บันทึกการเจริญเติบโตของถั่วงอก

วันที่การงอกแสงแดดที่ได้รับ1 ถั่วเขียวยังเต็มเมล็ด ครึ่งวัน 3 ถั่วเขียวบวมน้ำอย่างเห็นได้ชัด ครึ่งวัน 6 ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงแต่กระดาษที่ใช้เพาะติดสีเหลืองเล็กน้อย ครึ่งวัน 7 ถั่วเขียวยังคงไม่เปลี่ยนแปลง กระดาษที่ใช้เพาะติดสีน้ำตาลของเปลือกถั่วชัดขึ้น ลืมเอาไปตากแดด 8 เปลือกของถั่วเขียวเริ่มมีการปริแตก ครึ่งวัน 2 ถั่วเขียวบวมน้ำขึ้นเล็กน้อย เต็มวัน 5 เปลือกของถั่วเขียวเป็นสีน้ำตาลเข้ม เต็มวัน 4 เปลือกของถั่วเขียวกลายเป็นสีเขียวปนน้ำตาล เต็มวัน 9 เปลือกของถั่วเขียวปริแตกชัดมากขึ้น เห็นเนื้อของเมล็ดถั่วด้านใน ไม่มีแดด 10 เปลือกปริแตกชัดเจน ครึ่งวัน 11 ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ครึ่งวัน 12 ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ครึ่งวัน 13 ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ครึ่งวัน 14 เริ่มเห็นปลายยอดอ่อนสีเขียวงอกออกมา เต็มวัน 15 ยอดสีเขียวเริ่มดันโผล่พ้นกระดาษ ครึ่งวัน 

ถั่วงอก คือ ต้นอ่อนของถั่วที่ได้จากการเพาะเมล็ดถั่วเขียวโดยไม่ให้ถูกแสง นิยมนำมาประกอบอาหารชนิดต่างๆ อาทิ ผัดถั่วงอก ใส่ก๋วยเตียว ยำถั่วงอก รวมถึงเป็นผักรับประทานสด

การเพาะถั่วงอก ถือเป็นอาชีพหนึ่งทางการเกษตรที่สามารถให้ผลตอบแทนในระยะเวลาที่รวดเร็วที่ สุด และมีขั้นตอนการเพาะ และการดูแลรักษาง่าย ไม่ต้องให้ปุ๋ย เพียงให้น้ำอย่างเดียว ซึ่งใช้ระยะเวลาในการเพาะเพียง 4 วัน เท่านั้นก็สามารถเก็บผลผลิตส่งขายได้

การเพาะถั่วงอกในปัจจุบันจะใช้เมล็ดถั่วเขียว 2 สายพันธุ์ คือ ถั่วเขียวผิวมัน และถั่วเขียวผิวดำ แต่ที่นิยมในการเพาะถั่วงอกมากที่สุดคือ เมล็ดพันธุ์ถั่วเขียวผิวดำ ที่มีอัตราการงอกที่ดีกว่า อายุการเก็บเกี่ยวสั้น และมีคุณค่าทางอาหารสูง ทั้งนี้ เมล็ดสายพันธุ์ทุกชนิดสามารถนำมาเพาะเป็นถั่วงอกได้ แต่จะมีลักษณะของถั่วงอกที่แตกต่างตามสายพันธุ์ เช่น ถั่วเหลือง ถั่วลันเตา ถั่วฟักยาว ถั่วอัลฟัลฟ่า เป็นต้น

ถั่วงอกบางแห่งมีการใช้สารฟอกขาว พวกโซเดียมไฮโดรซัลไฟต์ และสารรักษาความสดพวกฟอร์มาลิน ก่อนจำหน่ายให้แม่ค้า ซึ่งสารพวกนี้มีผลเป็นพิษต่อผู้บริโภคอย่างมาก หากได้รับในปริมาณที่สูงอาจทำให้เสียชีวิตได้ ซึ่งสามารถสังเกตุได้ง่ายหากถั่วงอกมีการฟอกสี เมื่อทิ้งไว้นานลำต้นจะช้ำ และดำคล้ำ

บันทึกการเจริญเติบโตของถั่วงอก

พันธุ์ถั่วเขียวผิวมัน ได้แก่ พันธุ์กำแพงแสน 1 และ2 พันธุ์ชัยนาท 36 และ72
พันธุ์ถั่วเขียวผิวมัน ได้แก่ พันธุ์พิษณุโลก 2 และพันธุ์ KABA

อุปกรณ์ และวัสดุ
– ตะกร้าพลาสติกหรือตะกร้าไม้ไผ่ตาถี่
– ถังน้ำหรือกะละถัง
– ถังเพาะพลาสติก ตามปริมาณที่ต้องการเพาะ โดยเจาะรูที่ก้นถัง ขนาด 0.5-1 เซนติเมตร ระยะห่างต่อรูประมาณ 1 นิ้ว
– ตาข่ายพลาสติกตาถี่
– ท่อนไม้หรืออิฐก้อน
– อุปกรณ์การให้น้ำ
– กระด้ง รูขนาด 0.5 เซนติเมตร

การเตรียมเมล็ดพันธุ์
เมล็ดพันธุ์ที่ใช้ควรมีความสมบูรณ์ และมีอัตราการงอกสูง มักจะเป็นเมล็ดพันธุ์ที่เก็บในระยะที่แก่แล้ว และควรเก็บไม่นานเกิน 2-3 เดือน
– เมล็ดพันธุ์ที่ซื้อมาต้องเก็บรักษาในที่ปราศจากความชื้น อากาศถ่ายเทได้สะดวก และไม่สัมผัสกับไอฝนหรือน้ำฝนได้
– นำเมล็ดพันธุ์ใส่ตะกร้าพลาสติกหรือตะกร้าไม้ไผ่ตาถี่
– นำลงแช่น้ำ และร่อน เพื่อให้เมล็ดพันธุ์ที่แห้งไม่สมบูรณ์ลอยน้ำ
– แยกเมล็ดพันธุ์ที่ไม่สมบูรณ์ออก ให้เหลือเฉพาะเมล็ดสำหรับใช้เพาะ

การเพาะเมล็ด
– นำเมล็ดพันธุ์หลังจากการเตรียมแล้วแช่น้ำนาน 6-12 ชั่วโมง
– นำท่อนไม้หรืออิฐก้อนเรียงตามจุดที่ตั้งของถัง
– นำถังเพาะตั้งบนท่อนไม้หรืออิฐที่เตรียมไว้ เรียงเป็นแถว หากมีการเพาะต่างวันกันให้แยกเป็นกลุ่มที่เพาะในวันเดียวกัน
– วางตาข่ายพลาสติกรองก้นถัง
– นำเมล็ดพันธุ์ใส่ในถังเพาะ ประมาณ 1 ใน 4 ส่วนของถัง
– ให้น้ำทุกๆ 2-3 ชั่วโมง นาน 2-5 นาที และให้น้ำสัมผัสกับถั่วทุกเมล็ด
– ในช่วงการเพาะควรให้มีอุณหภูมิของโรงเรือนประมาณ 20-25 องศา หากอุณหภูมิสูงเมล็ดถั่วจะงอก และโตเร็วทำให้ได้ถั่วงอกที่เรียวยาวไม่สวยงาม ทั้งนี้การควบคุมอุณหภูมิของโรงเรือนต้องอาศัยการจัดการตั้งแต่การออกแบบโรง เรือน และการให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ

การเก็บถั่วงอก
การเก็บถั่วงอกสามารถเก็บขายได้หลังการเพาะประมาณ 4 วัน เมล็ดพันธุ์ 1 กิโลกรัม เมื่อเพาะแล้วจะสามารถเพิ่มน้ำหนักได้ประมาณ 5-7 เท่า
– วันที่ 1 เมล็ดถั่วมีลักษณะอิ่มน้ำ พองตัว และเปลือกเมล็ดปริแตก
– วันที่ 2 เปลือกเมล็ดปริแตก เห็นส่วนด้านในเมล็ด และมีรากงอก
– วันที่ 3 เมล็ดงอก และแทงลำต้นยาวประมาณ 1-5 เซนติเมตร
– วันที่ 4 ถั่วงอกโตยาวประมาณ 5-10 เซนติเมตร เป็นระยะพร้อมจำหน่าย

ในบางครั้งลูกค้าต้องการถั่วงอกที่มีขนาดยาว ก็ต้องทิ้งไว้อีกประมาณ 2-3 วัน ก็สามารถเก็บถั่วงอกที่ได้ขนาดยาวตามต้องการได้

การ จำหน่ายสามารถจำหน่ายให้พ่อค้าคนกลางหรือส่งขายให้แม่ค้าโดยตรง โดยอาจขายขณะที่ถั่งอกยังอยู่ในถังด้วยการชั่งกิโลหรือนำถั่วงอกมาคัดแยก และบรรจุถุงจำหน่าย

การจำหน่ายที่ต้องแยกเปลือกเมล็ดออก สามารถใช้กระด้งในการผัดเหมือนการผัดข้าว แต่การผัดถั่วงอกเเพื่อแยกเปลือกออก เปลือกถั่งงอกที่ยังติดที่ยอดถั่วงอกจะหลุดออก และตกลงด้านล่างตามรูของกระด้ง

แป้งต้องทำการบ้านวิชาวิทยาศาสตร์ เรื่องปลูกต้นไม้ พ่อมันเลยแอบเอามาลงใน blog ไว้เป็นที่ระลึกครับ ปล. ดังนั้นบันทึกนี้ลูกเขียนไว้ที่อื่น แต่พ่อขโมยมาลง ฮ่า ฮ่า

การเจริญเติบโตของพืช

ชื่อพืช ถั่วเขียว

วันที่ปลูก 10 มิถุนายน 2551

สัปดาห์ที่ 1

วันที่ 3 ของการปลูก สูง 4 ซม. ใบเล็กและเรียวยาว บางต้นมีเปลือกหุ้มเมล็ดติดอยู่ที่ปลายยอด วิธีดูแล รดน้ำต้นไม้ทุกวัน

วันที่ 4 ของการปลูก (13/6/51) สูง 6 ซม. ใบยาวขึ้นและเรียวขึ้นแล้วสวยยิ่งขึ้น ส่วนของเนื้อเมล็ดยังติดอยู่ที่ฐานใบ วิธีดูแล อย่าจับต้นและรดน้ำต้นไม้ทุกวัน

บันทึกการเจริญเติบโตของถั่วงอก

วันที่ 5 ของการปลูก (14/6/51) สูง 9 ซม. ลำต้นยาวขึ้น ส่วนของเนื้อเมล็ดห่างจากฐานใบมากขึ้น

บันทึกการเจริญเติบโตของถั่วงอก

วันที่ 6 ของการปลูก (15/6/51)  สูง 13 ซม. ใบใหญ่ขึ้น ส่วนของเนื้อเมล็ดมีขนาดเล็กลง วิธีดูแล ตัดต้นถั่วเขียวบางต้นออกเพื่อไม่ให้ต้นไม้แย่งอาหารมากเกินไป

บันทึกการเจริญเติบโตของถั่วงอก

วันที่ 8 ของการปลูก (17/6/51) สูง 18 ซม. เริ่มมีใบยอดอ่อนโผล่ออกมา ส่วนของเนื้อเมล็ดลีบแห้งจนเกือบหมด วิธีดูแล วางกระถางต้นไม้ให้โดนแดด

วันที่ 12 ของการปลูก (21/6/51) สูง 21 ซม. มีใบเพิ่มขึ้นมาอีก  3 ใบที่ส่วนยอด รวมเป็น 5 ใบ ส่วนของเนื้อเมล็ดลีบหายหมดแล้ว

บันทึกการเจริญเติบโตของถั่วงอก

วันที่ 15 ของการปลูก  (24/6/51) สูง 26 ซม. มีใบเพิ่มอีก 2 ใบที่ส่วนยอด วิธีดูแล เลือกตัดต้นที่เล็กออกบางต้น เพื่อให้ต้นที่เหลืออยู่เจริญเติบโตดีขึ้น

บันทึกการเจริญเติบโตของถั่วงอก

วันที่ 19 ของการปลูก (28/6/51) สูง 28 ซม. มีใบเพิ่มที่ส่วนลำต้นอีก 3 ใบ  ใบที่ขึ้นมาก่อนใหญ่ขึ้น สีเขียวเข้มกว่าใบที่ขึ้นมาใหม่

บันทึกการเจริญเติบโตของถั่วงอก

บันทึกการเจริญเติบโตของถั่วงอก

วันที่ 27 ของการปลูก (6/7/51) สูง 33 ซม. ใบใหญ่ขึ้น และลำต้นอวบขึ้น ใบมีจำนวนมากกว่าเก่า วิธีดูแล ถอนต้นหญ้าเล็กๆออก รดน้ำมากๆ วางต้นไม้ให้ถูกแสงแดด