ปัญหา นิ ส สั้น อั ล เม ร่า 2022

 Nissan Almera Sportech 2022 รุ่นใหม่ และยังคงขายอยู่ กับเทคโนโลยี เครื่องยนต์ 1.0 เทอร์โบ ที่ให้อัตราการประหยัด สูงถึง 18 km/L กับการใช้งานจริง

 Nissan Almera Sportech 2022

    ตลาดรถในกลุ่ม รถเล็ก SubCompact Cars นั้นมีอยู่หลากหลายรุ่นแข่งขันกันสูงมาก แต่สำหรับเครื่องยนต์ ขนาด 1.0 Turbo มีเพียงสองเจ้าที่จัดจำหน่ายอยู่ในตลาด ระหว่าง Nissan Almera และ Honda City 1.0 TURBO ก็ต้องยอมรับกันเลยว่า City มียอดขายที่โดดเด่นกว่า พร้อมกับตัวเลือกเพิ่มในรุ่นตัวถัง HATCHBACK ยิ่งทำให้ขยายตลาดได้เพิ่ม

Nissan Almera ปรับเปลี่ยนเพิ่มด้วยชุดแต่ง Sportech ทำให้รถดูสปอร์ตมากยิ่งขึ้น และทางทีมงานก็ลืมอารมณ์ของตัวรถ Nissan Almera แล้วว่าขับขี่เป็นอย่างไรบ้างจึงได้นำมาทดสอบอีกครั้ง วิ่งทดสอบกันยาวๆถึงจังหวัด ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทางประมาณ 290 กิโลเมตร

Nissan Almera Sportech (นิสสัน อัลเมร่า สปอร์ตเทค)

ราคา Nissan Almera Sportech 2022
1.0L Turbo V Sportech CVT     ราคา 629,000 บาท
1.0L Turbo VL Sportech CVT   ราคา 659,000 บาท

สีตัวถังภายนอกของ Nissan Almera Sportech 2021 จะมีให้เลือก 5 สี ประกอบด้วย

สีส้ม โมนาร์ช

 ภายนอก Nissan Almera Sportech 

   ตัวบอดี้ภายนอกไม่เปลี่ยนแปลงอะไร แต่มีการตกแต่งเพิ่มเติมให้ดูสปอร์ต กระจังหน้าโครเมียมเปลี่ยนเป็นสีดำเงาเข้ามา ลิ้นกันชนหน้า-หลัง ตกแต่งสีเงินตัดกับสีตัวรถ  กระจกมองข้างก็แต่งเพิ่มด้วยวัสดุสีเงิน ส่วนสปอยเลอร์จะเป็นสีเดียวกับตัวรถ

อุปกรณ์ภายนอก Nissan Almera Sportech 

กระจังหน้าโครเมียมดำเงา
กันชนหน้า-หลังสีเดียวกับตัวรถ พร้อมตกแต่งด้วยสีเงิน
มือจับประตูด้านนอกสีเดียวกับตัวรถ
ไฟหน้า LED พร้อม LED Signature Light
ไฟเลี้ยวเบรกระจกมองข้าง
ไฟท้ายแบบ Signature Light
กระจกมองข้างสีเงินปรับ-พับด้วยไฟฟ้า
ระบบปัดน้ำฝนด้านหน้าแบบตั้งเวลาหน่วง
สปอยเลอร์สีเดียวกับตัวรถ
เสาอากาศแบบฝังกระจกหลัง

ไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED
 

ภายใน Nissan Almera Sportech 

ภายในโทนสีดำพร้อมเดินด้ายสีเทาเข้ม
เบาะนั่งผ้าพร้อมเดินด้ายสีเทาเข้ม ปรับระดับสูง-ต่ำได้
คอนโซลหน้าหุ้มหนังสังเคราะห์สีดำพร้อมเดินด้ายสีเทาเข้ม
ช่องแอร์ด้านข้างตกแต่งด้วยวัสดุสีเทาเข้ม และเปียโนแบล็ก
คอนโซลกลางตกแต่งด้วยเปียโนแบล็ก
พนักวางแขนด้านหน้า พร้อมที่เก็บของ และช่องจ่ายไฟแบบ USB 2 ตำแหน่ง
พวงมาลัยหุ้มหนังตกแต่งด้วยวัสดุสีเทาเข้ม ปรับได้ 4 ทิศทาง
กุญแจรีโมทอัจฉริยะ
ปุ่มสตาร์ตเครื่องยนต์
มาตรวัดเรืองแสง Fine Vision Meter แบบ Digital ผ่านหน้าจอ TFT ขนาด 7 นิ้ว
ระบบข้อมูลและความบันเทิง nissan connect
หน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว
ช่องเชื่อมต่อบลูทูธ, USB, AUX-IN
รองรับ Apple Carplay
ลำโพง 6 ตำแหน่ง
 

ขุมพลัง Nissan Almera Sportech 

การทดสอบ Nissan Almera Sportech

   รับรถทดสอบสีแดง รุ่น VL สิ่งแรกกับภายนอก การตกแต่งโดย สเกิร์ต รอบคันสีเงินรวมถึงหูช้าง ที่มีสีตัดกับตัวรถสีแดงตอนแรกคิดว่าขัดตาแต่พออยู่กับตัวรถจริงๆแล้วก็ดูเข้ากันดี ไม่ได้รู้สึกต่างออกไป รวมๆแล้วลงตัว กระจังหน้าแบบโครเมียมรมดำ ทำให้รถดูสปอร์ตมากขึ้น 

ภายในห้องโดยสาร เน้นการตกแต่งสีดำเป็นหลักเบาะแบบผ้า ส่วนตัวทีมงานชอบเบาะแบบผ้ามากกว่าเหมาะกับบ้านเราซึ่งเป็นอากาศร้อนเวลาจอดตากแดดแล้วเข้ามานั่งเบาะไม่อมความร้อนมากเท่าไหร่ และเบาะผ้าจะค่อนข้างนุ่มกว่าเบาะหนัง (หนังเทียม) สิ่งอำนวยความสะดวกก็เรียกว่าพอเพียงต่อการใช้งาน เช่น ช่องUSB Apple Carplay เพื่อดูแผนที่ เพียงพอแล้ว พวงมาลัยแบบท้ายตัด อันนี้เสียดายถ้าหุ้มหนังตรงตำแหน่งมือจับจะรู้สึกสปอร์ตมากว่านี้และใช้งานได้ดีด้วย

ขับใช้งานในเมืองอยู่ 1 วันอัตราการกินน้ำมัน 14-15 km/L รับได้กับสภาพรถติด นิสสันเป็นหนึ่งในรถที่มีแอร์เย็นมากตั้งแต่ รถกระบะยันรถเก๋ง อันนี้ดีสำหรับ ประเทศไทย รถมีขนาดกำลังพอดีสำหรับการใช้งานในเมืองทำให้คล่องตัวในการเดินทาง  ตำแหน่งมุมต่างง่ายจุดอับสายตาน้อย มีกล้องแบบ 360 องศา ให้เวลาถ่อยเพิ่มความปลอดภัย ท้ายรถกว้างมากสามารถเก็บของได้เยอะ

ถึงเวลาออกเดินทางจุดหมาย ประจวบคีรีขันธ์ วิ่งออกนอกเมืองสิ่งที่ประทับใจแรกคือ การเก็บเสียงภายในห้องโดยสารต้องบอกว่าทำได้ดีเกินราคารถที่ความเร็วเกิน 140 km ถึงจะมีเสียงเข้าตัวรถ ซึ่งลืมไปแล้วว่าตอนรถออกมาใหม่ๆทดสอบกันเสียงดังหรือเปล่าแต่ในรุ่นปัจจุบันการเก็บเสียงดีมาก วิ่งด้วยความเร็วสูงตัวรถให้การเกาะถนนที่ค่อนข้างดีไว้ใจได้ เข้าโค้งเปลี่ยนเลนได้อย่างมั่นใจ ประกอบกับพวงมาลัยที่มีน้ำหนักกำลังพอดีในการวิ่งทั้งความเร็วสูงและใช้งานในเมือง ยิ่งทำให้รู้สึกว่ามั่นใจมาก

เครื่องยนต์ 1.0 Turbo ต้องบอกว่าเป็นเครื่องที่ดีให้กำลังแบบต่อเนื่องถ้าเทียบกับ City บอกเลยว่าแรงกว่า แต่ อัลเมร่า เป็นความแรงแบบต่อเนื่องแนวเหยียบแล้วก็มาตลอดไม่หมด และเหนือสิ่งอื่นใดในความเร็ว 120 km รอบเครื่องยนต์ ใช้เพียง 2,000 ต้นๆเท่านั้น โอ้โห นี้เครื่องดีเซลชัดๆ จึงทำให้ได้ตัวเลขในการวิ่งอัตราการกินน้ำมันเพียง 18 km/L เท่านั้น เรียกว่าดีงามมาก 

ปุ่มโหมดสปอร์ต

   การขับขี่สำหรับ นิสสัน อัมเมร่า ให้อารมณ์เหมือนขับรถใหญ่มากกว่า ด้วยเครื่องยนต์ที่ให้การตอบสนองดีให้พละกำลังเหมือนเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร ช่วงล่างดีเกาะถนนไม่นิ่มไม่แข็งเกินไปจนรู้สึกว่าทางนิสสันปรับปรุงอะไรเพิ่มหรือเปล่า การเก็บเสียงดี ซึ่งรวมๆแล้วทำให้การใช้งานสำหรับวิ่งทางไกลไม่รู้สึกเหนื่อยแต่อย่างไรเพราะเราขับขี่แบบไม่กังวล  แต่เสียดายไม่มี ระบบควบคุมความเร็วคงที่ (cruise control) มาให้ 

ความปลอดภัย Nissan Almera Sportech 
 

ถุงลมนิรภัย SRS คู่หน้า
ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS
ระบบกระจายแรงเบรก EBD
ระบบเสริมแรงเบรก BA
ระบบกุญแจ Immobilizer
ปุ่มควบคุมระบบเซ็นทรัลล็อก
เข็มขัดนิรภัย ELR แบบดึงกลับ และผ่อนแรงอัตโนมัติแบบสองทิศทาง
จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก ISOFIX
ระบบป้องกันเด็กเปิดประตูหลังจากภายในรถ
ระบบโครงสร้างเพื่อความปลอดภัย Zone Body Concept
ถุงลมนิรภัยด้านข้าง
ม่านถุงลมนิรภัยด้านข้าง

สรุป Nissan Almera Sportech 

   หลายคนอาจจะมองผ่านแต่จริงๆแล้ว นิสสัน อัลเมร่า เป็นรถที่ดีมากอีกหนึ่งรุ่นเลยก็ว่าได้ เหมาะกับการใช้งานในเมือง นอกเมือง รถให้การขับขี่ที่ดี ส่วนคู่แข่งโดยตรงฮอนด้าซิตี้ ดีไหมดี เช่นกัน แต่เป็นแนวทางสำหรับคนชอบรถแรงและนำไปตกแต่งต่อเพราะของแต่งมากกว่า ส่วน อัลเมร่า นั้นขับเดิมดีกว่า ทั้งอัตราการประหยัด และการเก็บเสียง  อัลเมร่า ขาดเพียง cruise control ในการเดินทาง ปุ่มโหมด sport ควรอยู่ตำแหน่งที่ชัดกว่านี้ 

และที่สำคัญกับราคาค่าตัวที่เรียกว่าเข้าถึงได้ง่ายทำให้ อัลเมร่าเป็นรถเล็กที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก

ราคารถมือสอง ซื้อรถมือสอง ขายรถมือสอง เชิญได้เลยที่ one2car

เช็คโปรโมชั่นรถใหม่ เช็คราคารถใหม่ ได้ที่นี่ 

ติดตามข่าวรถยนต์ ราคารถยนต์ รีวิวรถยนต์ และจักรยานยนต์ทุกยี่ห้อ กับเรา Autospinn