คําถามเกี่ยวกับภาษาไทย พร้อมเฉลย

คำ ให้พิจารณาคำว่าคำใดอ่านผิด หรืออาจถามโดยยกคำศัพท์พร้อมทั้งการอ่านมาให้ แล้วความว่าอ่านอย่างไรผิด หรืออ่านอย่างไรถูก หรืออาจจะถามคำอ่านว่ามีกี่พยางค์ หรือออกเสียงใดไม่ออกเสียงใด หรือกำหนดข้อความมาใช้ หาคำที่เขียนผิดในข้อความนั้น หรืออาจให้พิจารณาว่าคำที่กำหนดให้นั้นจะต้องนำข้อใดมาเติมจึงจะถูกต้อง



คำชี้แจง จงเลือกคำตอบที่ถูกเพียงคำตอบเดียว ข้อใดเป็นคำอ่านที่ถูกต้อง

1. “ประวัติศาสตร์

. ประ วัติ ติ สาด                     . ประ หวัด ติ สาด*

. ประ หวัด สาด                         . ประ วัด สาด

2. “ผลิตภัณฑ์

. ผะ หลิ ตะ พัน                      . ผะ หลิด ตะ พัน*

. ผลิด ตะ พัน                            . ผลิด พัน

3. “ปรัชญา

. ปรัด ยา*                                      . ปรัด ชะ ยา

. ปะ รัด ชะ ยา                         ปะ หรัด ชะ ยา

4.ตัวย่อ ศธอ่านคำเต็มที่ถูกต้องว่าอย่างไร

. สึก สา ทำ                                . สึก สา ทิ กาน*

. สาด สะ นะ ทำ                     . สา ทา สะ นะ สุก

5. “จรดพระมังคัล

. จะ รด พระ นัง คัน             . จด พระ นัง คัน

. จะ หรด พระ นัง คัน*        . จรด พระ นัง คัน


ความหมายของคำหรือกลุ่มคำ ข้อสอบประเภทนี้ : โจทก์กำหนดให้เลือกข้อความที่มีความหมายตรงกับ คำ หรือข้อความที่กำหนดให้ หรืออาจให้อธิบายความหมายของสำนวน สุภาษิต คำพังเพย หรือให้เลือกคำที่มีความหมายตรงกันข้ามกับคำที่กำหนดให้ หรือแตกต่างไปจากคำอื่น


คำชี้แจง จงเลือกคำตอบที่ถูกที่สุดเพียงคำเดียว

1. “นอนหลับทับสิทธิ์

.ไม่มีสิทธิ์                                       .ไม่แสดงหน้าที่ของตน

.ไม่เอาใจใส่ ใช้สิทธิ์ที่ตนมี*            .ไม่รู้ว่าตนมีสิทธิ์

2. คำใดที่มีความหมายแตกต่างไปจากคำอื่น

.กรุณา           .เมตตา          .สงสาร          .ชมเชย*

3. เธอทำไปเพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ความหมายตรงข้ามกับคำใด

.รอบคอบ*    .เลิ่นเล่อ         .สะเพร่า        .ประมาท

4. เขาเป็นคน ขี้ตืด อย่างมาก

.เห็นแก่ตัว     .เห็นแก่ได้     .ละโมบ         .ตระหนี่เหนียวแน่น*

5. “เสี้ยมเขาควายให้ชนกันเข้าลักษณะใด

.ศรศิลป์ไม่กินกัน                            .ยุให้ตำรำให้รั่ว*

.ถึงพริกถึงขิง                                   .คดในข้องอในกระดูก


การเลือกใช้คำหรือกลุ่มคำ ข้อสอบประเภทนี้ : โจทก์จะกำหนดให้เลือกคำที่เหมาะสมเพื่อเติมในช่องว่าที่เว้นไว้ เพื่อให้ได้ความสมบูรณ์ถูกต้อง หรือคำใดในกลุ่มคำนั้นจึงเป็นคำที่เหมาะสมที่สุด เติมในช่องว่างของข้อความนั้นแล้วได้ความสมบูรณ์
คำชี้แจง  จงเลือกคำที่เหมาะสมที่สุดเติมในช่องว่าง

1. ที่ห้องดนตรีมีระนาดสอง……………….

.ตัว                . อัน               . เลา              . ราง*

2. คอยไปเถิด…………เขาจะต้องกลับมา

. ในไม่ช้า      . ไม่นานนัก   . ไม่กี่วัน        . สักวันหนึ่ง*

3. จะลำบากยากเย็นอย่างไรเราก็ต้อง……………

. มานะ          . กัดฟัน         . อดทน*       . ฮึดสู้

4. คนสวมเสื้อผ้าป้องกันความอายหรือ…………ตา

. อนาถ          . ทุเรศ            . อุจาด*         . ระคาย

5. จักรเย็บผ้า…………นี้ใช้ดีมาก

. คัน              . หลัง            *         . เครื่อง             . อัน







ตอนที่ 2 การเขียน

การเขียน คือ การเรียบเรียงถ้อยคำ ข้อความ ได้อย่างถูกต้องและสละสลวยเขียนถูกต้องตามพจนานุกรม ถูกต้องตามหลักเกณฑ์ ถูกต้องตาม สะกดการันต์ ตามหลักสูตร การเขียน ได้แก่ การเรียงข้อความการแต่งประโยค การย่อความ การเขียนอธิบายความหมายของคำ

การเขียน ผู้เขียนต้องเขียนอย่างถูกต้อง สามารถในการเรียงถ้อยคำให้เป็นประโยค และข้อความอย่างถูกต้องสละสลวย, เป็นการแสดงความรู้ ความคิด และความรู้สึก และความต้องการของผู้ส่งสารสื่อความหมายออกเป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อให้ผู้รับสามารถอ่านเข้าใจในการรับทราบความรู้ความคิด ความรู้สึก และความต้องการสิ่งนั้น

หลักการเขียน การเขียนหนังสือต้องเขียนถูกและเขียนเป็น

การเขียนเป็น หมายถึงการเขียนเพื่อบอกให้ผู้อื่นรู้เรื่อง และเข้าใจเจตนาเอาความประสงค์ของผู้เขียนเรื่องการเขียนเป็นนี้ ต้องฝึกให้เกิดความชำนาญ จึงจะได้ผล
สมความมุ่งหมายของวิชาความสามารถในการใช้ภาษาไทย หากเขียนได้ยังไม่
เรียกว่า เขียนเป็น

การเขียนถูก หมายถึง เขียนได้ตามหลักเกณฑ์ การสะกดการันต์จึงเป็นเรื่องสำคัญในการใช้ภาษาไทย เพราะถ้าเขียนไม่ถูกความหมาย ความหมายก็เปลี่ยนไป เช่น อนุญาต หมายถึงยินยอม ยอมให้ ตกลง แต่ถ้าเขียนเป็นอนุญาต ความหมายก็เปลี่ยนไป ทั้งนี้เพราะคำว่า ญาติ ตามพจนานุกรรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ..2525 (ยาด,ยาติ) .คนในวงศ์วานที่ยังนับรู้กันได้ทางเชื้อสายฝ่ายพ่อหรือฝ่ายแม่ หลักเกณฑ์การเขียนอยู่ในวิชาหลักภาษาไทยต้องฝึกบ่อยๆ จะเกิดความจำและเป็นประโยชน์ในการใช้ภาษาไทย
 การเรียงข้อความ ข้อสอบประเภทนี้ : โจทก์จะให้พิจารณาข้อความที่เขียนมาให้แล้วให้เรียงข้อความเสียใหม่ ให้ถูกต้องเหมาะสมตาม หลักการใช้ภาษาไทย (เทคนิค ในการทำข้อสอบเรียงข้อความ ผู้สอบต้องอ่านโจทก์ที่เป็นข้อความ แต่ละข้อแล้วนำต่อกันจนเห็นว่าการต่อแบบใดดีที่สุด ก็เลือกคำตอบที่ให้ไว้,หลักการตอบ อย่างอ่านตัวเลขก่อน จงอ่านใจความให้เข้าใจเสียก่อนแล้วจึง เรียงตัวเลขมาเรียงกัน)





 คำชี้แจง จงเรียงข้อความให้ถูกต้อง

1.         1.การที่ช่วยงานหลายๆข่ายงาน                                                                              2.ในสถาบันต่างๆ มีการปฏิบัติงานคล้ายๆกัน

            3.จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องสร้างแกนรวม                                                                        4.เพื่อประสานประโยชน์ร่วมกัน

                        .3 2 4 1          .2 3 4 1          .1 2 3 4*        .4 3 2 1

2.         1.แนวทางแก้ไขปัญหาหากร่วมกันทำก็จะเป็นเรื่องดีมาก

            2.ฉะนั้นโดยภาพรวมแล้ว

            3.เมื่อแบ่งส่วนรับผิดชอบแล้วก็จะง่ายเข้า                                                            4.ปัญหาที่เคยยากๆ

                        .1 2 3 4          .2 3 4 1          .4 3 2 1*        .3 2 4 1

3.         1.เสียงที่นั่งอย่างเฉียบขาดนั้นเป็นเสียงผู้หญิง

            2.เขาเคยเห็นผู้หญิงหลายคนฆ่าคนตาย

            3.ซึ่งไม่ได้ทำให้เขาสบายใจเลยแม้แต่นิดเดียว

            4.”ยืนอยู่นิ่งอย่างนั้นแหละ

                        .2 1 4 3          .1 4 2 3          .2 3 4 1*        .1 3 2 4

4.         1.มนุษย์โลกอาศัยพลังงานของสายน้ำ สายลม แสงแดด ไฟ สัตว์เลี้ยง และแรงงานคน

            2.และมนุษย์ก็อยู่กับธรรมชาติด้วยความสันติสุขมาโดยตลอด

            3.สมัยก่อนการปฏิวัติอุตสาหกรรมในยุโรป

            4.เพื่อให้งานต่างๆ สำเร็จลุล่วง

                        .1 2 3 4          .4 1 2 3          .3 1 4 2*        .1 3 2 4

5.         1.รางวัลชนะเลิศเป็นโล่รางวัลของประธานรัฐสภา

            2.รางวัลรองชนะเลิศเป็นโล่รางวัลของประธานสภาผู้แทนราษฎร

            3.พร้อมใบประกาศเกียรติคุณและทุนการศึกษา 2,000 บาท

            4.พร้อมใบประกาศเกียรติคุณและทุนการศึกษา 3,000 บาท

                        .1 2 3 4          .4 3 2 1          .2 4 1 3          .1 4 2 3*


การแต่งประโยค ข้อสอบประเภทนี้ : โจทก์จะให้พิจารณาประโยคแต่ละประโยคว่า ประโยคใดแต่งได้ถูกต้องตามหลักภาษามากที่สุด

คำชี้แจง จงเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคำตอบเดียว

1. ข้อใด ไม่ เป็นประโยค

ก. ท้องทะเลสีคราม*

. ห้องนี้จุคนได้น้อย

. มรรยาทของเขาดีมาก

. ฝันสลายเมือรู้ความจริง

อ่านประโยคในข้อ 1 – 4 แล้วตอบคำถามข้อ 3 – 5

1.เขาคนเดียว                           2.ใครที่มากับเขา

3.ใครคนหนึ่งล้มลง                 4.เราไม่ชอบอาหารรสเผ็ด

 3.ข้อใดเป็นประโยคปฏิเสธ

. 1                  . 2                  . 3                  . 4*

4.ข้อใดไม่เป็นประโยค

. 1*                . 2                  . 3                  . 4

5.ข้อใดเป็นประโยคบอกเล่า

. 1                  . 2                  . 3 *               . 4


การย่อความ ข้อสอบประเภทนี้ โจทย์ : จะกำหนดข้อความมาให้แล้วย่อใจความหรือสรุปสาระสำคัญ,หรือให้ข้อความมาแล้วให้ตั้งชื่อเรื่อง,หรือถามว่าข้อความมีใจความโดยย่อตรงกับข้อใด

คำชี้แจง จงอ่านข้อความข้างล่างนี้แล้วตอบคำถาม

            “นางสิริกร มณีรินทร์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้ตอบข้อซักถามของผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับการกวดขันจรรยาของครูว่า กระทรวงศึกษาธิการพิจารณาเห็นว่าครูและบุคคลทั่วไป เห็นแบบฉบับของความดีงาม ถูกต้องของสังคม กระทรวงศึกษาธิการจึงได้กวดขันในเรื่องจรรยามารยาทครู นับตั้งแต่การแต่งกาย ควรจะเป็นระเบียบเรียบร้อยสมแก่ตำแหน่งฐานะ ไม่ใช่แต่งกันตามสบายอย่างอาชีพอื่นซึ่งเครื่องแต่งกายอื่น นอกจากจะเป็นการสร้างบุคลิกภาพแล้วยังบอกความเป็นใครด้วย

            รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการกล่าวต่อไปอีกว่า นอกจากเสื้อผ้าอาภรณ์การแต่งกาย แล้วการวางตัวของครูเป็นเรื่องที่กระทรวงศึกษาธิการจะพิจารณาเข้มงวดกวดขันด้วยให้พยายามละเว้นอบายมุข เช่น การสูบบุหรี่ ดื่มสุรา เล่นการพนัน เป็นต้น โดยจะขอความร่วมมือจากครู อาจารย์ ตลอดจนผู้บังคับบัญชาด้วย ทั้งนี้เพื่อให้ภาพพจน์ เกียรติยศ ชื่อเสียงของครู เป็นที่น่านิยมยกย่องแก่บุคคลในวงการทั่วไป

1.ข้อความข้างบนมีใจความโดยย่อความกับข้อใด

.กระทรวงศึกษาธิการกวดขันในเรื่องการแต่งกายของครู

.นางสิริกร มณีรินทร์ ตักเตือนให้ครูดำรงตนเป็นปูชนียบุคคลและพยายามละเว้นอบายมุข

.รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการให้ครูช่วยสร้างภาพพจน์ เกียรติยศ ชื่อเสียงของครู

.รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการตอบข้อซักถามของผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับการกวดขันจรรยาของครู*

.รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการให้สัมภาษณ์ นโยบายรีบด่วนที่เกี่ยวกับครู


2.ข้อความข้างต้นนี้ควรตั้งชื่อเรื่องตามข้อใดจึงเหมาะสมที่สุด

.ปูชนียบุคคล                                   .การแต่งกายของครู

.การกวดขันจรรยาของครู*             .ภาพพจน์ของกระทรวงศึกษาธิการ

จ.นโยบายที่เกี่ยวกับครู


การเขียนอธิบายความหมายของคำ ข้อสอบประเภทนี้ โจทย์ : จะให้เขียนข้อความสั้นๆ ของคำแต่ละคำ โดยอธิบายความหมายของคำ ให้ถูกต้องตามความหมายของคำแต่ละคำนั้นหรือให้เลือกคำเติมในช่องว่างที่ให้ไว้ถูกต้องสมบูรณ์เทคนิคในการทำข้อสอบ ต้องจำคำสุภาษิต,คำพังเพย,สำนวนที่พบบ่อยๆ และรู้ความหมายของวลีเดิม

ตัวอย่าง การเขียนอธิบายความหมายของคำ

คำชี้แจง จงเลือกคำสั่งวลีที่ให้ไว้ในช่องว่างให้ถูกต้องสมบูรณ์

1.         .กล่าว                        .อ้าง               .นำ*              .บอก              .พูด
2.         .ส่วนแรก      .ประการแรก*           .ข้อแรก         .เบื้องต้น        .เรื่องแรก

3.         .เลิก               .ทิ้ง                .หยุด*                       .ทิ้งขว้าง        .ละทิ้ง

4.         . พัฒนาการ   .วิวัฒนาการ  .พัฒนา*        .เปลี่ยนแปลง .เติบโต

5.         .เสียเลย          .เสียทีเดียว*   .เป็นอันขาด  .อย่างเด็ดขาด จ.ของคนเสีย

6.         .ถูก                .ควร              .ชอบ*                       .ดี                   .งาม

7.         .จง                .อย่า               .และ*                        .ให้                 .อนึ่ง

8.         .อดีต             .ปัจจุบัน        .อนาคต         .ฐานะ            *          .เงินเดือน
9.         .เรียน             .เตือน            *          .เน้น              .บอก              .ย้ำ

10.       .ฉะนั้น*        .สรุปแล้ว      .เพราะฉะนั้น .ดังนี้              .โดยสรุป

            ข้าพเจ้าจะขอ……1…..เอาข้ออันควรประพฤติปฏิบัติเฉพาะที่สำคัญๆ มาตักเตือนท่านไว้ ดังต่อไปนี้

            ใน…..2….ก็คือเรื่องการศึกษา ซึ่งส่วนมากมักจะเข้าใจผิดกันว่า ตนได้ศึกษามานานพอแล้ว และพากัน….3….เสีย อันนี้นับว่าเป็นการเข้าใจผิดอย่างสำคัญที่สุด จริงอยู่ในการทำงานนั้นเราต้องการใช้ความสามารถเป็นประการสำคัญ แต่ก็ขออย่างได้ลืมเสียว่า บันได้ที่จะนำเราไปสู่ความเป็นผู้มีความรู้ความสามารถได้อย่างดีนั้น ก็คือการศึกษามั่นคง และยิ่งในสมัยที่วิชาการของโลกกำลังมี…4…ไปสู่การเป็นผู้ล้าสมัยได้อย่างน่าเสียดายที่สุดฉะนั้นสิ่งสำคัญประการแรกที่ข้าพเจ้าอยากเตือนท่านไว้ในโอกาสนี้ก็คือ จงอย่างได้ละทิ้งการศึกษา…..5….
            ในประการที่ 2 เป็นเรื่องเกี่ยวกับความประพฤติของท่าน เพราะการออกไปเป็นนายทหารนั้นท่านจะเป็นอิสระ และมีโอกาสพบปะกับบุคคลต่างๆ มากกว่าเมื่อครั้งยังเป็นนักเรียนอยู่ ด้วยเหตุนี้จึงมีความจำเป็นที่ท่านจะต้องรู้จักบังคับตัวของตนเองให้รู้จักประพฤติปฏิบัติแน่ในสิ่งที่…..6…. เช่นในการระมัดระวังในเรื่องกิริยามารยาท การประหยัด การคบหาแต่เพื่อนที่ดี และการรักษาความสามัคคีในหมู่คณะเหล่านี้ เป็นต้น จงทำตามแต่ตัวอย่างที่ดี…7….พึงหลีกหนีความชั่วทั้งหลาย เช่นการดื่มสุราจนเมามาย หรือการใช้จ่ายที่ไม่คำนึงถึง….8….เหล่านี้เสียข้าพเจ้าขอ….9…ว่าเรื่องเสียความประพฤตินี้ได้เคยทำลายอนาคตอันสุกใสของนายทหารมามากต่อมากแล้ว จนต้องออกจากราชการไปก็มีตัวอย่างอยู่…..10…. จึงขอให้ท่านพึงระมัดระวังให้จงหนัก

ตอนที่ 3 ความเข้าใจภาษา

ความเข้าใจภาษา หลักสูตรทดสอบเกี่ยวกับการอ่าน จับใจความ การทำความเข้าใจเกี่ยวกับ เรื่องราว บทความหรือข้อความที่กำหนดให้ แล้วตอบคำถามในแต่ละบทความ หรือข้อความนั้นรวมทั้งการสรุปความ การตีความ และขยายความด้วย

ความเข้าใจภาษา นิยมใช้วัดความสามารถทั่วไปอย่างมาก ข้อสอบจะกำหนดสถานการณ์ซึ่งอาจจะเป็นบทความ ภาพหรือสิ่งอื่นๆ ให้แล้ว จะถามผู้สอบว่า มีความเข้าใจสถานการณ์ในการอ่านนั้นเพียงใด การตอบข้อคำถามจำเป็นต้องอาศัยสถานการณ์เสนอแนวทางการถามมักจะถามให้วิเคราะห์สถานการณ์ เช่น ควรตั้งชื่อบทความนี้ว่าอย่างไร ผู้เขียนมีความประสงค์ใด บทความนี้ให้แนวคิดเราอย่างไร อาจสรุปข้อความนี้ได้อย่างไร ข้อความนี้มีประเด็นสำคัญใด จุดใดเป็นหัวใจของบทความนี้
ข้อความความเข้าใจภาษา ไม่นิยมถามความจำ ยิ่งเป็นข้อสอบคัดเลือกด้วยแล้วลีลาการตอบจะต้องใช้ความคิดอย่างดีจึงตอบได้ ซึ่งอาจจะถามให้แปลความหมายตีความหมายพยากรณ์ผล แก้ปัญหาวิเคราะห์ปัญหา คือถามหาเหตุผล การให้ประเมินเหตุการณ์ในข้อความนั้นผู้ตอบต้องคิดให้รอบคอบก่อนตอบข้อสรุปทุกครั้งเสมอ


แบบการทำความเข้าใจข้อความ ข้อสอบประเภทนี้ โจทก์ จะกำหนดข้อความมา
ให้อ่านเมื่ออ่านข้อความที่กำหนดให้แล้ว ตอบคำถามแต่ละข้อที่โจทก์กำหนดไว้
คำชี้แจง จงอ่านข้อความต่อไปนี้แล้วตอบคำถามข้อ 1-10

คนไทยเรามีลักษณะอย่างหนึ่งคือ พร้อมจะเสียเงินในหลายๆ เรื่อง แต่กับเรื่อง
ของภาษีถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ขอเลี่ยงไว้ก่อนดีกว่า ซึ่งหลายคนใช้เหตุผลว่า การที่
พวกตนไม่อยากเสียภาษี ใจจริงแล้วพร้อมที่จะเป็นพลเมืองดี เสียภาษีเต็มเม็ดเต็ม
หน่วย ถ้ารัฐจะสร้างความมั่นใจให้กับพวกตนได้ว่าเงินภาษีที่เก็บไปนั้น รัฐได้นำไป
ใช้ประโยชน์ต่อสาธารณะชนต่างๆ อย่างแท้จริง ไม่ใช่ไปหล่นอยู่ในกระเป๋าของ
ใครต่อใคร เสียกว่าครึ่ง เพราะที่ผ่านมา ชั่วความ เรื่องการคอรัปชั่นมีให้ได้ยินกัน

หนาหู รวมไปถึงการนำภาษีอากรไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ มิได้ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อ
สาธารณชน เพียงหวังอยากสร้างอำนาจหรือเอื้อประโยชน์ กลุ่มอย่างเดียวแล้ว
ใครเขาจะอยากเสียภาษีกันละ

1.ข้อใดเป็นเหตุผลที่ผู้เขียนอ้างว่าคนไทยบางคนไม่ชอบเสียภาษี

ก.ขี้เหนียว

.รายได้ไม่พอเสียภาษี

.ไม่มั่นใจในการใช้เงินเสียภาษีของรัฐบาล*

.มองไม่เห็นความสำคัญของเสียภาษี

2.”สาธารณชนในที่นี้หมายถึงอะไร

.ประชาชนทั่วไป                            .ความสุขของประชาชน

.สมบัติของประชาชน*                     .ประชาชนบางกลุ่ม

3.คำว่า คอรัปชั่นควรใช้เป็นภาษาไทยอย่างไร

.การคดโกงเพื่อหวังสร้างอำนาจ*     .ความเห็นแก่ได้

.ความโลภ                                       .ทุจริต

4.การนำเงินภาษีอากรไปใช้ผิดวัตถุประสงค์เกิดผลเสียอย่างไร

.เสียงประมาณ                                .เศรษฐกิจ*

.เงินไม่พอใช้                                   .ขาดดุลการค้า

5.ผู้เขียนกล่าวว่าเงื่อนไขที่คนไทยพร้อมจะเสียภาษี คือข้อใด

ก.รัฐบาลนำเงินภาษีไปใช้อย่างถูกต้อง*

.รัฐบาลปราบคอรัปชั่นเป็นผลสำเร็จ

.รัฐบาลไม่ทำการเพื่อหวังสร้างอำนาจ

.รัฐบาลไม่เห็นแก่คนบางกลุ่ม

6.คำในข้อใดที่มีความหมายต่างจากคำ เลี่ยง

.ไม่ตรง          .เสี่ยง*                       .หลีก             .หลบ

7.บทความนี้ผู้เขียน เขียนจากข้อมูลใด

. ความเป็นจริง

.การสำรวจความเห็น*

.ความเห็นของคนไทยส่วนใหญ่

.ความเห็นส่วนตัวของผู้เขียนเอง

8.ผู้เขียนมีวัตถุประสงค์อย่างไรในการเขียนบทความนี้

.ให้แตกความสามัคคี

.ให้คนไทยเกลียดชังรัฐบาล

.ให้รัฐบาลปรับปรุงการใช้จ่ายเงินภาษีอากร*

.ให้รัฐบาลเลิกเก็บภาษีจากประชาชนชาวไทย

9.ผู้เขียนมีความเห็นว่าคนไทยมีลักษณะอย่างไร

.ขี้เหนียว                                         .ไม่ทุจริต

.เจ้าสำราญ                                      .ใช้จ่ายเงินฟุ่มเฟือย*

10.การเสียภาษีมีลักษณะอย่างไร

.ทุกคนต้องเสียภาษี                        .ผู้มีรายได้ต้องเสียภาษี*

.ยอมให้มีการหลีกเลี่ยงได้             .ใครจะเสียภาษีได้ไม่เสียก็ได้


แบบทำความเข้าใจบทความ,บทสนทนา

แบบทำความเข้าใจบทความ บทสนทนา ข้อสอบประเภทนี้ : โจทย์จะกำหนดบท
สนทนามาให้อ่านบทสนทนาที่กำหนด แล้วตอบคำถามแต่ละข้อที่กำหนดไว้,ข้อ
สอบสรุปความ จะกำหนดบทความมาให้ สรุปผ่อนคลายอารมณ์ เป็นเครื่องช่วยให้
มีมนุษย์สัมพันธ์ได้ดีที่สุด ทั้งเป็นเครื่องช่วยให้ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน
อีกด้วย สิ่งที่จะนำมาเป็นหัวข้อสนทนานั้นไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นเรื่องหนัก หรือ
สลักสำคัญเสมอไป เช่น เรื่องที่เขียนไว้ในตำรา หรือเรื่องการเมือง ฯลฯ แต่เรื่อง
เบาๆ สมอง เช่น อาหาร ความรัก ชีวิต การท่องเที่ยว ฯลฯ

คำชี้แจง อ่านบทสนทนาแล้วตอบคำถาม

คนแรก ข้าไม่อยากขับรถเข้ากรุงเทพฯ เอ้ย….พับผ่า ขนาดวันเวย์แล้วรถยังติด
แทบเขยื้อนไม่ได้

คนที่สอง วันเวย์ไม่ได้ผลเพราะรถยนต์มีมากขึ้นทุกวัน กรมตำรวจกำลังทดลอง
วิธีใหม่คราวนี้รับรองได้ผล รถยนต์บนท้องถนนจะมีน้อยลง การจราจรก็จะเริ่มคล่องตัว

คนแรก ตำรวจเขามีวิธียังไง

คนที่สอง สนับสนุนให้สร้างโรงแรมม่านรูดเยอะๆ

1.ลักษณะของการสนทนาเป็นแบบใด

.อภิปราย       .ปรึกษา         .วิจารณ์*       .ปรับทุกข์      .บอกเล่า

2.คนที่หนึ่งไม่ชอบอะไร

.วันเวย์          .รถติด           .กรุงเทพฯ*   .ตำรวจ          .โรงแรมม่านรูด

3.คนที่สองพูดในลักษณะใด

.ท้าทาย          .ประชด*       .รำคาญ         .เพ้อเจ้อ          .จริงจัง

4.สองคนนี้น่าจะสนทนากันที่ไหน

.ชานกรุงเทพฯ *                             .ในกรุง

.ที่ทำงาน                                         .ที่บ้าน

.ในโรงแรมม่านรูด


บทกลอนหรือโคลง

ข้อสอบประเภทนี้ โจทย์ : จะยกบทประพันธ์หรือบทกลอนให้อ่าน และให้ทำความ
เข้าใจกับคำประพันธ์หรือบทกลอนนั้นแล้วตอบคำถาม

เทคนิค การตอบคำถามแบบสรุปความโดยการตีความหมายจากคำประพันธ์หรือ
บทกลอนผู้ตอบจะต้องเป็นผู้มีความเข้าใจ และรู้หลักเกณฑ์ของคำประพันธ์
ประเภทนั้นๆ ก่อนต้องอาศัยการอ่านและตีความจากคำประพันธ์เพื่อให้ได้ข้อสรุป
ในความหมายที่ได้จากคำประพันธ์โดยอาศัยความหมายของคำจากพจนานุกรม
ฉบับราชบัณฑิตยสถาน 2542 ประกอบโดยเฉพาะหลักเด่นของคำประพันธ์นั้น
อาทิเป็นคำประพันธ์ที่จัดอยู่ในกลุ่มเสาวรจนี นาที ปราโมทย์ พิโรธราหัง และ
สาปังคพิสัย ทั้งนี้เพื่อให้ได้บทสรุปความตามข้อสอบกับคำประพันธ์หรือบทกลอนนั้น

คำชี้แจง จงใช้คำประพันธ์นี้ตอบคำถามข้อ 1 และข้อ 2


น้ำปลาโอชารส          มาตรแม้นมดหมดเมืองมา

ได้ลิ้มชิมน้ำปลา          จะดูดดื่มลืมน้ำตาล

1.ข้อใดต่อไปนี้เหมาะที่จะใช้ในโอภาสใด

.เชิญชวน*    .ชี้แจง            .แจ้งความ     .ประกาศ        .โฆษณา

2.ผู้เขียนข้อความต้องการเน้นเรื่องใด

.น้ำปลา*       .น้ำตาล         .รสโอชา        .นิยมมด         .เปรียบคนกับมด



คำชี้แจง จากกลอนนี้จงตอบข้อ 3-5

มีสลึงพึงบรรจบให้ครบบาท              อย่างให้ขาดสิ่งของต้องประสงค์

มีน้อยใช้น้อยค่อยบรรจง          อย่าว่างลงให้มากจะยากนาน

3.กลอนนี้แต่งเพื่ออะไร

.เตือนใจ                                          .สอน*

.เปรียบเทียบ                                    .แนะนำ

.ชี้แจง

4.เป็นคำประพันธ์ชนิดใด

.กาพย์            .กลอน*         .โครง                        .ฉันท์             .ร่าย

5.วรรคใดมีสัมผัสดีที่สุด

.วรรคแรก     .วรรคสอง     .วรรคสาม*   .วรรคสี่          .ทุกวรรค


ให้อ่านโครงสยามมานุสตินี้แล้วตอบคำถาม ข้อ 1-6

หากสยามยังอยู่ยั้ง ยืนยง
เราก็เหมือนอยู่คง ชีพด้วย
หากสยามพินาศลง ไทยอยู่ ได้ฤา
เราก็เหมือนมอดม้วย หมดสิ้นสกุลไทย

1.โคลงบทนี้กล่าวถึงเรื่องอะไร

.ความสามัคคี
.ความมีเอกราช *
.ความรักชาติ
.ความเจริญของชาติ
.ความมั่นคงของชาติ

2.เอกราชของชาติคล้ายกับอะไรของมนุษย์

.เลือดเนื้อ       .ชื่อเสียง         .ชีวิต*           .จิตใจ          .กำลังกาย

3.ถ้าชาติเสียเอกราชประชาชนจะเป็นอย่างไร

.เสียชีวิต        .เสียกำลังใจ   .เสียอิสรภาพ*    .เสียอนาคต   .เสียชื่อเสียง

4.ท่านอาจแสดงความรักชาติได้โดยวิธีใด

.เดินทางทั่วเมืองไทย ข.คบแต่เพื่อนคนไทย
.สั่งสอนเยาวชนไทยให้ดี*

.สอนวิชาประวัติศาสตร์ไทย

.พูดภาษาไทย

5.จากโครงบทนี้ผู้แต่งมุ่งแสดงอะไร

.ความกล้าหาญของคนไทย *
.ความมั่นคงของประเทศไทย
.ความสามัคคีของคนไทย
.ความเจริญของประเทศไทย
.ความรักสงบของคนไทย

6.ท่านคิดว่าผู้แต่งโคลงนี้เป็นบุคคลประเภทใด

.รักชาติยิ่งชีพ*   .รักชื่อเสียง    .รักความสัตย์    .รักความสงบ     .รักชีวิต


อ่านข้อความนี้แล้วตอบคำถามข้อ 7-10

มีเสียงตะโกนจากประตูหน้า หน้าว่าง เหยียบเลยลูกพี่ 120”

7.คำว่า เหยียบมีความหมายตรงกับข้อใด

.เร็ว               .เร่ง*              .วาง               .กด                .กระทืบ

8.เหตุการณ์นี้น่าจะเกิดขึ้นที่ใด

.ร้านเหล้า       .บนรถเมล์ *    .บนรถไฟ     .บนรถแท๊กซี่     .ในโรงหนัง

9.ผู้พูดควรจะเป็นใคร

.นายตรวจ        .ผู้โดยสาร        .คนขับ      .กระเป๋า*      .ยังสรุปแน่นอนไม่ได้

10.ตัวเลข “120” หมายถึงอะไร

.ราคา             .จำนวน         .ระยะทาง      .ความเร็ว*   .จำนวนครั้ง






อ่านโคลงบทนี้แล้วตอบคำถามข้อ 11-16


ใครรานใครรุกด้าว แดนไทย
ไทยรบจนสุดใจ ขาดดิ้น
เสียเนื้อเลือดหลั่งไหล ยอมสละ สิ้นแล
เสียชีพไป่สูญสิ้น ชื่อก้องเกียรติงาม

11.โคลงบทนี้กล่าวถึงเรื่องใด

.การป้องกันประเทศ *
.การรุกราน
.การรักษาชื่อเสียง
.การรักษาชีวิต
.การเสียเลือดเนื้อ

12.คนใดตายอย่างมีเกียรติ

.นักปราชญ์               .นักเลง          .นักรัก           .นักรบ*         .นักล้วง

13.ถ้าประเทศชาติถูกรุกราน คนไทยจะทำอย่างไร

.รักษาเกียรติไว้
.สละชีพเพื่อชาติ *
.รักษาชีวิตไว้
.ยอมสละแผ่นดิน
.ยอมสละทรัพย์สิน

14.คนที่ป้องกันประเทศชาติจนตัวตายจะเป็นอย่างไร

.ประเทศไม่เสียเอกราช
.เสียทรัพย์สิน
.ครอบครัวสุขสบาย
.ได้รับการยกย่อง *
.คนคิดสั้น

15.โคลงบทนี้ส่งเสริมลัทธิใด

.ชาตินิยม*     .คอมมิวนิสต์     .เผด็จการ    .ประชาธิปไตย     .เสรีภาพ

16.ถ้าชาติถูกรุกรานควรทำอย่างไร

.รวมกำลังป้องกัน *
.สะสมอาวุธและเสบียง
.สร้างที่หลบภัย
.เดินขบวนประท้วง
.ร้องเพลงปลุกใจ


อ่านข้อความข้างล่างนี้ แล้วตอบคำถามข้อ 17-21
สรรพากรยืนยันว่า โครงสร้างภาษีใหม่ที่จะเริ่มใช้ปี 2547 จะไม่รีดเลือดจากปู แต่จะอุดรูรั่ว ของภาษี ผู้มีรายได้เท่ากับรายได้ต่ำสุดของข้าราชการ จะไม่ต้องเสียภาษี