หนังสือวรรณคดีลำนำป.2 บทที่3

    รวมสรุปย่อเนื้อหาที่สำคัญวิชาภาษาไทย ภาษาพาที วรรณคดีลำนำ แบบกระชับ ชัดเจน เข้าใจง่าย สำหรับน้อง ๆ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 พร้อมแบบทดสอบที่หลากหลายในแต่ละบท โดยมีแบบเฉลยให้ได้ตรวจสอบความถูกต้องด้วยตนเอง เพื่อทบทวนและทำความเข้าใจในเนื้อหาให้มีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับใช้สอบในระดับต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี

    รวมสรุปย่อเนื้อหาที่สำคัญวิชาภาษาไทย สำหรับชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 พร้อมแบบทดสอบที่หลากหลายในแต่ละบท โดยมีแบบเฉลยให้ได้ตรวจสอบความถูกต้องด้วยตนเอง เพื่อทบทวนและทำความเข้าใจในเนื้อหาให้มีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับใช้สอบในระดับต่างๆ ได้เป็นอย่างดี

เสียงร้องสักวาของลุงตลับ ช่างสดใสไพเราะ

และได้จังหวะ พวกเด็กๆพากันตั้งใจฟัง สักวาที่

ลุงตลับร้องให้ฟังนั้นไม่ตลก แต่มีความหมายชวน

ให้คิด

“เป็นอย่างไร ทำไมเงียบกันไปหมด” ลุงตลับ

ถามอย่างแปลกใจ “ฟังไม่รู้เรื่องกันเลยหรือ”

“ก็รู้บ้างครับ” เด็กชายคนหนึ่งบอก “แต่มี

บางคำไม่ค่อยเข้าใจ”

“ลุงก็ว่าอย่างนั้นแหละ” ลุงตลับพยักหน้าหงึกๆ

“บทสักวานี้เป็นบทร้องของเก่า คนแต่ก่อน

เขาลอยเรือร้องโต้ตอบกันเวลามีงานรื่นเริง เรื่อง

ที่นำมาร้องก็แต่งเดี๋ยวนั้น แต่ทุกวันนี้ส่วนใหญ่

ไม่ค่อยมีใครร้องสักวากันแล้ว อย่างว่านั่นแหละ

หนูเอ๋ย คนทุกวันนี้ส่วนใหญ่เขาสนใจเพลงใหม่ๆ

เลยลืมของเก่ากันไปหมด ว่าแต่หนูๆ ชอบไหมล่ะ”

“ชอบค่ะ” เด็กหญิงคนหนึ่งรีบตอบ “ลุงช่วย

สอนให้หนูร้องบ้างสิคะ”

“ได้สิ จะเป็นไรไป” ลุงตลับรีบตอบ “และ

หนูรู้ไหม สักวาที่ลุงร้องเมื่อสักครู่ เขาพูดถึงเรื่อง

อะไร”เด็กๆ พากันคิดอยู่พักหนึ่งแล้วก็มีเสียง

ใครคนหนึ่งบอกว่า “เรื่องการพูดของคนเราครับ

เขาบอกว่า ถ้าพูดจาไพเราะก็มีคนชอบ

แต่พูดคำหยาบ ใครๆ ก็ไม่ชอบ”

“เก่งมากเจ้าตัวน้อย” ลุงตลับชมอย่างพอใจ

“เห็นไหมว่าการพูดจาของคนเราน่ะสำคัญมาก

เวลาจะพูดจะคุยกับใคร ให้นึกถึงสักวาบทนี้ไว้นะ”

พูดจบ ลุงตลับก็ขยับตัวอีกครั้ง บอกให้เด็กๆ

ล้อมวงเข้ามาใกล้ๆ แล้วเริ่มสอนให้ทุกคนร้องบท

สักวาพร้อมกัน

ลุงตลับร้องนำด้วยเสียงที่ดังกว่าเดิม ก่อนที่

พวกเด็กๆ จะร้องตาม เสียงดังไม่แพ้กัน

สักวาหวานอื่นมีหมื่นแสน

ไม่เหมือนแม้นพจมานที่หวานหอม...

บ่ายวันนั้น ถ้าใครเดินผ่านบ้านของลุงตลับ

ที่ท้ายตลาด ก็คงแปลกใจ ที่เห็นเด็กๆ นั่งรุมล้อม

ลุงตลับ แล้วพากันร้องสักวาเสียงดังไปทั้งย่าน

ตลาด

บทที่ ๓ ร่ืนรสสักวา

คา� ศพั ท์

กฐิน (อา่ นวา่ กะ - ถิน)
ชอ่ื พธิ ีทางศาสนาทช่ี าวพทุ ธถวาย
ผา้ กฐนิ แดพ่ ระสงฆท์ อ่ี ยจู่ า� พรรษา
ครบ ๓ เดอื น พธิ ีนี้กระท�าเปน็
ประจ�าทุกปรี ะหวา่ งแรม ๑ คา่�
เดอื น ๑๑ ถงึ ขนึ้ ๑๕ คา�่ เดอื น ๑๒
กระบุง ภาชนะสานทึบ รูปทรงกลมสูง
แข็งแรง กน้ เปน็ สเี่ หล่ียม
กระมล คอื กมล หมายถงึ ใจ
เขด็ ขยาด (อ่านว่า เขด็ - ขะ - หยาด)
กลวั มากจนไมก่ ลา้ ทา� อยา่ งเดมิ อกี
ชิวหา ล้นิ
ดุเหวา่ ชอื่ นก รูปรา่ งคลา้ ยกา ร้องเสียง
ดัง “ก่า เว้า ก่า เวา้ ” จึงมีชอ่ื
เรยี กวา่ กาเหว่า หรือ ดเุ หว่า
ตล่ิง (อา่ นวา่ ตะ - หล่ิง)
สว่ นของฝง่ั ทไ่ี มล่ าดรมิ แมน่ า�้ ลา� คลอง

42 หน้าสสี่ ิบสอง

วรรณคดีลำ� น�ำ ช้นั ประถมศึกษำปที ่ี ๒

เตลดิ (อา่ นวา่ ตะ - เหลดิ )
หนีกระเจดิ กระเจงิ
ประเทยี บ เปรยี บ, เทยี บ
พจมาน (อา่ นวา่ พด - จะ - มาน)
คา� พดู
พะยอม ชอื่ ไมย้ นื ตน้ ขนาดใหญ ่ ดอกสขี าว
มกี ลน่ิ หอม
เพลงฉอ่ ย ช่ือเพลงพ้นื บ้านภาคกลาง ชาย
หญิงนิยมร้องโต้ตอบกันไปมา
เมื่อร้องจบลูกคู่จะร้องรับพร้อม
กนั วา่ “ชา ฉา ชา ฉาด ชา
หนอยแม่”
เมนิ เบือนหนา้ เสีย, ไมด่ ู, ไมแ่ ล
ระอา เบอื่ หนา่ ย, รา� คาญ หรอื หมดกา� ลงั ใจ
เพราะถูกรบกวน
สกุณา (อา่ นวา่ สะ - กุ - นา)
นก
หยาม ดหู มิน่ , ดถู กู
หาว ทอ้ งฟ้า

หนำ้ ส่สี ิบสำม 43

ôº··èÕ

䡋ᨌ᫋àÊÂÕ §

บทที่ ๔ ไก่แจแ้ ซ่เสยี ง

ฉ นั เขยี นเรอื่ งนใ้ี หเ้ พอ่ื นรกั คหู่ นงึ่ กบั ครอบครวั ที่
นา่ รกั ของเขา ความจรงิ เขาไมใ่ ชค่ นหรอก แตเ่ ปน็
ไก่แจ้ เพ่ือนๆ รู้จักไก่แจ้ไหม ถ้าอยากรู้จักก็ตาม
ฉนั มา
ไกแ่ จข้ องฉนั ชอื่ เจา้ สรอ้ ย กบั เจา้ สวย
เจา้ สรอ้ ยเปน็ ไกแ่ จต้ วั ผ ู้ สว่ นเจา้ สวยเปน็ ไกแ่ จต้ วั เมยี
พ่อซื้อเจ้าสร้อยกับเจ้าสวยให้เป็นของขวัญวันเกิด
เมือ่ ปที ่ีแลว้ ฉนั ดใี จมาก เพราะอยากมีสตั ว์เลี้ยง
เป็นของตัวเองมานานแลว้
เจ้าสร้อยกับเจ้าสวยเปน็ ไกแ่ จพ้ นั ธไ์ุ ทย พ่อ
บอกฉนั วา่ คนไทยเลย้ี งไกม่ านานแลว้ ไกแ่ จ้เป็น
ไก่สวยงาม ลา� ตัวเลก็ และเตยี้ ตวั ผู้มสี ีสนั สดใส
หงอนเป็นแฉก หางเรียวยาวโคง้ งอน สว่ นตวั เมีย
สีไมส่ วยเทา่ ตัวผู้
ไกแ่ จม้ ขี นหลายสี บางตัวมีสีเดยี วลว้ นๆ เชน่
สีขาว สดี �า สีเทา บางตัวมหี ลายสปี นกัน บางที
เรยี กชอื่ ตามสที ีต่ ่างกนั เช่น สปี ระดู่ สีดอกหมาก
สกี ระ

46 หนา้ สี่สิบหก

วรรณคดีลา� น�า ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๒

เจา้ สรอ้ ยของฉนั มลี า� ตวั สดี า� สนทิ มขี นสรอ้ ย
คอเป็นร้ิวๆ สีขาวนวลเหมือนสีดอกหมาก และมี
ขนหางสเี ดยี วกนั เขาจงึ เรยี กวา่ “ไกส่ ดี อกหมาก”
ส่วนเจ้าสวยเป็นไก่สีประดู่ ขนของมันสีน้�าตาล
คลา้ ยๆ กบั สนี กกระจอก นกกระจอกไทยนะ ไมใ่ ช่
นกกระจอกเทศ
ท้ังเจ้าสร้อยและเจ้าสวย ชอบกินข้าวเปลอื ก
แมลงและหญ้า หรอื อาหารไกท่ ี่มีขายตามตลาด
มันกินอาหารไมม่ าก แตก่ ินได้ตลอดท้งั วนั

หนา้ สส่ี ิบเจ็ด 4๗

บทท่ี ๔ ไก่แจ้แซเ่ สยี ง

พ่อท�าบ้านเล็กๆ ให้มันอยู่ ตอนเช้าก็ปล่อย
ออกมาเดินเล่นในสนามหญ้าหน้าบ้าน ทั้งคู่เดิน
เตาะแตะ ตว้ มเตีย้ ม ดนู ่ารักน่าขัน
เจา้ สร้อยกบั เจ้าสวยตนื่ แต่เชา้ มันตืน่ กอ่ น
พอ่ กบั แมเ่ สยี อกี พอตน่ื ขนึ้ มา เจา้ สรอ้ ยกโ็ กง่ คอ
ขันเลยทีเดียว จนฉันอยากเปล่ียนช่ือมันเป็น
“เจ้านาฬก าปลุก” กห็ ลายคร้ัง
พ่อบอกฉันว่า ให้ดูตวั อย่างไก่แจ ้ เพราะไก่แจ้
ขยนั คนเราต้อง “ต่ืนก่อนไก”่ จะได้เป็นคนขยนั
แล้วพอ่ กช็ อบท่องกลอน ไกแจ ใหฟ้ งั จนฉันจ�าได ้
เพื่อนๆ อยากฟงั ไหม ฉันจะท่องใหฟ้ ัง

4๘ หน้าส่สี บิ แปด

วรรณคดลี �าน�า ช้ันประถมศึกษาปที ่ี ๒

ไกแ่ จ้
ไกเ่ อย๋ ไกแ่ จ้
ถึงยามขนั ขนั แซ่กระชั้นเสยี ง
โก่งคอเร่ือยรอ้ งซอ้ งส�ำเนียง
ฟังเพยี งบรรเลงวงั เวงดัง
ถ้าตัวเราเหล่านี้หม่ันนึก
ถงึ คุณครผู ฝู้ ึกสอนสั่ง
ไมม่ ากนักสักวันละสองคร้ัง
คงตัง้ แต่สขุ ทกุ วนั เอย

(หม่อมเจ้าประภากร, ดอกสรอ้ ยสุภำษติ , กระทรวงศึกษาธิการ.)
บทอาขยาน บทเลอื ก

หน้าสส่ี บิ เก้า 49

บทที่ ๔ ไก่แจแ้ ซเ่ สยี ง

กลอนที่ฉันท่องให้ฟังน้ี พ่อบอกว่าเป็นบท
ดอกสร้อยสุภาษิตทีเ่ ปน็ บทอ่านของเก่า นักเรียน
แตก่ อ่ นเขาท่องจ�ากัน ฉนั วา่ พวกเรากค็ วรท่องจ�า
ดว้ ย เพอ่ื นๆ เหน็ ดว้ ยไหม ถา้ เรานกึ ถงึ คา� สอนของ
คณุ คร ู ขยนั อา่ นหนงั สอื วนั ละครงั้ สองครง้ั เหมอื น
ที่ไก่แจ้ขยนั ขัน เรากค็ งมีความสุขทกุ วนั
แมข่ องฉันก็เหมือนกัน ชอบน�าไกม่ าเปรียบ
กบั คน แมบ่ อกใหฉ้ นั อาบน�้าแตง่ ตวั ซักเส้อื ผา้ ให้
สะอาด ให้ฉนั ดูอย่างเจา้ สร้อยกับเจ้าสวย เพราะ
มันชอบไซ้ขน ทา� ความสะอาดขนของมนั ทุกวนั
แมช่ อบพดู วา่ “ไกง่ ามเพราะขน คนงามเพราะแตง่ ”
ฉนั วา่ ยงั มสี า� นวนอกี มากทเี่ กย่ี วกบั ไก ่ แตฉ่ นั
นกึ ไดเ้ ทา่ น้ ี เพอ่ื นๆ ล่ะ เคยได้ยินส�านวนอะไร
อกี บา้ ง
สายแล้ว ฉนั คงเขียนเท่าน้กี ่อน จะตอ้ งรบี ไป
ดเู จา้ สร้อยกบั เจ้าสวย พ่อบอกว่าวันน้ีเจา้ สวยจะ
มีลูกเจีย๊ บเล็กๆ เพราะมนั
ฟกั ไข่มา ๒๑ วนั แลว้

50 หน้าห้าสบิ

วรรณคดลี �านา� ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๒

แหม! ฉันตื่นเต้นจริงๆ ท่ีจะได้เห็นลูกเจี๊ยบ
ตัวเล็กๆ ในครอบครัวของเจ้าสร้อยกับเจ้าสวย
ลกู ๆ ของมันจะมสี ีอะไรบา้ งนะ

หน้าหา้ สบิ เอ็ด 5๑

บทท่ี ๔ ไก่แจแ้ ซ่เสียง

ชวนร้อง เลน่ เรยี น อ่าน เขียน คิด

๑. ไก่แจ้ เป็นบทดอกสร้อยท่ีไพเราะ น่าอ่าน น่าฟัง ให้
ข้อคิดเตือนใจ โดยยกความขยันขันแข็งของไก่แจ้มา
เปรียบเทยี บ
๒. บทดอกสรอ้ ยนใี้ ชค้ า� งา่ ย อา่ นแลว้ คลา้ ยกบั ไดเ้ หน็ ภาพ
และไดย้ ินเสยี งขนั ของไกแ่ จ้ เช่น

ไก่เอย๋ ไก่แจ้
ถึงยามขนั ขนั แซก่ ระชนั้ เสยี ง
โกง่ คอเร่ือยรอ้ งซ้องสา� เนยี ง
ฟงั เพียงบรรเลงวังเวงดัง

๓. อา่ นบทเรยี นเรอ่ื ง ไกแ่ จแ้ ซเ่ สยี ง แลว้ บอกไดห้ รอื ไมว่ า่ อะไร
คอื ความดีของไกแ่ จ้ ซ่งึ เราควรถอื เปน็ ตวั อยา่ ง
๔. ในบทดอกสร้อย ไก่แจ้ มคี า� ใดบ้าง ท่มี คี วามหมาย
เกย่ี วข้องกบั “เสยี ง”

52 หน้าห้าสบิ สอง

วรรณคดีล�านา� ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๒

๕. อ่านเพอื่ สังเกตจังหวะและลลี าถอ้ ยคา�
ขันแซ่
ขันแซเ่ สียงไกข่ นั ต่างขยนั ในหน้าที่
หมน่ั เพียรท�าความด ี แบบอยา่ งนี้จงจดจ�า

กระช้ันเสียง เป็นสา� เนยี งไม่ควรทา�
กระชากกระช้ันเสียง ทกุ ถ้อยค�าประทบั ใจ
วาจาไพเราะนา�

โกง่ คอ
โกง่ คอจนตัวโก่ง พดู ผางโผงจงเลย่ี งไป
อ่อนหวานคนรักใคร่ พดู นม่ิ นวลชวนชื่นชม

เรือ่ ยรอ้ ง แสนเสนาะสรา้ งสขุ สม
เรอื่ ยรอ้ งท�านองเพราะ นอ้ มนยิ มแต่ส่งิ ดี
ฝึกใจใหร้ ่นื รมย ์

หนา้ หา้ สิบสาม 53

บทท่ี ๔ ไก่แจ้แซเ่ สียง

ซ้องสา� เนียง
ซ้องส�าเนียงที่เรยี งร้อย บทดอกสร้อยสรา้ งสขุ ศรี

เรียงคา� ลา้� วจ ี มีมานานลูกหลานไทย

บรรเลง
บรรเลงเป็นเพลงขบั ต่างรอ้ งรบั เสียงสดใส

ฟงั แลว้ ชน่ื หวั ใจ น่คี อื ไทยในกมล

๖. ร อ้ งเพลงเกีย่ วกับไกแ่ ละแสดงทา่ ทางประกอบ
เพลง ไก่งามเพราะขน
ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง

บ้านเมอื งจดั แจง กเ็ จริญรุ่งเรอื ง

รักสวยรักงาม รักความสามัคคี

ท�าแต่ความดี ก็เป็นศรบี า้ นเมอื ง

(ฉนั ท์ ขา� วไิ ล, หนังสอื บทขบั รอ้ ง เล่ม ๓.)

มีเพลงเกยี่ วกับไก่ท่นี ่ารกั น่าร้องอีกหรอื ไม ่ นา� มารอ้ ง
แลกเปล่ียนกัน

54 หนา้ ห้าสิบส่ี

วรรณคดีล�าน�า ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๒

๗. อ า่ นบทดอกสรอ้ ยตอ่ ไปนแ้ี ลว้ พจิ ารณาความหมาย
ไกแ่ กว้

ไก่เอ๋ยไก่แกว้
ขันแวว่ ปลุกเรายามเชา้ ตรู่
เสียงไกข่ ันเตือนจติ ให้คดิ ดู
ไฉนไกจ่ งึ ร้จู กั เวลา
ขืนนอนสายตอ่ ไปไมด่ แี น่
คนจะแพ้ไก่แก้วเสยี แลว้ หนา
ทกุ ชวั่ โมงนาทีมีราคา
ลกุ ขนึ้ มากอบกจิ สมั ฤทธิ์เอย

(ฐะปะนยี ์ นาครทรรพ, ศกึ ษำภำษติ และร้อยกรอง.)

๘. เขยี นเกยี่ วกบั ไก่
๑) ลองคิดและเขยี นผสมค�าทมี่ ีคา� ว่า ไก่
๒) รวบรวมภาพไกพ่ นั ธต์ุ า่ งๆ แลว้ แตง่ ประโยคสนั้ ๆ
เก่ียวกบั ไก่ ตามความคดิ ของนกั เรยี น
๓) รวบรวมประโยชนข์ องไกว่ า่ มอี ะไรบา้ ง เขยี นบนั ทกึ
แล้วนา� มาเพิ่มเติมแลกเปลยี่ นกนั

หนา้ หา้ สบิ หา้ 55

บทที่ ๔ ไกแ่ จ้แซเ่ สียง

กมล ค�าศพั ท์
กระ ใจ
ชอื่ เตา่ ทะเลชนดิ หนงึ่ มกั เรยี กวา่
เต่ากระ กระดองสีน�้าตาลปน
เหลอื ง เรยี กสอี ยา่ งสกี ระดองของ
กระชนั้ เตา่ กระว่า สีกระ
ถ,่ี ใกลเ้ ขา้ มา ใชแ้ กเ่ วลา การกระทา�
เหตุการณ์หรืออาการที่ออกเสยี ง
ซ้อง ถๆี่ เชน่ ไกข่ นั กระชน้ั เสยี ง
นกกระจอก รอ้ งพรอ้ มๆ กนั , ร้องสรรเสริญ
ชอื่ นกขนาดเล็ก พบไดท้ วั่ ไป
บรรเลง ขนสนี า้� ตาล รอ้ งเสยี งดงั “จอ๊ กๆ”
ประดู่ ท�าเพลงด้วยเครอ่ื งดนตรี
ช่อื ไม้ยนื ต้นขนาดใหญ ่ มหี ลาย
ชนิด ดอกเปน็ ชอ่ สวยงาม เนอื้ ไม้
สนี า้� ตาล เรยี กสีอย่างสีเน้อื ไม้
ของตน้ ประดูว่ า่ สปี ระดู่

56 หนา้ หา้ สบิ หก

วรรณคดีลาํ นาํ ช้นั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒

วังเวง บรรยากาศทส่ี งบเยอื กเยน็ ทาํ ให
เกดิ ความรสู กึ อา งวา ง วา เหวและ
ศรี เปลาเปลีย่ วใจ
สัมฤทธิ์ สริ มิ งคล, ความรงุ เรอื ง, ความสวา ง
สําเนยี ง สุกใส, ความงาม, ความเจรญิ
หมาก ความสาํ เรจ็
เสียง, น้าํ เสียง, หางเสยี ง, วธิ ี
ออกเสียง
ช่อื ไมยนื ตน ผลใชเ คย้ี วรวมกบั
ใบพลแู ละปนู แดง ดอกสขี าวนวล
เรยี กสอี ยา งสขี องดอกตน หมาก
วา สดี อกหมาก

หนาหา สิบเจด็ ๕๗

õº··Õè

ÀÒ¾ÇÒ´¢Í§ÊàÕ ·Õ¹

หนา้ 59

บทท่ี ๕ ภาพวาดของสีเทียน

เ ธอรจู้ กั สเี ทียน ไหม
สเี ทยี นไมใ่ ชแ่ ทง่ สสี า� หรบั ระบายภาพ แตเ่ ปน็
ชอ่ื นอ้ งชายคนเกง่ ของฉันเอง บางทีฉันคดิ ว่าเขา
เป็นสีเทียนจริงๆ เพราะเขาวาดภาพเกง่ มาก เกง่
กวา่ ฉนั เสยี อกี
สีเทียนวาดทุกอย่างท่ีอยากวาด วาดภูเขา
แมน่ า้� ตน้ ไม ้ เสอื กวาง ผเี สอื้ แตท่ สี่ เี ทยี นชอบวาด
ทสี่ ดุ คอื ไดโนเสาร์

60 หน้าหกสบิ

วรรณคดลี า� นา� ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๒

เวลาสเี ทยี นวาดรปู ไดโนเสาร์
เขาลากเสน้ โดยไมย่ กมอื เลย ไมใ่ ช้
ยางลบด้วย วาดทีเดียวกเ็ ปน็ รูป
ไดโนเสาร์คอยาวๆ หนา้ ตาดูตลก
วนั หนง่ึ พอ่ กบั แมพ่ าเราไปเทยี่ วอทุ ยานแหง่ ชาติ
เขาใหญ่ เป็นครั้งแรกทฉี่ ันกบั สเี ทียนได้ไปเที่ยว
ทน่ี ัน่ อุทยานแหง่ ชาตเิ ขาใหญ่ใหญส่ มช่อื มีภเู ขา
ปา่ ไม ้ นา�้ ตก สตั วป์ า่ และมนี กั ทอ่ งเทยี่ วเตม็ ไปหมด
พ่อบอกว่า วันน้เี ขามีงานเทศกาลเขาใหญ ่ มี
ประกวดวาดภาพ คดั ลายมอื และอา่ นทา� นองเสนาะ
เร่อื ง รกั ษาปา่ มนิ า่ ล่ะ พอ่ กบั แม่ถึงได้พาเรามา
กอ่ นการประกวดมดี นตรแี สดง และมเี จา้ หนา้ ท่ี
ของอทุ ยานมาเล่าเรอ่ื งเขาใหญ ่ เล่าเรอื่ งป่าไม้
และสตั วป์ า่ ทง้ั ยงั เลา่ เรอ่ื งคนใจรา้ ยทลี่ กั ลอบมา
ตดั ไมแ้ ละลา่ สัตว์ เขามีภาพถ่ายให้ดูดว้ ย ฉันเห็น
กวางแมล่ กู ออ่ นตวั หนง่ึ ถกู ฆา่ ลกู ของมนั ยงั เลก็ อย่ ู
น่าสงสารจังเลย

หน้าหกสิบเอ็ด 61

บทท่ี ๕ ภาพวาดของสเี ทยี น

แมส่ ่งฉนั เข้าประกวดอา่ นท�านองเสนาะ แม่
บอกวา่ “ฉนั อา่ นทา� นองเสนาะไดด้ ”ี พอ่ พาสเี ทยี น
ไปประกวดวาดภาพ สีเทียนหนั มาโบกมอื ให้ฉัน
แลว้ บอกว่า “จะวาดรปู มาฝาก” ฉนั ยมิ้ ให้สเี ทียน
กอ่ นจะตามแมไ่ ปทเ่ี วทปี ระกวดอา่ นทา� นองเสนาะ
เด็กๆ มารว่ มอา่ นท�านองเสนาะกนั หลายคน
เจ้าหน้าท่ีน�าข้อความที่ให้อ่านประกวดมาแจก
แลว้ บอกใหเ้ ราซอ้ มอา่ นกนั กอ่ น เปน็ ค�าประพันธ์
ทไี่ พเราะมาก ฉนั จะลองอา่ นใหเ้ ธอฟงั นะ

62 หน้าหกสิบสอง

วรรณคดลี า� นา� ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๒

รกั ษาปา่
นกเอยนกน้อยนอ้ ย บนิ ลอ่ งลอยเปน็ สขุ ศรี
ขนขาวราวสา� ลี อากาศดไี ม่มีภยั
ทกุ ทศิ เจา้ เที่ยวท่อง ฟ้าสีทองอนั สดใส
มปี ่าพาสขุ ใจ มตี น้ ไมม้ ีลา� ธาร
ผู้คนไมม่ โี รค นบั เป็นโชคสขุ ส�าราญ
อากาศไรพ้ ษิ สาร สตั วช์ ่ืนบานดนิ ชืน่ ใจ
คนสัตว์ไดพ้ ึ่งปา่ มารกั ษาปา่ ไม้ไทย
สิ้นป่าเหมือนส้ินใจ ชว่ ยปลกู ใหมไ่ วท้ ดแทน

(บทอาขยานภาษาไทย ระดบั ประถมศกึ ษา, กระทรวงศึกษาธกิ าร.)
บทอาขยาน บทหลกั

หน้าหกสิบสาม 6๓

บทท่ี ๕ ภาพวาดของสีเทยี น

ฉนั อา่ นเพราะไหมละ่ แตแ่ มบ่ อกวา่ ยงั ออกเสยี ง
ผดิ อยู่หลายตอน เช่น ยังออกเสยี งตวั ร เรอื ล ลิง
ไมช่ ัด และต้องเว้นจงั หวะใหถ้ กู แลว้ แมก่ ็อา่ นให้
ฉนั ฟัง เสียงใสเชยี ว จนคนขา้ งๆ หันมาดู แตแ่ ม่
กไ็ มส่ นใจหรอก แม่อ่านท�านองเสนาะได้ไพเราะ
มาก ฉันฝก อ่านตามแมจ่ นคลอ่ ง
เธอชอบคา� ประพนั ธท์ ฉ่ี นั อ่านบ้างไหม ลอง
อา่ นวรรคนดี้ สู ิ

6๔ หนา้ หกสิบส่ี

วรรณคดลี �าน�า ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๒

คนสัตวไ์ ด้พึ่งป่า
มารกั ษาป่าไม้ไทย
สิน้ ปา่ เหมอื นสนิ้ ใจ
ช่วยปลูกใหมไ่ ว้ทดแทน

พออ่านถึงตอนน ้ี ฉันนึกถึงเร่ืองท่เี จา้ หนา้ ท่ี
อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เลา่ ให้ฟงั ฉันอยากให้
คนไทยทุกคนรกั ป่า ไม่ตัดไม้ทา� ลายป่า แลว้ ก็
ชว่ ยกนั ปลกู ตน้ ไมบ้ า้ ง ฉนั อยากเหน็ ทกุ หนทกุ แหง่
มีป่าอุดมสมบรู ณ์ มีสตั วป์ า่ อาศยั มีเสือ ช้าง
กวางและผีเส้ือสีสวยเหมือนป่าทเี่ ขาใหญ่ เธอคดิ
เหมือนฉันไหม
วันน้ัน ฉันไม่ได้รางวัลท่ีหน่ึงหรอก แต่ฉัน
ได้ท�าดีที่สุดแล้ว ฉันได้รางวัลท่ีสอง ได้หนังสือ
เรอื่ ง อทุ ยานแหง่ ชาตเิ ขาใหญเ่ ปน็ รางวลั แมบ่ อก
ฉนั วา่ “ไมต่ อ้ งเสยี ใจ คนเราไมต่ อ้ งเปน็ ทห่ี นง่ึ เสมอ
ไป เป็นท่ีสองก็ได้ แม้ว่าลูกจะไม่ได้รางวัล แม่ก็

หน้าหกสิบห้า 65

บทที่ ๕ ภาพวาดของสีเทียน

ภมู ใิ จทลี่ กู ไดร้ ว่ มกจิ กรรม” ฉนั กอ็ ยากบอกเธอวา่
ฉนั ไม่เสียใจ ฉันดีใจต่างหากท่ีได้มาอ่านเร่ืองดีๆ
อยา่ งน้ี
สีเทียนยังเป็นน้องชายคนเก่งของฉันเสมอ
สเี ทยี นไดร้ างวลั ทห่ี นงึ่ เขาชนะการประกวด ไดร้ บั
รางวลั เปน็ ดนิ สอสหี ลายกลอ่ ง มที ง้ั สไี มแ้ ละสเี ทยี น
พอ่ กบั แม่ยิ้มแกม้ แทบปริ พ่อเทย่ี วเดินบอกใคร
ตอ่ ใครวา่ “วนั นี้ลูกของผมได้รางวัลทง้ั ค่”ู พร้อม
กับชวนฉนั และแมไ่ ปดูภาพวาดของสเี ทียน
ภาพของสเี ทยี นทไ่ี ดร้ บั รางวลั ตดิ อยทู่ ก่ี ระดานดา�
หนา้ เวท ี ฉนั รไู้ ดท้ นั ทวี า่ ภาพไหนเปน็ ของนอ้ งชาย
คนเกง่ ของฉนั
ภาพวาดของสีเทียนนา่ รักมาก เขาวาดรปู
ปา่ ใหญแ่ หง่ หนง่ึ มีเสอื ช้าง กวาง ลงิ นกเงอื ก
ผเี สื้อและสัตว์ป่าอน่ื ๆ อยรู่ ว่ มกันกบั เด็กๆ อย่าง
มคี วามสุข และมไี ดโนเสารค์ อยาวดว้ ย

66 หน้าหกสิบหก

วรรณคดลี า� นา� ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี ๒

ชวนรอ้ ง เล่น เรียน อ่าน เขียน คิด

๑. เรอื่ ง รกั ษาปา่ เปน็ บทรอ้ ยกรองประเภทกาพยย์ าน ี ๑๑
ผแู้ ตง่ แตง่ ขนึ้ เพอื่ ใหเ้ หน็ คณุ คา่ ของปา่ ไม ้ ซง่ึ เปน็ ทรพั ยากรท่ี
มีค่าของไทย ถา้ มปี า่ ไมก้ จ็ ะมสี ตั วป์ า่ และคนกจ็ ะไดพ้ ง่ึ พา
อาศยั ปา่
๒. บทร้อยกรองเร่ืองนใ้ี ช้คา� ง่ายและไพเราะ เพราะมีค�า
ทีม่ เี สยี งสัมผัสคล้องจองกนั หลายคา� เชน่

ขนขาวราวส�าลี อากาศดีไมม่ ภี ัย
ทุกทศิ เจ้าเท่ยี วท่อง ฟ้าสที องอันสดใส
คา� ทีส่ ัมผสั คล้องจองกนั เชน่ ขน - ขาว - ราว
ทิศ - เทีย่ ว - ทอ่ ง - ทอง

๓. นกั เรียนชอบบทรอ้ ยกรอง รักษาปา่ หรือไม่ เพราะ
เหตใุ ด
๔. ชว่ ยกันพจิ ารณาว่าบทรอ้ ยกรอง รกั ษาป่า ตอนใดอ่าน
แลว้ มองเห็นภาพได้ชดั เจน
๕. ถ้าหากป่าไมห้ มดจากเมอื งไทย ลองคิดดวู า่ จะเกิด
อะไรข้นึ

หนา้ หกสบิ เจ็ด 67

บทที่ ๕ ภาพวาดของสีเทียน

๖. นักเรียนชอบวาดภาพหรอื ไม่ ถา้ นักเรียนไปเทยี่ วป่า
นักเรยี นจะวาดภาพอะไรบา้ ง
๗. ช่วยกันอ่านและสังเกตค�าเหล่าน้ีว่ามีความหมาย
เดียวกนั และบางค�าใชใ้ นขอ้ เขียนท่วั ไป หรือใช้ในบท
รอ้ ยกรองกไ็ ด ้ แตบ่ างคา� ใชเ้ ฉพาะในบทรอ้ ยกรอง เชน่

ใชใ้ นขอ้ เขยี นทวั่ ไปหรอื บทรอ้ ยกรอง ใชเ้ ฉพาะบทรอ้ ยกรอง

ฟ้า นภา เวหา หาว

นก สกุณา ปกั ษา วหิ ค

ช้าง คช สาร กุญชร

อา่ นบทรอ้ ยกรอง ดภู าพประกอบ และตอบคา� ถาม
หลายคา� แปลวา่ ปา่ พงพ ี พนา แดนดง พงไพร
ภาพปา่ ตรงกบั ภาพไหน สา� คญั เพยี งใดการรกั ษาปา่

ภาพไหนเรยี กวา่ ปา่ แลว้ อกี สองภาพเปน็ ภาพอะไร

68 หน้าหกสบิ แปด

วรรณคดลี า� นา� ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๒

๘. ร้องเพลงและท�าท่าทางประกอบ
นกนอ้ ยนอ้ ย

น กเอยนกนอ้ ยนอ้ ย บินลอยตามสายลม
ปีกหางกางสวยสม บินเล่นลมระเรงิ ใจ
นกเอยนกนอ้ ยนอ้ ย บนิ ลอยตามลมไป
บอกแม่วา่ ดวงใจ แมอ้ ยู่ไกลคะนึงถงึ

(คณุ หญิงเบญจา แสงมลิ, ทา� นองตอ้ ยตริ่ง)

ชมไพร
ป่าน้เี ขาวา่ มีวหิ ค เหล่านกนบั ร้อยพัน
มาชว่ ยกัน มาชว่ ยกนั ชมไพร นะเพอ่ื นเอย ใหเ้พลดิ เพลนิ (ซา�้ )
ป่าน้เี ขาว่ามคี วามสุข สนุกดงั เชอ้ื เชิญ
ใหก้ า้ วเดิน ให้กา้ วเดนิ ชมไพร นะเพื่อนเอย วิไลตา (ซา้� )

(ฐะปะนีย ์ นาครทรรพ, ทา� นองเพลงเขมรก�าปอ)

๙. อ่านทา� นองเสนาะ และท่องบทรอ้ ยกรอง รักษาปา่
๑๐. เขียนคา� ขวญั เชญิ ชวนให้รักษาปา่

หน้าหกสิบเก้า 69

บทท่ี ๕ ภาพวาดของสเี ทียน

ค�ำศพั ท์

ค�ำประพันธ ์ แตง่ เรยี บเรยี ง รอ้ ยกรอง หรอื ผกู
ถอ้ ยคำ� เปน็ ขอ้ ควำมเชงิ วรรณคดี
ไดโนเสำร์ ชื่อสัตว์เล้ือยคลำนยุคก่อน
ประวตั ศิ ำสตรพ์ วกหน่ึง รปู รำ่ ง
คลำ้ ยกงิ้ กำ่ ยกั ษ ์ แตม่ ขี นำดใหญ ่
กว่ำมำก มีหลำยชนิด บำงชนิด
กินพืช บำงชนดิ กินเนื้อสตั ว์
ทดแทน ตอบแทน, ชดใช้ หรือชดเชย
สงิ่ ทเี่ สยี ไป
ทำ� นองเสนำะ วธิ กี ำรอำ่ นออกเสยี งอยำ่ งไพเรำะ
ตำมลลี ำของบทรอ้ ยกรองประเภท
โคลง ฉนั ท ์ กำพย ์ กลอน
เทศกำล (อ่ำนว่ำ เทด - สะ - กำน)
           ค ร ำ ว ส มั ย ที่ ก� ำ ห น ด ไ ว ้ เ ป ็ น
ประเพณีเพ่ือท�ำบุญ และกำร
รื่นเริงในท้องถิ่น เช่น ตรุษ
สงกรำนต ์ เข้ำพรรษำ สำรท

70 หน้าเจ็ดสบิ

วรรณคดลี า� น�า ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี ๒

พิษสำร (อ่ำนว่ำ พดิ - สำน)
คอื สำรพษิ สงิ่ ทเ่ี มอื่ ไปถกู หรอื
เข้ำสู่ร่ำงกำยแล้วเป็นพิษหรือ
เปน็ อนั ตรำยแกร่ ำ่ งกำย
รำว เชน่ กับ, พอกับ เช่น สวยรำวกบั
นำงฟำ้
ระเรงิ รำ่ เรงิ บนั เทงิ ใจ,ส นกุ สนำนเบกิ บำน
เตม็ ท่ ี เชน่ แมวไมอ่ ยูห่ นรู ะเรงิ
ลกั ลอบ กระท�ำกำรบำงอย่ำงโดยปิดบัง
ไม่ให้ผู้อ่ืนรู้เห็น มักใช้ในเรื่อง
ที่ไม่ดี เช่น ลักลอบเข้ำเมือง
ลักลอบเลน่ กำรพนัน
อทุ ยำนแห่งชำติ (อำ่ นวำ่ อุด - ทะ  - ยำน -
แห่ง - ชำด)
พ้ืนท่ีท่ีมีพระรำชกฤษฎีกำ
ประกำศก�ำหนดให้สงวนรักษำ
ไว้ใหค้ งสภำพเดมิ ตำมธรรมชำติ

หน้าเจด็ สิบเอ็ด 71

öº··Õè

ÂÒ¡еÒ

หน้า 73

บทท่ี ๖ ยายกะตา

เด็กหญิงมะล ิ ชือ่ เหมอื นดอกมะลิ เธอชอบ
เกบ็ ดอกมะลมิ ารอ้ ยมาลยั บชู าพระ ดอกมะลสิ ขี าว
ส่งกลนิ่ หอมกรนุ่ อย่ใู นสวนหลงั บา้ น ทุกวนั พระ
มะลิจะช่วยยายเก็บดอกมะลิไปบูชาพระท่ีวัดใกล้
บ้าน

74 หนา้ เจ็ดสิบส่ี

วรรณคดีล�านา� ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๒

ว ันหน่ึง ยายพามะลิไปท�าบุญท่ีวัดโพธ์ิ
วัดโพธ์ิเป็นวัดเก่าแก่และส�าคัญมากของกรงุ เทพ-
มหานคร ในวัดโพธ์ิมีเจดีย์หลายองค์ เจดีย์แต่ละ
องคต์ ดิ กระเบอื้ งแตง่ ลายดอกไมห้ ลายส ี มะลบิ อก
ยายวา่ เปน็ เหมอื น “เจดยี ด์ อกไม”้

หนา้ เจด็ สบิ หา้ 75

บทที่ ๖ ยายกะตา

ในวัดโพธิ์มีพระอุโบสถหลังใหญ่และมีพระ
วหิ ารหลายหลัง มีรปู ปน้ั ยักษ ์ มีตุ๊กตาจีนตวั ใหญ่
หนา้ ตาทา่ ทางขงึ ขงั ยนื เฝา้ ประต ู เหมอื นคอยจอ้ งมอง
คนทเี่ ดนิ ผา่ นไปมา มะลไิ มก่ ลา้ มองหนา้ ตกุ๊ ตาจนี นกั
เธอกลวั วา่ มนั จะโกรธ ถา้ ตกุ๊ ตาจนี โกรธ มนั คงจะ
กระโดดเขา้ มาจบั ตวั เธอ
“ไมต่ อ้ งกลวั หรอกหลาน มนั เปน็ ตกุ๊ ตาหนิ
เทา่ นัน้ เอง” ยายบอกแลว้ หัวเราะเมือ่ เห็นมะลิ
ท�าท่ากลัวตกุ๊ ตาตวั ใหญ่
ยายกับมะลิเข้าไปไหว้พระในพระอุโบสถ
หลงั ใหญ่ ในพระอโุ บสถมีพระพทุ ธรูปองคเ์ ล็ก
และพระพุทธรูป
องค์ใหญ่ มี
ภาพลายไทย
และภาพวาด
จ� า น ว น ม า ก
อยทู่ ฝี่ าผนัง

76 หนา้ เจ็ดสิบหก

วรรณคดลี า� น�า ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๒

ย ายบอกมะลวิ า่ “ภาพวาดนม้ี คี า่ เราตอ้ งชว่ ยกนั
รกั ษาอย่าไปทา� ลาย มาสิ ยายจะพาไปดูภาพ
นทิ านเรอื่ ง ยายกะตา ปลกู ถว่ั ปลกู งาใหห้ ลานเฝา้ ”
“ภาพนิทานอยู่ทไ่ี หนหรอื จะ๊ ยาย รีบพาหนู
ไปดูหน่อย” มะลิบอกยาย ทา่ ทางดใี จ
ยายพามะลไิ ปท่ีหนา้ ต่างพระอโุ บสถ ตรง
หน้าต่างบานใหญม่ ภี าพลายไทยและภาพนทิ าน
“นไี่ งละ่ หลาน ภาพนทิ านเรอื่ ง ยายกะตา” ยาย
ช้ใี หม้ ะลดิ ภู าพวาดที่เชงิ บานหน้าต่าง หน้าตา่ ง
หนึง่ บาน มภี าพนิทานหน่ึงภาพ
“หนอู ยากฟงั นทิ านในภาพไหมจะ๊ ” ยายถาม
มะลิ
“อยากฟังสจิ ๊ะยาย” มะลิตอบ “หนรู อฟังอยู่
แล้ว”
“ถา้ อยา่ งนนั้ กต็ ามยายมา” ยายวา่ พลางขยบั
เข้าไปใกล้บานหน้าตา่ ง แล้วเร่มิ ตน้ เลา่ นทิ านไป
ทีละภาพ

หน้าเจด็ สบิ เจด็ 77

บทท่ี ๖ ยายกะตา

ยายกะตา

ยายกะตาปลกู ถวั่ ปลูกงาใหห้ ลานเฝ้า
หลานไมเ่ ฝ้า
กามากนิ ถ่วั กินงาเจ็ดเมลด็ เจด็ ทะนาน

78 หนา้ เจด็ สบิ แปด

วรรณคดลี �าน�า ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๒

ย ายมายายกด็ า่ ตามาตากต็ ี

หน้าเจ็ดสบิ เก้า 79

บทที่ ๖ ยายกะตา

หลานรอ้ งไหไ้ ปหานายพราน ขอให้ชว่ ยยงิ กา
กากินถว่ั กนิ งาเจ็ดเมลด็ เจ็ดทะนาน
ยายมายายก็ดา่ ตามาตากต็ ี
นายพรานตอบวา่ “ไม่ใชก่ งการอะไรของข้า”

80 หนา้ แปดสบิ

วรรณคดีลา� น�า ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี ๒

หลานจึงไปหาหนู ขอใหช้ ่วยกัดสายธนนู ายพราน
นายพรานไม่ช่วยยงิ กา
กากินถ่ัวกนิ งาเจด็ เมลด็ เจด็ ทะนาน
ยายมายายก็ดา่ ตามาตากต็ ี
หนตู อบวา่ “ไมใ่ ชก่ งการอะไรของขา้ ”

หน้าแปดสบิ เอด็ 81

บทท่ี ๖ ยายกะตา

หลานจงึ ไปหาแมว ขอใหแ้ มวช่วยกดั หนู
หนูไมช่ ่วยกัดสายธนูนายพราน
นายพรานไมช่ ่วยยงิ กา
กากนิ ถั่วกินงาเจ็ดเมลด็ เจด็ ทะนาน
ยายมายายก็ด่า ตามาตากต็ ี
แมวตอบว่า “ไมใ่ ช่กงการอะไรของข้า”

82 หน้าแปดสิบสอง

วรรณคดลี า� น�า ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๒

หลานจึงไปหาหมา ขอใหช้ ่วยกดั แมว 83
แมวไมช่ ว่ ยกัดหนู
หนไู มช่ ว่ ยกดั สายธนูนายพราน
นายพรานไมช่ ว่ ยยงิ กา
กากนิ ถั่วกินงาเจ็ดเมล็ดเจด็ ทะนาน
ยายมายายก็ดา่ ตามาตาก็ตี
หมาตอบว่า “ไมใ่ ชก่ งการอะไรของข้า”

หนา้ แปดสิบสาม

บทที่ ๖ ยายกะตา

หลานจงึ ไปหาไม้ค้อนให้ย้อนหัวหมา
หมาไมช่ ว่ ยกดั แมว
แมวไม่ช่วยกัดหนู
หนูไมช่ ่วยกดั สายธนูนายพราน
นายพรานไมช่ ่วยยงิ กา
กากินถั่วกินงาเจ็ดเมล็ดเจด็ ทะนาน
ยายมายายก็ดา่ ตามาตาก็ตี
ไม้คอ้ นตอบวา่ “ไมใ่ ช่กงการอะไรของขา้ ”

84 หน้าแปดสบิ สี่

วรรณคดีลา� นา� ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี ๒

หลานจึงไปหาไฟให้ช่วยไหม้ไมค้ ้อน 85
ไม้ค้อนไม่ช่วยย้อนหวั หมา
หมาไมช่ ว่ ยกัดแมว
แมวไมช่ ่วยกดั หนู
หนูไมช่ ่วยกดั สายธนนู ายพราน
นายพรานไม่ช่วยยงิ กา
กากนิ ถว่ั กนิ งาเจด็ เมล็ดเจด็ ทะนาน
ยายมายายกด็ า่ ตามาตากต็ ี
ไฟตอบว่า “ไม่ใช่กงการอะไรของขา้ ”

หนา้ แปดสบิ ห้า

บทที่ ๖ ยายกะตา

หลานจึงไปหาน�า้ ใหช้ ่วยดบั ไฟ
ไฟไมช่ ว่ ยไหมไ้ ม้ค้อน
ไมค้ ้อนไม่ชว่ ยยอ้ นหวั หมา
หมาไมช่ ่วยกดั แมว
แมวไม่ช่วยกดั หนู
หนูไม่ช่วยกัดสายธนูนายพราน
นายพรานไม่ชว่ ยยิงกา
กากนิ ถัว่ กนิ งาเจ็ดเมลด็ เจด็ ทะนาน
ยายมายายกด็ า่ ตามาตาก็ตี
นา�้ ตอบวา่ “ไม่ใชก่ งการอะไรของขา้ ”

86 หนา้ แปดสิบหก

วรรณคดลี า� น�า ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๒

หลานจงึ ไปหาตล่ิงใหช้ ่วยพังทบั น้า� 87
นา้� ไมช่ ว่ ยดับไฟ
ไฟไมช่ ว่ ยไหมไ้ มค้ อ้ น
ไม้คอ้ นไมช่ ่วยย้อนหวั หมา
หมาไมช่ ว่ ยกดั แมว
แมวไม่ช่วยกัดหนู
หนูไมช่ ว่ ยกดั สายธนนู ายพราน
นายพรานไมช่ ่วยยงิ กา
กากนิ ถว่ั กนิ งาเจด็ เมล็ดเจ็ดทะนาน
ยายมายายก็ด่า ตามาตากต็ ี
ตลิง่ ตอบว่า “ไม่ใช่กงการอะไรของข้า”

หน้าแปดสบิ เจ็ด

บทที่ ๖ ยายกะตา

หลานจึงไปหาชา้ งให้ช่วยถล่มตลิง่
ตลงิ่ ไม่ชว่ ยพงั ทับน�้า
น้า� ไมช่ ว่ ยดับไฟ
ไฟไมช่ ว่ ยไหม้ไม้คอ้ น
ไมค้ ้อนไมช่ ว่ ยยอ้ นหัวหมา
หมาไมช่ ่วยกดั แมว
แมวไม่ช่วยกัดหนู
หนูไมช่ ่วยกัดสายธนูนายพราน
นายพรานไมช่ ่วยยิงกา
กากินถ่วั กนิ งาเจ็ดเมลด็ เจด็ ทะนาน
ยายมายายกด็ า่ ตามาตาก็ตี
ชา้ งตอบวา่ “ไม่ใชก่ งการอะไรของขา้ ”

88 หน้าแปดสิบแปด

วรรณคดลี า� น�า ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๒

หลานจึงไปหาแมลงหวใี่ ห้ช่วยตอมตาชา้ ง
ชา้ งไม่ช่วยถลม่ ตล่ิง
ตล่งิ ไมช่ ่วยพังทับนา้�
น้า� ไมช่ ว่ ยดับไฟ
ไฟไมช่ ว่ ยไหม้ไมค้ อ้ น
ไมค้ อ้ นไมช่ ่วยย้อนหัวหมา
หมาไม่ช่วยกดั แมว
แมวไม่ช่วยกัดหนู
หนูไม่ชว่ ยกัดสายธนนู ายพราน
นายพรานไมช่ ว่ ยยิงกา
กากนิ ถั่วกนิ งาเจด็ เมล็ดเจด็ ทะนาน
ยายมายายกด็ า่ ตามาตากต็ ี
แมลงหวต่ี อบวา่ “ขา้ จะชว่ ยตอมตาชา้ งใหต้ าเน่า
ทั้งสองข้าง”

หนา้ แปดสบิ เก้า 89

บทที่ ๖ ยายกะตา

ช้างตกใจจึงรบี ไปชว่ ยถลม่ ตล่งิ
ตลิ่งจึงรบี ไปชว่ ยพงั ทบั น้�า
น�า้ จึงรบี ไปช่วยดบั ไฟ
ไฟจงึ รีบไปชว่ ยไหม้ไม้ค้อน
ไม้คอ้ นจึงรีบไปชว่ ยย้อนหวั หมา
หมาจึงรบี ไปชว่ ยกดั แมว
แมวจึงรีบไปช่วยกดั หนู
หนจู งึ รบี ไปช่วยกดั สายธนูของนายพราน
นายพรานจึงรบี ไปช่วยยงิ กา
กาจึงเอาถว่ั เอางาเจด็ เมลด็ เจด็ ทะนานมาคืนหลาน
หลานเอาถวั่ เอางาไปให้แก่ยายกะตา
ยายกะตาก็เลิกด่าเลิกตีหลานแตน่ ั้นมา

90 หนา้ เกา้ สิบ

วรรณคดลี �าน�า ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๒

ยายเล่าพลาง ขยบั ตัวไปพลาง มะลิกข็ ยับ
ตามไปดว้ ย พอเลา่ จบ ทงั้ ยายและหลานกม็ าหยดุ
อยู่ทภี่ าพสุดท้าย
“สนกุ มากเลยจะ้ ยาย” มะลบิ อก เม่อื ได้ฟงั
นทิ านจนจบ
“จะ้ สนกุ มาก เลา่ เรอื่ งนท้ี ไี รยายกส็ นกุ ทกุ ทไี ป”
ยายบอก
มะลกิ ลับไปดภู าพนิทานอกี เธอเห็นภาพ
ยายกบั ตาปลกู ถว่ั ปลกู งาใหห้ ลานเฝ้า ภาพของ
กาทีม่ ากนิ ถั่วกนิ งาเจด็ เมลด็ เจ็ดทะนาน ภาพ
ของหลานสองคนท่ีไปตามคนนั้นคนนี้ให้มาช่วย
แตก่ ไ็ มม่ ใี ครชว่ ย จนในทีส่ ดุ มาพบแมลงหวี่ใจดี
“ยายจ๋า ยายของมะลิเหมือนยายกะตาใน
นทิ านไหมจะ๊ ” มะลถิ าม
“ไมเ่ หมือนหรอกจะ้ ” ยายบอก “ยายของ
มะลไิ มต่ ีไมด่ ่าหลานหรอก”
“ทา� ไมละ่ จ๊ะยาย” มะลถิ ามอีก

หนา้ เกา้ สิบเอด็ 91