หลายคนคงเคยได้เห็นผ่านตา หรือว่าเคยได้ยินชื่อสารสกัดจากอะเซโรลาเชอร์รี่ ในผลิตภัณฑ์เสริมอาหารวิตามินซี รวมถึงผลิตภัณฑ์เพื่อดูแลสุขภาพและผิวพรรณกันมาบ้างแล้ว แต่ยังสงสัยและอาจไม่แน่ใจว่าสารสกัดจากอะเซโรลาเชอร์รี่ตัวนี้มีประโยชน์อย่างไร? และจำเป็นแค่ไหนกับร่างกาย เราจะพาคุณไปทำความรู้จักว่าประโยชน์ของอะเซโรลาเชอร์รี่ คืออะไร? พร้อมไขข้อสงสัยว่าอะเซโรลาเชอร์รี่ กินตอนไหนดี? Show
รู้จักอะเซโรลาเชอร์รี่ คืออะไร?อะเซโรลาเชอร์รี่ (Acerola Cherry) เป็นพืชในตระกูล Malpighiaceae มีถิ่นกำเนิดจากอเมริกาใต้ ลำต้นเป็นพุ่มขนาดใหญ่ มีความสูงประมาณ 6 เมตร ออกดอกเป็นช่อ ผลมีลักษณะคล้ายกับผลเชอร์รี่ มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของผลอยู่ที่ 1-4 เซนติเมตร และหนักประมาณ 2-15 กรัม โดยผลดิบจะมีสีเขียว และเปลี่ยนเป็นสีส้ม เมื่อสุกจะเปลี่ยนเป็นสีแดงสด อะเซโรลาเชอร์รี่ เป็นผลไม้ที่มีผิวบาง มีรสชาติเปรี้ยวอมหวาน แต่ผลสุกจัดจะให้รสชาติหวานมากกว่าเปรี้ยว เป็นผลไม้เมืองร้อนที่ทั่วโลกให้การยอมรับว่าเป็นแหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งมีวิตามินซีสูง มีโปรตีนและแร่ธาตุมากมาย เช่น เหล็ก ฟอสฟอรัส แคลเซียม และมีไฟโตนิวเทรียนท์ ทั้งยังมีวิตามินเอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 และวิตามินบี 3 เป็นส่วนประกอบ ซึ่งล้วนแต่เป็นสารอาหารจำเป็นต่อระบบภูมิคุ้มกันและดูแลผิวพรรณให้สว่างกระจ่างใส นอกจากนี้ ในผลสดของอะเซโรลาเชอร์รี่ยังมีงานวิจัยที่พบว่า
7 ประโยชน์ของสารสกัดจากอะเซโรลาเชอร์รี่?1. เสริมสร้างคอลลาเจนประโยชน์ประการแรกในการดูแลด้านผิวพรรณของสารสกัดจากอะเซโรลาเชอร์รี่ คือมีส่วนช่วยเสริมการทำงานของกระบวนการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว รวมถึงประสิทธิภาพการทำงานของคอลลาเจนในร่างกาย 2. สมานผิว ลดเลือนริ้วรอยอย่างที่กล่าวมาแล้วว่าสารสกัดจากอะเซโรลาเชอร์รี่ มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างคอลลาเจน จึงช่วยให้แผลต่าง ๆ ตามผิวหนังสมานตัวได้อย่างรวดเร็ว และช่วยให้ผิวพรรณเต่งตึง กระชับ ช่วยลดเลือนริ้วรอยแห่งวัย 3. ฟื้นฟูสภาพผิวสารสกัดจากอะเซโรลาเชอร์รี่ ไม่เพียงแค่ช่วยลดเลือนริ้วรอยเท่านั้น แต่ยังช่วยเร่งการฟื้นฟูผิวที่เสื่อมโทรมจากการเสื่อมสภาพของเซลล์ผิว และยังมีส่วนช่วยบำรุงผิว รวมทั้งช่วยปรับสมดุลให้ผิวกลับมาแลดูสุขภาพดี 4. ต่อต้านอนุมูลอิสระจากการศึกษาผลอะเซโรลาเชอร์รี่ มีงานวิจัยที่พบว่า ผลไม้ชนิดนี้มีประสิทธิภาพในการเป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันเซลล์ร่างกายไม่ให้ถูกทำลาย เพราะหากเซลล์อ่อนแอและเสื่อมสภาพ จะนำมาซึ่งความเจ็บป่วยและโรคภัยได้ 5. ช่วยให้ผิวขาวกระจ่างใสหากกินสารสกัดจากอะเซโรลาเชอร์รี่อย่างต่อเนื่อง จะส่งผลให้ผิวมีความขาว สว่างขึ้นจากระดับของโทนสีผิวเดิม ทั้งยังมีส่วนช่วยลดการสร้างเซลล์เม็ดสีมากกว่าปกติ ซึ่งเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดรอยหมองคล้ำ รอยฝ้า และกระ ช่วยให้ผิวกลับมาเนียนสวยกระจ่างใส 6. ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นภายในผลอะเซโรลาเชอร์รี่ อุดมไปด้วยสารอาหารที่ทรงคุณค่ามากมาย ซึ่งมีส่วนช่วยในการบำรุงผิวให้มีสุขภาพดี แข็งแรง และยืดหยุ่น จึงทำให้ผิวมีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำและกักเก็บน้ำไว้ในชั้นผิว ช่วยให้ผิวคงความชุ่มชื้นไว้ได้อย่างสมดุล ลดความเสี่ยงจากปัญหาการผลัดเซลล์ผิวผิดปกติ ซึ่งนำไปสู่สภาพผิวที่อักเสบได้ 7. เสริมสร้างภูมิคุ้มกันผลอะเซโรลาเชอร์รี่อัดแน่นไปด้วยวิตามินซี ซึ่งเป็นสารอาหารสำคัญที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย ทั้งยังช่วยลดอาการภูมิแพ้ ยับยั้งสารฮิสตามิน เป็นสารที่ก่อให้เกิดอาการของโรคภูมิแพ้ที่ร่างกายผลิตขึ้นมา ซึ่งหากมีสารนี้มากเกินไป จะส่งผลให้เกิดอาการระคายเคืองต่อระบบทางเดินหายใจ เช่น ไอ จาม น้ำมูกไหล รวมไปถึงอาการหอบหืด และหลอดลมตีบ รวมถึงยังช่วยลดความรุนแรงของอาการหวัดได้
วิตามินซี วิสทร้า ที่มีสารสกัดอะเซโรลาเชอร์รี่ ควรกินตอนไหน?จากคุณสมบัติที่กล่าวมาทั้งหมดของสารสกัดจากอะเซโรลาเชอร์รี่นั้น หากใครสนใจอยากหามากิน เพื่อเป็นตัวช่วยดูแลผิวพรรณและสุขภาพให้แข็งแรง เราขอแนะนำ VISTRA IMU-PRO C Acerola Cherry 2000 Plus วิสทร้า ไอมู-โปร ซี อะเซโรลา เชอร์รี่ 2000 พลัส ผสานคุณค่าจากสารสกัดผักผลไม้รวม 24 ชนิด เควอเซทิน สเปคตร้า ซิตรัส ไบโอฟลาโวนอยด์ และวิตามินดี 3 สำหรับใครที่สงสัยว่า วิตามินซี วิสทร้า ไอมู-โปร ซี อะเซโรลา เชอร์รี่ 2000 พลัส ควรกินตอนไหน? ขอแนะนำว่าสามารถรับประทานเวลาไหนก็ได้ ครั้งละ 1 เม็ด พร้อมมื้ออาหาร ต่อเนื่องเป็นประจำทุกวัน เพื่อคุณประโยชน์สูงสุดต่อการดูแลสุขภาพและผิวพรรณของคุณ
ข้อมูลอ้างอิง:
|