หางาน แม่บ้าน กะ ดึก หาดใหญ่

ที่อยู่ : 107/2 ถ. ศรีภูวนารถ ต. หาดใหญ่ อ. หาดใหญ่ , จังหวัด : สงขลา , เบอร์โทร : 074800771 , อีเมล์ : [email protected]

ลักษณะงาน : งานประจำ , วุฒิการศึกษา : ปวส. / ปริญญาตรี , เพศ : ไม่ระบุ

จำนวน : 1 ตำแหน่ง

รายละเอียด
- ยินดีรับนักศึกษาจบใหม่
- สื่อสารภาษาอังกฤษได้ จะพิจารณาเป็นพิเศษ
- เริ่มงานได้ทันที และสามารถเข้ากะได้
- มีบุคลิกภาพดี และ รักงานบริการ

สอบถามเพิ่มเติมและสมัครงานได้ที่
บีทู หาดใหญ่ บูติค แอนด์ บัดเจท
107/2 ถ. ศรีภูวนารถ ต. หาดใหญ่ อ. หาดใหญ่

เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อ 9 ปีที่ผ่านมา ที่โรงแรมแห่งหนึ่งในภาคใต้ เรื่องมีอยู่ว่า ผมได้พบกับเจ้าของโรงแรม ที่ผับแห่งหนึ่งในกรุงเทพ ซึ่งตอนนั้นผมทำงานอยู่ที่นั่น โดยเจ้าของโรงแรมและพี่เจ้าของร้านที่ผมทำงานอยู่รู้จักกัน เจ้าของโรงแรมเขาต้องการทีมงานเกี่ยวกับวงดนตรีประเภทโฟล์คซอง และทีมงานเกี่ยวกับงานโรงแรม เกือบทุกแผนก แต่ต้องอยู่ทำงานในเวลากลางคืนเท่านั้น พี่เจ้าของร้านจึงแนะนำให้ผมรู้จักกับเจ้าของโรงแรม โดยเขามีข้อเสนอที่น่าสนใจให้กับผม ถ้าผมหาทีมงานลงไปทำงานให้เขาได้ ส่วนพี่เจ้าของร้านก็ยินดีให้ผมไป ถ้าผมหาทีมงานได้ (ก็ได้แค่คิดในใจว่าทำไมให้ไปง่ายจัง)

ผมก็หาทีมงานได้ทั้งหมด 14 คน โดยแบ่งเป็นนักดนตรี 4 คน ส่วนคนที่เหลือก็จะเป็นพวกแม่บ้าน เด็กหิ้วกระเป๋า เฝ้าล็อบบี้ ครบทุกตำแหน่ง โดยทั้ง 14 คนนี้ จะได้ทำงานในกะกลางคืน โดยเจ้าของโรงแรมให้เหตุผลว่า ไม่ต้องการให้โรงแรมเงียบ ส่วนเรื่องเงินเดือน เรียกมาได้เลยไม่เกี่ยง หลังจากตกลงเรื่องเงินเดือนเรียบร้อยแล้ว เจ้าของโรงแรมก็ จองตั๋วเครื่องบินให้กับทีมงานของผม ทั้ง 14 คน จากนั้นเราทั้ง 14 คน ก็เดินทางไปที่โรงแรมแห่งนั้น โดยออกเดินทางเวลา 3 ทุ่ม แล้วก็ถึงโรงแรมประมาณ 5 ทุ่ม และผมก็ได้กุญแจจากพี่ยามที่เฝ้าอยู่หน้าโรงแรม พี่ยามบอกผมว่า ห้องพักพนักงานอยู่ด้านหลังนะ ผมกับทีมงานนอนกันห้องละ 2 คน ทั้งหมด 7 ห้อง สภาพห้องนอนดีมาก จนทุกคนรู้สึกดีใจมาก ที่ได้งานนี้ และก็มีผู้จัดการมาบอกว่าให้พักก่อน ไว้พรุ่งนี้ค่อยคุยงานกัน

และเรื่องราวทั้งหมดก็ได้เริ่มต้นขึ้น โดยพวกเราทั้ง 14 คน อยู่ที่นั่นได้ 21 วัน ซึ่งเป็น 21 วัน ที่อยู่ด้วยความหวาดระแวง ความกลัว ความสงสัย เพราะเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้น โดยผมขับรถไปดูรอบๆโรงแรม ผลปรากฏว่า บริเวณรอบๆ ไม่มีชุมชน ไม่มีบ้านคนอยู่เลย ในรัศมี 2 กิโล รอบๆเป็นป่าทั้งหมด ก็รู้สึกแปลกๆนะ แต่ไม่คิดอะไรมาก จนกระทั้งมาพบกับเหตุการณ์ น้องทีมงานหายไปหนึ่งคน หายไปจากโรงแรม พวกเราก็ช่วยกันตามหา คิดว่าน้องอาจเดินหลงไปหลังโรงแรมก็เป็นได้ ผมกับน้องอีกคน (น้องเจ) ก็เดินเข้าไปที่ด้านหลังโรงแรม

ซึ่งด้านหลังจะมี ลักษณะก็จะคล้ายๆ Pool Villa แต่ว่าตำแหน่งของบ้านมองดูสะเปะสะปะไปหมด และที่น่าตกใจก็คือสระว่ายน้ำทุกสระเป็นตะไคร่ขึ้นหมดทุกสระ ระหว่างทางก็จะมีห้องฟิตเนสแต่ประตูล็อคอยู่ และก็มีสปาที่มีสระวน มีศาลา อยู่ 5 ศาลา แล้วก็มี เกาะกลาง ที่มีสะพานข้ามไปได้ โดยผมและเจ พบน้องที่หายไปนอนอยู่ตรงนั้น ผมก็รีบเข้าไปปลุก ว่ามานอนอะไรตรงนี้ น้องบอกว่า มีผู้หญิง มาเรียกให้ช่วยหน่อย ผมก็เดินตามเขามา จนพี่มาเรียกนี่แหละ ผมก็รีบพาน้องออกมา แต่กว่าจะออกมาได้ก็หลงอยู่พักหนึ่ง (พวกผมก็คิดกันว่า น้อย มันหลงไปได้ยังไง ใครกันแน่มาตามมันไป)

คืนต่อมาน้องที่ทำงานแผนกแม่บ้านก็ฝันว่ามีผู้หญิงมาบอกว่า ให้ไปเอาเขาขึ้นมาหน่อย หนูอยู่บ้านหลังสุดด้านหลังตรงโน่นเลย หนูอยู่ตรงใต้ต้นไผ่ หน้าบ้านมีรูปปั้นหมาขาวดำอยู่ จากนั้นผมกับเจ ก็เดินเข้าไปที่ด้านหลังโรงแรมอีกรอบ แล้วก็พบบ้านที่น้องแม่บ้านบอกจริงๆ และผมก็รู้สึกว่าหรือมันจะมีอะไรอยู่ใต้ดินนี้ แต่ด้วยบรรยากาศที่น่าขนลุก ผมก็บอกเจว่าไปกันเถอะบรรยากาศไม่ค่อยดีละ

คืนนี้เป็นคืนที่5 ที่พวกเราอยู่ที่โรงแรมนั้น มีน้องผู้หญิงที่เป็นบริกร ได้ยินเสียงคนทะเลาะกัน แล้วก็มีเสียงเหมือนคนใช้ขวดตีกันจนแตก เป็นเสียงผู้ชายกับผู้หญิงทะเลาะกัน แต่ว่าเสียงเถียงกันนั้นไม่ใช่เสียงภาษาไทย ดังมาจากด้านหลังโรงแรม ตอนเช้าผมก็ถาม แม่ครัวที่อยู่กะกลางวัน ว่ามีคนงานพักอยู่หลังโรงแรมไหม ป้าก็บอกว่าไม่มีนะ ช่วงกลางคืนก็มีแต่พวกเรานั่นแหละที่อยู่ที่นี่ (แล้วใครมันทะเลาะกัน)

จนมาถึงคืนที่ 6 เอาล่ะทีนี้ได้ยินกันครบทั้ง 7 ห้องเลยครับ พวกเราก็เปิดประตูออกมาดู ตอนตี 3 พากันเดินหาเสียง แต่ก็พบว่า ตึกแถวคนงานที่เกิดเสียงนั้นไม่มีคนอยู่ แถมยังล็อคอีกด้วย แต่เสียงนั้นยังคงอยู่ จนกระทั้งน้องๆคนอื่นเริ่มกลัว ผมก็เลยรีบออกมาจากตรงนั้น และระหว่างนั้นก็มีเหตุการณ์แปลกๆเกิดขึ้นอีก คือได้ยินเสียงเด็กมาขอเล่นน้ำด้วย แต่มองไปก็ไม่เห็นใครสักคน

และคืนนี้ก็เป็นคืนที่ 10 น้องผู้หญิงที่เป็นแม่บ้านหายไป หายังไงก็ไม่เจอ หายไปตลอดทั้งคืน คอยจนเช้าเพื่อรอให้แม่บ้านกะเช้าเข้ามา ผมก็รีบเข้าไปบอกแกว่า ป้าครับ ลูกน้องผมหายไป ป้าก็บอกว่าลองไปหาที่บ้านหลังสีส้มดูสิ เดินไปเหอะมีอยู่หลังเดียว ผมและคนอื่นๆประมาณ 6-7 คนก็เดินไปและก็พบว่าน้องแม่บ้านอยู่ในบ้านหลังสีส้มนั้นจริงๆ แต่ประตูมันล็อคไว้ ผมก็เลยพังประตูเข้าไป เข้าประตูไป น้องก็หลับอยู่ ผมก็ปลุกจนตื่น น้องบอกว่ามีผู้หญิงให้มาอยู่เป็นเพื่อนหน่อย เขาอยู่คนเดียว เขาเหงา แล้วหนูก็เดินตามเขามา จนมารู้สึกตัวอีกที่ตอนพวกพี่มาปลุกนี่แหละ

จากนั้นทั้ง 14 คนก็มานั่งคุยกันว่ากลับดีไหม เจ้าของโรงแรมก็ไม่มาเลย ยิ่งอยู่ๆไปเราจะเป็นอะไรกันไหม ช่วงกลางคืนก็จะมีเด็กมาเคาะกระจกทุกห้องเลย และก็หัวเราะด้วย จนกระทั่งนอนกันไม่ได้ และทุกคืนวันพฤหัสก็จะมีเสียงคู่สามีภรรยาประเทศเพื่อนบ้านทะเลาะกัน ช่วงนี้ทุกคนหลอนกันไปหมดเลย ไม่รู้จะทำอย่างไร

จนกระทั่งในที่สุดที่อยู่ไม่ได้จริง ก็คือราววันที่ 17-18 ก็มีน้องคนนึงหายไป เป็นน้องผู้ชาย น้องคนนี้เป็นเด็กถือกระเป๋า หาไม่พบเหมือนเดิม ผมก็ไปถามป้าแม่บ้านอีก ว่าน้องผมหายไปอีกแล้ว ป้าถามว่าผู้หญิงหรือผู้ชายล่ะ ผมก็บอกว่าผู้ชาย ป้าแม่บ้านก็บอกให้ไปดูที่ห้องฟิตเนส ซึ่งป้าแกรู้หมดเลย ถ้าหากผู้หญิงหายจะไปอยู่ที่ห้องสีส้ม ผู้ชายหายจะไปอยู่ในห้องฟิตเนส ซึ่งผมจำได้ว่าห้องฟิตเนสมันล็อคน้องจะเข้าไปได้ยังไง แต่สุดท้ายผมก็ไปเจอน้องที่นั่น ซึ่งสภาพน้องผมในตอนนั้นแขนหักข้างนึง (แขนซ้าย) ผมก็ไม่ได้ถามอะไร รีบพาน้องไปหาหมอก่อน

พอน้องตื่นก็ถามว่าเกิดอะไรขึ้น น้องเล่าว่า ผมเจอผู้ชายพูดว่า มาช่วยเขายกของหน่อย ผมก็เดินตามออกไปด้วยเพราะอะไรไม่รู้ แล้วสิ่งสุดท้ายก่อนจะแขนหักคือ เขาโยนดัมเบลล์ใส่ เขาบอกอ่ะ ช่วยรับไอนี่หน่อย แล้วใครมันจะรับไหว จังหวะนั้น น้องก็รับ 2 มือ แต่ว่าด้วยความที่มันหนักมาก ทำให้แขนข้างซ้ายของน้องมันหัก และจากนั้นก็หลับไปเลย มารู้ตัวอีกทีก็ในตอนที่แขนเข้าเฝือกเป็นที่เรียบร้อย

จนกระทั้งวันที่ 21 ผมและทีมงานก็ตัดสินใจกลับ แต่ก่อนกลับก็ไปถามป้าแม่บ้าน ป้าแม่บ้านบอกว่าสิ้นเดือนนี้ป้าก็จะลาออกเหมือนกัน เพราะต่อไปนี้คงไม่มีใครมาทำงานกะกลางคืนที่นี่อีกแล้ว ผมก็ถามว่าเด็กที่สไลด์เดอร์เป็นใคร ป้าเอาหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นให้ดูพบว่ามีเด็กหลุดโค้งสไลด์เดอร์ตกลงมากระแทกพื้นเสียชีวิต แล้วห้องฟิตเนสล่ะป้า ป้าบอกมีคนงานไปออกกำลังกายช่วงค่ำ ตอนนั้นยังสร้างโรงแรมไม่เสร็จ เขานอนยกบาร์เบลล์ แล้วไม่รู้ยังไงบาร์เบลล์ร่วงมาทับที่คอจนคอหัก แล้วผู้หญิงที่มาเข้าฝันล่ะ เขามาขอให้ไปช่วย ป้าก็เล่าต่อว่าระหว่างที่กำลังสร้าง เขาก็เร่งให้โรงแรมเสร็จเร็วๆผู้หญิงคนนี้ก็หน้ามืด นอนตายอยู่ที่บ้านหลังสุดท้ายข้างหลังนั้นที่บ้านสีส้มหละ ป้าก็บอกว่า เป็นพนักงานสปา ถูกลูกค้าบีบคอ ส่วนทุกๆวันพฤหัสที่จะได้ยินเสียงคนทะเลาะกัน ก็คือ คนงานทะเลาะกัน เป็นคู่รักกัน เอามีดแทงกัน เอาขวดตีกันตาย พอถามไปถามมาก็ได้ทราบว่า ครึ่งนึงของพื้นที่เป็นกุโบร์เก่าหรือสุสานของอิสลาม แล้วไปสร้างโรงแรมทับไว้

ต่อจากนั้นผมก็โทรหาเจ้าของโรงแรม เจ้าของโรงแรมก็ถามว่า อยู่ไม่ได้ใช่มั๊ย อย่าว่าแต่เราเลย พี่ยังไม่กล้าเข้าเลย ผมก็ถามว่า แล้วพี่ให้พวกเรามาเนี่ยนะ เจ้าของก็เล่าว่า จริงๆพี่ประกาศขายแต่ก็ไม่มีใครมาซื้อ และตลอด 20 -21 วันที่ผมและทีมงานไปทำงานที่โรงแรมนี้ ก็ไม่พบลูกค้าที่เข้ามาพักเลยแม้กระทั่งคนเดียว และในปัจจุบันนี้ โรงแรมแห่งนี้ เป็นโรงแรมร้างและยังคงประกาศขายอยู่ แต่ว่าก็ยังไม่มีใครมาซื้อตลอดระยะเวลา 9 ปี