Show
การจัดระเบียบบริหารราชการแผ่นดินของประเทศต่าง ๆ มีปรากฏให้เห็นทั้งที่แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนกลางกับส่วนท้องถิ่น เช่น ญี่ปุ่น อังกฤษ และเยอรมนี ส่วนสหรัฐอเมริกาแบ่งออกเป็นบริหารส่วนกลาง คือรัฐบาลกลาง และรัฐบาลท้องถิ่น หรือรัฐบาลมลรัฐ สำหรับประเทศที่แบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ ส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่น ที่เด่นชัดมี 2 ประเทศ คือ ไทย และฝรั่งเศส การจัดระเบียบบริหารราชการออกเป็น 2 หรือ 3 ส่วนนั้น ขึ้นอยู่กับนโยบายของรัฐบาล สภาพของประเทศ ตลอดจนขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรมด้านการเมืองการปกครองและการบริหารของประเทศนั้น ๆ สำหรับประเทศไทย พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 บัญญัติให้การบริหารราชการแผ่นดินแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ บริหารราชการส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่น โดยทั้ง 3 ส่วนนี้ ล้วนอยู่ในการควบคุมดูแลของคณะรัฐมนตรี ซึ่งหน้าที่รับผิดชอบบริหารราชการแผ่นดิน อันครอบคลุมไปถึงการกำหนดนโยบายเพื่อให้ข้าราชการนำไปปฏิบัติ การอำนวยความสะดวกและการให้บริการสาธารณะแก่ประชาชนตามกฎหมาย นโยบาย และคำสั่งของคณะรัฐมนตรีซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชา การบริหารราชการส่วนกลาง : ใช้หลักการรวมอำนาจ โดยให้อำนาจการบังคับบัญชาและการวินิจฉัยสั่งการสูงสุดอยู่ในส่วนกลาง คือกรุงเทพมหานครอันเป็นเมืองหลวงและศูนย์กลางการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐ แบ่งส่วนราชการออกเป็น (1) สำนักนายกรัฐมนตรี (2) กระทรวง (3) ทบวง ซึ่งสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรีหรือกระทรวง (4) กรม หรือส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่นและมีฐานะเป็นกรม ซึ่งสังกัดหรือไม่ สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวง หรือทบวง สำนักนายกรัฐมนตรี ส่วนราชการดังกล่าวนี้มีฐานะเป็นนิติบุคคล การบริหารราชการส่วนภูมิภาค : ใช้หลักการแบ่งอำนาจ โดยราชการส่วนกลางเป็นเจ้าของอำนาจ แล้วแบ่งอำนาจการบังคับบัญชาและการวินิจฉัยสั่งการให้แก่ภูมิภาคนำไปปฏิบัติให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน และการปฏิบัติของภูมิภาคนั้นจะต้องให้เหมาะสมสอดคล้องกับสภาพแวดล้อมและขนบธรรมเนียมประเพณีของแต่ละพื้นที่ ทั้งนี้จะต้องไม่ขัดต่อนโยบายของส่วนกลางหรือของคณะรัฐมนตรี หรือตัวบทกฎหมายของประเทศ การบริหารราชการส่วนภูมิภาค มี 2 ระดับ คือ จังหวัด และอำเภอ การบริหารราชการส่วนท้องถิ่น : ใช้หลักการกระจายอำนาจ ที่ส่วนกลางได้มอบอำนาจระดับหนึ่งให้ประชาชนในท้องถิ่นไปดำเนินการปกครองตนเองอย่างอิสระ โดยที่ต้องไม่ขัดต่อกฎหมายของประเทศหรือความสงบเรียบร้อยของประชาชน กิจกรรมที่ทำได้ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องการพัฒนา มีอิสระในการตัดสินใจในการแก้ปัญหาหรือการสนับสนุนกิจกรรมของท้องถิ่น ออกข้อบังคับหรือระเบียบต่าง ๆ มาบังคับในเขตการปกครองของตนได้โดยไม่ขัดต่อกฎหมาย การบริหารราชการส่วนท้องถิ่น ในปัจจุบันมีรูปแบบ (1) องค์การบริหารส่วนจังหวัด (2) เทศบาล (3) องค์การบริหารส่วนตำบ และ (4) ราชการบริหารส่วนท้องถิ่นอื่นตามที่กฎหมายกำหนด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร และเมืองพัทยา จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี ราชการส่วนภูมิภาค หมายถึงหน้าที่เดียวราชการของกระทรวง ทบวง กรมต่าง ๆ ซึ่งได้แบ่งแยกออกไปดำเนินการจัดทำตามเขตการปกครอง โดยมีเจ้าหน้าที่ของทางราชการส่วนกลาง ซึ่งได้รับแต่งตั้งออกไปประจำตามเขตการปกครองต่าง ๆ ในส่วนภูมิภาคเพื่อบริหารราชการภายใต้การบังคับบัญชาของราชการส่วนกลางโดยมีการติดต่อกันอย่างใกล้ชิดเพราะถือเป็นเพียงการแบ่งอำนาจการปกครองออกมาจากการบริหารส่วนกลาง การบริหารราชการส่วนภูมิภาคเป็นการบริหารราชการตามหลักการแบ่งอำนาจโดยส่วนกลางแบ่งอำนาจในการบริหารราชการให้แก่ภูมิภาค อันได้แก่จังหวัด มีอำนาจในการดำเนินกิจการในท้องที่แทนการบริหารราชการส่วนกลาง ลักษณะการแบ่งอำนาจให้แก่การบริหารราชการส่วนภูมิภาค หมายถึง การมอบอำนาจในการตัดสินใจ วินิจฉัย สั่งการให้แก่เจ้าหน้าที่ที่ไปประจำปฏิบัติงานในภูมิภาค เจ้าหน้าที่ในภูมิภาคให้อำนาจบังคับบัญชาของส่วนกลางโดยเฉพาะในเรื่องการแต่งตั้งถอดถอนและงบประมาณซึ่งเป็นผลให้ส่วนภูมิภาคอยู่ในการควบคุมตรวจสอบจากส่วนกลางและส่วนกลางอาจเรียกอำนาจกลับคืนเมื่อใดก็ได้ การจัดระเบียบบริหารราชการส่วนภูมิภาค[แก้]จังหวัด[แก้]จังหวัดเป็นหน่วยราชการที่ปกครองส่วนภูมิภาคที่ใหญ่ที่สุด มีฐานะเป็นนิติบุคคลประกอบขึ้นด้วยอำเภอหลายอำเภอหลาย อำเภอ การตั้ง ยุบและเปลี่ยนแปลงเขตจังหวัด ให้ตราเป็นกฎหมายพระราชบัญญัติ ในจังหวัดหนึ่ง ๆ มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้รับนโยบายและคำสั่งจากนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้ารัฐบาล คณะรัฐมนตรี กระทรวง และกรม มาปฏิบัติการให้เหมาะสมกับท้องที่และประชาชนและเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดในบรรดาข้าราชการฝ่ายบริหารส่วนภูมิภาคในเขตจังหวัดที่รับผิดชอบ อาจจะมีรองผู้ว่าราชการจังหวัดหรือ ผู้ช่วยผู้ว่าราชการจังหวัด ซึ่งสังกัดกระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัด มีคณะปรึกษาในการบริหารราชการแผ่นดินในจังหวัดนั้นเรียกว่า คณะกรมการจังหวัดประกอบด้วยผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนึ่งคนตามที่ผู้ว่าราชการจังหวัดมอบหมาย ปลัดจังหวัด อัยการจังหวัดซึ่งเป็นหัวหน้าที่ทำการอัยการจังหวัด รองผู้บังคับการตำรวจซึ่งทำหน้าที่หัวหน้าตำรวจภูธรจังหวัดหรือผู้กำกับการตำรวจภูธรจังหวัด แล้วแต่กรณีและหัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัดจากกระทรวงและทบวงต่าง ๆ เว้นแต่กระทรวงมหาดไทยซึ่งประจำอยู่ในจังหวัด กระทรวง และทบวงละหนึ่งคนเป็นกรมการจังหวัด และหัวหน้าสำนักงานจังหวัดเป็นกรมการจังหวัดและเลขานุการ ให้แบ่งส่วนราชการของจังหวัด ดังนี้
อำเภอ[แก้]อำเภอ เป็นหน่วยราชการบริหารส่วนภูมิภาครองจากจังหวัด แต่ไม่มีฐานะเป็นนิติบุคคลเหมือนจังหวัด การจัดตั้ง ยุบเลิกและเปลี่ยนแปลงเขตอำเภอ กระทำได้โดยตราเป็น พระราชกฤษฎีกา มีนายอำเภอเป็นหัวหน้าปกครองบังคับบัญชาข้าราชการในอำเภอ และรับผิดชอบการบริหารราชการของอำเภอ นายอำเภอสังกัดกระทรวงมหาดไทย และให้มีปลัดอำเภอและหัวหน้าส่วนราชการประจำอำเภอซึ่งกระทรวงต่าง ๆ ส่งมาประจำให้ปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ช่วยเหลือ การแบ่งส่วนราชการของอำเภอ มีดังนี้
ความสัมพันธ์ระหว่างราชการบริหารส่วนกลางกับส่วนภูมิภาค[แก้]ส่วนราชการภูมิภาคสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี และกระทรวง/ทบวง[แก้]
การจัดระเบียบบริหารราชการส่วนภูมิภาคแบบเฉพาะ[แก้]ส่วนราชการของกระทรวงกลาโหมในส่วนภูมิภาค[แก้]การบริหารราชการของ กระทรวงกลาโหมในส่วนภูมิภาค เป็นรูปแบบเฉพาะตามพระราชบัญญัติระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ. 2551[1] ซึ่งมิได้กำหนดให้กระทรวงกลาโหมต้องจัดการระเบียบการบริหารส่วนภูมิภาค แต่การจัดส่วนราชการใหม่ตามพระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการและกำหนดหน้าที่ของส่วนราชการกองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ ได้แบ่งส่วนราชการในภูมิภาคดังนี้
หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา มีหน้าที่พิจารณาเสนอความเห็นเกี่ยวกับนโยบายวางแผน อำนวยการประสานงาน และดำเนินการ เกี่ยวกับการเสริมสร้างความมั่นคงของชาติ ด้วยการพัฒนาประเทศ และสังคมจิตวิทยาของประเทศ ในท้องถิ่นทุรกันดาร ในพื้นที่กำหนดเพื่อป้องกันอธิปไตย และรักษาความสงบเรียบร้อยของประเทศ รวมทั้งการพัฒนา กำลังพล สำหรับสนับสนุน การพัฒนาประเทศ ตลอดจน ปฏิบัติภารกิจอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ตามที่ ได้รับมอบหมาย โดยแบ่งพื้นที่เป็น
กองทัพภาค มีหน้าที่ป้องกันอธิปไตย และรักษาความสงบเรียบร้อยของประเทศ ในส่วนภูมิภาค โดยแบ่งส่วนราชการออกเป็น กองพลทหารม้า กองพลพัฒนา กรมทหารปืนใหญ่ หน่วยป้องกันชายแดนและภารกิจพิเศษในพื้นที่ และหน่วยขึ้นตรง เช่น มณฑลทหารบก จังหวัดทหารบก โดยแบ่งพื้นที่เป็น
กองทัพเรือภาค มีหน้าที่ป้องกันอธิปไตย และรักษาความสงบเรียบร้อยของประเทศทางทะเล ในส่วนภูมิภาค โดยแบ่งส่วนราชการออกเป็น หมวดเรือเฉพาะกิจ หมวดบินเฉพาะกิจ และชุดปฏิบัติการพิเศษ โดยแบ่งพื้นที่เป็น
ส่วนกำลังรบ มีหน้าที่ป้องกันอธิปไตย และรักษาความสงบเรียบร้อยของประเทศทางอากาศ โดยแบ่งส่วนราชการออกเป็น กองบิน กรมควบคุมการปฏิบัติทางอากาศ และหน่วยบัญชาการอากาศโยธิน โดยกระจายพื้นที่ทั่วประเทศ ส่วนราชการของกระทรวงศึกษาธิการในส่วนภูมิภาค[แก้]การบริหารราชการของ กระทรวงศึกษาธิการในส่วนภูมิภาค เป็นรูปแบบเฉพาะตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. 2546[2] ที่กำหนดให้การจัดระเบียบการบริหารราชการแบ่งเป็น บริหารราชการในส่วนกลาง บริหารราชการในเขตพื้นที่การศึกษา และ บริหารราชการในสถานศึกษาของรัฐที่จัดการศึกษาระดับปริญญา ที่เป็นนิติบุคคล บริหารราชการในเขตพื้นที่การศึกษา มีการจัดระเบียบการบริหารราชการดังนี้
แนวคิดปฏิรูป[แก้]ปัจจุบันมีหลายพรรคที่จะใช้ระบบการกระจายอำนาจมาใช้กับระดับจังหวัดแต่มีปัญหาอยู่มากเช่น 1.อาจการเป็นการผูกขาดทางอำนาจให้แก่ผู้มีอิทธิพลสังเกตจากนายกอบจ.ส่วนมากมีหน้าซ้ำๆหรือเครือเดียวกันทั้งๆที่ประชากรส่วนมากแทบไม่รู้จักเลย 2.มีการคดโกงเกิดขึ้นบ่อยจากกรณีอบจ.ลำพูน เนื่องจากระบบบริหารท้องถิ่นมีบางส่วนที่ลูกจ้างและข้าราชการที่เป็นคนเครือเดียวกันรู้จักกันทำให้ช่วยปกปิดได้ต่างจากระบบส่วนกลางที่มีการหมุนเวียนข้าราชการให้ไปหลายๆที่และการฟ้องร้องผู้ที่มีอิทธิพลต่อพื้นที่เป็นอะไรที่เสี่ยงมากๆ 3.ชาวบ้านอาจฟ้องร้องได้ยากเพราะถ้ามีปัญหากับเราผู้มีอิทธิพลอาจมีอันตรายซึ่งส่วนกลางไม่สามารถคุ้มครองได้ทันที 4.อาจมีการใช้กองกำลังท้องถิ่นในทางที่ผิดเช่น อส. ตร. แต่ระบบนี่มีข้อดี 1.ถ้าชาวบ้านได้นายกที่ดีจริงๆจะมีการช่วยเหลือที่ทันท่วงทีไม่ต้องผ่านระบบซับซ้อนของส่วนกลาง 2.จะมีการทราบปัญหาที่แท้จริงของชาวบ้านเพราะเนื่องจากคนในระบบนี่ส่วนใหญ่จะเป็นคนในพื้นที่(ซึ่งตอนนี้ระบบกลางก็มีการใช้อยู่เป็นการคละคนให้มีคนในพื้นที่และจากด้านนอก) 3.ชาวบ้านจะมีความกล้าในการติดต่อส่วนราชการเพราะมีคนในระบบท้องถิ่นนี่มีความเป็นกันเองกับข้าราชการเนื่องจากเป็นคนในพื้นที่จากที่แต่ก่อนชาวบ้านจะมองข้าราชการว่าเป็นสิ่งที่เข้าถึงยาก อ้างอิง[แก้]
การบริหารราชการส่วนภูมิภาค มีอะไรบ้างการบริหารราชการส่วนภูมิภาค ประกอบด้วย จังหวัดและอาเภอ จังหวัดเกิดจากการรวมท้องที่หลาย ๆ อ าเภอตั้งขึ้นเป็นจังหวัดมีฐานะเป็นนิติบุคคลโดยการตั้ง ยุบ และเปลี่ยนแปลงเขตจังหวัด ให้ตราเป็นพระราชบัญญัติ (มาตรา 52) ในปัจจุบันมีจังหวัดทั้งสิ้น 77 จังหวัด ไม่รวมกรุงเทพมหานครที่มีฐานะเป็นการบริหารราชการส่วนท้องถิ่น
หน่วยการปกครองใดเป็นราชการบริหารส่วนภูมิภาคการบริหารราชการส่วนภูมิภาคประกอบด้วย จังหวัดและอำเภอ จังหวัด จังหวัดเกิดจากการรวมท้องที่หลาย ๆ อำเภอตั้งขึ้นเป็นจังหวัดมีฐานะเป็นนิติบุคคลโดยการตั้ง ยุบ และเปลี่ยนแปลงเขตจังหวัด ให้ตราเป็นพระราชบัญญัติ(มาตรา 52) ในปัจจุบันมีจังหวัดทั้งสิ้น 77 จังหวัด ไม่รวมกรุงเทพมหานครที่มีฐานะเป็นการบริหารราชการส่วนท้องถิ่น
ข้อใดเป็นการปกครองแบบส่วนภูมิภาคการบริหารราชการส่วนภูมิภาค หมายถึง ระบบบริหารที่ราชการบริหารส่วนกลาง อันได้แก่ กระทรวง ทบวง กรม ได้มอบอ านาจ แบ่งอ านาจ หรือปันอ านาจไปให้ราชการบริหาร ส่วนภูมิภาคได้บริหารหรือด าเนินการแทนตามเขตการปกครองของประเทศ อันได้แก่ จังหวัด และอ าเภอ เพื่อสนองความต้องการของประชาชนในเขตจังหวัดหรืออ าเภอนั้นๆ โดยมีคนหรือข้าราชการ ...
การบริหารราชการส่วนกลางคืออะไร(๑) ราชการบริหารส่วนกลาง เป็นการใช้หลักการรวมอ านาจไว้ที่ส่วนกลาง โดยแบ่ง ส่วนราชการออกเป็นส านักนายกรัฐมนตรี กระทรวง ทบวง กรม หรือส่วนราชการอื่นและมีฐานะเป็นกรม หรือสังกัดหรือไม่สังกัดส านักนายกรัฐมนตรี กระทรวง หรือทบวง ส านักนายกรัฐมนตรี ส่วนราชการ ดังกล่าวมีฐานะเป็นนิติบุคคล
|