ระบอบกึ่งประธานาธิบดี(semi-presidential system)หรือเรียก อีกอย่างหนึ่งว่าระบอบกึ่งรัฐสภา (semi-parliamentary system)ที่จะกล่าวถึงนี้ จริงๆแล้วก็คือระบอบประธานาธิบดีนั่นเอง แต่ได้ถูกปรับปรุงหรือแก้ไขหลักการใหม่เพื่อเหมาะสมกับแต่ละประเทศ ซึ่งประเทศแรกที่นำระบอบกึ่งประธานาธิบดีมาใช้ก็คือประเทศฝรั่งเศส และตามมาด้วยประเทศที่เกิดใหม่ทั้งหลายที่เคยเป็นอดีตสหภาพโซเวียตภายหลังจากการล่มสลายของระบอบคอมมิวนิสต์นั่นเอง หลักการสำคัญของระบอบกึ่งประธานาธิบดี http://prachatai.com/journal/2009/02/20125
ระบบกึ่งประธานาธิบดีสาธารณรัฐกึ่งประธานาธิบดี (), ระบบกึ่งประธานาธิบดี (semi-presidential system), ระบบบริหารคู่ (dual executive system), ระบบกึ่งประธานาธิบดีกึ่งรัฐสภา หรือ ระบบกึ่งรัฐสภากึ่งประธานาธิบดี เป็นระบอบการปกครองแบบหนึ่งที่เป็นประมุขและหัวหน้าฝ่ายบริหารโดยใช้อำนาจผ่าน ระบบกึ่งประธานาธิบดีมีต้นกำเนิดใน ระบอบกึ่งประธานาธิบดีนั้นเกิดขึ้นครั้งแรก ณ ในสมัย โดยมี เป็น ทั้งนี้เพราะไม่ว่าผู้ใดจะมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ก็ทำให้เกิดความวุ่นวาย มีข้อขัดแย้งมากและต้องยุบสภาบ่อย รัฐบาลหรือรัฐสภาต้องออกจากตำแหน่งและมีการเลือกตั้งใหม่อยู่บ่อยครั้ง ทำให้เสียงบประมาณ ดังนั้นนักรัฐศาสตร์และนักนิติศาสตร์ของจึงได้พัฒนารูปแบบการปกครองโดยผสมผสานกันระหว่างระบอบรัฐสภาและระบอบประธานาธิบดี ทั้งนี้ได้มีการบัญญัติไว้ใน และมีการแก้ไขในปี อีกด้วย อำนาจบริหาร ประธานาธิบดีมีอำนาจในการบริหารสูงสุด และเป็นผู้แต่งตั้งนายกรัฐมนตรี โดยที่นายกรัฐมนตรีจะต้องเสนอรายชื่อรัฐมนตรีในคณะรัฐมนตรี และประธานาธิบดีจะลงนามอนุมัติ ประธานาธิบดีจึงเป็นประมุขแห่งรัฐและหัวหน้าอำนาจบริหาร ส่วนนายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้ารัฐบาล อำนาจนิติบัญญัติ รัฐสภา (สภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา (สภาสูง)) เป็นผู้ใช้อำนาจและยังทำหน้าที่ควบคุมดูแลการปฏิบัติงานของรัฐบาลให้เป็นไปตามที่เสนอไว้ต่อสภา ทั้งยังมีอำนาจลงมติไม่ไว้วางใจคณะรัฐบาลด้วย แต่ขณะเดียวกันประธานาธิบดีก็มีอำนาจยุบสภาผู้แทนราษฎรได้เช่นกัน |