อายุยืนหมื่นเท่าเสาศิลา แปลว่า

อายุยืนหมื่นเท่าเสาศิลา แปลว่า

ศิลปะการประพันธ์ในวรรณคดีไทย 
๑. การเล่นเสียง คือการสรรคำให้มีเสียงสัมผัสกัน เช่น การสัมผัสสระ พยัญชนะ และวรรณยุกต์ ยกตัวอย่างเช่น โคลงอักษรสามหมู่ ของพระศรีมโหสถ ดังนี้ 
        จิบจับเจาเจ่าเจ้า รังมา 
        จอกจาบจั่นจรรจา จ่าจ้า 
        เค้าค้อยค่อยคอยหา เห็นโทษ 
        ซอนซ่อนซ้อนสริ้วหน้า นิ่งเร้าเอาขวัญ
สัมผัสสระ 
        - สัมผัสใน เจา-เจ้า-เจ้า,จั่น-จรร,จ่า-จ้า,ค้อย-ค่อย-คอย,ซอน-ซ่อน-ซ้อน,เร้า-เอา 
        - สัมผัสนอก มา-จา-หา,จ้า-หน้า
สัมผัสอักษร
        - สัมผัสใน เจา-เจ้า-เจ้า,จั่น-จรร,จ่า-จ้า,ค้อย-ค่อย-คอย,ซอน-ซ่อน-ซ้อน
สัมผัสวรรณยุกต์
        - สัมผัสใน เจา-เจ้า-เจ้า,จั่น-จรร,จ่า-จ้า,ค้อย-ค่อย-คอย,ซอน-ซ่อน-ซ้อน 
๒. การเล่นคำ คือ การใช้คำพ้องรูปพ้องเสียง การซ้ำคำ การใช้คำถามเชิงวาทศิลป์เพื่อให้เกิดความหมายพิเศษและแปลกออกไป 
การเล่นคำพ้อง 
        “ถึงบางพูดพูดดีเป็นศรีศักดิ์ มีคนรักรถถ้อยอร่อยจิต” (เล่นคำว่า “พูด”) 
        “จากพรากจับจากจำนรรจา เหมือนจากนางสการะวาตี” (เล่นคำว่า “จาก”) 
การซ้ำคำ 
        คุณ แม่หนาหนักเพี้ยง พสุธา 
        คุณ บิดรดุจอา กาศกว้าง 
        คุณ พี่พ่างศิขรา เมรุมาศ 
        คุณ พระอาจารย์อ้าง อาจสู้สาคร ” (ซ้ำคำว่า “คุณ”) 
        การใช้คำถามเชิงวาทศิลป์ คือ คำถามที่ไม่ต้องการคำตอบ เพราะทราบคำตอบดีอยู่แล้ว เช่น 
        “ กระนี้หรือพระบิดามิน่าหนี ทั้งท่วงทีไม่สุภาพทำหยาบหยาม”
        “ยักขิณีผีสางหรืออย่างไร มาพาไปไม่เกรงข่มเหงกู” 
๓. การใช้ภาพพจน์ คือ การใช้ถ้อยคำเพื่อสร้างภาพในใจ (จินตภาพ) แก่ผู้อ่านโดยการใช้โวหารกล่าวอย่างไม่ตรงไปตรงมา
        - อุปมา คือ การเปรียบเทียบสองสิ่งที่ต่างกัน แต่มีลักษณะเด่นเหมือนกัน โดยมักใช้คำเชื่อม เช่น ดุจ ดัง ดั่ง เหมือน ราวกับ คล้าย เฉก เช่น เพี้ยง ฯลฯ 
        “สัตว์ในน้ำจำแพ้แก่ผีเสื้อ เปรียบเหมือนเนื้อเห็นพยัคฆ์ให้ชักหลัง” 
        “สามสิบสามเศียรโสภา เศียรหนึ่งเจ็ดงา ดั่งเพชรรัตน์รูจี” 
        - อุปลักษณ์ คือ การเปรียบเทียบสองสิ่งที่ต่างกัน แต่มีคุณสมบัติบางประการร่วมกัน โดยเปรียบเทียบว่าสิ่งหนึ่งเป็นสิ่งหนึ่งโดยตรง หรือเปรียบโดยใช้คำว่า “คือ” “เป็น” 
        “ขอลาแก้วแววตาไปธานี อย่าราคีขุ่นข้องให้หมองมัว” 
        “ความรู้คู่เปรียบด้วย กำลัง กายแฮ (อุปมา) 
        สุจริตคือเกราะบัง ศาสตร์พ้อง (อุปลักษณ์) 
        ปัญญาประดุจดัง อาวุธ (อุปมา) 
        สติต่างโล่ป้อง อาจแกล้วกลางสนาม” (อุปมา) 
        - บุคคลวัต หรือ บุคลาธิษฐาน คือการกล่าวถึงสิ่งที่มิใช่มนุษย์ราวกับเป็นมนุษย์ โดยการใช้คำที่แสดงกิริยาอาการ การกระทำ ความรู้สึกนึกคิดแบบมนุษย์ 
        “โทสะอาจจะโดดโลดข้ารั้ว ไม่เกรงกลัวบัญญัติเลย” 
        “สัตภัณฑ์บรรพตทั้งหลาย อ่อนเอียงเพียงปลาย 
        ประนอมประนมชมชัย” ( ภูเขาสัตภัณฑ์น้อมไหว้) 
        “กระต่ายตัวหนึ่งยิ้มเยาะเต่าว่า เท้าสั้น เดินก็ช้า” 
        - สัทพจน์ คือ การใช้คำเลียนเสียงธรรมชาติ เช่น โครมๆ เปรี้ยงๆ แปร๊นๆ โฮกๆ ฯลฯ 
        “ดูงูขู่ฟูดฟู่ พรูพรู” 
        “ถ้วยชามกลิ้งฉิ่งฉ่างเสียงกร่างโกรง นาวาโคลงโคลนเลอะตลอดแคม” 
        “บ้างก่งคอคูคูกุกกูไป ฝูงเขาไฟฟุบแฝงที่แฝกฟาง” 
        - อธิพจน์ คือ การกล่าวที่เกินความจริง เช่น 
        “เสียงพลโห่ร้องเอาชัย เลื่อนลั่นสนั่นใน 
        พิภพเพียงทำลาย” 
        “เรียมร่ำน้ำเนตรถ้วม ถึงพรหม 
        พาเทพเจ้าจ่อมจม ชีพม้วย 
        พระสุเมรุเปื่อยเป็นตม ทบท่าว ลงนา 
        หากอกนิฏฐ์พรหมฉ้วย พี่ไว้จึงคง” 
        “อายุยืนหมื่นเท่าเสาศิลา อยู่คู่ฟ้าดินได้ดังใจปอง”

อายุยืนหมื่นเท่าเสาศิลา แปลว่า

                http://www.baanjomyut.com/library_2/extension-4/treasures_of_literature/01.html

อายุยืนหมื่นเท่าเสาศิลา แปลว่า