แบบฝึกหัด หินและ ซากดึกดำบรรพ์

แบบทดสอบ

หินและซากดึกดำบรรพ์

วิทยาศาสตร์

โดยครูธัญวรัตม์ เลิศพันธ์

แบบทดสอบ

หินและซากดึกดำบรรพ์

โดยครูธัญวรัตม์ เลิศพันธ์

1. ผลการสังเกตหินจำนวน 4 ก้อน ดังนี้ ์ธนัพศิลเ ์มตัรวญัธูรคยดโ
ก้อนที่ 1 เป็นเนื้อแก้ว มีรูพรุน
ก้อนที่ 2 ผลึกแร่มีขนาดเล็ก มีรูพรุน
ก้อนที่ 3 มีเนื้อเป็นเม็ดตะกอน พบซากดึกดำบรรพ์
ก้อนที่ 4 เป็นเนื้อละเอียด ผลึกแร่เรียงตัวขนานกันเป็นแถบ
กะเทาะออกเป็นแผ่นได้

หินก้อนใด น่าจะเป็นหินประเภทเดียวกัน

ก. 1 และ 2 ข. 2 และ 3

ค. 1 และ 3 ง. 2 และ 4

1. ผลการสังเกตหินจำนวน 4 ก้อน ดังนี้ ์ธนัพศิลเ ์มตัรวญัธูรคยดโ
ก้อนที่ 1 เป็นเนื้อแก้ว มีรูพรุน หินอัคนี (หินออบซิเดียน)
ก้อนที่ 2 ผลึกแร่มีขนาดเล็ก มีรูพรุน หินอัคนี (หินพัมมิซ)
ก้อนที่ 3 มีเนื้อเป็นเม็ดตะกอน พบซากดึกดำบรรพ์ หินตะกอน
ก้อนที่ 4 เป็นเนื้อละเอียด ผลึกแร่เรียงตัวขนานกันเป็นแถบ
กะเทาะออกเป็นแผ่นได้ หินแปร (หินชนวน)

หินก้อนใด น่าจะเป็นหินประเภทเดียวกัน

ก. 1 และ 2 ข. 2 และ 3

ค. 1 และ 3 ง. 2 และ 4

1. ผลการสังเกตหินจำนวน 4 ก้อน ดังนี้ ์ธนัพศิลเ ์มตัรวญัธูรคยดโ
ก้อนที่ 1 เป็นเนื้อแก้ว มีรูพรุน หินอัคนี (หินออบซิเดียน)
ก้อนที่ 2 ผลึกแร่มีขนาดเล็ก มีรูพรุน หินอัคนี (หินพัมมิซ)
ก้อนที่ 3 มีเนื้อเป็นเม็ดตะกอน พบซากดึกดำบรรพ์ หินตะกอน
ก้อนที่ 4 เป็นเนื้อละเอียด ผลึกแร่เรียงตัวขนานกันเป็นแถบ
กะเทาะออกเป็นแผ่นได้ หินแปร (หินชนวน)

หินก้อนใด น่าจะเป็นหินประเภทเดียวกัน

ก. 1 และ 2 ข. 2 และ 3

ค. 1 และ 3 ง. 2 และ 4

2. ลักษณะใดที่พบในหินอัคนี แต่ไม่พบในหินตะกอน ์ธนัพศิลเ ์มตัรวญัธูรคยดโ

ก. มีรูพรุนในหิน
ข. มีเศษหินปะปน
ค. เนื้อหินเป็นเนื้อผลึก
ง. เนื้อหินเป็นเม็ดตะกอน

2. ลักษณะใดที่พบในหินอัคนี แต่ไม่พบในหินตะกอน ์ธนัพศิลเ ์มตัรวญัธูรคยดโ

ก. มีรูพรุนในหิน
ข. มีเศษหินปะปน
ค. เนื้อหินเป็นเนื้อผลึก
ง. เนื้อหินเป็นเม็ดตะกอน

2. ลักษณะใดที่พบในหินอัคนี แต่ไม่พบในหินตะกอน ์ธนัพศิลเ ์มตัรวญัธูรคยดโ

ก. มีรูพรุนในหิน เกิดจากการดันตัวของลาวา
ข. มีเศษหินปะปน เย็นตัวและตกผลึกเกิดเป็น
ค. เนื้อหินเป็นเนื้อผลึก
ง. เนื้อหินเป็นเม็ดตะกอน หินอัคนีพุ (หินภูเขาไฟ)

3. พิจารณาข้อมูลต่อไปนี้ แล้วตอบคำถาม ์ธนัพศิลเ ์มตัรวญัธูรคยดโ
หินก้อนที่ 1 มีเนื้อแก้ว
หินก้อนที่ 2 มีเนื้อละเอียดและมีรูพรุน
หินก้อนที่ 3 มีเนื้อเป็นเม็ดตะกอน พบซากดึกดำบรรพ์

ถ้าจำแนกหินทั้ง 3 ก้อนออกเป็นกลุ่มตามกระบวนการเกิดสามารถ
จำแนกหินได้ตามข้อใด

ก. ก้อนที่ 1 เป็นหินอัคนี ก้อนที่ 2 เป็นหินแปร
ข. ก้อนที่ 1 เป็นหินแปร ก้อนที่ 2 เป็นหินอัคนี
ค. ก้อนที่ 2 เป็นหินอัคนี ก้อนที่ 3 เป็นหินตะกอน
ง. ก้อนที่ 2 เป็นหินแปร ก้อนที่ 3 เป็นหินตะกอน

3. พิจารณาข้อมูลต่อไปนี้ แล้วตอบคำถาม ์ธนัพศิลเ ์มตัรวญัธูรคยดโ
หินก้อนที่ 1 มีเนื้อแก้ว หินอัคนี (หินออบซิเดียน)
หินก้อนที่ 2 มีเนื้อละเอียดและมีรูพรุน หินอัคนี (หินพัมมิซ)
หินก้อนที่ 3 มีเนื้อเป็นเม็ดตะกอน พบซากดึกดำบรรพ์หินตะกอน

ถ้าจำแนกหินทั้ง 3 ก้อนออกเป็นกลุ่มตามกระบวนการเกิดสามารถ
จำแนกหินได้ตามข้อใด

ก. ก้อนที่ 1 เป็นหินอัคนี ก้อนที่ 2 เป็นหินแปร
ข. ก้อนที่ 1 เป็นหินแปร ก้อนที่ 2 เป็นหินอัคนี
ค. ก้อนที่ 2 เป็นหินอัคนี ก้อนที่ 3 เป็นหินตะกอน
ง. ก้อนที่ 2 เป็นหินแปร ก้อนที่ 3 เป็นหินตะกอน

3. พิจารณาข้อมูลต่อไปนี้ แล้วตอบคำถาม ์ธนัพศิลเ ์มตัรวญัธูรคยดโ
หินก้อนที่ 1 มีเนื้อแก้ว หินอัคนี (หินออบซิเดียน)
หินก้อนที่ 2 มีเนื้อละเอียดและมีรูพรุน หินอัคนี (หินพัมมิซ)
หินก้อนที่ 3 มีเนื้อเป็นเม็ดตะกอน พบซากดึกดำบรรพ์หินตะกอน

ถ้าจำแนกหินทั้ง 3 ก้อนออกเป็นกลุ่มตามกระบวนการเกิดสามารถ
จำแนกหินได้ตามข้อใด

ก. ก้อนที่ 1 เป็นหินอัคนี ก้อนที่ 2 เป็นหินแปร
ข. ก้อนที่ 1 เป็นหินแปร ก้อนที่ 2 เป็นหินอัคนี
ค. ก้อนที่ 2 เป็นหินอัคนี ก้อนที่ 3 เป็นหินตะกอน
ง. ก้อนที่ 2 เป็นหินแปร ก้อนที่ 3 เป็นหินตะกอน

หินอัคนี 4. กระบวนการ A และ B คือ
กระบวนการใด ตามลำดับ
AB การเย็นตัวและแข็งตัวอย่าง ์ธนัพศิลเ ์มตัรวญัธูรคยดโ
ก. การเย็นตัวและการตกผลึกของแมกมา
เกิดเป็น รวดเร็วทันทีทันใดของลาวา การแปรสภาพ

เกิดเป็น เกิดเป็น ข. การเย็นตัวและการตกผลึกของแมกมา
การเย็นตัวและการตกผลึกของลาวา
หินที่มีนื้อหยาบ หินที่มีนื้อละเอียด หินที่มี C
ค. การแปรสภาพ
เมื่อเกิด การเย็นตัวและการตกผลึกของลาวา

การแปรสภาพ ง. การแปรสภาพ
การสะสมตัวของตะกอนและการเชื่อม
เกิดเป็น ประสานตะกอน

หินที่มี D

หินอัคนี 4. กระบวนการ A และ B คือ
กระบวนการใด ตามลำดับ
AB การเย็นตัวและแข็งตัวอย่าง ์ธนัพศิลเ ์มตัรวญัธูรคยดโ
ก. การเย็นตัวและการตกผลึกของแมกมา
เกิดเป็น รวดเร็วทันทีทันใดของลาวา การแปรสภาพ

เกิดเป็น เกิดเป็น ข. การเย็นตัวและการตกผลึกของแมกมา
การเย็นตัวและการตกผลึกของลาวา
หินที่มีนื้อหยาบ หินที่มีนื้อละเอียด หินที่มี C
ค. การแปรสภาพ
หินแทรกซอน หินอัคนีพุ เมื่อเกิด การเย็นตัวและการตกผลึกของลาวา
จากแมกมา จากลาวา
ง. การแปรสภาพ
การแปรสภาพ การสะสมตัวของตะกอนและการเชื่อม
ประสานตะกอน
เกิดเป็น

หินที่มี D

หินอัคนี 4. กระบวนการ A และ B คือ
กระบวนการใด ตามลำดับ
AB การเย็นตัวและแข็งตัวอย่าง ์ธนัพศิลเ ์มตัรวญัธูรคยดโ
ก. การเย็นตัวและการตกผลึกของแมกมา
เกิดเป็น รวดเร็วทันทีทันใดของลาวา การแปรสภาพ

เกิดเป็น เกิดเป็น ข. การเย็นตัวและการตกผลึกของแมกมา
การเย็นตัวและการตกผลึกของลาวา
หินที่มีนื้อหยาบ หินที่มีนื้อละเอียด หินที่มี C
ค. การแปรสภาพ
หินแทรกซอน หินอัคนีพุ เมื่อเกิด การเย็นตัวและการตกผลึกของลาวา
จากแมกมา จากลาวา
ง. การแปรสภาพ
การแปรสภาพ การสะสมตัวของตะกอนและการเชื่อม
ประสานตะกอน
เกิดเป็น

หินที่มี D

หินอัคนี 5. กระบวนการ C และ D
เป็นหินที่มีลักษณะอย่างไร
AB การเย็นตัวและแข็งตัวอย่าง ตามลำดับ ์ธนัพศิลเ ์มตัรวญัธูรคยดโ

เกิดเป็น รวดเร็วทันทีทันใดของลาวา ก. เนื้อผลึกและรูพรุน

เกิดเป็น เกิดเป็น ข. ซากดึกดำบรรพ์และ
เศษหินปะปน
หินที่มีนื้อหยาบ หินที่มีนื้อละเอียด หินที่มี C
ค. เนื้อเป็นเม็ดตะกอนและ
เมื่อเกิด เศษหินปะปน

การแปรสภาพ ง. เนื้อแก้วและผลึกแร่เรียงตัวขนาน
กันเป็นแถบ
เกิดเป็น

หินที่มี D

หินอัคนี 5. วัตถุ C และ D เป็นหินที่มี
ลักษณะอย่างไร ตามลำดับ
AB การเย็นตัวและแข็งตัวอย่าง ์ธนัพศิลเ ์มตัรวญัธูรคยดโ
ก. เนื้อผลึกและรูพรุน
เกิดเป็น รวดเร็วทันทีทันใดของลาวา ข. ซากดึกดำบรรพ์และ

เกิดเป็น เกิดเป็น เศษหินปะปน

หินที่มีนื้อหยาบ หินที่มีนื้อละเอียด หินที่มี C ค. เนื้อเป็นเม็ดตะกอนและ
เศษหินปะปน
เมื่อเกิด
ง. เนื้อแก้วและผลึกแร่เรียงตัว
การแปรสภาพ เนื้อแก้ว ขนานกันเป็นแถบ

เกิดเป็น

หินแปร หินที่มี D

หินอัคนี 5. วัตถุ C และ D เป็นหินที่มี
ลักษณะอย่างไร ตามลำดับ
AB การเย็นตัวและแข็งตัวอย่าง ์ธนัพศิลเ ์มตัรวญัธูรคยดโ
ก. เนื้อผลึกและรูพรุน
เกิดเป็น รวดเร็วทันทีทันใดของลาวา ข. ซากดึกดำบรรพ์และ

เกิดเป็น เกิดเป็น เศษหินปะปน

หินที่มีนื้อหยาบ หินที่มีนื้อละเอียด หินที่มี C ค. เนื้อเป็นเม็ดตะกอนและ
เศษหินปะปน
เมื่อเกิด
ง. เนื้อแก้วและผลึกแร่เรียงตัว
การแปรสภาพ เนื้อแก้ว ขนานกันเป็นแถบ

เกิดเป็น

หินแปร หินที่มี D

6. กระบวนการใดในวัฏจักรหินที่เกิดขึ้นได้กับหินทุกประเภท ์ธนัพศิลเ ์มตัรวญัธูรคยดโ

ก. การผุพัง การแปรสภาพ

ข. การผุพัง การสะสมตัวของตะกอน

ค. การแปรสภาพ การสะสมตัวของตะกอน

ง. การแปรสภาพ การเย็นตัวและการตกผลึกของแมกมา

6. กระบวนการใดในวัฏจักรหินที่เกิดขึ้นได้กับหินทุกประเภท ์ธนัพศิลเ ์มตัรวญัธูรคยดโ

ก. การผุพัง การแปรสภาพ

ข. การผุพัง การสะสมตัวของตะกอน

ค. การแปรสภาพ การสะสมตัวของตะกอน

ง. การแปรสภาพ การเย็นตัวและการตกผลึกของแมกมา

แผนภาพวัฏจักรหิน 7. ลูกศรหมายเลข 1 และ 2
แทนกระบวนการใด ตามลำดับ
์ธนัพศิลเ ์มตัรวญัธูรคยดโ
ก. การย็นตัวและการตกผลึก/การผุพัง

ข. การแปรสภาพ/การเย็นตัวการตกผลึก

ค. การผุพัง/การสะสมตัวของตะกอนและ
การเชื่อมประสานตะกอน

ง. การสะสมตัวของตะกอนและการเชื่อม
ประสานตะกอน/การแปรสภาพ

แผนภาพวัฏจักรหิน 7. ลูกศรหมายเลข 1 และ 2 ์ธนัพศิลเ ์มตัรวญัธูรคยดโ
แทนกระบวนการใด ตามลำดับ
ผุพัง
เชื่อมประสาน ก. การย็นตัวและการตกผลึก/การผุพัง

ข. การแปรสภาพ/การเย็นตัวการตกผลึก

ค. การผุพัง/การสะสมตัวของตะกอนและ
การเชื่อมประสานตะกอน

ง. การสะสมตัวของตะกอนและการเชื่อม
ประสานตะกอน/การแปรสภาพ

แผนภาพวัฏจักรหิน 7. ลูกศรหมายเลข 1 และ 2 ์ธนัพศิลเ ์มตัรวญัธูรคยดโ
แทนกระบวนการใด ตามลำดับ
ผุพัง
เชื่อมประสาน ก. การย็นตัวและการตกผลึก/การผุพัง

ข. การแปรสภาพ/การเย็นตัวการตกผลึก

ค. การผุพัง/การสะสมตัวของตะกอนและ
การเชื่อมประสานตะกอน

ง. การสะสมตัวของตะกอนและการเชื่อม
ประสานตะกอน/การแปรสภาพ

แผนภาพวัฏจักรหิน

8. จากแผนภาพ วัตถุ A มีลักษณะใด ์ธนัพศิลเ ์มตัรวญัธูรคยดโ

ก. เป็นเนื้อแก้ว
ข. เป็นเม็ดตะกอนเนื้อหยาบ
ค. พบซากดึกดำบรรพ์ปนอยู่
ง. อาจพบผลึกของแร่เรียงตัวขนานกัน

แผนภาพวัฏจักรหิน 8. จากแผนภาพ วัตถุ A มีลักษณะใด ์ธนัพศิลเ ์มตัรวญัธูรคยดโ

หินแปร ก. เป็นเนื้อแก้ว
ข. เป็นเม็ดตะกอนเนื้อหยาบ
ค. พบซากดึกดำบรรพ์ปนอยู่
ง. อาจพบผลึกของแร่เรียงตัวขนานกัน

แผนภาพวัฏจักรหิน 8. จากแผนภาพ วัตถุ A มีลักษณะใด ์ธนัพศิลเ ์มตัรวญัธูรคยดโ

หินแปร ก. เป็นเนื้อแก้ว
ข. เป็นเม็ดตะกอนเนื้อหยาบ
ค. พบซากดึกดำบรรพ์ปนอยู่
ง. อาจพบผลึกของแร่เรียงตัวขนานกัน

9. กระบวนการใดในวัฏจักรหินที่ไม่ได้เกิดอยู่บนผิวโลก ์ธนัพศิลเ ์มตัรวญัธูรคยดโ

ก. การผุพัง
ข. การหลอมเหลว
ค. การสะสมตัวของตะกอน
ง. การเย็นตัวและการตกผลึกของลาวา

9. กระบวนการใดในวัฏจักรหินที่ไม่ได้เกิดอยู่บนผิวโลก ์ธนัพศิลเ ์มตัรวญัธูรคยดโ

ก. การผุพัง ใต้ผิวโลกจะมีหินหนืด
ข. การหลอมเหลว ที่มีความร้อน

ค. การสะสมตัวของตะกอน

ง. การเย็นตัวและการตกผลึกของลาวา แมกมา

9. กระบวนการใดในวัฏจักรหินที่ไม่ได้เกิดอยู่บนผิวโลก ์ธนัพศิลเ ์มตัรวญัธูรคยดโ

ก. การผุพัง ใต้ผิวโลกจะมีหินหนืด
ข. การหลอมเหลว ที่มีความร้อน

ค. การสะสมตัวของตะกอน

ง. การเย็นตัวและการตกผลึกของลาวา แมกมา

10. หินที่นำมาทำเป็นวัสดุกรองของเสียในตู้ปลา ์ธนัพศิลเ ์มตัรวญัธูรคยดโ
ควรเป็นหินประเภทใด และมีลักษณะแบบใด

ก. หินตะกอน เป็นเนื้อผลึก
ข. หินอัคนี มีรูพรุนในเนื้อหิน
ค. หินแปร เนื้อหินมีรอยแตกมาก
ง. หินอัคนีแทรกซอน มีผลึกขนาดใหญ่

10. หินที่นำมาทำเป็นวัสดุกรองของเสียในตู้ปลา ์ธนัพศิลเ ์มตัรวญัธูรคยดโ
ควรเป็นหินประเภทใด และมีลักษณะแบบใด

ก. หินตะกอน เป็นเนื้อผลึก
ข. หินอัคนี มีรูพรุนในเนื้อหิน
ค. หินแปร เนื้อหินมีรอยแตกมาก
ง. หินอัคนีแทรกซอน มีผลึกขนาดใหญ่

10. หินที่นำมาทำเป็นวัสดุกรองของเสียในตู้ปลา ์ธนัพศิลเ ์มตัรวญัธูรคยดโ
ควรเป็นหินประเภทใด และมีลักษณะแบบใด

ก. หินตะกอน เป็นเนื้อผลึก
ข. หินอัคนี มีรูพรุนในเนื้อหิน
ค. หินแปร เนื้อหินมีรอยแตกมาก
ง. หินอัคนีแทรกซอน มีผลึกขนาดใหญ่

11. ครกหิน ทำมาจากหินชนิดใด เพราะเหตุใด ์ธนัพศิลเ ์มตัรวญัธูรคยดโ

ก. หินปูน เพราะผลึกแร่เกาะกันแน่น
ข. หินชนวน เพราะผลึกแร่เรียงตัวขนานกัน
ค. หินทราย เพราะเม็ดตะกอนเกาะกันแน่น
ง. หินแกรนิต เพราะผลึกแร่มีความทนทานสูง

11. ครกหิน ทำมาจากหินชนิดใด เพราะเหตุใด ์ธนัพศิลเ ์มตัรวญัธูรคยดโ

ก. หินปูน เพราะผลึกแร่เกาะกันแน่น
ข. หินชนวน เพราะผลึกแร่เรียงตัวขนานกัน
ค. หินทราย เพราะเม็ดตะกอนเกาะกันแน่น
ง. หินแกรนิต เพราะผลึกแร่มีความทนทานสูง

ดูที่เหตุผล ทีมีความทนทาน

11. ครกหิน ทำมาจากหินชนิดใด เพราะเหตุใด ์ธนัพศิลเ ์มตัรวญัธูรคยดโ

ก. หินปูน เพราะผลึกแร่เกาะกันแน่น
ข. หินชนวน เพราะผลึกแร่เรียงตัวขนานกัน
ค. หินทราย เพราะเม็ดตะกอนเกาะกันแน่น
ง. หินแกรนิต เพราะผลึกแร่มีความทนทานสูง

ดูที่เหตุผล ทีมีความทนทาน

"นักธรณีวิทยาได้สำรวจหินบนภูเขา พบซากดึกดำบรรพ์ ์ธนัพศิลเ ์มตัรวญัธูรคยดโ
ปรากฎอยู่ในหิน"

12. หินดังกล่าว เกิดขึ้นได้อย่างไร

ก. เกิดจากการแปรสภาพบริเวณใต้ผิวโลก
ข. เกิดจากการเย็นตัวและแข็งตัวจากลาวาบนผิวโลก
ค. เกิดจากการเย็นตัวและตกผลึกจากแมกมาใต้ผิวโลก
ง. เกิดจากสะสมตัวของตะกอนและการเชื่อมประสานตะกอน

"นักธรณีวิทยาได้สำรวจหินบนภูเขา พบซากดึกดำบรรพ์ ์ธนัพศิลเ ์มตัรวญัธูรคยดโ
ปรากฎอยู่ในหิน"

พบที่หินตะกอน

12. หินดังกล่าว เกิดขึ้นได้อย่างไร

ก. เกิดจากการแปรสภาพบริเวณใต้ผิวโลก
ข. เกิดจากการเย็นตัวและแข็งตัวจากลาวาบนผิวโลก
ค. เกิดจากการเย็นตัวและตกผลึกจากแมกมาใต้ผิวโลก
ง. เกิดจากสะสมตัวของตะกอนและการเชื่อมประสานตะกอน

"นักธรณีวิทยาได้สำรวจหินบนภูเขา พบซากดึกดำบรรพ์ ์ธนัพศิลเ ์มตัรวญัธูรคยดโ
ปรากฎอยู่ในหิน"

พบที่หินตะกอน

12. หินดังกล่าว เกิดขึ้นได้อย่างไร

ก. เกิดจากการแปรสภาพบริเวณใต้ผิวโลก
ข. เกิดจากการเย็นตัวและแข็งตัวจากลาวาบนผิวโลก
ค. เกิดจากการเย็นตัวและตกผลึกจากแมกมาใต้ผิวโลก
ง. เกิดจากสะสมตัวของตะกอนและการเชื่อมประสานตะกอน

"นักธรณีวิทยาได้สำรวจหินบนภูเขา พบซากดึกดำบรรพ์ ์ธนัพศิลเ ์มตัรวญัธูรคยดโ
ปรากฎอยู่ในหิน"

13. หินดังกล่าว มีลักษณะอย่างไร

ก. มีเนื้อแก้ว
ข. มีรูพรุนในหิน
ค. มีเนื้อเป็นเม็ดตะกอน
ง. มีการเรียงตัวของผลึกแร่

"นักธรณีวิทยาได้สำรวจหินบนภูเขา พบซากดึกดำบรรพ์ ์ธนัพศิลเ ์มตัรวญัธูรคยดโ
ปรากฎอยู่ในหิน"

เป็นหินตะกอน

13. หินดังกล่าว มีลักษณะอย่างไร

ก. มีเนื้อแก้ว
ข. มีรูพรุนในหิน
ค. มีเนื้อเป็นเม็ดตะกอน
ง. มีการเรียงตัวของผลึกแร่

"นักธรณีวิทยาได้สำรวจหินบนภูเขา พบซากดึกดำบรรพ์ ์ธนัพศิลเ ์มตัรวญัธูรคยดโ
ปรากฎอยู่ในหิน"

13. หินดังกล่าว มีลักษณะอย่างไร

ก. มีเนื้อแก้ว
ข. มีรูพรุนในหิน
ค. มีเนื้อเป็นเม็ดตะกอน
ง. มีการเรียงตัวของผลึกแร่

นักธรณีวิทยาออกสำรวจหินใน 2 พื้นที่ ์ธนัพศิลเ ์มตัรวญัธูรคยดโ

พื้นที่ 1 พบชิ้นส่วนซากดึกดำบรรพ์ไดโนเสาร์กินพืชในหินทราย ตัวอย่างชิ้นส่วนซากดึกดำบรรพ์
ที่พบ เช่น ซากดึกดำบรรพ์กระดูกสะโพกส่วนหน้าและฟันที่มีรอยหยัก
แบบเลื่อย
พื้นที่ 2 พบชิ้นส่วนซากดึกดำบรรพ์ไดโนเสาร์กินสัตว์ในหินทราย ตัวอย่างชิ้นส่วนซากดึกดำบรรพ์
ที่พบ เช่น ซากดึกดำบรรพ์กระดูกสันหลังส่วนหลัง กระดูกสันหลังส่วนสะโพก กระดูกหน้าแข้ง
กระดูกมือและเล็บ

14. ข้อใดไม่ถูกต้องเกี่ยวกับหินและซากดึกดำบรรพ์ที่พบใน 2 พื้นที่ดังกล่าว
ก. ซากดึกดำบรรพ์ทั้ง2พื้นที่ มีกระบวนการเกิดเหมือนกัน
ข. สิ่งแวดล้อมในอดีตทั้ง2พื้นที่ น่าจะมีสิ่งมีชีวิตอื่นนอกจากไดโนเสาร์
ค. หินทั้ง2พื้นที่พบซากดึกดำบรรพ์ไดโนเสาร์มีอายุอยู่ในช่วงเดียวกัน
ง. ซากดึกดำบรรพ์ที่พบทั้ง2พื้นที่ เกิดจากการประทับรอยไดโนเสาร์ในอดีต

นักธรณีวิทยาออกสำรวจหินใน 2 พื้นที่ ์ธนัพศิลเ ์มตัรวญัธูรคยดโ

พื้นที่ 1 พบชิ้นส่วนซากดึกดำบรรพ์ไดโนเสาร์กินพืชในหินทราย ตัวอย่างชิ้นส่วนซากดึกดำบรรพ์
ที่พบ เช่น ซากดึกดำบรรพ์กระดูกสะโพกส่วนหน้าและฟันที่มีรอยหยัก
แบบเลื่อย
พื้นที่ 2 พบชิ้นส่วนซากดึกดำบรรพ์ไดโนเสาร์กินสัตว์ในหินทราย ตัวอย่างชิ้นส่วนซากดึกดำบรรพ์
ที่พบ เช่น ซากดึกดำบรรพ์กระดูกสันหลังส่วนหลัง กระดูกสันหลังส่วนสะโพก กระดูกหน้าแข้ง
กระดูกมือและเล็บ

14. ข้อใดไม่ถูกต้องเกี่ยวกับหินและซากดึกดำบรรพ์ที่พบใน 2 พื้นที่ดังกล่าว
ก. ซากดึกดำบรรพ์ทั้ง2พื้นที่ มีกระบวนการเกิดเหมือนกัน หินตะกอน
ข. สิ่งแวดล้อมในอดีตทั้ง2พื้นที่ น่าจะมีสิ่งมีชีวิตอื่นนอกจากไดโนเสาร์ เป็นไปได้
ค. หินทั้ง2พื้นที่พบซากดึกดำบรรพ์ไดโนเสาร์มีอายุอยู่ในช่วงเดียวกันลักษณะเดียวกัน
ง. ซากดึกดำบรรพ์ที่พบทั้ง2พื้นที่ เกิดจากการประทับรอยไดโนเสาร์ในอดีต โครงร่าง

นักธรณีวิทยาออกสำรวจหินใน 2 พื้นที่ ์ธนัพศิลเ ์มตัรวญัธูรคยดโ

พื้นที่ 1 พบชิ้นส่วนซากดึกดำบรรพ์ไดโนเสาร์กินพืชในหินทราย ตัวอย่างชิ้นส่วนซากดึกดำบรรพ์
ที่พบ เช่น ซากดึกดำบรรพ์กระดูกสะโพกส่วนหน้าและฟันที่มีรอยหยัก
แบบเลื่อย
พื้นที่ 2 พบชิ้นส่วนซากดึกดำบรรพ์ไดโนเสาร์กินสัตว์ในหินทราย ตัวอย่างชิ้นส่วนซากดึกดำบรรพ์
ที่พบ เช่น ซากดึกดำบรรพ์กระดูกสันหลังส่วนหลัง กระดูกสันหลังส่วนสะโพก กระดูกหน้าแข้ง
กระดูกมือและเล็บ

14. ข้อใดไม่ถูกต้องเกี่ยวกับหินและซากดึกดำบรรพ์ที่พบใน 2 พื้นที่ดังกล่าว
ก. ซากดึกดำบรรพ์ทั้ง2พื้นที่ มีกระบวนการเกิดเหมือนกัน หินตะกอน
ข. สิ่งแวดล้อมในอดีตทั้ง2พื้นที่ น่าจะมีสิ่งมีชีวิตอื่นนอกจากไดโนเสาร์ เป็นไปได้
ค. หินทั้ง2พื้นที่พบซากดึกดำบรรพ์ไดโนเสาร์มีอายุอยู่ในช่วงเดียวกันลักษณะเดียวกัน
ง. ซากดึกดำบรรพ์ที่พบทั้ง2พื้นที่ เกิดจากการประทับรอยไดโนเสาร์ในอดีต โครงร่าง

15. เพราะเหตุใดซากดึกดำบรรพ์ไดโนเสาร์ ์ธนัพศิลเ ์มตัรวญัธูรคยดโ
จึงสามารถนำมาใช้เทียบอายุชั้นหินได้

ก. ไดโนเสาร์มีหลากหลายสายพันธุ์
ข. ซากดึกดำบรรพ์ไดโนเสาร์พบได้หลายพื้นที่
ค. ไดโนเสาร์มีชีวิตอยู่ในช่วงเวลาหนึ่งแล้วสูญพันธ์ไป
ง. ซากดึกดำบรรพ์ไดโนเสาร์ที่พบส่วนใหญ่มีลักษณะสมบูรณ์

15. เพราะเหตุใดซากดึกดำบรรพ์ไดโนเสาร์ ์ธนัพศิลเ ์มตัรวญัธูรคยดโ
จึงสามารถนำมาใช้เทียบอายุชั้นหินได้

ก. ไดโนเสาร์มีหลากหลายสายพันธุ์
ข. ซากดึกดำบรรพ์ไดโนเสาร์พบได้หลายพื้นที่
ค. ไดโนเสาร์มีชีวิตอยู่ในช่วงเวลาหนึ่งแล้วสูญพันธ์ไป
ง. ซากดึกดำบรรพ์ไดโนเสาร์ที่พบส่วนใหญ่มีลักษณะสมบูรณ์

16. ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องเกี่ยวกับซากดึกดำบรรพ์ ์ธนัพศิลเ ์มตัรวญัธูรคยดโ

ก. หินบริเวณใดก็ตามที่พบซากดึกดำบรรพ์ไดโนเสาร์จะมีอายุหินอยู่ในช่วงเดียวกัน
ข. บนหินภูเขาแห่งหนึ่งพบซากดึกดำบรรพ์ปะการัง ในอดีตพื้นที่นี้เคยเป็นทะเลมาก่อน
ค. รอยตีนไดโนเสาร์ที่พบในหินเกิดจากการสลายตัวของกระดูกเท้าไดโนเสาร์ในหิน
ง. หินในพื้นที่แห้งแล้งแห่งหนึ่งพบซากดึกดำบรรพ์ใบไม้ ในอดีตพื้นที่นี้อาจเป็นป่ามาก่อน

16. ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องเกี่ยวกับซากดึกดำบรรพ์ ์ธนัพศิลเ ์มตัรวญัธูรคยดโ

ก. หินบริเวณใดก็ตามที่พบซากดึกดำบรรพ์ไดโนเสาร์จะมีอายุหินอยู่ในช่วงเดียวกัน
ข. บนหินภูเขาแห่งหนึ่งพบซากดึกดำบรรพ์ปะการัง ในอดีตพื้นที่นี้เคยเป็นทะเลมาก่อน
ค. รอยตีนไดโนเสาร์ที่พบในหินเกิดจากการสลายตัวของกระดูกเท้าไดโนเสาร์ในหิน
ง. หินในพื้นที่แห้งแล้งแห่งหนึ่งพบซากดึกดำบรรพ์ใบไม้ ในอดีตพื้นที่นี้อาจเป็นป่ามาก่อน

16. ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องเกี่ยวกับซากดึกดำบรรพ์ ์ธนัพศิลเ ์มตัรวญัธูรคยดโ

ก. หินบริเวณใดก็ตามที่พบซากดึกดำบรรพ์ไดโนเสาร์จะมีอายุหินอยู่ในช่วงเดียวกัน
ข. บนหินภูเขาแห่งหนึ่งพบซากดึกดำบรรพ์ปะการัง ในอดีตพื้นที่นี้เคยเป็นทะเลมาก่อน
ค. รอยตีนไดโนเสาร์ที่พบในหินเกิดจากการสลายตัวของกระดูกเท้าไดโนเสาร์ในหิน
ง. หินในพื้นที่แห้งแล้งแห่งหนึ่งพบซากดึกดำบรรพ์ใบไม้ ในอดีตพื้นที่นี้อาจเป็นป่ามาก่อน

พิจารณาข้อมูลต่อไปนี้ แล้วตอบคำถาม 17. แร่ A และ B ควรนำไปทำ ์ธนัพศิลเ ์มตัรวญัธูรคยดโ
ต่อไปนี้ ผลิตภัณฑ์ใด

ชนิดของแร่ ลักษณะของแร่ ผลิตภัณฑ์จากแร่ A ผลิตภัณฑ์จากแร่ B

โปร่งใส ก. ขวดพลาสติกใส น้ำยาขัดรองเท้า

A มีความแข็งแรงมาก ข. ขวดแก้ว ยางรถยนต์

หลอมเหลวได้

ลักษณะวาว อ่อน ลื่นมือ ค. จานกระเบื้อง ถุงดำใส่ขยะ

B นำไฟฟ้าได้ เมื่อนำไปขูดกับ
วัตถุอื่นจะมีลักษณะเป็นผงดำ ง. กระจก
ไส้ดินสอ

พิจารณาข้อมูลต่อไปนี้ แล้วตอบคำถาม 17. แร่ A และ B ควรนำไปทำ ์ธนัพศิลเ ์มตัรวญัธูรคยดโ
ต่อไปนี้ ผลิตภัณฑ์ใด

ชนิดของแร่ ลักษณะของแร่ ผลิตภัณฑ์จากแร่ A ผลิตภัณฑ์จากแร่ B

โปร่งใส ก. ขวดพลาสติกใส น้ำยาขัดรองเท้า

A มีความแข็งแรงมาก ข. ขวดแก้ว ยางรถยนต์

หลอมเหลวได้

ลักษณะวาว อ่อน ลื่นมือ ค. จานกระเบื้อง ถุงดำใส่ขยะ

B นำไฟฟ้าได้ เมื่อนำไปขูดกับ
วัตถุอื่นจะมีลักษณะเป็นผงดำ ง. กระจก
ไส้ดินสอ