Show
ถ้าพูดถึงมนุษย์ป้า เรามักจะนึกถึงคุณป้าวัยทอง ซึ่งก็คือผู้หญิงวัยที่เริ่มหมดประจำเดือนอยู่ในช่วงอายุประมาณ 45 – 55 ปี ซึ่งเป็นช่วงที่อวัยวะในการผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจน หรือรังไข่ของคุณผู้หญิงทั้งหลายเริ่มทำงานน้อยลง หรือหยุดทำงาน เมื่ออวัยวะที่ใช้ในการผลิตฮอร์โมนหยุดทำงาน การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนที่เกิดขึ้นก็จะส่งผลให้เกิดอาการต่างๆ ทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมผู้หญิงช่วงอายุเข้า 40 กว่าเริ่มจะมีความแปรปรวนทางอารมณ์สูง และหลายๆ คนเริ่มมีน้ำหนักหรืออ้วนมากขึ้น แต่เราสามารถรับมือกับอาการของวัยทองได้ นอกจากการควบคุมและเข้าใจลักษณะการเปลี่ยนแปลงของวัยทองแล้ว การรับประทานอาหารที่ช่วยปรับสมดุลในร่างกายก็จะช่วยเติมเต็มส่วนที่ขาดไปให้รู้สึกกลับมาเป็นปกติได้อีกครั้ง ถ้าเรารู้จักเลือกกินอาหารให้ดีและมีประโยชน์ ดังนี้ ถั่วเหลือง ถั่วเหลือง หรืออาหารที่มีถั่วเหลืองเป็นส่วนประกอบเช่น เต้าหู้ หรือน้ำเต้าหู้ เป็นต้น เป็นอาหารที่มีโปรตีนคุณภาพสูงสะสมอยู่ มีฮอร์โมนไฟโตเอสโตรเจนทำหน้าที่คล้ายกับฮอร์โมนเอสโตรเจน การรับประทานอาหารที่มีถั่วเหลืองเป็นส่วนประกอบ นอกจากสารอาหารที่มีอยู่ในถั่วเหลืองจะช่วยปรับฮอร์โมนของผู้หญิงที่ขาดไปในร่างกายได้ รวมถึงยังช่วยลดอาการร้อนวูบวาบ และยังมีสารอาหารที่จำเป็นอีกมากมาย เช่น แคลเซียม แมกนีเซียม โปแตสเซียม วิตามินบีคอมเพล็กซ์ สังกะสี สารอาหารเหล่านี้ยังช่วยลดอารมณ์ที่แปรปรวนของวัยทองได้อีกด้วยนม เป็นอาหารที่มีความจำเป็นอย่างมากในผู้สูงอายุ หรือวัยเริ่มหมดประจำเดือน เพราะนอกจากฮอร์โมนที่ลดลงของร่างกายแล้ว มวลกระดูกในวัยทองก็จะลดลงตามไปเรื่อยๆ นั่นก็คือมวลกระดูกถูกผลิตมาน้อยกว่ามวลกระดูกที่ถูกทำลายไป การรับประทานอาหารที่มีโปรตีนสูงอย่างนม จะช่วยเสริมสร้างมวลกระดูกให้มากพอเพื่อไม่ให้เกิดโรคกระดูกพรุน เมื่อหนุ่มสาววัยทองทั้งหลายอายุมากขึ้นเรื่อยๆ ก็ไม่จำเป็นต้องบ่นอุบร้องหาที่นั่งเพราะอาการปวดเมื่อยอีกต่อไป เพราะเราสามารถเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรงได้ตั้งแต่เนิ่นๆข้าวกล้อง ในข้าวกล้องมีสารเส้นใยที่สามารถช่วยซับน้ำมันและน้ำตาลที่เรากินเข้าไปเกินในแต่ละวันทิ้งเป็นกากอุจจาระได้ การกินข้าวกล้องจึงช่วยควบคุมน้ำหนัก ระดับไขมัน และระดับน้ำตาลในเลือดไม่ให้สูงเกินไปและยังให้ความรู้สึกอิ่มนานกว่าการกินข้าวปกติ ทำให้ไม่เป็นคนกินจุบกินจิบ แต่ประโยชน์ที่สำคัญของข้าวกล้องหรืออาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรตคือ การกระตุ้นสารเซโรโทนินของคาร์โบไฮเดรต ทำให้ร่างกายหลั่งสารเซโรโทนินได้มากขึ้น ซึ่งเป็นการสร้างความสุข หรือควบคุมอารมณ์ของเราไม่ให้หงุดหงิดง่าย อารมณ์ไม่แปรปรวน และเจ้าสารเซโรโทนินนี้ละที่สามารถช่วยลดความเครียดได้ผลไม้สด ผลไม้สด เป็นอาหารที่มีไบโอฟลาโวนอยด์ ช่วยเสริมสร้างสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งเจ้าสารต้านอนุมูลอิสระตัวนี้แหละที่คอยช่วยปรับสมดุลให้ร่างกาย ลดอาการร้อนวูบวาบ เหงื่อออกตอนกลางคืน และยังสามารถควบคุมระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนได้ด้วย ซึ่งผลไม้สดที่มีสารไบโอฟลาโวนอยด์อยู่มากเช่น มะขาม ส้มโอ ส้มเขียวหวาน มะนาว เป็นต้น หรืออาจเลือกทานเป็นผลไม้จำพวกสตรอเบอรี่ อะโวคาโด กล้วย ฝรั่ง นอกจากจะมีสารไบโอฟลาโวนอยด์แล้วยังมีวิตามินอีที่ช่วยให้ผิวพรรณผ่องใส ไม่แก่ก่อนวัยอันควรด้วยผักใบเขียว แม้ว่าผักจะมีหลากหลายสีให้เลือกทาน แต่ขึ้นชื่อว่าผักแล้วมีประโยชน์ทั้งนั้น สำหรับวัยทองแล้วการทานผักใบเขียวจะช่วยในเรื่องความจำ ชะลอโรคหัวใจ ผักใบเขียวยังมีกรดโฟลิกที่ช่วยในการผลิตเซลล์ใหม่ ช่วยในการเผาผลาญโปรตีน แป้ง และไขมันดีขึ้น นอกจากนี้ ยังช่วยขับสารพิษออกจากร่างกายได้อีกด้วย สำหรับคนวัยทองผักใบเขียวยังมีแมกนีเซียมสูงช่วยลดอาการแปรปรวนของอารมณ์ รวมถึงอาการนอนไม่หลับได้ ผักใบเขียวที่เราหาทานได้ง่ายๆ เช่น คะน้า บร็อคโคลี่ ผักโขม กวางตุ้ง ผักกาด ปวยเล้ง ฯลฯ นอกจากการรับประทานอาหารเหล่านี้จะช่วยให้ผู้หญิงที่เริ่มเข้าสู่วัยทองสามารถปรับสมดุลในร่างกายให้กลับมาคงที่ได้แล้ว การรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ก็สามารถช่วยบรรเทาปัญหาของวัยทองไม่ให้ผู้หญิงทั้งหลายกลายเป็นมนุษย์ป้าได้เช่นกัน และหากออกกำลังกายควบคู่กับการรับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์ก็จะยิ่งช่วยให้ควบคุมฮอร์โมนได้ดีมากขึ้นติดต่อสอบถามโรงพยาบาลเปาโล พหลโยธิน โทร. 0-2271-7000อาหารเป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งที่ทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของร่างกายและฮอร์โมนเอสโตรเจน ซึ่งการที่ผู้หญิงเรามีฮอร์โมนเพศหญิงต่ำกว่าปกตินั้น จะส่งผลต่อเรื่องอารมณ์ ผิวพรรณและสุขภาพได้ง่าย วันนี้เรามีอาหารที่จะช่วยบำรุงฮอร์โมนในผู้หญิงช่วยปรับสมดุลในร่างกายก็จะช่วยเติมเต็มส่วนที่ขาดไปให้รู้สึกกลับมาเป็นปกติได้มาบอกค่ะ
ให้คะแนนบทความนี้ [คะแนนบทความนี้: 2.5]Line https://www.sexvibe.video/ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ เรายึดมั่นในหลักการรักษาที่ได้มาตรฐานและมีคุณภาพมาอย่างต่อเนื่อง โดยผู้ป่วยทุกรายจะได้รับการดูแลและติดตามผลการรักษาจากคณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างใกล้ชิด |