ปรับแต่ง windows 7 ให้เร็วขึ้น

จากครั้งที่แล้ว ทางเว็บ VarietyPC.net ได้นำเสนอวิธีการเพิ่มความเร็ว Windows 7 ไปแล้วกับระดับเบสิคหรือระดับพื้นฐาน ด้วยการช่วยเร่งความเร็วการชัตดาวน์เครื่องคอมพิวเตอร์, การเพิ่มความเร็วการแสดงผลรายการย่อยของเมนูสตาร์ท, การปิดการแจ้งเตือนพื้นที่ว่างฮาร์ดดิสก์ที่เหลือน้อย วันนี้ก็จะมาอีกสัก 1 บทความ กับการเพิ่มความเร็ว Windows 7 ให้เร็วติดจรวดระดับ Super Fast ! ด้วยการปิดฟีเจอร์ของระบบ Windows 7 ที่ไม่ค่อยได้ใช้งานหรือลดระดับความสำคัญที่อาจจะไม่ค่อยได้ประโยชน์ แต่จะช่วยเพิ่มความเร็วการทำงานของระบบต่างๆให้รวดเร็วยิ่งขึ้น ยังคงรักษาความสวยงามด้วยวิธีการดังต่อไปนี้

1. การปิด Visual Effects ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่จะช่วยให้หน้าตาของระบบ Windows 7 แสดงผลได้สวยงามขึ้น โดยขั้นตอนการปิดฟีเจอร์บางตัวของ Visual Effects ก็สามารถเรียกใช้งานได้โดยการกดปุ่มคีย์ลัด Windows + R เพื่อเรียกหน้าต่าง Run แล้วพิมพ์คำสั่ง Sysdm.cpl -> กด OK

หน้าต่าง System Properties จะถูกเปิดขึ้นมา ให้คลิกแท็บ Advanced

ที่หัวข้อ Performance คลิกปุ่ม Settings…

ที่หน้าต่าง Performance Options เลือกหัวข้อ Custom:

แล้วเอาเครื่องหมายถูกออกหน้าหัวข้อดังต่อไปนี้

– Animate controls and elements inside windows

– Animate windows when minimizing and maximazing

– Animations in the taskbar and Start Menu

– Fade or slide menus into view

– Fade or slide ToolTips into view

– Fade out menu items after clicking

– Save taskbar thumbnail previews

– Show shadows under mouse pointer

– Show shadows under windows

– Show translucent selection rectangle

– Smooth-scroll list boxes

2. ปรับแต่งการแสดงผลบางส่วนใน Folder Options

คลิกที่แท็บ View ที่รายการย่อยของหัวข้อ Advanced settings: เอาเครื่องหมายถูกออกหน้าหัวข้อดังต่อไปนี้

– Display file size information in folder tips (แสดงผลข้อมูลขนาดไฟล์ต่างๆในโฟลเดอร์)

– Hide extensions for known file types (ซ่อนนามสกุลประเภทของไฟล์และแฟ้มข้อมูล)

– Show encrypted or compressed NTFS files in color (แสดงการเข้ารหัสหรือการบีบอัดไฟล์ด้วยสี เช่น สีน้ำเงินที่เราเห็นกันอยู่)

– Show pop-up description for folder and desktop items (แสดงรายละเอียดของป๊อปอัพสำหรับโฟลเดอร์และรายการเดสก์ท็อป)

3. ปิดเซอร์วิสที่ไม่จำเป็นของระบบ Windows …

การเปิดหน้าต่าง Service เพื่อปิดการทำงานของเซอร์วิสที่ต้องการ โดยคลิก Start -> ที่ช่อง Start Search พิมพ์services.msc (หรือจะใช้คีย์ลัด Windows + R เพื่อเปิดหน้าต่าง Run ก็ได้)

ด้วยการดับเบิ้ลคลิกหัวข้อเซอร์วิสที่ต้องการ จนแสดงหน้าต่างคุณสมบัติดังรูปด้านล่าง

– ที่หัวข้อ Startup type: เลือก Disabled หรือถ้าหากไม่อยากปิดการทำงานถาวร ก็เลือกหัวข้อ Manual เพื่อให้เราสามารถเปิดให้เซอร์วิสของระบบทำงานตามที่เราต้องการด้วยตัวเอง

– ที่หัวข้อ Service status: คลิกปุ่ม Stop เพื่อให้เซอร์วิสดังกล่าวหยุดการทำงานทันที

(เลือกปิดเซอร์วิสที่ต้องการ ด้วยการ Disabled หรือ Manual -> Stop -> Apply -> OK

ปรับแต่ง windows 7 ให้เร็วขึ้น

รายการเซอร์วิสของระบบ Windows 7 ที่สามารถปิดการทำงานได้ ก็ได้แก่

– Application Experience (จะทำหน้าที่ตรวจสอบและซ่อมแซมโปรแกรมที่มีปัญหา)

– Computer Browser (ถ้าไม่ได้ใช้งานร่วมกับคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นบนระบบ Network ก็สามารถปิดได้)

– Desktop Window Manager Session Manager (ถ้าปิดหัวข้อนี้ และมีการใช้งานธีม Windows Aero อยู่ ก็จะกลายเป็นธีม Windows Classic ทันที)

– Diagnostic Policy Service (จะเป็นตัวที่จะทำหน้าที่วิเคราะห์และช่วยตรวจสอบปัญหาของ Services และ Components ต่างๆ ของระบบ Windows)

– Distributed Link Tracking Client (ทำหน้าที่ ดูแลไฟล์ NTFS ของระบบ Windows และเครื่องที่อยู่ในระบบเครือข่าย)

– IP Helper (รองรับการใช้งาน IPv6 ซึ่งเป็นการเชื่อมต่อเครือข่ายกับผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต ซึ่งปัจจุบันก็ยังไม่แพร่หลายเท่าที่ควร เพราะคอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่ยังคงใช้ IPv4)

– Offline Files (ถ้ามีการใช้งานไฟล์ร่วมกันบนระบบ Network และเมื่อใช้งานเสร็จ จะมีการเปรียบเทียบระหว่างไฟล์ใหม่และไฟล์เก่า ระบบก็จะมีการถามว่าต้องการให้มีการเขียนไฟล์ทับกันหรือไม่ ถ้าไม่ได้ใช้งานบนระบบ Network ก็สามารถปิดได้)

– Portable Device Enumerator Service (จะทำหน้าที่ในการตรวจสอบการถ่ายโอนข้อมูลไฟล์มีเดียต่างๆระหว่าง คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลแบบพกพา)

– Print Spooler (ถ้ามีการใช้งานคอมพิวเตอร์ร่วมกันกับพริ้นเตอร์ หัวข้อนี้ไม่ควรปิด)

– Protected Storage (จะทำหน้าที่ป้องกันการจัดเก็บข้อมูลที่สำคัญและเป็นความลับ เช่น รหัสผ่านเพื่อป้องกันการเข้าใช้คอมพิวเตอร์โดยไม่ได้รับอนุญาต)

– Remote Registry (ถ้าปิดส่วนนี้ จะทำให้คอมพิวเตอร์เครื่องอื่นในระบบ Network ไม่สามารถสั่งรีโมทระยะไกลมายังคอมพิวเตอร์เครื่องที่ปิดเซอร์วิสตัวนี้ได้)

– Secondary Logon (จะคอยตรวจสอบสิทธิ์การเข้าใช้โดยผู้ใช้งานอื่นให้สามารถ Log on เข้าสู่ระบบได้)

– Security Center (แปลตามตัวเลยก็คือ ศูนย์รักษาความปลอดภัย ตรงนี้ถ้าเรามีซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัส ที่มีทั้งแอนตี้ไวรัสและไฟร์วอลล์ในตัวและเป็นซอฟต์แวร์ที่ดีกว่า ก็สามารถปิดการทำงานได้ ด้วยการเลือกเป็น Manual ก็ได้)

– Server (ถ้าคอมพิวเตอร์ของเราไม่ได้เชื่อมต่อกับระบบเครือข่าย Network ก็สามารถปิดได้ ส่วนนี้จะไม่มีผลกับการใช้งานอินเตอร์เน็ต และจะเกี่ยวข้องกันกับหัวข้อ Computer Browser โดยถ้าสั่งปิดหัวข้อนี้ Computer Browser ก็จะต้องโดนบังคับปิดด้วย)

– Tablet PC Input Service (จะทำหน้าที่ช่วยเป็นตัวเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์ Tablet PC, Pen Drive เป็นต้น)

– TCP/IP NetBIOS Helper (ถ้าไม่ได้ใช้งานระบบเครือข่ายภายในบ้าน ในสำนักงาน หรือเครือข่าย Workgroup Network ก็สามารถปิดได้)

– Themes (ถ้าไม่ได้ต้องการใช้งานธีม Windows Aero ก็สามารถปิดได้ แต่ระบบทั้งหมดจะแสดงผลเป็นรูปแบบธีม Windows Classic)

– Windows Error Reporting Service (ถ้าไม่ต้องการให้ระบบรายงาน Error ต่างๆของระบบ)

– Windows Media Center Service Launcher (ถ้าไม่ได้ใช้งานซอฟต์แวร์ Windows Media Center ก็สามารถปิดได้

– Windows Search (ปกติถ้าไม่ได้ใช้ระบบค้นหาด้วย Windows Search ก็สามารถปิดได้)

– Windows Time (ถ้าไม่ต้องการให้คอมพิวเตอร์มีการอัพเดตเวลาผ่านอินเตอร์เน็ต)

4. ปิด Startup item ที่ไม่จำเป็น ที่หน้าต่าง System Configuration ด้วยการเรียกใช้งานผ่านคำสั่ง msconfig

ปรับแต่ง windows 7 ให้เร็วขึ้น

สังเกตได้ง่ายๆที่ Notification Area Icons มุมขวาล่างข้างนาฬิกา ซึ่งเครื่องของบางท่าน จะมีไอคอนเรียกใช้โปรแกรม และมันกำลังทำงานอยู่ หรือรอเรียกใช้งานอยู่เยอะทีเดียว

ปรับแต่ง windows 7 ให้เร็วขึ้น

ซึ่งตรงนี้ ถ้าสังเกตให้ดีกับตอนที่เพิ่งติดตั้ง Windows เสร็จใหม่ๆ จะรู้สึกว่าระบบการบูตเข้าสู่หน้าจอ Windows จะทำได้รวดเร็วมาก แต่พอติดตั้งโปรแกรมเยอะขึ้นๆ อย่างเช่น ผู้ใช้งานทั่วไป ที่มักจะติดตั้งโปรแกรมจากความเคยชินด้วยการกด Next -> Next และ Next อย่างเดียว โดยไม่สนใจประโยคคำถามหรือข้อความแจ้งเตือน ก็จะพบว่า Startup Item ในส่วนนี้ จะมีเยอะมาก ก็จะส่งผลกระทบต่อการบูตเข้าสู่ระบบใหม่ จะทำได้ช้าลง

ปรับแต่ง windows 7 ให้เร็วขึ้น

5. การปิด Sound Scheme จะเป็นเสียงเริ่มต้นเข้าสู่หน้าจอ Windows ถ้าใครเคยใช้ Windows XP มาก่อน ก็คงจะคุ้นเคยกับเสียงดังกล่าวดี แต่สำหรับ Windows 7 จะมีเสียงมาแว็บเดียวเท่านั้น ตรงนี้เราก็สามารถปิดไปได้เช่นเดียวกัน เพราะไม่ค่อยมีความจำเป็นสักเท่าไร โดยเข้าไปที่ Control Panel -> คลิกหัวข้อ Sound

ปรับแต่ง windows 7 ให้เร็วขึ้น

ที่แท็บ Sounds -> หัวข้อ Sound Scheme: เลือกตัวเลือกเป็น No Sounds

ปรับแต่ง windows 7 ให้เร็วขึ้น

6. การลบไฟล์ขยะในโฟลเดอร์ Temp ด้วยแบทช์ไฟล์ทุกครั้งที่เปิดเครื่องใหม่ ตรงนี้ก็จะช่วยให้ระบบไม่มีการเก็บไฟล์ขยะค้างเอาไว้ในโฟลเดอร์ Temp เพราะเมื่อเปิดเครื่องขึ้นมาใหม่ทุกครั้ง จะมีการลบไฟล์ขยะในโฟลเดอร์ Temp ทันที แต่ผมคงจะไม่ขอลงรายละเอียดเพิ่ม เพราะข้อมูลต่างๆอยู่ในลิงค์ดังกล่าวแล้วครับ

นอกเหนือจากตรงนี้ ถ้าหากเพื่อนๆยังติดปัญหาตรงส่วนใด ก็สามารถโพสต์ลงกล่องข้อความ Facebook Comment หรือจะใช้ Leave a Reply ทั้ง 2 ตัวด้านล่างก็ได้เช่นเดียวกันนะครับ ไว้เดี๋ยวอีกไม่นาน ผมจะเพิ่ม Recent Comment เอาไว้ที่แถบบาร์หรือ Widget ที่ขวามือของเว็บเอาไว้ให้ด้วย เผื่อท่านใดติดปัญหา แล้วโพสต์ผ่าน Leave a Reply ผมหรือเพื่อนท่านใดที่ผ่านไปมา ก็จะช่วยตอบปัญหากันได้ทันที ขอบพระคุณทุกท่านที่แวะมาเยี่ยมชมเว็บไซต์เล็กๆแห่งนี้มา ณ ที่นี้ด้วยครับ