รี ไฟแนนซ์ บ้าน ดี ไหม

หลังจากการผ่อนบ้านมาระยะเวลาหนึ่งแล้ว หลายคนคงอยากหาวิธีผ่อนบ้านให้หมดเร็ว ๆ ซึ่งหนึ่งในวิธีนั้นก็ คือ การรีไฟแนนซ์บ้าน แต่บางคนก็ยังมีคำถามที่สงสัยเกี่ยวการรีไฟแนนซ์บ้านอยู่ในใจ วันนี้เราจึงรวบรวมคำถามยอดฮิตพร้อมหาคำตอบมาให้ และสำหรับใครที่สนใจรีไฟแนนซ์บ้าน และกำลังมองหาข้อเสนอดี ๆ  สามารถดูข้อมูลเติมได้ที่นี่

 

1. รีไฟแนนซ์บ้านเมื่อไหร่ดี?

- เมื่อผ่อนบ้านมาประมาณ 3 ปี ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับสัญญาที่ระบุไว้ด้วย บางแห่งอาจกำหนดระยาเวลาที่นานกว่านั้น

 

2. ทำไมต้องรอ 3 ปี ค่อยรีไฟแนนซ์?

- สัญญาส่วนใหญ่จะระบุให้รีไฟแนนซ์ได้หลัง 3 ปี (ระยะเวลาขึ้นอยู่กับสัญญาเงินกู้แต่ละฉบับ) หากรีไฟแนนซ์ก่อนกำหนด ต้องเสียค่าปรับ 2-3% ของยอดหนี้คงเหลือ

มนุษย์เงินเดือนหลายคนมักได้ยินคำว่า “รีไฟแนนซ์” อยู่บ่อยๆ แต่เชื่อว่ามีจำนวนไม่น้อยไม่เข้าใจว่าคืออะไร และหากฟันธงว่าเป็นวิธีการที่ทำให้ได้ดอกเบี้ยบ้านถูกลงได้หรือไม่ ความสงสัยเหล่านี้จะหายไป เมื่อได้รู้ความหมายที่แท้จริงของคำว่ารีไฟแนนซ์ รวมถึงวิธีการจัดการรีไฟแนนซ์บ้านอย่างเป็นระบบ

รีไฟแนนซ์บ้าน หมายถึง การขอยื่นกู้สินเชื่อบ้านกับธนาคารแห่งใหม่ เพื่อลดภาระเงินกู้เก่าที่มีอยู่ โดยส่วนใหญ่มีจุดประสงค์เพื่อลดดอกเบี้ยบ้านให้ต่ำลง และช่วยให้ยอดผ่อนต่อเดือนน้อยลงและผ่อนบ้านให้หมดเร็วไวยิ่งขึ้น ยกตัวอย่างเช่น เรากู้เงินซื้อบ้านหลังละ 3 ล้าน พอผ่อนไปได้ 1-2 ปีแรกดอกเบี้ยจะถูกอยู่ แต่หลังจากนั้นจะเกิดปัญหาดอกเบี้ยลอยตัวแพงขึ้น ทำให้เราผ่อนไม่ทัน ซึ่งทางออกก็ คือ “การรีไฟแนนซ์บ้าน” กับธนาคารเดิมหรือธนาคารใหม่ ซึ่งจะมีเงื่อนไขการผ่อนชำระที่ดีกว่าเดิม ด้วยการผ่อนต่อเดือนถูกลง ยืดระยะเวลาการผ่อนได้นานขึ้น

*ข้อควรจำ โดยเราจะสามารถรีไฟแนนซ์บ้านได้ต่อเมื่อหมดสัญญากับธนาคารแห่งแรกที่ยื่นขอสินเชื่อบ้านไว้ไปแล้ว ซึ่งมักจะกำหนดให้สัญญามีอายุ 3 ปี


รีไฟแนนซ์บ้านต้องรอให้ครบ 3 ปีจริงหรือไม่?

โดยปกติแล้ว สิ่งที่มนุษย์เงินเดือนควรพิจารณาก่อนทำการรีไฟแนนซ์บ้านได้ คือ สัญญาที่ทำการขอกู้สินเชื่อบ้านกับธนาคารเดิมนั้นต้องหมดอายุลงแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่จะกำหนดอยู่ที่ 3 ปี แต่กรณีที่ผู้กู้ต้องการขอรีไฟแนนซ์บ้านก่อนหมดอายุสัญญาสามารถทำได้ แต่ต้องเสียค่าธรรมเนียมตามที่ธนาคารกำหนดและถูกระบุไว้ในสัญญา ดังนั้นทางที่ดีควรอ่านรายละเอียดเงื่อนไขของสัญญาการกู้อย่างละเอียดถี่ถ้วน 

รีไฟแนนซ์บ้านที่ไหนดี

เชื่อหรือไม่ว่าคำถามรีไฟแนนซ์ที่ไหนดี? ยังคงเป็นคำถามยอดฮิตของมนุษย์เงินเดือน เพราะนอกจากจะต้องพิจารณารายละเอียดของสินเชื่อบ้านใหม่แล้ว ยังต้องคำนวณเรื่องอัตราดอกเบี้ยและเงื่อนไขของแต่ละธนาคารเป็นสำคัญ

ดังนั้นก่อนอื่นมนุษย์เงินเดือน ต้องทำความเข้าใจก่อนว่าปัจจัยของแต่ละคนนั้นมีความแตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นงบประมาณซื้อบ้าน ความสบายใจต่อบริการ ไปจนถึงดอกเบี้ยบ้าน ซึ่งการรีไฟแนนซ์บ้านที่ดีคือนอกจากจะต้องมีดอกเบี้ยบ้านในอัตราที่ต่ำแล้ว ยังต้องพิจารณาโปรโมชัน และความสะดวกในการติดต่อทำธุรกรรมการเงินต่างๆ ด้วย ซึ่งแต่ละธนาคารจะมีหลักเกณฑ์และปัจจัยที่เกี่ยวข้องแตกต่างกันออกไป ดังตารางด้านล่างนี้

ธนาคารดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกวงเงินอนุมัติสูงสุดเงื่อนไขกรุงศรีรีไฟแนนซ์2.75%95%หลักประกัน สำหรับที่อยู่อาศัย ตั้งแต่ 1.5 ล้านบาทขึ้นไปสินเชื่อบ้านสุขสันต์ ธอส.MRR -1.00%
(กรณีลูกค้าสวัสดิการ) MRR -0.50%
(กรณีลูกค้ารายย่อย) วงเงินกู้เป็นไปตามที่ธนาคารกำหนดหลักประกัน สำหรับที่อยู่อาศัย ตั้งแต่ 3 ล้านบาทขึ้นไปกสิกรไทย รีไฟแนนซ์ SupersaveMRR-1.50%100%สำหรับสัญญาที่ 1 และราคาที่อยู่อาศัยน้อยกว่า 10 ล้านบาท

หมายเหตุ: รายละเอียดขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละธนาคาร

ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการรีไฟแนนซ์บ้าน คืออะไรบ้าง

ในการรีไฟแนนซ์บ้านที่แท้จริงแล้วมนุษย์เงินเดือนต้องให้ความสำคัญกับสองสิ่งหลักที่ส่งผลโดยนั่นคือ “ดอกเบี้ย” และ “ระยะเวลาการผ่อน”

ตัวแปรสำคัญสำหรับการกู้ ไม่ว่าจะเป็นการกู้อะไรก็ตาม โดยดอกเบี้ยสำหรับการรีไฟแนนซ์นั้นจำเป็นจะต้องต่ำกว่าเดิม เพื่อเพิ่มความคุ้มค่าในการรีไฟแนนซ์ ให้มนุษย์เงินเดือนสามารถผ่อนบ้านของตัวเองได้อย่างราบรื่น

อีกประเด็นสำคัญที่ลืมไม่ได้คือการรีไฟแนนซ์บ้านในบางครั้งจะส่งผลให้เราสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบดอกเบี้ย จากดอกเบี้ยแบบ MRR (Minimum Retail Rate) หรือดอกเบี้ยลอยตัว มีการเปลี่ยนแปลงได้ มาเป็นดอกเบี้ยแบบคงที่ ทำให้มนุษย์เงินเดือนสามารถจ่ายเงินได้ในอัตราที่น้อยลงกว่าเดิมในระยะยาว เพราะดอกเบี้ยประเภทนี้จะไม่ได้รับผลกระทบหากเกิดการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ยอื่นๆ ภายในประเทศ

ระยะเวลาการผ่อน

เรื่องนี้สำคัญมากๆ เพราะระบบรีไฟแนนซ์จะเข้ามาช่วยจะทำให้มนุษย์เงินเดือนสามารถยืดเวลาการผ่อนชำระหนี้เดิมออกไปได้นานขึ้น พร้อมทั้งทำให้ค่างวดที่ต้องชำระต่อเดือนถูกลง ทำให้มนุษย์เงินเดือนสามารถควบคุมการใช้เงินได้

สำหรับคนที่ต้องการคำนวณสินเชื่อของตัวเองก่อน หรือดำเนินการคำนวณล่วงหน้าว่าเราต้องผ่อนกับธนาคารไหนแบบไหนดี ซึ่งสามารถใช้เครื่องคำนวณเงินกู้ของแสนสิริโดยตรงได้เลย ซึ่งจะรองรับธนาคารต่างๆ มากมาย ตอบสนองทุกรูปแบบสินเชื่อบ้าน

เอกสารที่ต้องใช้รีไฟแนนซ์บ้าน

1. เอกสารประจำตัวบุคคล

  • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
  • สำเนาทะเบียนบ้าน
  • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนคู่สมรส (ถ้ามี)
  • สำเนาทะเบียนบ้านคู่สมรส (ถ้ามี)

2. เอกสารทางการเงิน

สำหรับบุคคลที่มีรายได้ประจำ (มีเงินเดือน)

  • สลิปเงินเดือนย้อนหลัง 3-6 เดือน
  • หนังสือรับรองการทำงาน
  • สำเนารับรองการหักภาษี (50 ทวิ)

สำหรับผู้ที่ทำธุรกิจส่วนตัว

  • สำเนารับรองการจดทะเบียนการค้า
  • สำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น
  • สำเนารายการเดินบัญชีย้อนหลัง 6 เดือน
  • สำเนาแบบแสดงภาษีซื้อขาย ภ.พ.30

3. เอกสารหลักประกันการรีไฟแนนซ์บ้าน

  • สำเนาโฉนดที่ดิน หนังสือกรรมสิทธิ์ หรือเอกสารที่เกี่ยวข้องที่บ่งชี้ถึงหลักประกัน
  • สำเนาสัญญาการซื้อขายหรือให้ที่ดิน ทด.13 หรือ 14 หรือสัญญาซื้อขายห้องชุด
  • สำเนาสัญญากู้จากธนาคารเดิม
  • สำเนาสัญญาจำนองที่ดิน
  • สำเนาใบเสร็จแสดงธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับบ้าน

*กรณีมีผู้กู้ร่วม หรือมีการเปลี่ยนชื่อสกุล ต้องมีเอกสารที่เกี่ยวข้องอื่นๆ เช่น เอกสารประจำตัวบุคคลและใบเปลี่ยนชื่อเตรียมมาเช่นกัน และสำหรับใครที่กู้ซื้อบ้านครั้งแรกสามารถอ่านรายละเอียดเอกสารเพิ่มเติมได้ที่ กู้บ้านผ่านฉลุย เมื่อเตรียมเอกสารกู้บ้านพร้อม

วิธีรีไฟแนนซ์บ้าน

สำหรับมนุษย์เงินเดือนแล้วการรีไฟแนนซ์บ้านนั้นสามารถทำได้ง่ายมากเพราะมีรายได้ประจำ หากเอกสารทั้งหมดพร้อมแล้วสามารถขอดำเนินการได้เลย โดยวิธีการรีไฟแนนซ์บ้านมีเพียงสั้นๆ 5 ข้อเท่านั้น คือ

  1. ตรวจสอบสัญญาเดิม

    ทั้งรายละเอียดสัญญา เงินผ่อนที่เหลือ อัตราส่วนดอกเบี้ยและระยะเวลาเพื่อทำให้เรามั่นใจว่าการรีไฟแนนซ์ในครั้งนี้จะเป็นตัวเลือกที่ถูกต้องแน่นอน
  2. เลือกธนาคารใหม่

     โดยอ้างอิงจากปัจจัยหลักสองข้อคือดอกเบี้ยและระยะเวลาการผ่อน หากคำนวณดูแล้วมีความคุ้มค่ามากกว่าจริง ให้เตรียมเอกสารที่เกี่ยวข้องได้เลย
  3. เตรียมเอกสาร

     รายชื่อเอกสารสามารถอ้างอิงได้จากการเตรียมเอกสารการรีไฟแนนซ์ข้างต้น
  4. ยื่นขอรีไฟแนนซ์กับธนาคารที่ต้องการ

     ซึ่งหากเอกสารมีความพร้อม การดำเนินการทั้งหมดจะดำเนินการได้ในเวลาไม่นาน
  5. ทำสัญญา

     โดยไม่ลืมที่จะดูรายละเอียดสัญญาใหม่ให้เรียบร้อย เพื่อป้องกันความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นภายหลัง

สำหรับมนุษย์เงินเดือนที่สนใจอยากมีบ้านและคอนโด โดยไม่ต้องรอให้มีการรีไฟแนนซ์ สามารถจบปรึกษาปัญหาด้านการเงินได้ที่ Sansiri Home Financial Planner หรือพบกับข้อเสนอพิเศษที่ทำให้สามารถควบคุมการเงินในยามเศรษฐกิจเช่นนี้ได้ด้วย แสนสิริมีโปรโมชันดีๆ อย่าง โปรโมชันบ้านและทาวน์โฮมพร้อมอยู่ มากมายที่ร่วมรายการ รีบคว้า ก่อนจะพลาดโอกาส!

รีไฟแนนซ์บ้าน เสียอะไรบ้าง

ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ.
ค่าประเมินราคา (อาจมีค่าใช้จ่าย หรือไม่มี ขึ้นอยู่กับโปรโมชั่น).
ค่าจดจำนอง จ่ายให้กรมที่ดิน 1% ของวงเงินกู้.
ค่าอากรแสตมป์ 0.05% ของวงเงิน(ไม่เกิน 10,000 บาท).
ประกันอัคคีภัย (โดยปกติต้องทำทุก 1-3 ปี ตามกฎหมาย).
ค่าธรรมเนียมอื่นๆ ของธนาคาร.

รีไฟแนนซ์บ้านกับธนาคารไหนดีที่สุด

8 อันดับธนาคารน่าสนใจ ที่มีอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านเฉลี่ย 3 ปีต่ำที่สุด ประจำเดือน เมษายน 2566.
ธนาคาร แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) (LH Bank) ... .
ธนาคารกรุงเทพ (BBL) ... .
ธนาคารทหารไทยธนชาต (TTB) ... .
ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (G H Bank) ... .
ธนาคารกรุงไทย (KTB) ... .
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) ... .
ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB).

รีไฟแนนซ์บ้านมีค่าใช้จ่ายไหม

สรุปง่ายๆ ว่า ค่าใช้จ่ายในการรีไฟแนนซ์บ้านใหม่ทั้งหมดจะมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยอยู่ราวๆ 2-3% ของวงเงินกู้ โดยค่าเฉลี่ยนี้อาจสูงได้ถึง 4.3% ของวงเงินรีไฟแนนซ์ ในบางกรณีเราสามารถประหยัดค่าธรรมเนียมในการจดจำนองใหม่ (1%) ได้ถ้าเราเลือกที่จะรีไฟแนนซ์กับธนาคารเดิม ค่าใช้จ่ายบางข้อเป็นค่าคงที่สำหรับทุกธนาคาร และบางข้อคิดเป็นมูลค่า ...

รีไฟแนนซ์บ้านบ่อยๆดีไหม

ข้อดีของการรีไฟแนนซ์บ้าน ที่หลาย ๆ คนนิยมทำก็เป็นเพราะ สามารถได้รับดอกเบี้ยช่วงโปรโมชั่นอย่างต่อเนื่องและจะช่วยทำให้เราผ่อนบ้านได้หมดเร็วขึ้น โดยที่เราผ่อนเท่าเดิมทุกเดือนไม่แตกต่างไปจากเดิมเลย เนื่องจากเงินงวดที่เราผ่อนทุกเดือนเข้าไปตัดเงินต้นได้มากขึ้นเมื่อเราเสียดอกเบี้ยในอัตราที่ลดลง ด้วยอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์บ้าน ...