์ออฟฟิศที่ 8.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐในวันเปิดตัว และ 27.3 ล้านเหรียญรวมช่วงสุดสัปดาห์เปิดตัว และมีการอ้างว่าทำยอดนำภาพยนตร์เรื่องใหม่ที่เปิดตัว (การเมืองกินคน) รวมถึงเป็นฝ่ายครองส่วนแบ่งมากกว่า[14] ภาพยนตร์ชุดนี้ได้ทำการเปิดตัวใน 11 ประเทศเป็นครั้งแรก ซึ่งรวมถึงบ้านเกิดที่ประเทศออสเตรเลียของฮิวจ์ แจ็คแมน[15] อ้างอิง[แก้]
แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]
|