มาเอสโตร 03 รัชดา - พระราม 9 มากกว่าการออกแบบที่ละเมียดละไม คือ ใส่ใจรายละเอียดในแต่ละฟังก์ชัน อาทิ โต๊ะทานข้าวที่สามารถขยาย-พับเก็บได้ หรือ build-in ตู้เก็บของ และลิ้นชักใต้เตียง เพื่อให้คุณสามารถใช้พื้นที่ทุกตารางนิ้วได้อย่างคุ้มค่าที่สุด ตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองที่ต้องการความลงตัวในทุกการใช้ชีวิต Show
ชื่อโครงการ : มาเอสโตร 03 รัชดา - พระราม 9 (Maestro 03 Ratchada - Rama 9) ราคา : เริ่มต้น 3,290,000 บาท (ณ. วันที่ 15/3/2021) ราคาเฉลี่ยต่อตร.ม. : โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ ลักษณะกรรมสิทธิ์ : กรรมสิทธิ์ ขนาดห้องที่มี : ตั้งแต่ 29.00 ถึง 74.00 ตร.ม. เนื้อที่ทั้งหมด : 3 ไร่ 18.00 ตร.ว. ที่จอดรถทั้งหมด : ประมาณ 45% ค่าบำรุงส่วนกลาง : 65.00 บ./ตร.ม. สาธารณูปโภค : สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, ซาวน่า, รปภ., กล้องวงจรปิดโครงการ, ประตู Key Card, รถรับส่ง, สตรีม, Wi-Fi Internet บริเวณ Lobby, อื่นๆ (ล็อบบี้, ลานบาร์บีคิว, ลู่วิ่งจ๊อกกิ้ง, Pet Zone), ที่จอดรถ, สนามเด็กเล่น, สนามหญ้า สถานที่สำคัญใกล้เคียง :
ปีที่สร้างเสร็จ : พ.ศ. 2561 คำแนะนำการใช้ข้อมูล : ภาพที่แสดงเป็นเพียงภาพประกอบ และข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลง ดังนั้นโปรดสอบถามข้อมูลกับเจ้าของโครงการทุกครั้งก่อนตัดสินใจ และราคาขายจริงอาจสูงกว่านี้ขึ้นอยู่กับลักษณะห้อง ชั้น และจำนวนยูนิตที่เหลืออยู่ update ณ วันที่ : 15 มี.ค. 64 EP.1118 รีวิว คอนโด มาเอสโตร 03 รัชดา-พระราม 9 Maestro 03 Ratchada-Rama 9 สวัสดีค่ะ ผู้อ่าน Homenayoo ทุกท่านสำหรับใครที่กำลังมองหาคอนโดเพื่ออยู่อาศัยเองหรือลงทุนปล่อยเช่ากันอยู่นั้น วันนี้เรามีคอนโด มาเอสโตร 03 รัชดา-พระราม 9 สร้างเสร็จพร้อมอยู่จาก เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ มาฝากกันค่ะ ตัวโครงการอยู่ห่างจากถนนใหญ่รัชดาภิเษกเพียงประมาณ 200 เมตร และใกล้สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT พระราม 9 เพียง 600 ม. ทำเลโครงการอยู่ห่างจากแยกพระราม 9 NEW CBD ใจกลางเมืองที่มีมูลค่าการลงทุนสูงและโดดเด่นที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพตอนนี้เพียง 900 เมตรเท่านั้นเป็นโซน NEW CBD สุดฮอต เชื่อมต่อกับ CBD ชั้นในอย่าง อโศก เป็นโซนที่เต็มไปด้วยอาคารสำนักงาน ศูนย์รวมห้างสรรพสินค้าชั้นนำอย่าง Central พระราม 9, Fortune Town และโรงแรมที่พัก มีการคมนาคมขนส่งที่สมบูรณ์พร้อม มีโครงการ เดอะ แกรนด์ พระราม 9 เป็นเมกะโปรเจ็คตั้งอยู่บนพื้นที่ 73 ไร่ มีพื้นที่ใช้สอยทั้งหมด 1.2 ล้าน ตร.ม.ทำให้รองรับคนได้สูงถึง 2-3 แสนคนต่อวัน โดยมีมูลค่าโครงการรวมกว่า 100,000 ล้านบาท และ The Super Tower อาคารแบบ Mixed Used สูง 125 ชั้น ที่สูงสุดในอาเซียน และติดอันดับหนึ่งในสิบของโลก ซึ่งจะกลายเป็นแลนด์มาร์คใหม่ของประเทศไทย ที่เป็นทั้งศูนย์กลางธุรกิจชั้นนำและสถานที่ท่องเที่ยวระดับโลกที่ทุกคนจะต้องมาสัมผัสสักครั้งในชีวิตมีออฟฟิศระดับไฮเอนด์ เป็นแหล่งที่ตั้งของบริษัทชั้นนำของโลกมากมายที่เช่าพื้นที่ตั้งอยู่ที่นี่อีกด้วย มาเอสโตร 03 รัชดา-พระราม 9 เป็นโครงการคอนโด Low Rise 8 ชั้น 3 อาคาร 335 ยูนิต ซึ่งโครงการนี้เป็น Maestro โครงการแรกที่ขึ้นเป็นอาคารหมู่นะคะ ขนาดห้องเริ่มต้นที่ 29 ตร.ม. พร้อมชุดครัวและเฟอร์นิเจอร์สไตล์โมเดิร์นอิตาเลียนแต่งมาให้แบบ Fully Furnished คือมีเฟอร์นิเจอร์, เครื่องปรับอากาศ, ชุดครัวและชุดสุขภัณฑ์พร้อมฉากกั้นห้องน้ำมาให้แบบจัดเต็ม พิเศษสำหรับคนรักสัตว์คือโครงการเป็นคอนโดแบบ Pet Friendly คือเลี้ยงสัตว์ในคอนโดได้ด้วยค่ะ เพราะคอนโดส่วนใหญ่คือเลี้ยงไม่ได้นะคะ ปัจจุบันเป็นคอนโดสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่แล้ว สิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการครบครัน อาทิLobby, ห้องสมุด, สระว่ายน้ำ, พื้นที่สีเขียวและลานพักผ่อนข้างสระ, ห้อง Steam, Sauna, ห้องฟิตเนส, สวนหย่อมรอบโครงการและชั้นดาดฟ้า, ลานบาร์บีคิว และพิเศษคือมี Pet Zone ที่พาสัตว์เลี้ยงไปเดินเล่นได้ด้วย ที่จอดรถ 45% ของจำนวนยูนิตโครงการ พร้อมระบบการรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ราคาเริ่มต้น 3.8 ล้านบาท* (เฉลี่ย 131,035. บาท/ตร.ม.) Maestro เป็นแบรนด์คอนโด Low Rise ที่มีชื่อเสียงของ Major Development โดยตอนนี้มีคอนโดแบรนด์ Maestro ถึง 8 โปรเจ็คแล้ว โดยทุกโปรเจ็ค หลังคำว่ามาเอสโตร จะเป็นตัวเลข ซึ่งตัวเลขนั้นมีที่มาจากซอยหลักของโครงการ โดย มาเอสโตร 03 รัชดา-พระราม 9 เลข 03 ก็มาจากรัชดาภิเษกซอย 3 หรือซอยข้างสถานฑูตจีนนั่นเอง รายละเอียดอื่นๆจะเป็นอย่างไร อ่านต่อด้านล่างได้เลยค่ะ คอนโด MAESTRO ทำเลอื่นๆ ที่น่าสนใจ…
คอนโด MRT พระราม 9 / คอนโดติดรถไฟฟ้า MRT พระราม 9
ที่ตั้งโครงการ รัชดา ซอย 3, ถนนรัชดาภิเษก เขตดินแดง กทม. พิกัด: 13.762696, 100.564818 ที่ตั้งโครงการ มาเอสโตร 03 รัชดา-พระราม 9 ตั้งอยู่ในรัชดาภิเษกซอย 3 หรืออีกชื่อคือซอยข้างสถานฑูตจีน เนื่องจากจะมีสถานฑูตจีนตั้งอยู่ที่หัวมุมทางเข้าซอยค่ะ ซอยนี้เชื่อมอยู่ระหว่าง ถนนใหญ่รัชดาภิเษก (200 เมตรถึงโครงการ) และถนนประชาสงเคราะห์ (2.3 กิโลเมตรถึงโครงการ) ส่วนรถไฟฟ้าที่ใกล้ที่สุดคือรถไฟฟ้า MRT สถานีพระราม 9 ค่ะ ระยะทาง 600 เมตร ถ้าไม่อยากเดินนั่งมอเตอร์ไซค์จากวินหน้าโครงการไป MRT พระราม 9 หน้าฟอร์จูนก็คิดค่าโดยสาร 10 บาทเท่านั้น นอกจากนี้โครงการมี Shuttle Bus ไปส่งที่ MRT พระราม 9 ให้อีกด้วยค่ะ สำหรับคนไม่ใช้รถ โครงการ มาเอสโตร 03 รัชดา-พระราม 9 ตั้งอยู่ตั้งอยู่ในรัชดาภิเษกซอย 3 หรืออีกชื่อคือซอยข้างสถานฑูตจีน ห่างจากถนนใหญ่รัชดาภิเษกประมาณ 200 ม. หน้าโครงการมีแท็กซี่และพี่วินมอเตอร์ไซค์อยู่ ไปไหนมาไหนได้ง่าย ช่วงเวลาที่การจราจรติดขัดพี่วินมอเตอร์ไซค์ช่วยลัดเลาะได้ดีค่ะ ถือว่าเป็นทำเลที่ไปไหนมาไหนสะดวก มีทางเลือกในการเดินทางหลายทางค่ะ รวมถึงจุดเด่นของโครงการที่อยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้า MRT สถานีพระราม 9 เพียง 600 เมตรโดยเป็นระยะที่เดินมาขึ้นรถไฟฟ้าได้โดยใช้เวลาเดินประมาณ 7 นาที หรือขึ้นวินมอเตอร์ไซค์มาเพียง 2-3 นาทีเท่านั้น สำหรับราคานี้ก็ถือว่าสะดวกทีเดียว ใครไปต่างจังหวัดหรือต่างประเทศบ่อยๆ จาก MRT พระราม 9 นั่งไปเพียงสถานีเดียวถึง MRT เพชรบุรี ที่เชื่อมต่อกับแอร์พอร์ตลิงก์มักกะสัน นั่งไปสุวรรณภูมิได้เลย หรือจะนั่งไป 2 สถานีถึง MRT สุขุมวิท สถานี Interchange กับ BTS อโศกไปรถไฟฟ้าบนดินสายสีเขียวได้สบายๆ สำหรับคนใช้รถ เป็นทำเลที่คนใช้รถมีความสะดวกสบาย เนื่องจากที่ตั้ง โครงการ มาเอสโตร 03 รัชดา-พระราม 9 อยู่ในซอยรัชดาภิเษก 3 สามารถเข้าออกได้หลายเส้นทาง ทั้งถนนรัชดาภิเษก, ถนนประชาสงเคราะห์หรือออกถนนดินแดงก็สามารถขับออกไปได้หมด ข้อดีอีกอย่างคือห่างจากจุดขึ้นลงทางด่วนศรีรีชประมาณ 1.3 กม.เท่านั้นค่ะ จะไปพญาไท หรือไปต่อมอเตอร์เวย์ไปสุวรรณภูมิก็ง่าย จากถนนรัชดาภิเษกจะออกมาโครงการมาเอสโตรจะอยู่ฝั่งถนนมุ่งหน้าไปลาดพร้าวนะคะ หรือจะเข้าเมืองไปอโศก สุขุมวิท จุดกลับรถก็อยู่ไม่ไกล แต่เพราะเป็นทำเลในเมืองที่มีปริมาณรถมาก เวลาเข้าออกมีรถติดบ้างเป็นธรรมดานะคะ ก็ต้องหาทางลัดเลาะกันไปดีๆ สมมติใครอยากเลี่ยงรถติดที่แยกพระราม 9 เราก็สามารถเลี้ยวเข้าถนนถนนวัฒนธรรมไปออกแยกอสมท. ที่ถนนพระราม 9 แต่เลยเส้นแยกพระราม 9 ไปหน่อยได้ค่ะ เรื่องทางลัดเลาะนี่ต้องดูไว้เยอะๆค่ะ ประหยัดเวลาเดินทางให้เราได้มากจริงๆ จากโครงการ มาเอสโตร 03 รัชดา-พระราม 9 ไปยังจุดขึ้นทางด่วนศรีรัชเป็นระยะทาง 1.9 กม. หรือระยะขับรถประมาณ 8 นาทีเท่านั้น โดยจากถนนรัชดาภิเษกซอย 3 วิ่งผ่านซอยอยู่เจริญมาออกถนนใหญ่รัชดาภิเษก ตรงมาแยกพระราม 9 เลี้ยวซ้าย และเลี้ยวขวาไปขึ้นทางด่วนศรีรัชได้ จากทางด่วนศรีรัชนี้เชื่อมต่อทั้งทางด่วนเฉลิมมหานครและทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์ ทำให้คนใช้รถไปไหนมาไหนสะดวกเลยค่ะ แยกและถนนใกล้เคียง
สิ่งอำนวยความสะดวกรอบๆโครงการจาก map จะเห็นว่าบรรดาห้างใหญ่ ตลาด และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆจะมาเกาะตัวกันอยู่บนเส้นถนนรัชดาภิเษกเป็นหลักนะคะ รอบๆโครงการ มาเอสโตร 03 รัชดา-พระราม 9 ติดที่ดินโครงการในรัชดาซอย 3 ที่มี 7-11 อยู่ใกล้แทบจะขนาบสองฝั่งของโครงการก็ช่วยอำนวยความสะดวกได้ 24 ชั่วโมง นอกจากนี้อาคารพาณิชย์รอบๆโครงการก็มีร้านอาหาร ร้านขายยา คลินิก ร้านเสริมสวย และสิ่งอำนวยความสะดวกอีกมากเนื่องจากเป็นโซนที่พักอาศัยอยู่แล้ว บรรดาห้างใหญ่ ตลาด และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆจะมาเกาะตัวกันอยู่บนเส้นถนนรัชดาภิเษกเป็นหลักนะคะ ในรัศมี 1 กิโลเมตร นี่จะมีทั้งห้างฟอร์จูน, เซ็นทรัลพระราม 9, Belle Rama 9, เอสพลานาด, ตลาดนัดรถไฟรัชดา และตลาดละลายทรัพย์ ซึ่งก็ถือว่าเป็นทำเลที่มีความอุดมสมบูรณ์และสะดวกสบายสูง ออกมาถนนรัชดาภิเษก โครงการอยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน MRTสถานีพระราม 9ที่มีห้างขนาบ 2 ฝั่งเลยคือเซ็นทรัลพระราม 9 และฟอร์จูนทาวน์ นอกจากนี้จากโครงการนั่งไป 2 สถานีถึง MRT สุขุมวิท ก็ถึงอโศกแล้วค่ะ มีห้าง terminal 21 และโรบินสัน หรือจะเปลี่ยนไปขึ้น BTS ไปสยามพารากอน, เซ็นทรัลเวิลด์, เอ็มโพเรียม, เอ็มควอเทียร์ก็เชื่อมต่อกับ BTS ทั้งหมด และสามารถไปถึงจุดต่างๆได้ในเวลาไม่ถึงสิบห้านาที จัดเป็นทำเลที่มีความอุดมสมบูรณ์และสะดวกสบายทีเดียว นั่งรถไฟฟ้าไปเพียงสถานีเดียว ที่ MRT ศูนย์วัฒนธรรม จะมีห้าง Esplanade และตลาดนัดรถไฟตอนกลางคืนหลังห้าง Esplanade ที่มีความอุดมสมบูรณ์สูงมาก ทั้งอาหารการกินและเสื้อผ้าของใช้ต่างๆเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของโซนนี้เลยก็ว่าได้ สถานที่สำคัญใกล้โครงการ
การเดินทาง วันนี้เรามีภาพการเดินทางโดยรถมาให้ชมกันค่ะเส้นทางการเดินทางตามลูกศรแดงโดยเริ่มเดินทางจาก แยกพระราม 9 → ถนนรัชดาภิเษก → เลี้ยวซ้ายเข้ารัชดาซอย 3 (ซอยข้างสถานฑูตจีน)→ เข้าซอยไปประมาณ 200 เมตร จะเจอโครงการ มาเอสโตร 03 รัชดา-พระราม 9 อยู่ทางขวามือ เริ่มเดินทางกันจากแยกพระราม 9 มุ่งหน้าไปทางถนนรัชดาภิเษก จุดสังเกตคือข้างหน้าเราจะเจอสะพานข้ามแยกพระราม 9 ฟอร์จูนทาวน์ โรงแรม Grand Mercure ทางฝั่งซ้ายมือ และที่เด่นๆเลยคือตึก G Tower จากโครงการ The Grand Rama 9 ทางขวามือ The Grand Rama 9 เป็นเมกะโปรเจ็ค ความสำคัญคือเป็นโปรเจ็คที่จะทำให้ย่านพระราม 9 นี้กลายเป็น New CBD ของกทม.นั่นเองค่ะ โดยจะมีตึกที่สูงที่สุดในประเทศหรือซุปเปอร์ ทาวเวอร์ อยู่ที่นี่ด้วยนะคะ อธิบายแบบคร่าวๆคือ จะเป็นหมู่อาคารที่มีทั้งอาคารสำนักงาน, ห้างสรรพสินค้า, โรงแรม และคอนโดมิเนียมสำหรับพักอาศัย ซึ่งตอนนี้ก็กำลังก่อสร้างอยู่ ส่วนโครงการที่ก่อสร้างเสร็จไปแล้วจะมีโครงการ Belle Grand Rama9 ที่ด้านล่างตรงส่วน Podium นี่ร้านอาหารเยอะมาก ส่วนตัวเราเองก็ไปกินที่โซนนี้ค่อนข้างบ่อยค่ะ เพราะมีร้านที่ชอบให้เลือกหลายร้าน อย่างใครชอบกินซูชิฮิโระ สามารถเดินผ่านเซ็นทรัล พระราม 9 เข้าไปกินกันได้โดยสาขานี้เป็นสาขาแรกและเปิดต่อเนื่องทั้งวันไม่มีรอบแบบซูชิฮิโระสาขาทั่วไปด้วย ทั้งหมดนี้อยู่ห่างจากโครงการแค่สถานีเดียวเท่านั้น เราตรงต่อไปนะคะ ถนนใหญ่รัชดาภิเษกเป็นถนน 8 เลน มีเกาะกั้นกลาง ซ้ายมือก็มีห้างใหญ่ที่เด่นเรื่องอุปกรณ์อิเล็กโทรนิกส์อย่าง ฟอร์จูน ทาวน์ ที่มี tesco Lotus อยู่ในตัว ซึ่งเป็นห้างที่อยู่ใกล้โครงการที่สุดนะคะ สามารถเดินมาได้สบายๆเพียง 500 เมตรเท่านั้น ส่วนขวามือก็มีห้างเซ็นทรัลพระราม 9 อยู่ หน้าฟอร์จูนทาวน์และเซ็นทรัลพระราม 9 จะมี MRT พระราม 9 อยู่ ซึ่งเป็นสถานีรถไฟฟ้าที่ใกล้โครงการที่สุด โดยอยู่ห่างจากโครงการเพียง 600 เมตรเท่านั้น เรียกว่าเดินมาขึ้นรถไฟฟ้าได้สบายๆค่ะ ตรงมาอีกหน่อย จะเจอรัชดาซอย 3 แล้วค่ะ ตรงหัวมุมทางเข้าซอยคือกำแพงของสถานฑูตจีนค่ะ เราเลี้ยวซ้ายเข้ารัชดาซอย 3 รัชดาซอย 3 เป็นถนน 2 เลนรถสวนกันได้ มีอีกชื่อนึงว่าซอยข้างสถานฑูตจีน เนื่องจากมีสถานฑูตจีนอยู่ที่หัวมุมซอยแบบนี้ ภายในซอยนอกจากจะมีร้านอาหารราคาย่อมเยาส์และอร่อยอยู่หลายร้านมากๆ ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกหลากหลาย โดยเฉพาะโซนที่ดินโครงการ มาเอสโตร 03 รัชดา-พระราม 9 นี่มี 7-11 ขนาบสองข้างเลย คือเข้ามาในซอยนี้พอเห็น 7-11 ปุ๊บถัดไปก็จะเป็นโครงการ Maestro 03 แล้วค่ะ ถัดไปก็จะเจอโครงการ มาเอสโตร 03 รัชดา-พระราม 9 อยู่ทางฝั่งขวามือแล้วค่ะ เราเลี้ยวขวาเข้าโครงการได้เลย ก่อนจะพาไปดูตัวโครงการเราขอพาไปดูบรรยากาศรอบๆโครงการ จาก MRT พระราม 9 เดินมาโครงการกันก่อนนะคะ รอบโครงการ ไปดูภาพรอบๆโครงการกันต่อะคะ โครงการเป็นคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น รอบๆโครงการฝั่งทิศเหนือและตะวันตก(ซ้ายมือและด้านบนของที่ดินโครงการใน map)และทิศใต้(ฝั่งติดถนนรัชดาซอย 3) จะเป็นอาคารแนวห้องแถว, ทาวน์เฮ้าส์สูงไม่เกิน 4 ชั้น ซึ่งถ้าเลือกชั้น 5 – 8 ขึ้นไปก็ไม่ถูกตึกรอบๆบังมากนัก ส่วนทิศตะวันออกเฉียงเหนือ(มุมขวาบนของที่ดินโครงการ) มีอพาร์ทเม้นท์สูง 8 ชั้นอยู่ ถ้าใครเลือกยูนิตฝั่งด้านนอกด้านนั้นก็จะถูกบังวิวอยู่เหมือนกันค่ะ แนะนำให้เลือกยูนิตฝั่งด้านในแทนดีกว่า เรามีภาพบรรยากาศรอบๆโครงการโดยเริ่มจาก MRT พระราม 9 เดินตรงมาทางลัดที่พี่วินชอบใช้ คือผ่านไปทางโลตัสฟอร์จูน (รัชดาซอย 1) แล้วเลี้ยวขวาเข้ารัชดาซอย 3 แล้วเลี้ยวซ้ายนิดนึงก็จะถึงโครงการ มาเอสโตร 03 รัชดา-พระราม 9 แล้วค่ะ เราเริ่มกันจากรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีพระราม 9 ประตู 1 หน้าฟอร์จูนนะคะ ออกมารถไฟฟ้าก็เลี้ยวซ้ายไปทางรัชดาซอย 3 มองไปถนนฝั่งตรงข้ามฟอร์จูนทาวน์จะเห็นเซ็นทรัลพระราม 9 และ The Grand rama 9 อยู่ข้างๆกัน สังเกตว่าจะมีทาง MRT อยู่ฝั่งนั้นด้วยนะคะ ถ้าเราจะไปเดินเซ็นทรัล ก็ข้ามไปถนนอีกฝั่งโดยผ่านทาง MRT ลอดใต้ถนนไปได้ค่ะ เดินไปเรื่อยๆจะเห็นวินรถตุ๊กๆจอดอยู่เยอะเลย แถวนี้คนต่างชาติเยอะค่ะ น่าจะชอบนั่งกัน แต่ถ้าให้เทียบราคาแท็กซี่จริงๆถูกกว่าตุ๊กๆและไม่ต้องสูดควันท่อไอเสียจากถนนด้วยค่ะ ตรงไปอีกนิดจะเจอพี่วินมอเตอร์ไซค์หน้า MRT พระราม 9 อยู่ วินแถวนี้ไม่มีติดป้ายราคาเหมือนวินอื่นๆนะคะ อย่างจะนั่งไปโครงการนี่ปกติคิด 10 บาท แต่จะนั่งไปไหนถามราคาก่อนขึ้นนะคะ เราจะพาลัดเข้าไปทางรัชดาซอย 1 นะคะ ทางลัดนี้เราเดินเข้าไปทางเทสโก้ โลตัสของฟอร์จูน ไปทะลุหน้าโครงการได้ อยู่ช่องขวามือของทางขึ้นลานจอดรถตามลูกศร เดินเข้าไปดูกันเลยค่ะ คือเป็นทางที่เหมาะกับตอนกลางวันนะคะ เพราะเป็นทางเชื่อมระหว่างห้างกับถนนรัชดาซอย 1 ไปออกรัชดาซอย 3 ได้ ส่วนใหญ่พวกวินมอเตอร์ไซค์จะชอบลัดมาออกทางนี้กัน ถ้าเดินปกติจะเข้าทางนี้หรือทางรัชดาซอย 3 ตรงๆเหมือนทางที่เราขับรถเข้ามาก็มีระยะไม่ได้ต่างกันเท่าไหร่ค่ะ เดินมาอีกหน่อยก็จะออกไปเจอรัชดาซอย 1 แล้วค่ะ เราเลี้ยวซ้ายตามทาง รัชดาซอย 1 จะเชื่อมกับรัชดาซอย 3 ค่ะ ระหว่างทางเดินมาเราจะเห็นอาคารพาณิชย์แบบห้องแถวสูงประมาณ 4 ชั้น พร้อมร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหาร ร้านทำผม แนวๆนี้ไปตลอดทาง ก็ถือว่าเป็นชุมชนที่มีความสะดวกสบายสูงและมีคนอยู่มาก เราตรงมาตามทางจนถึงแยกดวงพร วินมอเตอร์ไซค์เค้าเรียกกันนะคะ เป็นแยกที่อยู่ใกล้โครงการ Maestro 03 ที่สุดแล้ว พอถึงแยกดวงพรเลี้ยวซ้ายเดินไปไม่ถึงสิบก้าวก็ถึงโครงการ มาเอสโตร 03 รัชดา-พระราม 9 แล้วค่ะ จากแยกดวงพรที่ห่างจากโครงการ มาเอสโตร 03 รัชดา-พระราม 9 ไม่ถึงสิบก้าว จะมีพี่วินมอเตอร์ไซค์หน้าคลินิกรัชดา ฟันสวย ก็เป็นวินที่อยู่ใกล้โครงการที่สุดนะคะ จากตรงนี้ไป MRT พระราม 9 คิด 10 บาท แต่ป้ายราคาหน้าวินที่นี่ก็จางไปหมดแล้วค่ะ ไปไหนถามราคาไว้ก่อนก็ดีค่ะ จากแยกดวงพรเลี้ยวซ้ายมาจะมี 7-11 ที่ค่อนข้างใหญ่อยู่ค่ะ 7-11 นี้แทบจะอยู่ติดกับที่ดินโครงการเลย คั่นด้วยห้องแถวหน้ากว้างประมาณ 5 เมตรเท่านั้น ก็ถือว่าสะดวกทีเดียวค่ะ เดินมาหาซื้อของกินแถวนี้ได้ง่ายตลอด 24 ชั่วโมง ฝั่งตรงข้าม 7-11 มีร้านอาหารอยู่หลายร้านค่ะ แถวนี้มี Street food อร่อยๆเยอะนะคะ จริงๆตอนเย็นๆค่ำๆจะมีแผงขายหมูสะเต๊ะที่อร่อยมากๆที่ฝั่งตรงข้ามหน้าโครงการด้วย แต่ช่วงที่เราไปถ่ายเค้ายังไม่มาเปิดร้านนะ เดินจาก 7-11 มาหน่อยจะเห็นโครงการ มาเอสโตร 03 รัชดา-พระราม 9 อยู่ขวามือแล้วค่ะ ไปดูรอบๆโครงการกันต่อค่ะ จากด้านหน้าโครงการหันมาทางฝั่งรัชดาซอย 3 ฝั่งตรงข้าม (ทิศใต้)จะเป็นอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้นเป็นแนวยาวแบบนี้ค่ะ ด้านหน้านี่ก็มีร้านขายทอง, ร้านขายยา, ร้านนวดแผนโบราณ, ร้านทำผมและร้านขายอาหารตามสั่ง มีความเป็นชุมชนที่สะดวกและอุดมสมบูรณ์ดี แถมยังมี 7-11 ขนาบ 2 ฝั่งด้านข้างที่ดินโครงการด้วย มีร้านนวดแผนโบราณตรงข้ามโครงการเลย ติดกันก็มีร้านขายยา และ ATM กสิกรไทยอยู่ ถัดมามีร้านอาหารตามสั่งพร้อมโต๊ะเก้าอี้ให้สั่งอาหารทานได้เลย และมีแผงร้านขายกาแฟสดและน้ำปั่นมาให้ด้านข้างด้วย ภาพมุมสูงจากที่ดินโครงการ มองไปทางทิศตะวันออก คือจากถนนรัชดาภิเษกซอย 3 มองไปทางสถานฑูตจีนและถนนใหญ่รัชดาภิเษก ภาพมุมสูงจากที่ดินโครงการ มองไปทางทิศใต้ หรือฝั่งด้านหน้าโครงการ ถัดออกไปจากถนนรัชดาภิเษกซอย 3 เป็นอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้น และอาคารที่พักอาศัยแนวราบเป็นส่วนใหญ่ ภาพมุมสูงจากที่ดินโครงการ มองไปทางทิศตะวันตก คือจากถนนรัชดาภิเษกซอย 3 มองไปทางด้านในซอย ส่วนใหญ่เป็นอาคารแนวห้องแถว, ทาวน์เฮ้าส์สูงไม่เกิน 4 ชั้น ซึ่งถ้าเลือกชั้น 5 – 8 ขึ้นไปก็ไม่ถูกตึกรอบๆบังมากนัก ภาพมุมสูงจากที่ดินโครงการ มองไปทางทิศเหนือ วิวจะยังโล่งๆอยู่ค่ะ เป็นอาคารแนวห้องแถว, ทาวน์เฮ้าส์สูงไม่เกิน 4 ชั้น ซึ่งถ้าเลือกชั้น 5 – 8 ขึ้นไปก็ไม่ถูกตึกรอบๆบังมากนักเช่นกัน ตัวโครงการจะเป็นอย่างไร ไปดูกันต่อเลยค่ะ ตัวโครงการ โครงการ มาเอสโตร 03 รัชดา-พระราม 9 เป็นคอนโดสร้างเสร็จพร้อมอยู่สูง 8 ชั้น 3 อาคาร ยูนิตที่พักอาศัยรวม 335 ยูนิต ทางเข้าออกโครงการอยู่ติดถนนรัชดาซอย 3 ส่วนเปลือกอาคารหรือ Facade ทำมาแบบเป็นผนังกรุมีคิ้วและเล่นเชิงให้ลุคแบบคลาสสิคหรูหรา โทนสีเทาเข้ากับอาคารที่ทำพื้นผิวเป็นแนวกำแพงหินสไตล์ยุโรป รั้วโครงการสูง 3 เมตร มาในลุคคลาสสิคเข้ากับตัวอาคาร มีติดไฟกำแพงรั้วสำหรับตอนกลางคืนสลับกับรั้วพุ่มไม้ ทางเข้าออกโครงการ มาเอสโตร 03 รัชดา-พระราม 9 ที่อยู่ติดถนนรัชดาซอย 3 เอา Master Plan หรือผังชั้นล่างของโครงการ Maestro 03 รัชดา มาให้ดูกันก่อนค่ะ วางพวกความสูงอาคารรอบๆมาให้เห็นภาพง่ายขึ้นด้วย เดี๋ยวเรามีภาพอาคารรอบๆโครงการมาให้ดูค่ะ จากผังจะเห็นว่าเป็นอาคารหมู่ 3 อาคาร โดยอาคาร A อยู่ติดถนนซอย ด้านหน้าทางเข้านะคะ ชั้นล่างของอาคาร A จะไม่มียูนิตที่พักอาศัยแต่จะเป็น Lobby และนิติบุคคล มีลานจอด Superbike อยู่ข้างๆทางเข้าอาคารด้วยค่ะ อาคาร B เข้ามาจะเป็นโถงลิฟต์ และจะมีประตูแบบสแกนการ์ดเปิดเข้าไปส่วนยูนิตที่พักอาศัยที่จะเริ่มตั้งแต่ชั้น 1 เลยนะคะ ฝั่งด้านนอกหันไปทางทิศตะวันตกหรือฝั่งถนนประชาสงเคราะห์ ส่วนห้องฝั่งด้านในโครงการอยู่ติดกับพื้นที่ส่วนกลางอย่างพวกสระว่ายน้ำกับห้องฟิตเนส อาคาร C ด้านนอกโครงการหันไปทางทิศตะวันออกหรือฝั่งถนนรัชดาภิเษก ด้านในโครงการอยู่ติดกับพื้นที่ส่วนกลาง ส่วนยูนิตที่พักอาศัยจะเริ่มต้นที่ชั้น 1 เช่นกันค่ะ พื้นที่ส่วนกลาง ถูกจัดอยู่ใน Courtyard ที่ถูกล้อมด้วยอาคาร A, B และ C พื้นที่หลักๆประกอบด้วยสระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 8 x 16 เมตร แบ่งสระเด็กลึก 0.6 เมตร สระผู้ใหญ่ลึก 1.2 เมตร ห้องฟิตเนสขนาด 5 x 15 m. ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 10 เครื่อง ลานสวนหมากรุกแบบอังกฤษ และทางวิ่งรอบโครงการ ทางเข้าออกโครงการ แบ่งรถขาเข้าฝั่งซ้าย ออกฝั่งขวา เจ้าของห้องเข้าออกด้วยระบบ Access Card ผ่านรั้วไม้กระดก คนนอกแลกบัตรกับรปภ. พื้นส่วนซุ้มทางเข้าออกโครงการเป็นพื้นคอนกรีตสแตมป์ ซุ้มรปภ.อยู่ทางฝั่งซ้ายมือ จะเห็นว่ามีกล้อง CCTV จับใบหน้าและป้ายทะเบียนรถเพื่อความปลอดภัยอยู่ด้วย แต่ละอาคารจะมีอาคารจอดรถใต้ดินอยู่นะคะ ถนนภายในโครงการเป็นพื้นคอนกรีตสแตมป์ อาคารฝั่งซ้ายมือของภาพเป็นอาคาร A ที่อยู่ติดถนนรัชดา ซอย 3 ชั้นล่างของอาคาร A จะไม่มียูนิตที่พักอาศัยแต่จะเป็น Lobby และนิติบุคคล ในภาพจะเป็นลานจอด Superbike ที่อยู่ข้างๆทางเข้าอาคาร จะเห็นว่ามี Shuttle bus ของโครงการอยู่ด้วย โดยจะไปส่งที่ MRT พระราม 9 เราไปดูลานจอดรถใต้อาคาร A กันต่อค่ะ ทางลงไปลานจอดรถชั้นใต้ดินของแต่ละอาคารค่ะ โครงการจะมีที่จอดรถใต้ดินรวม 45% ของจำนวนยูนิตโครงการ จากลานจอดรถจะมีโถงลิฟต์สำหรับขึ้นไปชั้นบนได้ เข้าไปดูส่วน Lobby ภายใต้อาคาร A กันต่อค่ะ ภายในล็อบบี้โครงการ นอกจากจะจัดที่นั่งรับรองมาให้หลายตัวแล้ว ผู้สนใจสามารถเข้ามาติดต่อขอข้อมูลโครงการหรือชมห้องตัวอย่างได้ทุกวัน ตั้งแต่ 9.30-18.30 น. ชุดที่นั่งในล็อบบี้โครงการเป็นอาร์มแชร์สไตล์โมเดิร์นอิตาเลียน และโต๊ะกาแฟมาให้ มองไปอีกฝั่งจากล็อบบี้ จะเป็นส่วนห้องจดหมายและมีทางเข้าห้องน้ำอยู่ ส่วนห้องจดหมายกรุผิวลายไม้ แบ่งช่องจดหมายพร้อมเลขที่ห้อง พร้อมกุญแจสำหรับไขเปิดตู้จดหมาย ห้องน้ำจากล็อบบี้จะเป็นห้องน้ำรวมที่ใช้ได้ทั้งผู้หญิงผู้ชาย ห้องน้ำตกแต่งมาในสไตล์ร่วมสมัยด้วยกระเบื้องลายหินอ่อนสีครีมน้ำตาล มีห้องโถสุขภัณฑ์มาให้ 2 ห้อง มีชุดอ่างล้างมือพร้อมกระจกเงามาให้ 1 ชุด ภายในห้องโถสุขภัณฑ์ ถัดมาจะเป็นส่วนโถงลิฟต์ ในแต่ละอาคารมีลิฟต์โดยสารมาให้ 2 ตัว ลิฟต์ในโครงการกรุผิวไม้ ติดกระจกเงา และตกแต่งด้วยสีเงินให้ลุคที่ดูหรูหรา ลิฟต์ในโครงการเป็นแบบล็อกชั้น ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในโครงการไปอีกระดับ มาดูส่วนคอร์ทยาร์ดกันต่อ อาคารทั้งสามจะล้อมส่วนพื้นที่ส่วนกลางอย่างสระว่ายน้ำและส่วนห้องฟิตเนสเอาไว้ โดยส่วนฟิตเนสอยู่ที่ชั้น 2 ของอาคาร Clubhouse ตรงกลาง ด้านหลังอาคาร Clubhouse ติดกับสระว่ายน้ำจะเป็นทางเดินไปส่วนห้องน้ำชายและหญิง เราพาเข้าไปดูในห้องน้ำหญิงกันก่อนนะคะ ห้องน้ำตกแต่งมาด้วยกระเบื้องลายหินอ่อนสีครีม ให้ลุคที่ดูหรูหราสบายตา เดี๋ยวเราพาไล่ดูกันไปทีละอย่างนะคะ มีเคาน์เตอร์อ่างล้างมือมาให้ 2 อ่าง วางมาบนเคาน์เตอร์สีทอง พร้อมกระจกเงาบานใหญ่ มีห้องโถสุขภัณฑ์มาให้ 2 ห้อง และห้องอาบน้ำ 1 ห้อง ภายในห้องอาบน้ำและห้องโถสุขภัณฑ์ค่ะ ในห้องน้ำหญิงจะมีห้อง Steam สำหรับอบไอน้ำอยู่ ในห้องนั่งได้ประมาณ 1-2 คน ส่วนในห้องน้ำชายจะมีห้อง Sauna สำหรับอบไอน้ำ ในห้องนั่งได้ประมาณ 1-2 คน เราไปดูส่วนสระว่ายน้ำกลางแจ้งกับพื้นที่ส่วนกลางอื่นๆกันต่อค่ะ โครงการปูพื้นและบันไดด้วยกระเบื้องลายไม้ ให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติ ติดกับบันไดทางขึ้นสระมี Rain Shower มาให้อาบน้ำล้างตัวก่อนหลังลงสระ 1 จุด ขึ้นมาจะเป็นสระว่ายน้ำพร้อมพื้นที่พักผ่อนริมสระของโครงการค่ะ ที่นั่งริมสระจัดมาให้หลายตัว เป็นเฟอร์นิเจอร์เอาต์ดอร์หวายเทียมสีธรรมชาติพร้อมเบาะสีขาวสบายตา พร้อมสวนหย่อมโดยรอบ บรรยากาศโดยรวมสะอาดตาให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในรีสอร์ท สระว่ายน้ำเป็นสระกลางแจ้ง ระบบเกลือ ขนาด 8 x 16 เมตร สระผู้ใหญ่ลึก 1.2 เมตร รอบๆสระจัดที่นั่งข้างสระมาให้โดยรอบ ทางลงสระเป็นแบบขั้นบันได กระเบื้องสระเป็นโมเสกสีฟ้าขาวน้ำเงินสดใส สระว่ายน้ำจะมีส่วนที่เป็นสระในร่มหรือส่วนสระที่อยู่ใต้ห้องฟิตเนสชั้นบนให้ว่ายเล่นหรือนอนแช่น้ำเล่นในวันที่อากาศร้อนๆด้วยค่ะ จากทางเดินจะมีสเต็ปบันไดลงไป ลงมาจะเป็นส่วนสระเด็ก เก้าอี้ข้างสระฝั่งนี้เป็นแบบปรับระดับเอนนอนงีบได้ จากสระว่ายน้ำมองกลับไปที่อาคาร Clubhouse ด้านบนจะเป็นห้องฟิตเนส มีอุปกรณ์ออกกำลังอยู่ตรง ตำแหน่งโต๊ะสีขาวด้านบน เราขึ้นไปดูห้องฟิตเนสด้านบน Clubhouse กันต่อเลยค่ะ ห้องฟิตเนสมีขนาด 5 x 15 m. ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 10 เครื่อง ผนังโดยรอบเป็นกระจกใสมองออกไปเห็นวิวคอร์ตยาร์ดของอาคาร จะเห็นว่ามีกระสอบทรายสำหรับซ้อมมวยอยู่ด้วยนะคะ มีเครื่องปั่นจักรยานมาให้ 3 เครื่อง เครื่องเดิน 1 เครื่อง และเครื่องซิทอัพอีก 1 เครื่อง มีลู่วิ่งไฟฟ้ามาให้ 3 เครื่อง วิวจากลู่วิ่งไฟฟ้ามองออกไปจะเห็นสระว่ายน้ำและสวนชั้นล่างอย่างที่เห็น ถัดจากที่นั่งพักผ่อนริมสระเข้ามาจะเป็นสวนหิน ที่แนะนำให้ถอดรองเท้าเดินค่ะ เป็นหินขัดสีดำนวดเท้าเวลาเดินไปมาได้ดี ถัดจากสวนหินมาจะเป็นสวนหมากรุกและซุ้มต้นไม้พร้อมเก้าอี้นั่งเล่นและลานบาร์บีคิวในสวน เดี๋ยวไล่ดูกันไปทีละอย่างนะคะ มีสวนที่ตกแต่งเป็นลานหมากรุกสไตล์อังกฤษมาให้แบบนี้ ฝั่งซ้ายมือของสวนเป็นม้านั่งจัดเอาไว้ให้นั่งพักผ่อนกันได้ ฝั่งขวามือของสวนมียกพื้นเป็นลานบาร์บีคิว ลานบาร์บีคิวล้อมด้วยรั้วพุ่มไม้เป็นสัดส่วน มีขนาดพอวางชุดโต๊ะเก้าอี้สำหรับ 2-4 คนได้ โดยจะมีเคาน์เตอร์ที่มีอ่างล้างจาน และเตาปิ้งบาร์บีคิวมาให้แบบนี้ ตรงกลางของสวนหมากรุกจะมีซุ้มโค้งพร้อมม้านั่งในสวนมาให้อีกหลายตัว ใช้นั่งพักผ่อนหรือพูดคุยกับเพื่อนฝูงและครอบครัวได้ดีค่ะ สังเกตว่าจัดที่นั่งหันหน้าเข้าหากัน และไม่มีระยะห่างจนเกินไป เรียกว่านั่งยืดแข้งยืดขาและสนทนากันได้สบายๆ ถัดออกไปกลางภาพจะเป็นประตูที่เปิดออกไป Jogging track หรือลู่วิ่งรอบโครงการได้ ภาพบรรยากาศ Jogging Track หรือลู่วิ่งรอบโครงการค่ะ รั้วพุ่มไม้เป็นแนวยาวแบบนี้นอกจากจะดูร่มรื่นแล้วยังให้บรรยากาศแบบเขาวงกตในสวนอังกฤษ ภาพรวมพื้นที่ส่วนกลางที่ล้อมรอบด้วยอาคารที่พักอาศัยทั้งสามอาคาร แผนผังห้องชั้น 2 – 8 จริงๆแทบไม่ต่างกันเลยนะคะ แต่จะต่างกันที่ความหนาแน่นของยูนิต อย่างอาคาร B ชั้น 2 – 4 มี ความหนาแน่นยูนิต 15 ยูนิตต่อชั้น ชั้น 5 – 8 จะเหลือ 14 ยูนิตต่อชั้นเพราะรวมยูนิตมุมสองยูนิตเป็นห้องเดียวกันแบบนี้ค่ะ แต่ความหนาแน่นก็ไม่ได้ต่างกันมากเท่าไหร่อยู่ดี ทิศทางและวิวด้านนอกด้านในก็ต้องพิจารณาโดยชั่งน้ำหนักความต้องการของเราและราคากันตามความพอใจอีกทีค่ะ ส่วนตัวเราแนะนำวิวยูนิตฝั่งด้านในมากกว่าด้านนอกนะคะ เพราะเห็นวิวสระกับสวนสวยๆ ถ้าให้ดูเรื่องลมและแดดเพิ่มมาเราว่าวิวฝั่งด้านในของอาคาร C นี่ได้ลมดีแน่นอน แดดก็ไม่ร้อนด้วยค่ะ หรือจะอาคาร B กับ C ฝั่งด้านนอก ถ้าเป็นเราเราได้ทั้งคู่ค่ะ แต่เอียงมาทาง C มากกว่า แต่อาคาร B อาจเจอแดดบ่ายที่แรงกว่าเพราะหันหน้าเข้าหาทิศตะวันตกนะคะ อาคาร C ด้านนอกมุมตะวันออกเฉียงเหนือนี่ลมดีแน่นอน แต่เจออพาร์ทเม้นท์สูง 8 ชั้นบังวิว อันนี้ก็ต้องชั่งน้ำหนักดูนะคะ แต่เราก็คิดว่ามันดีตรงที่ห้องจะไม่ร้อน คือมันประหยัดแอร์ดี ส่วนอาคาร A ถึงฝั่งด้านนอกหันไปทางด้านทิศใต้ฟังดูร้อนหน่อย แต่เอาเข้าจริงก็ไม่ร้อนเพราะมีอาคารพาณิชย์ 4 ชั้นในซอยบังแดดให้อยู่ แต่ชั้นบนๆอาจเจอแดดร้อนกว่าฝั่งอื่นอยู่ซักหน่อยค่ะ ส่วนฝั่งยูนิตด้านในของอาคาร A นี่ลมดีแสงเบาๆกำลังสบายเลยเพราะหันไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งสำหรับในไทยนี่เป็นทิศที่ดีที่สุดอยู่แล้ว แถมความหนาแน่นต่ำกว่าอาคารอื่นด้วย ก็เป็นอีกโซนนึงที่น่าซื้อค่ะ โถงทางเดินภายในส่วนยูนิตที่พักอาศัยเป็นแบบ Double corridor คือแจกเข้ายูนิตที่พักอาศัยสองฝั่ง พิเศษสำหรับคนรักสัตว์คือโครงการเป็นคอนโดแบบ Pet Friendly คือเลี้ยงสัตว์ในคอนโดได้ด้วยค่ะ ซึ่งคอนโดส่วนใหญ่จะไม่อนุญาติให้เลี้ยงนะคะ แต่ก็มีกฎระเบียบข้อบังคับการเลี้ยงสัตว์ในอาคารชุดอยู่ ดังนี้ 1. การนำสัตว์เลี้ยงทุกชนิดมาเลี้ยง จะต้องขออนุญาตฝ่ายบริหารอาคารฯและลงทะเบียนประวัติสัตว์เลี้ยงไว้เป็นข้อมูลโดยชำระค่าธรรมเนียมในการลงทะเบียน จำนวน 3,600 บาท/ต่อตัว/ต่อปี (ค่าใช้จ่ายนี้จะนำมาเป็นกองทุนในการทำความสะอาดพื้นที่ส่วนกลางและลงน้ำยาฆ่าเชื้อทุกสัปดาห์) 2. ชำระเงินประกันความเสียหายจำนวน 5,000 บาท/ต่อตัว (เรียกเก็บครั้งแรกครั้งเดียว)และจะคืนให้เมื่อเจ้าของห้องชุดเลิกเลี้ยงสัตว์/สัตว์เลี้ยงเสียชีวิต และไม่พบการกระทำผิดระเบียบข้อบังคับการเลี้ยงสัตว์ในอาคารชุดและ/หรือพบความเสียหายใดๆเกิดขึ้นกับเจ้าของห้องชุด/เจ้าของร่วม/อาคารชุดรวมถึงพื้นที่ส่วนกลาง) 3. สัตว์เลี้ยงที่เจ้าของห้องชุดจะเลี้ยง จะต้องมีน้ำหนักไม่เกิน 15 กิโลกรัม เมื่อโตเต็มที่ เจ้าของห้องชุดสามารถเลี้ยงสัตว์ได้ไม่เกินจำนวนดังต่อไปนี้
4.สัตว์เลี้ยงจะต้องมีสายผูก/จูงและมีผู้ดูแลตลอดเวลาที่อยู่บริเวณพื้นที่ส่วนกลางกฎระเบียบ ข้อห้าม ในการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงภายในโครงการรวมถึงบทลงโทษ กรณีไม่ปฏิบัติตามกฎ แบบห้อง โครงการ มาเอสโตร 03 รัชดา-พระราม 9 มีห้องให้เลือก 2 แบบ ดังนี้ค่ะ
ผังห้องแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 29 ตร.ม. ผังห้องแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 33.5 ตร.ม. ผังห้องแบบ 2 ห้องนอน ขนาด 57.67 ตร.ม. ผังห้องแบบ 2 ห้องนอน ขนาด 74 ตร.ม. ห้องตัวอย่าง โครงการ มาเอสโตร 03 รัชดา-พระราม 9เป็นโครงการที่ขายห้องแบบ Fully Furnished โดยจะมีเฟอร์นิเจอร์ให้เลือก 2 แบบให้เลือกนะคะ หน้าตาไม่ต่างกันมากค่ะ แต่เป็นเรื่องของโทนสีเข้มสีอ่อนตามความชอบของแต่ละคนมากกว่า แบบแรกคือแบบ Malvyn เป็นเฟอร์นิเจอร์สีเข้มนะคะ เฟอร์นิเจอร์ที่ได้หน้าตาแบบนี้ แบบที่สองคือแบบ Monet เป็นเฟอร์นิเจอร์โทนสีอ่อนกว่าหน่อยแบบนี้ โดยโครงการจะมีห้องตัวอย่างมาให้ดูกัน 2 ห้องค่ะ เป็นแบบ 1 ห้องนอนขนาด 29 ตารางเมตร และแบบ 2 ห้องนอนขนาด 57.67 ตารางเมตร เราไปดูห้องแบบ 1 ห้องนอนกันก่อนเลยค่า แปลนห้องแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 29 ตร.ม. ค่ะ ตัวห้องแบ่งส่วน Private และ Public มาชัดเจนนะคะ ส่วนไพรเวทอย่างห้องนอนและห้องน้ำจัดอยู่ฝั่งนึง และส่วนพับลิคหน่อยอย่างห้องนั่งเล่นริมระเบียงและครัวอยู่อีกฝั่งนึง ห้องตัวอย่างจัดเฟอร์นิเจอร์แบบ Malvyn หรือโทนสีเข้มมาให้ จะเป็นอย่างไรไปดูกันเลยค่ะ ประตูที่ได้จะเป็นบาน HDF กรุลามิเนตลายไม้ มีเซาะร่องเป็นลายได้แบบที่เห็นนะคะ ตกแต่งเฟรมและผนังเหนือบานประตูเป็นไม้สีเดียวกัน ให้ความรู้สึกต่อเนื่อง และประตูบานใหญ่ขึ้น ลูกบิดประตูเป็นก้านโยกสแตนเลส ด้านนอกมีที่เสียบกุญแจก ด้านในมีลูกบิดสำหรับล็อก เปิดประตูเข้าไปจะเจอส่วนครัวมองต่อเนื่องไปที่ส่วนห้องนั่งเล่นที่เปิดออกไประเบียงได้ พื้นส่วนของครัวเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 6o cm.และส่วนของห้องนั่งเล่นกับห้องนอนจะใช้พื้นลามิเนตหนา 8 มม. เพดานห้องสูง 2.45 เมตร ส่วนที่ดรอปฝ้าลงมาสูง 2.2 เมตร ไฟติดเพดานเป็นไฟดาวน์ไลท์ได้ตามที่เห็นค่ะ มองกลับไปที่ส่วนทางเข้าห้องจะเห็นภาพรวมส่วนครัวและส่วนทางเข้าห้องแบบนี้ ชุดครัวที่ได้เป็นของ Starmark พร้อมโต๊ะกินข้าวสองที่นั่งแบบพับเก็บได้ เราสามารถใช้เป็นที่ประกอบอาหารเพิ่มได้นะคะ หรือถ้าไม่ค่อยได้ใช้(เพราะเป็นคนไม่ค่อยกินข้าวบ้าน) ก็สามารถพับเก็บเข้าไปได้ ทางเดินก็จะโล่งขึ้น หน้าบานตู้เป็นไฮกรอสสีขาวดูเรียบหรู ตู้เย็นเจาะช่องมาให้ ด้านบนตู้เย็นมีชั้นลอยมาให้วางของเพิ่มได้ เปิดที่เก็บของในชุดครัวให้ดูค่ะ มีชั้นลอยมาให้เก็บจานชามหรือสิ่งของด้านบนเพิ่มได้ ชั้นล่างใต้อ่างล้างจานเปิดมาจะมีถังขยะพร้อมฝาปิดอยู่ด้วย บานเปิดชุดครัวจะมี Soft closed ปิดแล้วไม่มีเสียงดังหรือเสียงกระแทก มีโต๊ะกินข้าวพับได้ที่ติดมาจากชุดครัว เอาไว้ใช้งานกินข้าว วางของเพิ่มหรือเวลาไม่ใช้จะพับเก็บเข้าไปเหมือนเดิมเพื่อไม่ให้เกะกะทางเดินก็ได้ ชุดโต๊ะกินข้าวพร้อมเก้าอี้แบบนั่งได้ 2 คน พื้นลามิเนตส่วนห้องนั่งเล่นและพื้นแกรนิตโต้ส่วนครัว ดูใกล้ๆ จะเห็นจบพื้นเป็นไม้ลามิเนตแบบนี้ ท้อปครัวเป็นหินควอตซ์สีขาว ด้านหลังชุดครัวที่ผนังมี Back Splash กรุด้วยกระเบื้องกันผนังเปื้อนมาให้ ทำให้เช็ดล้างทำความสะอาดได้ง่าย ส่วนเตามาเป็นเตาไฟฟ้าแบบ 2 หัวพร้อมเครื่องดูดควันของ Electrolux ใต้อ่างล้างจานมีถังขยะพร้อมฝาปิดติดมาให้เรียบร้อย ส่วนอ่างล้างจานเป็นอ่างสแตนเลส หลุมสี่เหลี่ยมไม่มีที่พักจานของ Haffele ใต้เตาไฟฟ้ามีช่องสำหรับวางไมโครเวฟและลิ้นชักมาให้ด้านล่าง ฝั่งตรงข้ามชุดครัวติดกับประตูทางเข้าห้องจะมีตู้เก็บของมาให้ หน้าบานเป็นไฮกรอสสีขาวเข้าชุดกัน เปิดตู้ให้ดูนะคะ ส่วนที่อยู่ติดประตูทำเป็นตู้รองเท้าและมีช่องที่จะใช้วางอุปกรณ์ทำความสะอาดหรืออุปกรณ์กีฬามาให้ ฝั่งขวามือจะมีช่องที่เหมาะวางเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้ามาให้ มาดูส่วนห้องนั่งเล่นกันต่อค่ะ ระยะดูทีวีจากโซฟาประมาณ 1.5 เมตร เหมาะจะวางทีวีขนาดประมาณ 40 นิ้ว ชั้นวางทีวีปิดผิวลายไม้สีอ่อนของจริงจะได้ตามนี้ แต่ได้เฉพาะส่วนชั้นด้านล่างนะคะ เราเปิดหน้าบานสองฝั่งและลิ้นชักมาให้ดู โซฟาให้มาเป็นโซฟา 2 ที่นั่งพร้อมโต๊ะข้างและโต๊ะกาแฟ สังเกตว่าเหลือที่ด้านข้างโซฟาพอทำชั้นวางของเพิ่มได้อีกชั้น โต๊ะกาแฟมาและโต๊ะข้างเป็นโต๊ะไม้สีเข้มขนาดกะทัดรัดแบบพอวางหนังสือ แก้วกาแฟ หรือมือถือได้ จากห้องนั่งเล่นจะมีประตูบานเลื่อนแบบ 3 ตอน กรอบอลูมิเนียมสีดำ ที่เปิดออกมาระเบียงได้ มือจับเป็นแบบเซาะร่องมาตรฐาน ธรณีประตูยกขึ้นสูงประมาณ 10 cm. เพื่อกันฝุ่นและความชื้นจากระเบียง ข้อดีของการใช้ประตูบานเลื่อนแบบสามตอนคือทำให้เราได้ช่องเปิดที่กว้างขึ้นมากกว่าบานเลื่อนแบบ 2 ตอนนะคะ ที่ระเบียงจะมีส่วนราวกันตกสีเทา ขวามือเป็นกริลช่องเปิดเข้าไปส่วนที่วางแอร์คอมเพรสเซอร์ ตัวพื้นระเบียงปูกระเบื้องเซรามิกขนาด 30 x 30 ซม. ด้านมุมขวาของระเบียงห้อง แยกห้องเก็บคอมเพรสเซอร์มีประตูปิดกั้นแยกเป็นสัดส่วน โดยระแนงเหล็กวางเฉียง เป่าลมออกไปด้านนอก และแขวนแอร์คอมเพรสเซอร์มาให้ทั้ง 2 อัน ทำให้ใช้พื้นที่ใต้แอร์คอมเพรสเซอร์ได้ เข้าไปดูส่วนห้องนอนกันต่อค่ะ ส่วนห้องนอนจะมีประตูบานปิดมาให้เป็นสัดส่วน สวิตช์ไฟเป็นสีขาวจากแบรนด์ SIEMENS ห้องนอนมีห้องน้ำในตัว จะเห็นว่าในห้องนอนให้พื้นที่มากว้างพอสมควรค่ะ มีระยะเดินรอบๆได้สบาย ๆ ส่วนห้องนอนวางเตียงขนาด 5 ฟุตมาให้ ฐานเตียงเราได้ตามที่เห็นนะคะ ฐานเตียงมีลิ้นชักเก็บของมาให้แบบนี้ ส่วนห้องนอนมีหน้าต่างบานสูงมาให้ด้านข้าง 1 ชุด คือด้านล่างจะเป็นบานฟิกซ์เปิดปิดไม่ได้ เป็นช่องแสงเฉยๆ ส่วนด้านบนเป็นหน้าต่างบานเลื่อนคู่ค่ะ ปลายเตียง มีระยะเหลือประมาณ 30 ซม. คือพอเดินไปเดินมาได้ แต่ไม่เหมาะวางชั้นวางทีวีนะคะ ถ้าอยากติดทีวีในห้องนอนแนะนำให้แขวนผนัง โดยผนังฝั่งปลายเตียงเตรียมเต้าเสียบปลั๊กไฟและช่องเสียบสายสัญญาณสำหรับทีวีมาให้เรียบร้อย ข้างเตียงฝั่งติดหน้าต่างกว้างประมาณ 40 ซม. วางโต๊ะข้างมาให้ มองไปที่อีกฝั่งของห้องนอนจะมีโต๊ะทำงาน ตู้เสื้อผ้า และทางไปห้องน้ำอยู่ โต๊ะทำงานนี่ถ้าเปิดกระจกตั้งขึ้นมาก็ใช้เป็นโต๊ะเครื่องแป้งได้ค่ะ ถ้าปิดลงมาก็ใช้เป็นโต๊ะทำงาน พร้อมวางเก้าอี้และโต๊ะข้างเตียงมาให้ ถัดมาเป็นตู้เสื้อผ้าค่ะ เป็นตู้ที่เหมาะสำหรับใช้ 1 คน ด้านหน้าตู้ติดกระจกเงามาให้ฝั่งนึง เปิดออกมาจะมีที่เก็บของด้านบน ที่แขวนเสื้อผ้าบนล่างและลิ้นชักแบบนี้ เข้าไปดูส่วนห้องน้ำกันต่อค่ะ ธรณีประตูเป็นกระเบื้องผิวด้านแบบเดียวกันกับพื้นห้องน้ำค่ะ ส่วนพื้นห้องน้ำจะลดระดับลงมาจากพื้นห้องนอนนิดหน่อย ห้องน้ำทำขนาดมากำลังดีค่ะ แยกส่วนแห้งและส่วนเปียกมาให้ ระยะใช้งานกำลังสบายๆไม่อึดอัด สเป็คกระเบื้องผนังลายหินเลือกมาสวยดีค่ะ เข้ากับกระเบื้องพื้นสีครีมแบบผิวด้าน ผนังห้องน้ำปูกระเบื้องมาให้จรดเพดาน ติดไฟดาวน์ไลท์ และมีพัดลมดูดอากาศติดตั้งมาให้เรียบร้อย ส่วนอาบน้ำมีฉากกั้นห้องมาให้เป็นกระจกเทมเปอร์ มีก่อธรณีขึ้นมาประมาณ 5 ซม. เพื่อกั้นระหว่างพื้นส่วนเปียกส่วนแห้ง ผนังข้างชุดฝักบัวเจาะช่องมาให้วางของได้ ตัวช่องค่อนข้างสูงนะคะ ใครอยากวางของเยอะก็วางชั้นเพิ่มไปตรงกลางได้ ฝักบัวเป็นของ Kohler หรือแบรนด์เทียบเท่า เทียบขนาดฝ่ามือกับฝักบัวมาให้ดูจะเห็นว่ามีขนาดใหญ่ดีค่ะ นอกจากนี้มีที่วางสบู่ขนาดกว้างพอสมควรติดมาให้กับชุดฝักบัวด้วย เคาน์เตอร์อ่างล้างมือทำช่องเก็บของชั้นล่างพร้อมบานปิดลายไม้ เปิดปิดแบบเซาะร่อง เทียบขนาดฝ่ามือกับอ่างล้างมือให้เห็นระยะใช้งานค่ะ ตัวอ่างให้มาใหญ่ดีและมีขอบรองอ่างให้วางของรอบๆได้ ถัดมาเป็นตำแหน่งของโถสุขภัณฑ์ ใช้ของ Kohler ติดตั้งอุปกรณ์ให้ครบชุดทั้งสายฉีดชำระและที่แขวนทิชชู่สแตนเลส ที่ผนังข้างโถสุขภัณฑ์มีเจาะช่องมาให้วางของเพิ่มได้ ห้องตัวอย่างแบบ 2 ห้องนอนเป็นห้องแบบหน้ากว้างขนาด 57.67 ตร.ม. เปิดมาจะเป็นส่วนครัว ห้องทานอาหาร และห้องนั่งเล่นนะคะ ส่วนห้องนอนจัดไว้ทั้งสองฝั่ง ระยะใช้งานและขนาดห้องและส่วนดูสบายๆและลงตัวดี ห้องตัวอย่างจัดเฟอร์นิเจอร์แบบ Monet หรือโทนสีอ่อนมาให้ จะเป็นอย่างไรไปดูกันเลยค่ะ เปิดเข้ามาในห้องจะเป็นส่วนครัว ห้องอาหาร และห้องนั่งเล่นติดระเบียงแบบนี้ เพราะเป็นห้องแบบหน้ากว้างเปิดเข้ามาจะไม่มีผนังบัง ซึ่งให้ความรู้สึกว่ามีพื้นที่กว้างขวางทีเดียว มองกลับไปที่ส่วนประตูทางเข้าห้อง จะเห็นว่าส่วนครัวให้ชุดครัวรูปตัว L พร้อมโต๊ะอาหารและเก้าอี้สำหรับ 4 ที่นั่งมาให้ จะเห็นระยะเดินด้านข้างโต๊ะอาหารทั้งสองฝั่งดูลงตัวดี ชุดครัวสำหรับ 2 ห้องนอน มาเป็นชุดหน้าบานไฮกรอสสีขาวรูปตัว L เราเปิดหน้าบานให้ดูนะคะ จะเห็นว่าเก็บของได้เยอะทั้งชั้นด้านบนและล่าง โต๊ะอาหารเป็นโต๊ะลายไม้สีอ่อน จัดโต๊ะมาให้แบบสี่ที่นั่งแต่สามารถขยายโต๊ะได้โดยการยกปีกด้านข้างขึ้นแล้วผลักเข้าไปกลายเป็น 6 ที่นั่งได้ เก้าอี้ที่เห็นอยู่ในชุด เป็นเฟอร์นิเจอร์โทนสีอ่อนนะคะ มาเป็นแนวโมเดิร์น ท้อปครัวเป็นหินควอตซ์สีขาว ผนังหลังชุดครัวมี Back Splash มาให้เป็นกระเบื้องเซรามิก ทำให้เช็ดล้างทำความสะอาดได้ง่าย มีพื้นที่ทำอาหารสบายๆ อ่างล้างจานของ Haffele เป็นอ่างสแตนเลส 1 หลุม ไม่มีที่พักจานด้านข้าง เทียบขนาดมือให้เห็นระยะใช้งานค่ะ ก็อกน้ำเป็นโครเมียมทรงโค้ง หมุนซ้าย-ขวาได้ ช่วยให้การล้างจาน ล้างผักผลไม้ ทำได้สะดวก ใต้อ่างล้างจานมีถังขยะพร้อมฝาปิดมาให้ เตาไฟฟ้าแบบสี่หัวพร้อมเครื่องดูดควันจาก Electrolux ส่วนห้องนั่งเล่นให้โซฟาผ้า 2 ที่นั่งสีขาว, อาร์มแชร์สีขาว, โต๊ะกาแฟ และชั้นวางทีวีมาให้ ของจริงได้ตามนี้ ไม่รวมของตกแต่งนะคะ โดยชั้นวางทีวี Built in มาให้เรียบร้อย มีชั้นวางของพร้อมหน้าบานปิดและลิ้นชักเก็บของ โซฟาเป็นแบบสองที่นั่งสีขาวดูโมเดิร์นสบายตา จะเห็นว่าวางโซฟายาวๆแบบสามสี่ที่นั่งไม่ได้เพราะผนังด้านหลังติดประตูทางเข้าห้องนอนเล็ก แนะนำให้หาที่วางขามาวางเพิ่มแทนสำหรับคนชอบนอนเหยียดขาดูทีวีนะ ส่วนห้องนั่งเล่นจะเชื่อมต่อกับส่วนระเบียง ประตูระเบียงเป็นกระจกบานใหญ่แบบสองบาน สูงจากพื้นจรดฝ้าให้รับวิวรับลมรับแสงสว่างได้เต็มที่ ธรณีประตูยกขึ้นสูงประมาณ 10 cm. เพื่อกันฝุ่นและความชื้นจากระเบียง พื้นระเบียงเป็นกระเบื้องเซรามิก 30 x 30 ซม. ราวกันตกและกริลบังแอร์คอมเพรสเซอร์เป็นแบบเดียวกัน แต่ระเบียงนี้จะมีกริลบังแอร์คอมเพรสเซอร์ 2 ฝั่ง เพราะในห้องมีแอร์ 3 ตัวค่ะ ซี่กริลแอร์คอมเพรสเซอร์เป็นรูปตัว Z เพื่อผลักลมออกนอกระเบียงและสูงจรดเพดานแบบนี้ค่ะ จากระเบียงมองกลับไปที่ประตูทางเข้าห้อง ฝั่งซ้ายมือตรงข้ามชุดครัวจะเป็นทางเดินไปห้องน้ำ ที่มุมใกล้ประตูทางเข้าห้องและทางเข้าห้องน้ำจะมีตู้ Built in มาให้ จะเป็นชั้นวางของและเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้าค่ะ ก็เป็นตำแหน่งที่เหมาะกับการใช้งานดี จากส่วนครัวมองเข้าไปที่ส่วนห้องน้ำ ห้องน้ำนี่เป็นห้องน้ำที่ห้องนั่งเล่นใช้ร่วมกับห้องนอนเล็ก โดยจะมีประตูสองบานเชื่อมระหว่างห้องนอนเล็กและห้องนั่งเล่นนะคะ วัสดุสุขภัณฑ์เป็นแบบเดียวกับห้องแรกทุกอย่าง แต่จัดวางไม่เหมือนกันเท่านั้นเองค่ะ ส่วนอาบน้ำดูมีพื้นที่สบายๆไม่อึดอัด ผนังห้องน้ำปูกระเบื้องมาให้จรดเพดาน ติดไฟดาวน์ไลท์ และมีพัดลมดูดอากาศติดตั้งมาให้เรียบร้อย ส่วนอาบน้ำมีฉากกั้นห้องมาให้เป็นกระจกเทมเปอร์ มีก่อธรณีขึ้นมาประมาณ 5 ซม. เพื่อกั้นระหว่างพื้นส่วนเปียกส่วนแห้ง ผนังข้างชุดฝักบัวเจาะช่องมาให้วางของได้ ตัวช่องค่อนข้างสูงนะคะ ใครอยากวางของเยอะก็วางชั้นเพิ่มไปตรงกลางได้ ฝักบัวเป็นของ Kohler หรือแบรนด์เทียบเท่า เทียบขนาดฝ่ามือกับฝักบัวมาให้ดูจะเห็นว่ามีขนาดใหญ่ดีค่ะ นอกจากนี้มีที่วางสบู่ขนาดกว้างพอสมควรติดมาให้กับชุดฝักบัวด้วย เคาน์เตอร์อ่างล้างมือทำช่องเก็บของชั้นล่างพร้อมบานปิดลายไม้ เปิดปิดแบบเซาะร่อง เทียบขนาดฝ่ามือกับอ่างล้างมือให้เห็นระยะใช้งานค่ะ ตัวอ่างให้มาใหญ่ดีและมีขอบรองอ่างให้วางของรอบๆได้ ถัดมาเป็นตำแหน่งของโถสุขภัณฑ์ ใช้ของ Kohler ติดตั้งอุปกรณ์ให้ครบชุดทั้งสายฉีดชำระและที่แขวนทิชชู่สแตนเลส ที่ผนังข้างโถสุขภัณฑ์มีเจาะช่องมาให้วางของเพิ่มได้ จากห้องน้ำจะมีประตูสองบาน บานนึงเปิดไปส่วนห้องนั่งเล่น อีกบานเปิดไปห้องนอนเล็ก เราเข้าไปดูห้องนอนเล็กกันต่อเลยค่า ห้องนอนเล็กจัดวางเฟอร์นิเจอร์มาให้ มีฐานเตียง 3.5 ฟุต โต๊ะข้างเตียง โต๊ะทำงาน และตู้เสื้อผ้า มาให้ อันนี้เป็นสไตล์ Monet หรือสีอ่อนแล้วดูเบาสบายตา ปลายเตียง มีระยะเหลือประมาณ 30 ซม. คือพอเดินไปเดินมาได้ แต่ไม่เหมาะวางชั้นวางทีวีนะคะ ถ้าอยากติดทีวีในห้องนอนแนะนำให้แขวนผนัง โดยผนังฝั่งปลายเตียงเตรียมเต้าเสียบปลั๊กไฟและช่องเสียบสายสัญญาณสำหรับทีวีมาให้เรียบร้อย ข้างเตียงฝั่งติดหน้าต่างกว้างประมาณ 40 ซม. วางโต๊ะข้างมาให้ ในห้องนอนจะมีหน้าบานใหญ่เกือบเต็มผนังมาให้ 1 ชุด เป็นหน้าต่างลูกฟักกระจกใส กรอบอลูมิเนียมสีดำ บานขวามือและบานล่างเป็นกระจกบานฟิกซ์ช่วยเพิ่มช่องแสงธรรมชาติให้ห้องสว่าง ส่วนบานบนเป็นบานเลื่อนคู่ มองไปทางฝั่งประตูทางเข้าห้องน้ำ และประตูทางออกไปห้องนั่งเล่น จะเห็นว่ามีตู้เสื้อผ้ามาให้ 2 ตู้นะคะ ตู้ฝั่งขวาที่อยู่ติดห้องน้ำนี่เป็นตู้แบบเดียวกันกับห้องตัวอย่างห้องแรกค่ะ ส่วนตู้ฝั่งซ้ายที่อยู่ติดประตูทางออกจะมีขนาดแคบกว่า โต๊ะทำงานนี่ถ้าเปิดกระจกตั้งขึ้นมาก็ใช้เป็นโต๊ะเครื่องแป้งได้ค่ะ ถ้าปิดลงมาก็ใช้เป็นโต๊ะทำงาน พร้อมวางเก้าอี้และโต๊ะข้างเตียงมาให้ เปิดตู้เสื้อผ้าฝั่งซ้ายมือให้ดูค่ะ ด้านใน มีราวแขวนเสื้อผ้า, ลิ้นชักเก็บเสื้อผ้า 2 ชั้น และแบ่งชั้นวางของไว้ด้านบน เปิดตู้เสื้อผ้าฝั่งขวามือให้ดูค่ะ ด้านใน มีราวแขวนเสื้อผ้า, ลิ้นชักเก็บเสื้อผ้า 2 ชั้น และแบ่งชั้นวางของไว้ด้านบน เข้าไปดูส่วนห้องนอนใหญ่กันต่อค่ะ ห้องนอนใหญ่นี่กว้างขวางและมีห้องน้ำในตัว เฟอร์นิเจอร์ให้มาเป็นเตียง 5 ฟุต พร้อมลิ้นชักใต้เตียงและเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ และห้องนี้จะมี Daybed มาให้นอนเล่นด้วย ข้างเตียงฝั่งติดหน้าต่าง มีพื้นที่กว้างประมาณ 50 cm. ส่วนข้างเตียงก็จะมีโต๊ะหัวเตียงให้อีก 1 ตัว ส่วนปลายเตียงทำ Built in โต๊ะทำงานและชั้นวางทีวีมาให้ โต๊ะทำงานนี่ถ้าเปิดกระจกตั้งขึ้นมาก็ใช้เป็นโต๊ะเครื่องแป้งได้ค่ะ ถ้าปิดลงมาก็ใช้เป็นโต๊ะทำงาน พร้อมวางเก้าอี้และโต๊ะข้างเตียงมาให้ ปลายเตียงมีระยะประมาณ 1 เมตร ทำ Built in ชั้นวางทีวีมาให้ ช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้สอยได้ดี เราเปิดให้ดูช่องเก็บของด้านในค่ะ จะเห็นว่ายังเหลือระยะ พอเดินไปเดินมาได้ไม่อึดอัด มองไปอีกฝั่งของห้องนอนจะเป็นทางเดินไปห้องน้ำ ข้างเตียงอีกฝั่งวางโต๊ะข้างเตียงและมี Daybed เข้ามุมมาให้ เป็น Day Bed หุ้มผ้าสีเทาที่เอาไว้นอนเล่นดูทีวี อ่านหนังสือได้สบาย ๆ แต่ตู้เสื้อผ้าก็ให้มากว้างกว่าห้องอื่นค่ะ เปิดตู้ให้ดูจะเป็นแบบนี้ ตรงข้ามตู้เสื้อผ้าเป็นทางเข้าไปห้องน้ำ ห้องน้ำที่นี่ขนาดแบบกำลังดีใช้สบายทุกห้องเลยค่ะ สุขภัณฑ์กับวัสดุสเป็คเดียวกันหมดนะคะ แต่ห้องนี้ข้างอ่างล้างมือมีที่ว่างอยู่ ตรงนี้เหมาะหาชั้นมาวางเอาไว้สำหรับวางสบู่ล้างหน้า ครีมทาผิว หรือแปรงสีฟันข้างอ่างนะคะ เพราะมีระยะพออยู่ เคาน์เตอร์อ่างล้างมือทำช่องเก็บของชั้นล่างพร้อมบานปิดลายไม้ เปิดปิดแบบเซาะร่อง เทียบขนาดฝ่ามือกับอ่างล้างมือให้เห็นระยะใช้งานค่ะ ตัวอ่างให้มาใหญ่ดีและมีขอบรองอ่างให้วางของรอบๆได้ ถัดมาเป็นตำแหน่งของโถสุขภัณฑ์ ใช้ของ Kohler ติดตั้งอุปกรณ์ให้ครบชุดทั้งสายฉีดชำระและที่แขวนทิชชู่สแตนเลส ที่ผนังข้างโถสุขภัณฑ์มีเจาะช่องมาให้วางของเพิ่มได้ ผนังห้องน้ำปูกระเบื้องมาให้จรดเพดาน ติดไฟดาวน์ไลท์ และมีพัดลมดูดอากาศติดตั้งมาให้เรียบร้อย ส่วนอาบน้ำมีฉากกั้นห้องมาให้เป็นกระจกเทมเปอร์ มีก่อธรณีขึ้นมาประมาณ 5 ซม. เพื่อกั้นระหว่างพื้นส่วนเปียกส่วนแห้ง ผนังข้างชุดฝักบัวเจาะช่องมาให้วางของได้ ตัวช่องค่อนข้างสูงนะคะ ใครอยากวางของเยอะก็วางชั้นเพิ่มไปตรงกลางได้ ฝักบัวเป็นของ Kohler หรือแบรนด์เทียบเท่า เทียบขนาดฝ่ามือกับฝักบัวมาให้ดูจะเห็นว่ามีขนาดใหญ่ดีค่ะ นอกจากนี้มีที่วางสบู่ขนาดกว้างพอสมควรติดมาให้กับชุดฝักบัวด้วย ราคา (มิ.ย.61)
ค่าส่วนกลาง : 65 บาท/ตร.ม./เดือน (เก็บล่วงหน้า 1 ปี) สอบถามราคาเพิ่มเติมกรุณาติดต่อสำนักงานขายเพื่อข้อมูลที่อัพเดตที่สุดค่ะ* สรุป ทำเลที่ตั้งโครงการ– มาเอสโตร 03 รัชดา – พระราม9 เป็นโครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่ที่พูดได้ว่าสะดวกทั้งคนใช้รถและไม่ใช้รถค่ะ เพราะอยู่ใกล้รถไฟฟ้า MRT ทั้งสถานีพระราม 9 และ สถานีศูนย์วัฒนธรรม ใกล้ Air Port Link สถานีมักกะสัน นอกจากนี้ยังใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนพิเศษศรีรัชที่ทำให้คนขับรถมีความสะดวกสบายขึ้นเยอะ ไปไหนมาไหนก็จัดว่าสะดวกมาก เพราะอยู่ใจกลางเมืองอย่างรัชดาภิเษก พระราม 9 ที่ขึ้นชื่อว่าเป็น New CBD อยู่แล้ว ใกล้อโศก สุขุมวิท ใกล้ห้าง ใกล้ทางด่วน ใกล้โรงเรียน มหาวิทยาลัย ใกล้โรงพยาบาล สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆอยู่ในระยะที่พอเดินไปได้แทบทั้งหมด หรือนั่งรถไฟฟ้าก็ไม่กี่สถานีเท่านั้น ความอุดมสมบูรณ์ – อุดมสมบูรณ์มากค่ะย่านนี้ นอกจากร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-11 ที่ขนาบสองข้างที่ดินโครงการเองและร้านขายยา ขายแว่น ร้านทำผม ร้านอาหาร ร้านอำนวยความสะดวกต่างๆที่มีให้เลือกเยอะมากในรัชดาซอย 3 แล้ว ยังเป็นทำเลที่อยู่ใกล้ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ในระยะเดินแค่ 500 เมตรถึงอย่าง ฟอร์จูนทาวน์ ที่มีทั้งโลตัส ร้านอาหาร อาคารสำนักงาน สถาบันเสริมความงาม โรงเรียนกวดวิชา ธนาคาร และอุปกรณ์ไอทีที่มีชื่อเสียงในความหลากหลายแล้ว ข้ามถนนไปฝั่งตรงข้ามก็จะมีเซ็นทรัลพระราม 9, Belle Grand Rama9 เดินไปประมาณ 700 เมตรก็เจอเอสพลานาด รัชดา และตลาดนัดรถไฟอยู่ด้านหลัง สำหรับคนชอบเที่ยวกลางคืนก็มีแหล่งเที่ยวอยู่ที่ย่านรัชดา และ RCA ใกล้ ๆ และรัชดาซอย 4 ที่อยู่ไม่ไกล เป็นโซนที่หาของกินหรือแหล่งช้อปปิ้งได้ทั้งกลางวันกลางคืนค่ะ การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว – สำหรับคนขับรถ ใครอยู่แถวนี้ก็มีความได้เปรียบพอตัว เพราะมีทางให้เลือกใช้หลายทาง ไม่ว่าจะเป็นฝั่งถนนอโศก – ดินแดง ที่เชื่อมต่อระหว่างย่าน CBD ที่อโศก กับ New CBD อย่างรัชดา – พระราม 9 ของโครงการเองจากที่ตั้งโครงการในซอยรัชดาภิเษก 3 เพราะสามารถเข้าออกได้หลายเส้นทาง ทั้งถนนรัชดาภิเษก, ถนนประชาสงเคราะห์หรือออกถนนดินแดงก็สามารถขับออกไปได้หมด ข้อดีอีกอย่างคือห่างจากจุดขึ้นลงทางด่วนศรีรีชประมาณ 1.3 กม.เท่านั้นค่ะ จะไปพญาไท หรือต่อมอเตอร์เวย์ไปสุวรรณภูมิก็ง่าย จากถนนรัชดาภิเษกจะออกมาโครงการมาเอสโตรจะอยู่ฝั่งถนนมุ่งหน้าไปลาดพร้าวนะคะ ถ้าจะเข้าเมืองไปอโศก สุขุมวิท จุดกลับรถก็อยู่ไม่ไกล แต่เพราะเป็นทำเลในเมืองที่มีปริมาณรถมาก เวลาเข้าออกมีรถติดบ้างเป็นธรรมดานะคะ ก็ต้องหาทางลัดเลาะกันไปดีๆ สมมติใครอยากเลี่ยงรถติดที่แยกพระราม 9 เราก็สามารถเลี้ยวเข้าถนนถนนวัฒนธรรมไปออกแยกอสมท. ที่ถนนพระราม 9 แต่เลยเส้นแยกพระราม 9 ไปหน่อยได้ค่ะ เรื่องทางลัดเลาะนี่ต้องดูไว้เยอะๆค่ะ ประหยัดเวลาเดินทางให้เราได้มากจริงๆ การเดินทางด้วยรถสาธารณะ – แถวนี้คนไม่ขับรถไปไหนมาไหนง่ายมากค่ะ ถือเป็นจุดเด่นของโครงการนี้เลยก็ว่าได้ หน้าโครงการก็มีพี่วินมอเตอร์ไซค์อยู่ เดินไป 200 เมตรก็มีป้ายรถเมล์ ใกล้ MRT ถึง 2 สถานี ทั้งสถานีพระราม 9 และ สถานีศูนย์วัฒนธรรม ในระยะเดินถึงแค่ 600 – 800 เมตร ถ้าไม่อยากเดินก็มี Shuttle Bus ไปส่งให้ถึงที่ หรือจะนั่งวินมอเตอร์ไซค์ไปก็ 10 บาทเท่านั้น สำหรับคนที่เดินทางไปต่างประเทศบ่อย นั่ง MRT สถานีเดียวถึง Air Port Link สถานีมักกะสัน โดยรวมจึงถือเป็นทำเลที่มีความสะดวกสบายสูงมากค่ะ แท็กซี่ก็เยอะ ตุ๊กๆก็แยะ ล้มไปตรงไหนก็เจอแต่วินมอเตอร์ไซค์ การออกแบบโครงการและวัสดุ – ตัวห้องขายแบบ Fully Furnished คือมีชุดครัวและชุดเฟอร์นิเจอร์มาให้ ซึ่งสเป็คมาสวยทั้งคู่และถ้าเทียบกับราคาและทำเลกับคอนโดอื่นๆในโซนเดียวกันก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างดีและมีความใส่ใจในรายละเอียด ชุดครัวเป็นหน้าบานสีขาวไฮกรอสของ Starmark เฟอร์นิเจอร์มีให้เลือก 2 สไตล์ ซึ่งทำเป็นแนว Multi Function หรือปรับใช้งานได้หลายรูปแบบ สุขภัณฑ์ Kohler มีฉากกั้นห้องน้ำเป็นกระจกเทมเปอร์แต่ฝักบัวเป็นแบบธรรมดาไม่มี Rain Shower นะคะ และก็มีจุดที่ไม่เป๊ะอยู่บ้างอย่างอ่างล้างมือในห้องน้ำทุกห้องเป็นอ่างขนาดใหญ่ดีมีที่เก็บพร้อมบานปิดมาให้ด้านล่าง แต่ไม่มีที่วางของรอบอ่างเลย ซึ่งอันนี้ก็ต้องหาชั้นวางเพิ่มกันเองนะคะ และฝ้าเพดานสูง 2.45 เมตร ดรอปฝ้าลงมาบางส่วนสูง 2.2 m. พื้นเป็นลามิเนต 8 มม.กับแกรนิตโต้ 60 x 60 cm. สิ่งอำนวยความสะดวก – เนื่องจากเป็นโครงการที่เป็นอาคารหมู่โครงการแรกของแบรนด์ Maestro นะคะ ทำให้ Maestro 03 มาแบบมีคอร์ตยาร์ดตรงกลางและได้ส่วนกลางที่ค่อนข้างใหญ่กว่า Maestro อื่นๆโดยพื้นที่ส่วนกลางจะอยู่ที่ชั้นล่างที่คอร์ตตรงกลางโดยมีอาคารทั้งสามล้อมรอบ มีข้อดีคือเรื่องของความเป็นส่วนตัวคนภายนอกไม่สามารถมองเห็น การใช้งานมีความต่อเนื่อง และการออกแบบมีคอนเซ็ปแบบแนวยูโรเปี้ยนคลาสสิค ที่เห็นได้ค่อนข้างชัด ตั้งแต่เปลือกอาคาร การตกแต่งผนัง ประตู หน้าต่าง Lobby ไล่ไปจนถึงสระว่ายน้ำ ฟิตเนส สวนหมากรุก และรั้วพุ่มต้นไม้ที่เป็นลู่วิ่งรอบโครงการซึ่งก็นับว่าจัดมาให้เยอะทีเดียวค่ะ อีกเรื่องคือความได้เปรียบของโครงการที่สร้างเสร็จแล้วแบบนี้คือเราเข้าไปเดินดูได้เลยว่าการดูแลรักษาเป็นยังไง และพื้นที่ภายในจริงๆให้ความรู้สึกอย่างไร ซึ่งโครงการนี้จัดวางพื้นที่มาได้สวยงามน่าใช้และมีระบบการดูแลรักษาที่ดีค่ะ สามารถเข้าไปดูกันได้ คะแนน
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Tel : 02 116 1111 Website : https://www.mde.co.th/th/project/maestro03 หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ |