ใบงาเกาหลี รสชาติ เป็น ยัง ไง

ใบไม้เขียวสดรูปสามเหลี่ยมขอบใบหยักๆ รูปทรงแปลกตา หลายคนคงอาจไม่เคยเห็นและไม่รู้จัก แต่ถ้าเป็นคออาหารญี่ปุ่นจะคุ้นเคย เห็นบ่อย แต่ก็ยังไม่รู้จักอยู่ดีว่าเป็นใบอะไร ใบไม้นี้มีชื่อว่าโอบะ หรือ ชิโสะ

ใบงาเกาหลี รสชาติ เป็น ยัง ไง
Salmon Sushi Sashimi Food Seafood Fish

ต้นโอบะ เป็นพืชล้มลุกตระกูลเดียวกับกะเพรา โหระพา และสะระแหน่ กระจายพันธุ์อยู่ในประเทศญี่ปุ่น สามารถใช้ประโยชน์ได้ทุกส่วน แต่ที่นิยมคือใบที่มีรูปทรงกลมปลายแหลม ขอบใบหยักเป็นฟันเลื่อย กลิ่นหอมฉุน

ปัจจุบัน มีผู้ปลูกอยู่ในประเทศไทยอย่างเป็นล่ำเป็นสัน ที่สำคัญโอบะเป็นพืชที่สามารถปลูกได้ตลอดทั้งปี ในพื้นที่ดินร่วนซุยและน้ำไม่ท่วมขัง ภายใต้สภาพแวดล้อมที่มีแดดรำไร แสงประมาณ 60%

ต้นโอบะ มีระยะเวลาปลูกประมาณ 50-60 วัน จะเริ่มเก็บใบ และจะมีอายุการเก็บได้ประมาณ 4-5 เดือน จากนั้นตัดแต่งกิ่งหรือปลูกใหม่ ขึ้นอยู่กับสภาพของต้นและแปลงปลูกนอกจากนี้ ต้นโอบะยังเป็นพืชที่ดูแลง่าย ให้น้ำวันละ 1 ครั้ง ฉีดปุ๋ยบำรุงต้นและใบสัปดาห์ละ 1 ครั้ง หากต้นมีปริมาณใบมากเกินไปก็แต่งทรงพุ่มให้โล่งเพื่อให้แสงส่องผ่านป้องกันโรคและแมลง

ใบงาเกาหลี รสชาติ เป็น ยัง ไง

สำหรับต้นทุนการสร้างโรงเรือน ค่าเมล็ดพันธุ์ และวางระบบน้ำ จะใช้ต้นทุนประมาณ 50,000 บาทต่อไร่ ซึ่งตัวเลขนี้เป็นการลงทุนครั้งเดียว ส่วนการจำหน่าย ตัดใบ นับใบขายได้ใบละ 50 สตางค์ ถึง 1 บาท ซึ่งจะสามารถสร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 70,000 บาท ต่อเดือน ต่อไร่

ใบโอบะ เป็นพืชที่มีกลิ่นหอมฉุนมักจะเสิร์ฟมากับปลาดิบเป็นผักสลัด หรือเป็นวัตถุดิบปรุงซุปหรือสตูแถมเมล็ดยังมีสารอาหารประเภทวิตามินเอ บี และซี นำมาสกัดเป็นน้ำมันปรุงอาหารได้ ใครที่สั่งอาหารญี่ปุ่นมากินคราวหน้าก็อย่าลืมลองชิมเจ้าใบโอบะ เพราะนอกจากได้รสชาติแปลกๆ ของใบไม้สีเขียว ยังมีประโยชน์เพื่อสุขภาพอย่างคาดไม่ถึงเลยทีเดียว

ใบงาเกาหลี รสชาติ เป็น ยัง ไง
ใบงาเกาหลี รสชาติ เป็น ยัง ไง
 
ใบงาเกาหลี รสชาติ เป็น ยัง ไง

 

เผยแพร่ในระบบออนไลน์เป็นครั้งแรก เมื่อวันเสาร์ที่ 7 กันยายน พ.ศ.2562


สำหรับแฟนๆ นิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้าน หากต้องการนิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้านรายปักษ์ ส่งตรงถึงบ้าน รวดเร็วทันใจอ่านได้ในทุกๆ 15 วัน สามารถสมัครสมาชิกได้ที่ คลิกลิ้ง https://shorturl.asia/0zJwQ 📲- Line: @matichonbook หรือ สำนักพิมพ์มติชน เลขที่ 12 ถนนเทศบาลนฤมาล หมู่บ้านประชานิเวศน์ 1 แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900 ติดต่อฝ่ายขาย 02-589-0020 ต่อ 3354

ใบโอบะ หรือใบชิโสะ ( Green Shiso ) กับคุณค่าทางโภชนาการ

By

ampro_content

-

September 18, 2017

26388

ใบงาเกาหลี รสชาติ เป็น ยัง ไง
ชิโสะ มีวิตามินเอ บี ซี ที่มีคุณค่าทางโภชนาการ เป็นพืชสมุนไพรล้มลุกชนิดหนึ่งของญี่ปุ่น

ใบโอบะ หรือใบชิโสะ

ใบโอบะ หรือใบชิโสะ ( Green Shiso ) คือ พืชชนิดหนึ่งในตระกูลเดียวกับ ใบกะเพรา ใบโหระพา หรือพวกพืชตระกูลมิ้นมีกลิ่นหอมฉุนนิยมนำส่วนใบและเมล็ดมารับประทานคู่กับพวกเนื้อสัตว์ ใบโอบะ หรือใบชิโสะ มีถิ่นกำเนิดในแถบเอเชียตะวันออก พบได้มากในประเทศญี่ปุ่น เกาหลี และจีน เป็นต้น  สามารถขึ้นได้เองตามธรรมชาติหรือจะนำมาเพาะเลี้ยงเองก็สามารถทำได้ ในปัจจุบันใบโอบะหรือ ใบชิโสะ สามารถปลูกกันได้แพร่หลายในทั่วโลก รวมทั้งในประเทศไทยด้วยโดยเฉพาะในบริเวณภาคเหนือ

ใบงาเกาหลี รสชาติ เป็น ยัง ไง

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Perilla frutescens ( L. ) Britt. Var. crispa ( Thunb. ) Hand-mazz.
ชื่อท้องถิ่น : งาขี้ม้อน งาพื้นเมือง งาหอม งาดอย งาม่อน(ไทย) งาเจียง (ลาว) Perilla (อิตาลี โปรตุเกส สเปน รัสเซีย) งาป่า (อังกฤษ เยอรมนีฝรั่งเศส) ไบซูเกง (จีน) เตียโต๋ (เวียดนาม) ชิโสะ (ญี่ปุ่น) steak plant (สหรัฐอเมริกา) และชาวกะเหรี่ยงแม่ฮ่องสอนเรียกว่า นอ

>> โรคมะเร็ง โรคร้ายที่ใคร ๆ ก็เป็นได้ อยากรู้ว่าเกิดได้อย่างไรมาดูกันค่ะ

>> วิตามินเอมีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างไร มาดูกันค่ะ

ลักษณะใบโอบะหรือใบชิโสะ

ใบโอบะ หรือใบชิโสะ เป็นพืชประเภทไม้ล้มลุกที่มีอายุสั้นใช้ระยะเวลาการปลูก 50 – 60 วัน ก็สามารถนำผลผลิตมารับประทานได้แล้ว และสามารถเก็บเกี่ยวต่อไปได้อีกในระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี เท่านั้นสามารถปลูกได้ทั้งปี เป็นพันธุ์ไม้ที่ชอบดินที่มีความร่วนซุย ระบายน้ำได้ดี ไม่ชอบให้มีน้ำขัง  ต้นใบโอบะหรือ ใบชิโสะ จะมีลักษณะคือ  เป็นไม้ลำต้นตั้งตรง จะมีความสูงเพียงแค่ 30 –100 เซนติเมตร เท่านั้น  มีสีม่วงหรือสีม่วงอมเขียว ใบมีรูปทรงกลมปลายแหลม ขอบใบหยักเป็นฟันเลื่อย ผิวใบย่นไม่เรียบตัวใบยาว 4 – 12 เซนติเมตร กว้าง 2.5 -10 เซนติเมตร ก้านใบยาว 2.5 -7.5 เซนติเมตร ดอกจะออกที่โคนก้านใบหรือบนยอดกิ่ง ด้านล่างดอกมีขนอ่อนขึ้นหน้าแน่น ดอกมีสีม่วง มีขนอ่อนยาวสีม่วงตรงส่วนข้อของกิ่งและลำต้น ซึ่งเรียกว่า ” เจียมชิโสะ ” มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Perilla frutescens ( L. ) Britt. Var. Acuta ( Thunb. ) Kido. โดยชิโสะชนิดนี้จะมีลักษณะทางพฤษศาสตร์คล้ายกับชิโสะประเภทแรกเกือบทุกอย่าง ยกเว้น จะมีสีม่วงและขนอ่อนคลุมอยู่ ดอกมีสีม่วงอมแดงหรือแดงอ่อนจากข้อมูลพบว่า ชิโสะทั้ง 2 ประเภทนี้ มีสรรพคุณทางยาด้วยกันทั้งคู่  เกือบทุกส่วนของชิโสะสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ ทั้งราก กิ่ง ก้าน ใบ และเมล็ดเช่น เมล็ดชิโสะ ( เฮ็กโซวจี้ ) สามารถช่วยแก้พิษจากอาหารทะเลได้โดยให้นำเมล็ดไปคั่วจนสุกแล้วนำมาผสมเปลือกส้มดองเกลือแล้วนำมารับประทาน

ใบงาเกาหลี รสชาติ เป็น ยัง ไง

ใบโอบะหรือ ใบชิโสะ มีรสเผ็ดร้อนอ่อน ๆ ใบย่นทั้งต้นจะประกอบไปด้วยน้ำมันหอมระเหย 0.5% ซึ่งในน้ำมันหอมระเหยนี้จะประกอบได้ด้วยสาร Perillaldehyde ประมาณ 55% Limonene ประมาณ 20-30% และอัลฟาร์-pinene อีกจำนวนเล็กน้อย นอกจากนี้ยังมี Arginie, Cumic acid เป็นต้น ในส่วนน้ำมันหอมระเหยจากใบจะประกอบด้วยสาร เช่น  Isoegomaketone เป็นต้น

สำหรับชิโสะชนิดเรียบจะประกอบไปด้วยน้ำมันหอมระเหยเช่นกัน ซึ่งในน้ำมันหอมระเหยนี้จะมีสารเช่น Isoamyl 3-Furylketone, Perillal Alcohol, Linalool, Camphene, Menthol, Menthorne, Dihydroperilla Alcohol, Eugenol เป็นต้น

ใบโอบะ หรือใบชิโสะ สรรพคุณ (สีเขียว)

ประกอบด้วยสารต่อต้านมะเร็งและเพิ่มภูมิคุ้มกัน มีประโยชน์ทางโภชนาการ ให้สารอาหารประเภทวิตามินเอ วิตามินบี และวิตามินซี ส่วนเมล็ดมาสกัดน้ำมันมาปรุงอาหารซึ่งจะช่วยบำรุงหัวใจและตับ สาร Phytol component ในใบชิโสะกระตุ้นการทำงานของ เซลล์ที่กำจัดสิ่งแปลกปลอมในร่างกายโดยธรรมชาติให้ทำหน้าที่กำจัดเซลล์มะเร็ง รวมทั้งช่วยยกระดับการทำงานของเซลล์ Macrophages ที่มีหน้าที่กำจัดเชื้อโรคและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกายมีกลิ่นหอม รสชาติออกเผ็ดเล็กน้อยมีฤทธิ์อุ่นไม่มีพิษ

  • ในทางการแพทย์จีน พบว่า ชิโสะจะมีสรรพคุณที่ช่วยให้สามารถบำบัดอาการหวัด มีไข้  ไอ หอบหืด แน่นท้อง และแน่นหน้าอก นอกจากนี้ยังใช้บำรุงครรภ์ และแก้พิษอาหารจำพวกปูและปลาได้อีกด้วยเนื่องจากในชิโสะจะออกฤทธิ์ไปตามเส้นจิงหลอของปอดและม้าม ( เส้นจิงหลอคือเส้นที่มีจุดแทงเข็มกระจายอยู่ โดยเส้นจิงหลอแต่ละเส้นจะเดินผ่านอวัยวะสำคัญของร่างกายแตกต่างกันไป ) ชิโสะจะไปขับเหงื่อในระยะเริ่มแรกของโรค ปรับอุณหภูมิในร่างกายให้เหมาะสมและ ปรับการไหลเวียนของลมในร่างกายให้เป็นปกติ
  • ใน Compendium of Materia Medica หรือ ปึงเช่ากังมักได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับชิโสะว่า สามารถช่วยให้ลมในร่างกายไหลเวียนได้เป็นปกติ ขจัดเสมหะและบำรุงปอด บำรุงเลือด แก้ปวด แก้หอบหืดและเป็นยาบำรุงสำหรับผู้ที่ตั้งครรภ์
  • ในหยิกหั่วจื้อปึงเช่าให้ข้อเกี่ยวกับชิโสะว่า สามารถใช้บำบัดอาการแน่นท้อง ท้องอืดท้องเฟ้อ แก้อาการหดเกร็งของกล้ามเนื้อน่อง ลดอาการอาเจียน ช่วยในเรื่องถ่ายเหลวจนร่างกายสูญเสียน้ำมากเกินไป ช่วยให้เจริญอาหารและบำบัดโรคอันเกิดจากพิษความเย็นทุกชนิด แก้อาการเหน็บชา
  • ในตำราสมุนไพรของทางยูนนาน เตียงน้ามปึงเช่าได้ให้ข้อมูลว่า ชิโสะ มีสรรพคุณสามารถช่วยรักษาแผลเลือดออกที่เกิดจากของมีคม หรือแผลจากริดสีดวงทวารได้ โดยจะใช้วิธีนำชิโสะไปต้มน้ำอาบ 

    ใบงาเกาหลี รสชาติ เป็น ยัง ไง

ใบโอบะ หรือใบชิโสะ สรรพคุณ (สีแดง)

ใบชิโสะแดง (Red Shiso) เป็นพืชสมุนไพรชนิดหนึ่งที่เป็นที่นิยมของคนญี่ปุ่นอุดมไปด้วยแอนโทไซยานิน กรดไขมันโอเมก้า 3 6 และ 9 แคลเซียม โพแทสเซียม เหล็ก วิตามิน A B2 และ C สารสำคัญในใบชิโสะแดงมีคุณสมบัติในการเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ สารต้านไวรัส ซึ่งใบชิโสะสีแดงจะไม่ค่อยนิยมกินแบบสด ส่วนมากจะนำมาทำเมนูดังนี้

1. น้ำใบชิโสะ เครื่องดื่มที่ช่วยสร้างความสดชื่น ดับร้อน ทำง่ายคล้ายวิธีต้มน้ำกระเจี๊ยบบ้านเรา เพียงแต่ใช้ใบชิโสะแดงสดล้างทำความสะอาดต้มในน้ำ 2 ลิตร ประมาณ 5 นาที แล้วตักใบออก เติมน้ำตาล 300 กรัม หรือตามชอบ และน้ำเลม่อน 2 ผล (หรือน้ำส้มข้าวหมัก 1 ถ้วยตวง จะทำให้น้ำเป็นสีแดงสวย) สุดท้ายนำมากรองใส่ขวดเก็บแช่เย็น เวลาดื่มให้นำมาผสมน้ำเย็นหรือโซดาโดยน้ำชิโสะ1ส่วน ต่อน้ำ3 ส่วน

2. ชาใบชิโสะแดง นำใบชิโสะแดงตากแห้งเพื่อใช้ดื่มเป็นชา บรรเทาอาการไอและมีคุณสมบัติในการต้านเชื้อแบคทีเรีย

3. ใช้เป็นสีเติมแต่งธรรมชาติของผักดอง ใบชิโซะแดงทำปฏิกิริยากับกรดแลกติกที่เกิดขึ้นในขณะการดองผักจะเป็นสีแดงสวยงาม เช่น บ๊วยดอง หัวไชเท้าดอง แตงกวาดอง และขิงดอง

4. ทำเป็นผงโรยข้าวยูคาริ ผงยูคาริโรยคลุกเคล้ากับข้าวหรืออาหารต่าง ๆ เพื่อเพิ่มสีสันและให้รสชาติที่อร่อยกลมกล่อมแล้วยังมีสารเซซามอลซึ่งเป็นสารที่ช่วยต่อต้านสารอนุมูลอิสระและยังช่วยป้องกันโรคมะเร็ง

ข้อควรระวัง

การทานใบโอบะ หรือใบชิโสะ ผู้ที่มีอาการไข้เฉียบพลันหรือปวดหัว ปวดเมื่อยตามตัว กลัวหนาว ไม่ควรรับประทาน นอกจากนี้ผู้ที่ต้องการทานชิโสะในการเลือกซื้อให้ได้ชิโสะที่มีคุณภาพดี มีเทคนิคและวิธีในการเลือกคือ ควรเลือกใบชิโสะที่มีขนาดใหญ่ มีสีม่วง มีกลิ่นหอม โดยต้องไม่มีกิ่งก้านปนมาด้วย การทานชิโสะต้องทานในปริมาณที่เหมาะสมไม่มากจนเกินไป หากมีอาการแพ้หรือผิดปกติอย่างไรต้องหยุดทานและไปพบแพทย์ทันที

นอกจากนี้ ชิโสะ ยังมีสรรพคุณในการช่วยรักษาโรคโลหิตจางได้ โดยให้ใช้วิธีนำใบชิโสะมาปรุงอาหาร และรับประทานเป็นประจำ เมนูที่ทำได้จากใบชิโสะ เช่น ทานสดๆเป็นผักสลัดควบคู่กับปลาดิบ อาหารจำพวกซูชิ  หรือ นำมาปรุงเป็นซุป ก็ได้โดยในแต่ละมื้อควรทานในปริมาณที่เหมาะสมประมาณ 10-15 กรัม

ใบงาเกาหลีกับใบโอบะเหมือนกันไหม

ใบงาเกาหลีกับใบโอบะ ไม่เหมือนกันนะคะ❌❌❌ ระวังซื้อผิดเสียเวลาปลูกฟรีนะคะ❤️

ใบงาไทยกินได้ไหม

ใบงาขี้ม้อนสามารถใช้รับประทานเป็นผักสดได้ โดยนำมาห่อข้าว เนื้อย่าง หมูย่าง ห่ออาหารประเภทเมี่ยงปลา หรือใช้เป็นผักแนม หรือใช้รับประทานร่วมกับอาหารประเภทยำ ก็จะได้กลิ่นหอม รสซ่าคล้ายรสมินต์ และใช้ใส่ในซุปกระดูกหมู เป็นต้น

ใบงาเกาหลีมีประโยชน์อย่างไร

รายละเอียดสินค้า.
มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวสูง.
มีฟอสฟอรัสและแคลเซียมมากกว่าพืชทั่วไป 20 เท่า.
มีวิตามิน บี.
มีสาร เซซามอล ที่ช่วยป้องกันมะเร็ง และชะลอความแก่.
มีน้ำมันหอมระเหยจากใบ (perilla aldehyde) ใช้แต่งกลิ่นอาหาร ลดรอยบนใบหน้า.
มีสารโอเมก้า-3 และโอเมก้า-6 มากกว่าน้ำมันปลา 2 เท่า.

ใบอะไรที่กินกับเนื้อย่างเกาหลี

🍃ใบงา หรือ 깻잎เป็นเครื่องเคียงที่ชาวเกาหลีนิยมทานกันมากๆ เพราะไม่ว่าจะเอาไปทำอะไร เอาไปทานกับเมนูไหน ก็อร่อยสุดๆ☺️ ไม่ว่าจะเป็นห่อข้าวร้อนๆ 🍚ห่อหมูย่าง