พระอัจฉริยภาพ ร.9 มีอะไรบ้าง

พระอัจฉริยภาพ ร.9 มีอะไรบ้าง

“ร่างกายของเรานั้นธรรมชาติสร้างมาสำหรับให้ออกแรงใช้งาน มิใช่ให้อยู่เฉยๆ ถ้าใช้แรงให้พอเหมาะพอดีโดยสม่ำเสมอร่างกายก็เจริญแข็งแรงคล่องแคล่ว ดังนั้นผู้ที่ปรกติทำการงานโดยไม่ได้ใช้กำลังหรือใช้กำลังแต่น้อย จึงจำเป็นต้องหาเวลาออกกำลังกายให้พอเพียงกับความต้องการตามธรรมชาติเสมอ”

พระบรมราโชวาทในพิธีเปิดการประชุมใหญ่สัมมนา
เรื่องการออกกำลังเพื่อสุขภาพ 
เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2523 

พระอัจฉริยภาพ ร.9 มีอะไรบ้าง

     ในช่วงเวลาที่กีฬาแบดมินตันยังไม่เป็นที่แพร่หลายในประเทศไทย ด้วยสายพระเนตรอันยาวไกล พระองค์รับสั่งกับผู้ใกล้ชิดว่ากีฬาแบดมินตันเป็นกีฬาหนึ่งในไม่กี่ประเภทที่คนไทยสามารถที่จะไต่เต้าไปสู่ระดับโลกได้ เพราะไม่เสียเปรียบทางด้านรูปร่างและพละกำลังมากจนเกินไป มีรับสั่งถึงประเด็นนี้หลายครั้ง และต่อมาได้พระราชทานพระบรมราชูปถัมภ์แก่สมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย จนปัจจุบันแบดมินตันกลายเป็นกีฬาชนิดหนึ่งที่สามารถสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทยบนเวทีโลกได้ในที่สุด


     นอกจากแบดมินตันแล้ว พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ยังทรงกีฬาได้อีกหลายชนิด แต่ที่โดดเด่นเห็นจะเป็นกีฬาเรือใบที่นอกจากจะทรงพระปรีชาสามารถในการแล่นเรือใบแล้วยังทรงต่อเรือด้วยพระองค์ เรือใบฝีพระหัตถ์ลำแรกที่ทรงต่อด้วยพระองค์เองเป็นเรือใบพระที่นั่งเอ็นเตอร์ไพรส์ โดยพระราชทานชื่อเรือว่า ‘ราชปะแตน’ และต่อมาทรงต่อเรือใบประเภทโอเค พระราชทานชื่อว่า ‘นวฤกษ์’ จากนั้นได้ทรงออกแบบเรือใบขึ้นมาด้วยพระองค์เอง แล้วพระราชทานชื่อว่า ‘มด’ และรับสั่งว่า “ที่ชื่อมดนั้นเพราะมันกัดเจ็บๆ คันๆ ดี” ต่อมาทรงออกแบบเรือใบประเภทอินเตอร์เนชั่นแนล มอธ โดยพัฒนาเป็นเรือแบบมดขึ้นมาใหม่และพระราชทานชื่อว่า ‘ซูเปอร์มด’ โดยเรือใบในตระกูลมดนี้ลำสุดท้ายที่ทรงออกแบบคือเรือใบ ‘ไมโครมด’ ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในหมู่นักแล่นเรือใบ 

พระอัจฉริยภาพ ร.9 มีอะไรบ้าง

ย้อนรอยตำนาน ‘เวคา’ กับพระอัจฉริยภาพในการทรงเรือใบ

     เวคา (Vega) นอกจากจะเป็นชื่อดาวฤกษ์สุกสว่างดวงหนึ่งแล้ว ยังเป็นชื่อเรือที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงตั้งให้กับเรือใบอีกหนึ่งลำที่ทรงต่อด้วยพระองค์เอง และได้ทรงใช้สร้างตำนานให้นาวิกโยธินไทยได้เล่าขานจนชั่วลูกชั่วหลานถึงพระอัจฉริยภาพในการทรงเรือใบ เนื่องด้วยเวลา 04.28 น. ของวันที่ 19 เมษายน 2509 พระองค์ได้ทรงเรือใบเวคาด้วยพระองค์เองเพียงลำพัง มุ่งหน้าจากพระราชวังไกลกังวล อำเภอหัวหิน แล่นข้ามอ่าวไทยมายังอำเภอสัตหีบระยะทางประมาณ 60 ไมล์ทะเล หรือประมาณ 110 กิโลเมตร โดยเสด็จถึงฝั่งที่หาดเตยงาม อำเภอสัตหีบ ในเวลา 21.28 น. 

     เป็นเวลานานถึง 17 ชั่วโมง ที่กษัตริย์ของไทยทรงแล่นเรือใบลอยคว้างอยู่กลางทะเลเพียงพระองค์เดียว พล.ร.อ. ยุทธนา เชิดบุญเมือง อดีตผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธินผู้อยู่ในเหตุการณ์เล่าว่า วันนั้น ‘ลมอ่อน’ ทำให้เรือใบแล่นได้ช้าลง เพราะเรือใบต้องอาศัยแรงลมในการขับเคลื่อนไปสู่เป้าหมาย หากครั้งใดเจอปัญหาสภาพลมอ่อนจะต้องควบคุมเรือใบให้เดินทางสู่จุดหมายด้วยวิธีแล่นก้าว ซึ่งเป็นการแล่นเรือใบสลับฟันปลา เพื่อให้ใบเรือปะทะรับแรงลม “ทุกคนเฝ้ารอคอยพระองค์ท่านด้วยความเป็นกังวล เพราะมันมืดแล้ว ปกติเรือใบมีความเร็วประมาณ 5 นอต ต่อชั่วโมง ก็น่าจะใช้เวลาประมาณ 12 ชั่วโมง 4 - 5 โมงเย็นก็น่าจะถึง แถมสมัยก่อนมือถือยังไม่มี การแล่นเรือข้ามอ่าวนั้นอันตราย แต่เมื่อรู้ว่าในหลวงมาถึงแล้ว ทุกคนปลาบปลื้มกันถ้วนหน้า ผู้บัญชาการทหารเรือตอนนั้นถึงกับลุยน้ำทะเลไปรับพระองค์ท่านเลยทีเดียว” พล.ร.อ. ยุทธนาย้อนความทรงจำสมัยตนยังเป็นเสนาธิการทหารยศนาวาเอก


     ในกาลต่อมา พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานหางเสือเรือเวคา เพื่อเป็นรางวัลนิรันดรในการแข่งขันเรือใบระยะทางไกลของประเทศไทย นอกจากนี้ยังทรงก่อตั้งสโมสรเรือใบส่วนพระองค์ขึ้น คือสโมสรเรือใบจิตรลดา ทั้งยังมีพระมหากรุณาธิคุณรับสโมสรเรือใบต่างๆ มาไว้ในพระบรมราชูปถัมภ์อีกมากมาย 

     ด้วยพระราชกรณียกิจและพระปรีชาสามารถด้านการกีฬาจนเป็นที่เลื่องลือ คณะกรรมการโอลิมปิกสากลจึงได้มีมติเป็นเอกฉันท์ และได้ขอพระราชทานทูลเกล้าฯ ถวายเหรียญทองดุษฎีกิตติมศักดิ์ “อิสริยาภรณ์โอลิมปิกสูงสุด (ทอง)” เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2530 นับเป็นกษัตริย์พระองค์แรกของโลกที่ได้รับการถวายรางวัลนี้

พระอัจฉริยภาพ ร.9 มีอะไรบ้าง



พระอัจฉริยภาพ ร.9 มีอะไรบ้าง

พระอัจฉริยภาพด้านต่างๆของในหลวงรัชกาลที่ 9 วันที่ 5 ธันวาคม เรียกได้ว่าเป็นวันสำคัญของประชาชนชาวไทยทุกคนอันเนื่องมาจากเป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษาของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร และวันพ่อแห่งชาติ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ท่านทรงครองราชย์และทรงงานอย่างหนักเพื่อดูแลพสกนิกรชาวไทยมาตลอดระยะเวลากว่า 7 ทศวรรษ นอกจากนี้ท่านยังเต็มไปด้วยความปรีชาสามารถและพระอัจฉริยภาพในด้านต่างๆ มากมาย อันเป็นแรงบันดาลใจและแบบอย่างที่ดีในการเรียนรู้ให้แก่ชาวไทยทุกคน

พระอัจฉริยภาพ ร.9 มีอะไรบ้าง

1. พระอัจฉริยภาพทางด้านดนตรี

พระปรีชาสามารถทางด้านดนตรีของในหลวงรัชกาลที่  9 เป็นที่ประจักษ์และเลื่องลือไปทั่วโลก ท่านทรงเริ่มเรียนดนตรีตั้งแต่ทรงพระเยาว์และทรงเครื่องดนตรีได้เชี่ยวชาญหลากหลายประเภท เช่น กีตาร์ แซกโซโฟน คลาริเน็ต เปียโน และทรัมเป็ต อีกทั้งยังทรงพระราชนิพนธ์เพลงด้วยพระองค์เองได้หลายเพลงและทรงสนับสนุนการศึกษาเรื่องดนตรีไทยเพื่ออนุรักษ์ให้อยู่คู่กับประเทศสืบต่อไป

พระอัจฉริยภาพ ร.9 มีอะไรบ้าง

2. พระอัจฉริยภาพทางด้านถ่ายภาพ

พระองค์ท่านทรงโปรดการถ่ายภาพเป็นอย่างมาก ท่านสามารถคำนวณการวัดแสงของภาพถ่ายในสมัยที่ยังไม่เครื่องวัดแสงในตัวด้วยพระองค์เองได้อย่างแม่นยำ ท่านทรงเชี่ยวชาญในด้านการอัดขยายภาพถ่ายสีและภาพขาวดำ รวมถึงการล้างฟิล์ม ทรงประดิษฐ์แผ่นกรองแสง อีกทั้งยังทรงถ่ายภาพด้วยพระองค์เองอยู่เสมอทั้งภาพบุคคลใกล้ชิดและเมื่อเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎร

พระอัจฉริยภาพ ร.9 มีอะไรบ้าง

3. พระอัจฉริยภาพทางด้านกีฬา

พระองค์ทรงโปรดการเล่นกีฬาเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น ฮอกกี้น้ำแข็ง การยิงปืน ว่ายน้ำ สกีหิมะ สกีน้ำ แบดมินตัน และเรือกรรเชียง ทรงศึกษาข้อมูลต่างๆ อย่างละเอียดเกี่ยวกับกีฬาแต่ละชนิดและทรงฝึกฝนจนเชี่ยวชาญ โดยเฉพาะกีฬาเรือใบ ทรงเคยชนะเลิศการแข่งขันเรือใบ ในกีฬาแหลมทองครั้งที่ 4 อีกด้วย

พระอัจฉริยภาพ ร.9 มีอะไรบ้าง

4. พระอัจฉริยภาพทางด้านศิลปะ

พระองค์ท่านทรงปรีชาสามารถในด้านของการงานจิตรกรรมเป็นอย่างมาก ท่านได้ทรงศึกษาขั้นตอนในการเขียนภาพ การผสมสี การใช้สี และเทคนิคต่างๆ อย่างละเอียดทั้ง ภาพเสมือนจริง ภาพแบบนามธรรม และ คตินิยมแบบลัทธิเอ็กซ์และทรงงานวาดภาพอยู่เสมอเมื่อทรงว่างจากพระราชภารกิจ

พระอัจฉริยภาพ ร.9 มีอะไรบ้าง

5. พระอัจฉริยภาพทางด้านภาษาและวรรณกรรม

ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงพระปรีชาสามารถในด้านภาษาเป็นอย่างมาก ทรงสื่อสารภาษาอังกฤษ ภาษาเยอรมันและภาษาฝรั่งเศสได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังทรงสนพระราชหฤทัยในการใช้ภาษาและภาษาสันสกฤตอย่างละเอียด พระองค์ทรงพระราชนิพนธ์หนังสือไว้หลายเรื่อง

พระอัจฉริยภาพ ร.9 มีอะไรบ้าง

6. พระอัจฉริยภาพทางด้านการเกษตรและชลประทาน

พระองค์ท่านทรงสนพระราชหฤทัยในการศึกษาเรื่องการกั้นน้ำและสร้างเขื่อนตั้งแต่ทรงพระเยาว์ ทรงมีพระราชดำริมากมายเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาป่าไม้ แหล่งน้ำและดิน รวมถึงพระราชทานพระราชดำริอันเนื่องมาจากพระอัจฉริยภาพของพระองค์อย่างทฤษฎีใหม่แนวทางเกษตรที่ยั่งยืนรวมถึง แนวทางการดำรงชีวิตที่มั่นคงและพึ่งพาตัวเองได้อย่างหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงที่ได้มีการนำไปประยุกต์ใช้ในหลากหลายประเทศและสามารถนำไปปฏิบัติได้จริง

นี่เป็นแค่เพียงพระอัจฉริยภาพบางส่วนของพระองค์ท่านเท่านั้น เพราะในตลอดระยะเวลากว่า 70 ปีที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงครองราชย์ ประเทศไทยได้มีการพัฒนาในด้านต่างๆ มากมายที่ถึงแม้ว่าระยะเวลาผ่านไปนานแค่ไหน พสกนิกรยังคงรำลึกถึง  พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร อยู่เสมอ

Total Page Visits: 43 - Today Page Visits: 0

พระอัจฉริยภาพ ร.9 มีกี่ด้าน

"บันทึกประวัติศาสตร์ พระอัจฉริยภาพ 9 ด้าน แห่งรัชกาลที่ 9" เล่มนี้ ได้รวบรวมเรียบเรียงพระอัจฉริยภาพของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ไว้ทั้งหมด 9 ด้าน ทั้งนี้เพื่อวัตถุประสงค์ให้ปวงชนชาวไทย ได้เก็บรักษาไว้เพื่อรำลึกถึงพระองค์ท่านในด้านพระราชจริยวัตร และพระราชกรณียกิจ ที่ทรงมีต่อปวงชนชาวไทยมาตลอด ...

รัชกาลที่ 9 ทรงทำอะไรบ้าง

โครงการแกล้งดิน.
โครงการปลูกหญ้าแฝก.
โครงการหน่วยแพทย์พระราชทาน.
โครงการสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน.
ทุนมูลนิธิอานันทมหิดล.
แนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง : เกษตรทฤษฎีใหม่.
โครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา.
โครงการฝนหลวง.

รัชกาลที่ 9 มีนามว่าอะไร

เป็นวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (5 ธันวาคม พ.ศ. 2470 - 13 ตุลาคม พ.ศ. 2559) เป็นพระมหากษัตริย์ไทย รัชกาลที่ 9 แห่งราชวงศ์จักรี เสด็จสู่พระราชสมบัติตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ.

รัชกาลที่ 9 ทรงโปรดวาดภาพศิลปะแบบใด

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเริ่มเขียนภาพอย่างจริงจังเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2502 โดยผลงานของพระองค์ที่ได้ทรงสร้างสรรค์ขึ้นมานั้นมี 3 ลักษณะใหญ่ ๆ คือ ภาพแบบเหมือนจริง ภาพแบบลัทธิเอ็กซ์เพรสชั่นนิสต์ และภาพนามธรรม