คำ ให้พิจารณาคำว่าคำใดอ่านผิด หรืออาจถามโดยยกคำศัพท์พร้อมทั้งการอ่านมาให้ แล้วความว่าอ่านอย่างไรผิด หรืออ่านอย่างไรถูก หรืออาจจะถามคำอ่านว่ามีกี่พยางค์ หรือออกเสียงใดไม่ออกเสียงใด หรือกำหนดข้อความมาใช้ หาคำที่เขียนผิดในข้อความนั้น หรืออาจให้พิจารณาว่าคำที่กำหนดให้นั้นจะต้องนำข้อใดมาเติมจึงจะถูกต้อง คำชี้แจง จงเลือกคำตอบที่ถูกเพียงคำตอบเดียว ข้อใดเป็นคำอ่านที่ถูกต้อง 1. “ประวัติศาสตร์” ก. ประ – วัติ – ติ – สาด ข. ประ – หวัด – ติ – สาด* ค. ประ – หวัด – สาด ง. ประ – วัด – สาด 2. “ผลิตภัณฑ์” ก. ผะ – หลิ – ตะ – พัน ข. ผะ – หลิด – ตะ – พัน* ค. ผลิด – ตะ – พัน ง. ผลิด – พัน 3. “ปรัชญา” ก. ปรัด – ยา* ข. ปรัด – ชะ – ยา ค. ปะ – รัด – ชะ – ยา ง. ปะ – หรัด – ชะ – ยา 4.ตัวย่อ “ศธ” อ่านคำเต็มที่ถูกต้องว่าอย่างไร ก. สึก – สา – ทำ ข. สึก – สา – ทิ – กาน* ค. สาด – สะ – นะ – ทำ ง. สา – ทา – สะ – นะ – สุก 5. “จรดพระมังคัล” ก. จะ – รด – พระ – นัง –คัน ข. จด – พระ – นัง – คัน ค. จะ – หรด – พระ – นัง – คัน* ง. จรด – พระ – นัง – คัน ความหมายของคำหรือกลุ่มคำ ข้อสอบประเภทนี้ : โจทก์กำหนดให้เลือกข้อความที่มีความหมายตรงกับ คำ หรือข้อความที่กำหนดให้ หรืออาจให้อธิบายความหมายของสำนวน สุภาษิต คำพังเพย หรือให้เลือกคำที่มีความหมายตรงกันข้ามกับคำที่กำหนดให้ หรือแตกต่างไปจากคำอื่น คำชี้แจง จงเลือกคำตอบที่ถูกที่สุดเพียงคำเดียว 1. “นอนหลับทับสิทธิ์” ก.ไม่มีสิทธิ์ ข.ไม่แสดงหน้าที่ของตน ค.ไม่เอาใจใส่ ใช้สิทธิ์ที่ตนมี* ง.ไม่รู้ว่าตนมีสิทธิ์ 2. คำใดที่มีความหมายแตกต่างไปจากคำอื่น ก.กรุณา ข.เมตตา ค.สงสาร ง.ชมเชย* 3. เธอทำไปเพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ความหมายตรงข้ามกับคำใด ก.รอบคอบ* ข.เลิ่นเล่อ ค.สะเพร่า ง.ประมาท 4. เขาเป็นคน ขี้ตืด อย่างมาก ก.เห็นแก่ตัว ข.เห็นแก่ได้ ค.ละโมบ ง.ตระหนี่เหนียวแน่น* 5. “เสี้ยมเขาควายให้ชนกัน” เข้าลักษณะใด ก.ศรศิลป์ไม่กินกัน ข.ยุให้ตำรำให้รั่ว* ค.ถึงพริกถึงขิง ง.คดในข้องอในกระดูก การเลือกใช้คำหรือกลุ่มคำ ข้อสอบประเภทนี้ : โจทก์จะกำหนดให้เลือกคำที่เหมาะสมเพื่อเติมในช่องว่าที่เว้นไว้ เพื่อให้ได้ความสมบูรณ์ถูกต้อง หรือคำใดในกลุ่มคำนั้นจึงเป็นคำที่เหมาะสมที่สุด เติมในช่องว่างของข้อความนั้นแล้วได้ความสมบูรณ์ 1. ที่ห้องดนตรีมีระนาดสอง………………. ก.ตัว ข. อัน ค. เลา ง. ราง* 2. คอยไปเถิด…………เขาจะต้องกลับมา ก. ในไม่ช้า ข. ไม่นานนัก ค. ไม่กี่วัน ง. สักวันหนึ่ง* 3. จะลำบากยากเย็นอย่างไรเราก็ต้อง…………… ก. มานะ ข. กัดฟัน ค. อดทน* ง. ฮึดสู้ 4. คนสวมเสื้อผ้าป้องกันความอายหรือ…………ตา ก. อนาถ ข. ทุเรศ ค. อุจาด* ง. ระคาย 5. จักรเย็บผ้า…………นี้ใช้ดีมาก ก. คัน ข. หลัง * ค. เครื่อง ง. อัน ตอนที่ 2 การเขียน การเขียน คือ การเรียบเรียงถ้อยคำ ข้อความ ได้อย่างถูกต้องและสละสลวยเขียนถูกต้องตามพจนานุกรม ถูกต้องตามหลักเกณฑ์ ถูกต้องตาม สะกดการันต์ ตามหลักสูตร การเขียน ได้แก่ การเรียงข้อความการแต่งประโยค การย่อความ การเขียนอธิบายความหมายของคำ การเขียน ผู้เขียนต้องเขียนอย่างถูกต้อง สามารถในการเรียงถ้อยคำให้เป็นประโยค และข้อความอย่างถูกต้องสละสลวย, เป็นการแสดงความรู้ ความคิด และความรู้สึก และความต้องการของผู้ส่งสารสื่อความหมายออกเป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อให้ผู้รับสามารถอ่านเข้าใจในการรับทราบความรู้ความคิด ความรู้สึก และความต้องการสิ่งนั้น หลักการเขียน การเขียนหนังสือต้องเขียนถูกและเขียนเป็น การเขียนเป็น หมายถึงการเขียนเพื่อบอกให้ผู้อื่นรู้เรื่อง และเข้าใจเจตนาเอาความประสงค์ของผู้เขียนเรื่องการเขียนเป็นนี้ ต้องฝึกให้เกิดความชำนาญ จึงจะได้ผล การเขียนถูก หมายถึง เขียนได้ตามหลักเกณฑ์ การสะกดการันต์จึงเป็นเรื่องสำคัญในการใช้ภาษาไทย เพราะถ้าเขียนไม่ถูกความหมาย ความหมายก็เปลี่ยนไป เช่น อนุญาต หมายถึงยินยอม ยอมให้ ตกลง แต่ถ้าเขียนเป็นอนุญาต ความหมายก็เปลี่ยนไป ทั้งนี้เพราะคำว่า ญาติ ตามพจนานุกรรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2525 (ยาด,ยาติ) น.คนในวงศ์วานที่ยังนับรู้กันได้ทางเชื้อสายฝ่ายพ่อหรือฝ่ายแม่ หลักเกณฑ์การเขียนอยู่ในวิชาหลักภาษาไทยต้องฝึกบ่อยๆ จะเกิดความจำและเป็นประโยชน์ในการใช้ภาษาไทย คำชี้แจง จงเรียงข้อความให้ถูกต้อง 1. 1.การที่ช่วยงานหลายๆข่ายงาน 2.ในสถาบันต่างๆ มีการปฏิบัติงานคล้ายๆกัน 3.จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องสร้างแกนรวม 4.เพื่อประสานประโยชน์ร่วมกัน ก.3 2 4 1 ข.2 3 4 1 ค.1 2 3 4* ง.4 3 2 1 2. 1.แนวทางแก้ไขปัญหาหากร่วมกันทำก็จะเป็นเรื่องดีมาก 2.ฉะนั้นโดยภาพรวมแล้ว 3.เมื่อแบ่งส่วนรับผิดชอบแล้วก็จะง่ายเข้า 4.ปัญหาที่เคยยากๆ ก.1 2 3 4 ข.2 3 4 1 ค.4 3 2 1* ง.3 2 4 1 3. 1.เสียงที่นั่งอย่างเฉียบขาดนั้นเป็นเสียงผู้หญิง 2.เขาเคยเห็นผู้หญิงหลายคนฆ่าคนตาย 3.ซึ่งไม่ได้ทำให้เขาสบายใจเลยแม้แต่นิดเดียว 4.”ยืนอยู่นิ่งอย่างนั้นแหละ” ก.2 1 4 3 ข.1 4 2 3 ค.2 3 4 1* ง.1 3 2 4 4. 1.มนุษย์โลกอาศัยพลังงานของสายน้ำ สายลม แสงแดด ไฟ สัตว์เลี้ยง และแรงงานคน 2.และมนุษย์ก็อยู่กับธรรมชาติด้วยความสันติสุขมาโดยตลอด 3.สมัยก่อนการปฏิวัติอุตสาหกรรมในยุโรป 4.เพื่อให้งานต่างๆ สำเร็จลุล่วง ก.1 2 3 4 ข.4 1 2 3 ค.3 1 4 2* ง.1 3 2 4 5. 1.รางวัลชนะเลิศเป็นโล่รางวัลของประธานรัฐสภา 2.รางวัลรองชนะเลิศเป็นโล่รางวัลของประธานสภาผู้แทนราษฎร 3.พร้อมใบประกาศเกียรติคุณและทุนการศึกษา 2,000 บาท 4.พร้อมใบประกาศเกียรติคุณและทุนการศึกษา 3,000 บาท ก.1 2 3 4 ข.4 3 2 1 ค.2 4 1 3 ง.1 4 2 3* การแต่งประโยค ข้อสอบประเภทนี้ : โจทก์จะให้พิจารณาประโยคแต่ละประโยคว่า ประโยคใดแต่งได้ถูกต้องตามหลักภาษามากที่สุด คำชี้แจง จงเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคำตอบเดียว 1. ข้อใด ไม่ เป็นประโยค ก. ท้องทะเลสีคราม*ข. ห้องนี้จุคนได้น้อย ค. มรรยาทของเขาดีมาก ง. ฝันสลายเมือรู้ความจริง อ่านประโยคในข้อ 1 – 4 แล้วตอบคำถามข้อ 3 – 5 1.เขาคนเดียว 2.ใครที่มากับเขา 3.ใครคนหนึ่งล้มลง 4.เราไม่ชอบอาหารรสเผ็ด 3.ข้อใดเป็นประโยคปฏิเสธ ก. 1 ข. 2 ค. 3 ง. 4* 4.ข้อใดไม่เป็นประโยค ก. 1* ข. 2 ค. 3 ง. 4 5.ข้อใดเป็นประโยคบอกเล่า ก. 1 ข. 2 ค. 3 * ง. 4 การย่อความ ข้อสอบประเภทนี้ โจทย์ : จะกำหนดข้อความมาให้แล้วย่อใจความหรือสรุปสาระสำคัญ,หรือให้ข้อความมาแล้วให้ตั้งชื่อเรื่อง,หรือถามว่าข้อความมีใจความโดยย่อตรงกับข้อใด คำชี้แจง จงอ่านข้อความข้างล่างนี้แล้วตอบคำถาม “นางสิริกร มณีรินทร์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้ตอบข้อซักถามของผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับการกวดขันจรรยาของครูว่า กระทรวงศึกษาธิการพิจารณาเห็นว่าครูและบุคคลทั่วไป เห็นแบบฉบับของความดีงาม ถูกต้องของสังคม กระทรวงศึกษาธิการจึงได้กวดขันในเรื่องจรรยามารยาทครู นับตั้งแต่การแต่งกาย ควรจะเป็นระเบียบเรียบร้อยสมแก่ตำแหน่งฐานะ ไม่ใช่แต่งกันตามสบายอย่างอาชีพอื่นซึ่งเครื่องแต่งกายอื่น นอกจากจะเป็นการสร้างบุคลิกภาพแล้วยังบอกความเป็นใครด้วย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการกล่าวต่อไปอีกว่า นอกจากเสื้อผ้าอาภรณ์การแต่งกาย แล้วการวางตัวของครูเป็นเรื่องที่กระทรวงศึกษาธิการจะพิจารณาเข้มงวดกวดขันด้วยให้พยายามละเว้นอบายมุข เช่น การสูบบุหรี่ ดื่มสุรา เล่นการพนัน เป็นต้น โดยจะขอความร่วมมือจากครู อาจารย์ ตลอดจนผู้บังคับบัญชาด้วย ทั้งนี้เพื่อให้ภาพพจน์ เกียรติยศ ชื่อเสียงของครู เป็นที่น่านิยมยกย่องแก่บุคคลในวงการทั่วไป” 1.ข้อความข้างบนมีใจความโดยย่อความกับข้อใด ก.กระทรวงศึกษาธิการกวดขันในเรื่องการแต่งกายของครู ข.นางสิริกร มณีรินทร์ ตักเตือนให้ครูดำรงตนเป็นปูชนียบุคคลและพยายามละเว้นอบายมุข ค.รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการให้ครูช่วยสร้างภาพพจน์ เกียรติยศ ชื่อเสียงของครู ง.รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการตอบข้อซักถามของผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับการกวดขันจรรยาของครู* จ.รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการให้สัมภาษณ์ นโยบายรีบด่วนที่เกี่ยวกับครู 2.ข้อความข้างต้นนี้ควรตั้งชื่อเรื่องตามข้อใดจึงเหมาะสมที่สุด ก.ปูชนียบุคคล ข.การแต่งกายของครู ค.การกวดขันจรรยาของครู* ง.ภาพพจน์ของกระทรวงศึกษาธิการ จ.นโยบายที่เกี่ยวกับครูการเขียนอธิบายความหมายของคำ ข้อสอบประเภทนี้ โจทย์ : จะให้เขียนข้อความสั้นๆ ของคำแต่ละคำ โดยอธิบายความหมายของคำ ให้ถูกต้องตามความหมายของคำแต่ละคำนั้นหรือให้เลือกคำเติมในช่องว่างที่ให้ไว้ถูกต้องสมบูรณ์เทคนิคในการทำข้อสอบ ต้องจำคำสุภาษิต,คำพังเพย,สำนวนที่พบบ่อยๆ และรู้ความหมายของวลีเดิม ตัวอย่าง การเขียนอธิบายความหมายของคำ คำชี้แจง จงเลือกคำสั่งวลีที่ให้ไว้ในช่องว่างให้ถูกต้องสมบูรณ์ 1. ก.กล่าว ข.อ้าง ค.นำ* ง.บอก จ.พูด 3. ก.เลิก ข.ทิ้ง ค.หยุด* ง.ทิ้งขว้าง จ.ละทิ้ง 4. ก. พัฒนาการ ข.วิวัฒนาการ ค.พัฒนา* ง.เปลี่ยนแปลง จ.เติบโต 5. ก.เสียเลย ข.เสียทีเดียว* ค.เป็นอันขาด ง.อย่างเด็ดขาด จ.ของคนเสีย 6. ก.ถูก ข.ควร ค.ชอบ* ง.ดี จ.งาม 7. ก.จง ข.อย่า ค.และ* ง.ให้ จ.อนึ่ง 8. ก.อดีต ข.ปัจจุบัน ค.อนาคต ง.ฐานะ * จ.เงินเดือน 10. ก.ฉะนั้น* ข.สรุปแล้ว ค.เพราะฉะนั้น ง.ดังนี้ จ.โดยสรุป ข้าพเจ้าจะขอ……1…..เอาข้ออันควรประพฤติปฏิบัติเฉพาะที่สำคัญๆ มาตักเตือนท่านไว้ ดังต่อไปนี้ ใน…..2….ก็คือเรื่องการศึกษา ซึ่งส่วนมากมักจะเข้าใจผิดกันว่า ตนได้ศึกษามานานพอแล้ว และพากัน….3….เสีย อันนี้นับว่าเป็นการเข้าใจผิดอย่างสำคัญที่สุด จริงอยู่ในการทำงานนั้นเราต้องการใช้ความสามารถเป็นประการสำคัญ แต่ก็ขออย่างได้ลืมเสียว่า บันได้ที่จะนำเราไปสู่ความเป็นผู้มีความรู้ความสามารถได้อย่างดีนั้น ก็คือการศึกษามั่นคง และยิ่งในสมัยที่วิชาการของโลกกำลังมี…4…ไปสู่การเป็นผู้ล้าสมัยได้อย่างน่าเสียดายที่สุดฉะนั้นสิ่งสำคัญประการแรกที่ข้าพเจ้าอยากเตือนท่านไว้ในโอกาสนี้ก็คือ จงอย่างได้ละทิ้งการศึกษา…..5…. ตอนที่ 3 ความเข้าใจภาษา ความเข้าใจภาษา หลักสูตรทดสอบเกี่ยวกับการอ่าน จับใจความ การทำความเข้าใจเกี่ยวกับ เรื่องราว บทความหรือข้อความที่กำหนดให้ แล้วตอบคำถามในแต่ละบทความ หรือข้อความนั้นรวมทั้งการสรุปความ การตีความ และขยายความด้วย ความเข้าใจภาษา นิยมใช้วัดความสามารถทั่วไปอย่างมาก ข้อสอบจะกำหนดสถานการณ์ซึ่งอาจจะเป็นบทความ ภาพหรือสิ่งอื่นๆ ให้แล้ว จะถามผู้สอบว่า มีความเข้าใจสถานการณ์ในการอ่านนั้นเพียงใด การตอบข้อคำถามจำเป็นต้องอาศัยสถานการณ์เสนอแนวทางการถามมักจะถามให้วิเคราะห์สถานการณ์ เช่น ควรตั้งชื่อบทความนี้ว่าอย่างไร ผู้เขียนมีความประสงค์ใด บทความนี้ให้แนวคิดเราอย่างไร อาจสรุปข้อความนี้ได้อย่างไร ข้อความนี้มีประเด็นสำคัญใด จุดใดเป็นหัวใจของบทความนี้ แบบการทำความเข้าใจข้อความ ข้อสอบประเภทนี้ โจทก์ : จะกำหนดข้อความมา “คนไทยเรามีลักษณะอย่างหนึ่งคือ พร้อมจะเสียเงินในหลายๆ เรื่อง แต่กับเรื่อง หนาหู รวมไปถึงการนำภาษีอากรไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ มิได้ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อ 1.ข้อใดเป็นเหตุผลที่ผู้เขียนอ้างว่าคนไทยบางคนไม่ชอบเสียภาษี ก.ขี้เหนียวข.รายได้ไม่พอเสียภาษี ค.ไม่มั่นใจในการใช้เงินเสียภาษีของรัฐบาล* ง.มองไม่เห็นความสำคัญของเสียภาษี 2.”สาธารณชน” ในที่นี้หมายถึงอะไร ก.ประชาชนทั่วไป ข.ความสุขของประชาชน ค.สมบัติของประชาชน* ง.ประชาชนบางกลุ่ม 3.คำว่า “คอรัปชั่น” ควรใช้เป็นภาษาไทยอย่างไร ก.การคดโกงเพื่อหวังสร้างอำนาจ* ข.ความเห็นแก่ได้ ค.ความโลภ ง.ทุจริต 4.การนำเงินภาษีอากรไปใช้ผิดวัตถุประสงค์เกิดผลเสียอย่างไร ก.เสียงประมาณ ข.เศรษฐกิจ* ค.เงินไม่พอใช้ ง.ขาดดุลการค้า 5.ผู้เขียนกล่าวว่าเงื่อนไขที่คนไทยพร้อมจะเสียภาษี คือข้อใด ก.รัฐบาลนำเงินภาษีไปใช้อย่างถูกต้อง*ข.รัฐบาลปราบคอรัปชั่นเป็นผลสำเร็จ ค.รัฐบาลไม่ทำการเพื่อหวังสร้างอำนาจ ง.รัฐบาลไม่เห็นแก่คนบางกลุ่ม 6.คำในข้อใดที่มีความหมายต่างจากคำ “เลี่ยง” ก.ไม่ตรง ข.เสี่ยง* ค.หลีก ง.หลบ 7.บทความนี้ผู้เขียน เขียนจากข้อมูลใด ก. ความเป็นจริง ข.การสำรวจความเห็น* ค.ความเห็นของคนไทยส่วนใหญ่ ง.ความเห็นส่วนตัวของผู้เขียนเอง 8.ผู้เขียนมีวัตถุประสงค์อย่างไรในการเขียนบทความนี้ ก.ให้แตกความสามัคคี ข.ให้คนไทยเกลียดชังรัฐบาล ค.ให้รัฐบาลปรับปรุงการใช้จ่ายเงินภาษีอากร* ง.ให้รัฐบาลเลิกเก็บภาษีจากประชาชนชาวไทย 9.ผู้เขียนมีความเห็นว่าคนไทยมีลักษณะอย่างไร ก.ขี้เหนียว ข.ไม่ทุจริต ค.เจ้าสำราญ ง.ใช้จ่ายเงินฟุ่มเฟือย* 10.การเสียภาษีมีลักษณะอย่างไร ก.ทุกคนต้องเสียภาษี ข.ผู้มีรายได้ต้องเสียภาษี* ค.ยอมให้มีการหลีกเลี่ยงได้ ง.ใครจะเสียภาษีได้ไม่เสียก็ได้ แบบทำความเข้าใจบทความ,บทสนทนา แบบทำความเข้าใจบทความ บทสนทนา ข้อสอบประเภทนี้ : โจทย์จะกำหนดบท คำชี้แจง อ่านบทสนทนาแล้วตอบคำถาม คนแรก “ข้าไม่อยากขับรถเข้ากรุงเทพฯ เอ้ย….พับผ่า ขนาดวันเวย์แล้วรถยังติด คนที่สอง “วันเวย์ไม่ได้ผลเพราะรถยนต์มีมากขึ้นทุกวัน กรมตำรวจกำลังทดลอง คนแรก “ ตำรวจเขามีวิธียังไง” คนที่สอง “สนับสนุนให้สร้างโรงแรมม่านรูดเยอะๆ “ 1.ลักษณะของการสนทนาเป็นแบบใด ก.อภิปราย ข.ปรึกษา ค.วิจารณ์* ง.ปรับทุกข์ จ.บอกเล่า 2.คนที่หนึ่งไม่ชอบอะไร ก.วันเวย์ ข.รถติด ค.กรุงเทพฯ* ง.ตำรวจ จ.โรงแรมม่านรูด 3.คนที่สองพูดในลักษณะใด ก.ท้าทาย ข.ประชด* ค.รำคาญ ง.เพ้อเจ้อ จ.จริงจัง 4.สองคนนี้น่าจะสนทนากันที่ไหน ก.ชานกรุงเทพฯ * ข.ในกรุง ค.ที่ทำงาน ง.ที่บ้าน จ.ในโรงแรมม่านรูด บทกลอนหรือโคลง ข้อสอบประเภทนี้ โจทย์ : จะยกบทประพันธ์หรือบทกลอนให้อ่าน และให้ทำความ เทคนิค การตอบคำถามแบบสรุปความโดยการตีความหมายจากคำประพันธ์หรือ คำชี้แจง จงใช้คำประพันธ์นี้ตอบคำถามข้อ 1 และข้อ 2 “น้ำปลาโอชารส มาตรแม้นมดหมดเมืองมา ได้ลิ้มชิมน้ำปลา จะดูดดื่มลืมน้ำตาล” 1.ข้อใดต่อไปนี้เหมาะที่จะใช้ในโอภาสใด ก.เชิญชวน* ข.ชี้แจง ค.แจ้งความ ง.ประกาศ จ.โฆษณา 2.ผู้เขียนข้อความต้องการเน้นเรื่องใด ก.น้ำปลา* ข.น้ำตาล ค.รสโอชา ง.นิยมมด จ.เปรียบคนกับมด คำชี้แจง จากกลอนนี้จงตอบข้อ 3-5 “มีสลึงพึงบรรจบให้ครบบาท อย่างให้ขาดสิ่งของต้องประสงค์ มีน้อยใช้น้อยค่อยบรรจง อย่าว่างลงให้มากจะยากนาน” 3.กลอนนี้แต่งเพื่ออะไร ก.เตือนใจ ข.สอน* ค.เปรียบเทียบ ง.แนะนำ จ.ชี้แจง 4.เป็นคำประพันธ์ชนิดใด ก.กาพย์ ข.กลอน* ค.โครง ง.ฉันท์ จ.ร่าย 5.วรรคใดมีสัมผัสดีที่สุด ก.วรรคแรก ข.วรรคสอง ค.วรรคสาม* ง.วรรคสี่ จ.ทุกวรรค ให้อ่านโครงสยามมานุสตินี้แล้วตอบคำถาม ข้อ 1-6 หากสยามยังอยู่ยั้ง ยืนยง 1.โคลงบทนี้กล่าวถึงเรื่องอะไร ก.ความสามัคคี 2.เอกราชของชาติคล้ายกับอะไรของมนุษย์ ก.เลือดเนื้อ ข.ชื่อเสียง ค.ชีวิต* ง.จิตใจ จ.กำลังกาย 3.ถ้าชาติเสียเอกราชประชาชนจะเป็นอย่างไร ก.เสียชีวิต ข.เสียกำลังใจ ค.เสียอิสรภาพ* ง.เสียอนาคต จ.เสียชื่อเสียง 4.ท่านอาจแสดงความรักชาติได้โดยวิธีใด ก.เดินทางทั่วเมืองไทย ข.คบแต่เพื่อนคนไทย ง.สอนวิชาประวัติศาสตร์ไทย จ.พูดภาษาไทย 5.จากโครงบทนี้ผู้แต่งมุ่งแสดงอะไร ก.ความกล้าหาญของคนไทย * 6.ท่านคิดว่าผู้แต่งโคลงนี้เป็นบุคคลประเภทใด ก.รักชาติยิ่งชีพ* ข.รักชื่อเสียง ค.รักความสัตย์ ง.รักความสงบ จ.รักชีวิต อ่านข้อความนี้แล้วตอบคำถามข้อ 7-10 “มีเสียงตะโกนจากประตูหน้า “หน้าว่าง เหยียบเลยลูกพี่ 120” 7.คำว่า “เหยียบ” มีความหมายตรงกับข้อใด ก.เร็ว ข.เร่ง* ค.วาง ง.กด จ.กระทืบ 8.เหตุการณ์นี้น่าจะเกิดขึ้นที่ใด ก.ร้านเหล้า ข.บนรถเมล์ * ค.บนรถไฟ ง.บนรถแท๊กซี่ จ.ในโรงหนัง 9.ผู้พูดควรจะเป็นใคร ก.นายตรวจ ข.ผู้โดยสาร ค.คนขับ ง.กระเป๋า* จ.ยังสรุปแน่นอนไม่ได้ 10.ตัวเลข “120” หมายถึงอะไร ก.ราคา ข.จำนวน ค.ระยะทาง ง.ความเร็ว* จ.จำนวนครั้ง อ่านโคลงบทนี้แล้วตอบคำถามข้อ 11-16
11.โคลงบทนี้กล่าวถึงเรื่องใด ก.การป้องกันประเทศ * 12.คนใดตายอย่างมีเกียรติ ก.นักปราชญ์ ข.นักเลง ค.นักรัก ง.นักรบ* จ.นักล้วง 13.ถ้าประเทศชาติถูกรุกราน คนไทยจะทำอย่างไร ก.รักษาเกียรติไว้ 14.คนที่ป้องกันประเทศชาติจนตัวตายจะเป็นอย่างไร ก.ประเทศไม่เสียเอกราช 15.โคลงบทนี้ส่งเสริมลัทธิใด ก.ชาตินิยม* ข.คอมมิวนิสต์ ค.เผด็จการ ง.ประชาธิปไตย จ.เสรีภาพ 16.ถ้าชาติถูกรุกรานควรทำอย่างไร ก.รวมกำลังป้องกัน *
|