ปล่อยในตอนเป็นเมนส์ ท้องไหม

㹡óշ����������ѹ���ǧ����ջ�Ш���͹�� 5 �ѹ�á ����դ�������§�����ͧ�ͧ��õ�駤�������Ҩ������§��͡�õԴ������ç���١ ��÷ҹ�Ҥ���ء�Թ ����Ҩз�����Դ������ �����繪�ǧ����ջ�Ш���͹�������� ��ѧ�ҹ�Ҥ���ء�Թ�Ҩ�з���������ʹ�͡�Դ�������蹡ѹ ����ѵԷ��͡��������ա�õ�駤������

โดยในผู้หญิงบางคนอาจจะมีรอบเดือนเนี้ยที่สั้นกว่าปกติ ทําให้ช่วงที่มีประจําเดือนกับช่วงที่ตกไข่อยู่ใกล้กันมากขึ้น

ถ้าหากว่ามีเพศสัมพันธ์ในช่วงท้ายของการมีประจําเดือนอสุจิ อาจจะยังมีชีวิตอยู่จนถึงวันที่ตกไข่และสามารถเกิดการปฏิสนธิจนเกิดการตั้งครรภ์ได้ค่ะ

ดังนั้น การมีเพศสัมพันธ์ ช่วงมีประจำเดือน จึงไม่ใช่วิธีช่วยในการคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพนัก

 

นอกจากนี้ ยังอาจจะมีผลร้ายแรงตามมาด้วยเนื่องจากว่าในช่วงที่มีประจําเดือนผู้หญิงจะมีภูมิคุ้มกันลดต่ำลง ทําให้ความเสี่ยงในการที่จะติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ มีมากขึ้นถึง 3 เท่า ไม่ว่าจะเป็น เอชไอวี (HIV) เอชพีวี (HPV) หรือว่าหนองใน

ดังนั้น จึงแนะนําให้หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ในช่วงที่มีประจําเดือน หรือถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้จริง ๆ แนะนําให้ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้ง เพื่อความปลอดภัยของคนที่คุณรักค่ะ

นอกจากนี้ การมีเลือดออกที่ช่องคลอดในวันแรกๆ ของรอบเดือน ในบางครั้งมีโอกาสที่คุณจะเลือดออกทั้งๆ ที่ยังอยู่ในช่วงไข่ตกและเจริญพันธ์ุมากที่สุด ถ้าหากมีเพศสัมพันธ์ในช่วงนั้นโดยไม่ได้ป้องกันจะเป็นการเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์มากขึ้นได้ด้วยซ้ำ

ไม่ใช่แค่นั้นเราต้องไม่ลืมว่าอสุจิสามารถมีชีวิตอยู่ในช่องคลอดได้ต่อหลังมีเซ็กซ์ไปอีก 3 วัน ดังนั้น ถ้าหากมีเพศสัมพันธ์ในช่วงท้ายๆ ของรอบเดือน ก็อย่าลืมว่าสเปิร์มรออยู่ที่นั่นจนถึงตอนที่ไข่ตกได้

ดังนั้นถ้าหากคู่ของคุณไม่ได้กำลังอยากจะตั้งครรภ์ ต่อให้เป็นช่วงที่มีประจำเดือนก็ควรป้องกันสวมถุงยางอนามัยเสมอเมื่อมีเซ็กซ์ เพราะถึงจะมีโอกาสน้อยแต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ท้อง

ส่วนประเด็นเราควรมีเซ็กซ์ตอนมีประจำเดือนไหม? การมีเพศสัมพันธ์ระหว่างมีรอบเดือน ถ้าหากคุณสามารถตัดปัญหาเรื่องความเลอะเทอะหรือรู้สึกอึดอัดออกไปได้แล้ว ก็สามารถมีได้แต่ก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียแตกต่างกัน

ปล่อยในตอนเป็นเมนส์ ท้องไหม

อสุจิ | cdn

ข้อดีของการมีเพศสัมพันธ์ระหว่างมีประจำเดือนคือ มันช่วยลดอาการปวดประจำเดือนได้ เนื่องจากในระหว่างที่มีเพศสัมพันธ์ เมื่อถึงจุดสุดยอด ร่างกายของคุณผู้หญิงจะหลั่งสารเอนดอร์ฟิน (Endorphins) ซึ่งช่วยบรรเทาอาการปวด นอกจากนี้ยังมีแนวโน้มที่จะมีความตื่นตัวทางเพศสูงจากฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลง

แต่มันก็มีข้อเสียเช่นเดียวกัน เพราะในช่วงนั้นค่าความเป็นกรดด่างในช่องคลอดจะสูงขึ้นทำให้เชื้อโรคและแบคทีเรียเติบโตได้ดีกว่าช่วงปกติ และทำให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายได้ง่าย จึงต้องระวังโดยเฉพาะโรคที่ติดต่อทางเพศสัมพันธ์

สรุปแล้วก็คือเราสามารถมีเพศสัมพันธ์ตอนมีประจำเดือนได้แต่ต้องป้องกันทุกครั้ง เพราะมันก็ยังมีโอกาสตั้งครรภ์อยู่ รวมถึงควรดูแลความสะอาดอย่างดีเพื่อป้องกันเชื้อโรคที่ติดต่อได้ง่ายด้วย

เรื่องเพศไม่ใช่เรื่องน่าอาย ร่วมแชร์ความเข้าใจผิดๆ เกี่ยวกับการคุมกำเนิด ที่คุณเคยได้ยินหรือไม่แน่ใจว่าทำอย่างนี้ “จะท้องไหม?” พร้อมติด #ท้องเลือกได้ เพื่อส่งต่อให้คุณหมอมาไขข้อสงสัยได้ที่: https://www.brandthink.me/campaign/tongluekdai

                  ดังนั้น หากยังนับได้ไม่เกิน 7 วัน โอกาสที่จะตั้งครรภ์ก็มีน้อยมากค่ะ อย่างไรก็ตาม วิธีการนับระยะปลอยภัย (แบบหลัง 7 วัน) นี้ จะใช้ได้เฉพาะในกรณีที่มีระยะห่างระหว่างรอบประจำเดือนไม่น้อยกว่า 24 วัน หากน้อยกว่า 24 วัน จะใช้การนับหลัง 7 วันไม่ได้ และโอกาสในการตั้งครรภ์ย่อมมีได้ค่ะ 

คือ การมีเพศสัมพันธ์ในระหว่างมีประจำเดือน ซึ่งคนจำนวนไม่น้อยเชื่อว่าการมีประจำเดือนนั้นมีโอกาสตั้งครรภ์ได้น้อย แต่แท้จริงแล้วการฝ่าไฟแดงนั้นปลอดภัยจริงหรือไม่ นั่นเป็นสิ่งที่คู่รักควรทราบก่อนตัดสินใจ เพราะหากไม่ระมัดระวังอาจส่งผลเสียมากกว่าที่คิด

ปล่อยในตอนเป็นเมนส์ ท้องไหม

ฝ่าไฟแดง เป็นคำพูดติดปากที่คนทั่วไปมักใช้เรียกแทนการมีเพศสัมพันธ์ในระหว่างที่ฝ่ายหญิงมีประจำเดือน โดยมีความเชื่อว่าเป็นหนึ่งในวิธีการคุมกำเนิดที่สะดวก และไม่ต้องรับประทานยาหรือใช้เครื่องป้องกัน นอกจากนี้ ผู้หญิงหลายคนยังเชื่อว่าการมีเพศสัมพันธ์ในช่วงมีประจำเดือนจะช่วยลดอาการปวดท้องประจำเดือนได้ อีกทั้งยังเชื่อว่าในช่วงมีประจำเดือนจะเป็นช่วงที่มีอารมณ์ทางเพศ และมีแรงกระตุ้นทางเพศมากกว่าปกติอีกด้วย

ผู้หญิงสามารถมีเพศสัมพันธ์ขณะมีประจำเดือนได้หรือไม่ ?

การฝ่าไฟแดง หรือการมีเพศสัมพันธ์ขณะมีประจำเดือนเป็นเรื่องที่คุณผู้หญิงสามารถทำได้ ตราบใดที่การประจำเดือนไม่ทำให้รู้สึกอึดอัดขณะมีเพศสัมพันธ์ เพราะในระหว่างการมีเพศสัมพันธ์อาจมีเลือดประจำเดือนของฝ่ายหญิงเลอะเปรอะเปื้อนได้ ซึ่งในบางรายอาจส่งผลให้ความสุขทางเพศลดลงได้ นอกจากนี้ ยังอาจส่งผลต่อความเชื่อทางศาสนาด้วยเช่นกัน

ข้อดีของการมีเพศสัมพันธ์ขณะมีประจำเดือน

การมีเพศสัมพันธ์ในระหว่างมีประจำเดือนอาจทำให้รู้สึกไม่สบายตัว แต่มีข้อดีอยู่ไม่น้อย โดยข้อดีหนึ่งคือ การมีเพศสัมพันธ์ในช่วงนี้จะช่วยลดอาการปวดประจำเดือนได้ เนื่องจากในระหว่างที่มีเพศสัมพันธ์ เมื่อถึงจุดสุดยอด ร่างกายของคุณผู้หญิงจะหลั่งสารเอนดอร์ฟิน (Endorphins) ซึ่งเป็นฮอร์โมนความสุขเช่นเดียวกับฮอร์โมนออกซิโทซิน (Oxytocin) และฮอร์โมนโดปามีน (Dopamine) ที่จะช่วยบรรเทาอาการปวดได้

นอกจากนี้ ในช่วงมีประจำเดือน คุณผู้หญิงจะมีการตื่นตัวทางเพศสูงและความรู้สึกไวกว่าปกติ เนื่องจากระดับฮอร์โมนเพศที่เปลี่ยนแปลง โดยผู้หญิงบางคนอาจรู้สึกแน่น ๆ บริเวณอุ้งเชิงกราน ทำให้เกิดความต้องการทางเพศเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลต่อความสุขทางเพศที่อาจสูงขึ้นในระหว่างมีเพศสัมพันธ์ ทว่าความต้องการทางเพศและประสาทสัมผัสที่ไวกว่าปกตินั้นก็อาจส่งผลให้ผู้หญิงบางคนรู้สึกอึดอัดขณะมีเพศสัมพันธ์ในช่วงนี้ได้เช่นกัน

ไม่เพียงเท่านั้นการมีเพศสัมพันธ์ช่วงมีประจำเดือนอาจส่งผลดีสำหรับคู่รักที่ต้องใช้เจลหล่อลื่นในขณะมีเพศสัมพันธ์ เพราะเลือดประจำเดือนจะเป็นเหมือนตัวช่วยในการหล่อลื่นขณะมีเพศสัมพันธ์ได้อีกด้วย

ความเสี่ยงจากการมีเพศสัมพันธ์ขณะมีประจำเดือน

แม้การมีเพศสัมพันธ์ในระหว่างมีประจำเดือนจะส่งผลดี แต่ต้องยอมรับว่าความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพนั้นก็มีอยู่ไม่น้อย เนื่องจากในช่วงมีประจำเดือน ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายผู้หญิงจะลดลงทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อต่าง ๆ ได้ง่าย เนื่องจากในช่วงที่ไม่มีประจำเดือนภายในช่องคลอดจะมีค่าความเป็นกรด-ด่าง (pH) อยู่ที่ 3.8-4.5 ซึ่งมีค่าเป็นกรด แต่ถ้าอยู่ในช่วงมีประจำเดือนค่าความเป็นกรด-ด่าง (pH) จะสูงขึ้นและมีค่าเป็นเบสหรือด่าง ทำให้เชื้อโรคต่าง ๆ เจริญเติบโตอย่างรวดเร็วกว่าปกติ

อีกทั้งในช่วงนี้ปากมดลูกของผู้หญิงจะเปิดออกเพื่อระบายเลือดและเยื่อบุโพรงมดลูก จึงอาจทำให้เชื้อโรคต่าง ๆ ที่อาศัยอยู่บริเวณปากช่องคลอด หรือภายนอกเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายกว่าปกติ โดยเฉพาะเชื้อที่เป็นสาเหตุของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น เชื้อไนซ์ซีเรีย โกโนร์เรีย (Neisseria Gonorrhoeae) อันเป็นสาเหตุของโรคหนองใน เชื้อราที่ก่อให้เกิดภาวะเชื้อราในช่องคลอด เชื้อไวรัสเอชไอวี (HIV) เชื้อไวรัสเอชพีวี (HPV) ที่เป็นสาเหตุของโรคมะเร็งปากมดลูก และหูดหงอนไก่ รวมทั้งเชื้อที่ก่อให้เกิดโรคเริมด้วย

มีเพศสัมพันธ์ขณะมีประจำเดือนเสี่ยงตั้งท้องหรือไม่ ?

ผู้หญิงหลายคนมักคิดว่าการมีเพศสัมพันธ์ขณะมีประจำเดือนนั้นเป็นวิธีการคุมกำเนิดวิธีหนึ่ง ทั้งที่จริงแล้ว การมีเพศสัมพันธ์ในช่วงนี้ก็เสี่ยงต่อการตั้งครรภ์เช่นเดียวกัน เนื่องจากผู้หญิงบางคนอาจมีเลือดคล้ายประจำเดือนไหลออกมาในช่วงไข่ตกได้เช่นกัน ซึ่งช่วงไข่ตกนั้นเป็นช่วงที่พร้อมสำหรับการตั้งครรภ์มากที่สุด และการมีเพศสัมพันธ์ในขณะมีประจำเดือนโดยไม่สวมถุงยางอนามัยก็จะทำให้มีโอกาสตั้งครรภ์ได้มากขึ้น

นอกจากนี้ เหตุผลที่ทำให้ผู้หญิงเสี่ยงตั้งครรภ์มากขึ้นหากมีเพศสัมพันธ์ในช่วงมีประจำเดือนก็เพราะอสุจิของเพศชายสามารถมีชีวิตอยู่ในช่องคลอดของผู้หญิงได้หลังจากการหลั่ง 72 ชั่วโมง ซึ่งถ้ามีเพศสัมพันธ์ในวันท้าย ๆ ของการมีประจำเดือน ก็อาจทำให้โอกาสตั้งครรภ์สูงขึ้นได้ ดังนั้นแม้จะเป็นช่วงมีประจำเดือน หากต้องการมีเพศสัมพันธ์ควรใช้เครื่องป้องกันอย่างถุงอนามัยด้วยจะดีที่สุด

วิธีป้องกันความเสี่ยงจากการมีเพศสัมพันธ์ขณะมีประจำเดือน

ในกรณีที่ต้องการมีเพศสัมพันธ์ในระหว่างมีประจำเดือน วิธีป้องกันความเสี่ยงจากการติดเชื้อโรคหรือเชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์จากคู่นอนก็คือการป้องกันโดยการใช้ถุงยางอนามัย หรือหากต้องการป้องกันการติดเชื้อไปพร้อม ๆ กับการป้องกันเลือดประจำเดือนไหลออกมาเปรอะเปื้อนขณะมีเพศสัมพันธ์ ก็อาจใช้หมวกครอบปากมดลูก (Cervical Diaphragm) อีกทั้งยังใช้เพื่อการคุมกำเนิดได้อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ฝ่ายหญิงควรระมัดระวังและเอาใจใส่กับความสะอาดบริเวณอวัยวะเพศให้มากขึ้นเพราะถึงแม้จะใช้เครื่องป้องกันแล้ว แต่หากไม่รักษาความสะอาด อาจก่อให้เกิดการติดเชื้อซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้

มีเพศสัมพันธ์ขณะมีประจำเดือนได้ไหม

1. ระวังการติดเชื้อ เหตุเพราะหากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีเชื้อโรค ความเสี่ยงที่จะทำให้อีกฝ่ายติดเชื้อนั้นเพิ่มสูงขึ้น ดังนั้น หากคุณรู้ว่าร่างกายไม่พร้อม หมอแนะว่าไม่ควรมีเซ็กซ์ระหว่างมีประจำเดือน

มีอะไรกับแฟนตอนเป็นเมนวันแรกจะท้องไหม

สวัสดีค่ะคุณ konan. การมีเพศสัมพันธ์ในช่วงที่เป็นประจำเดือนเลย ถ้าเป็นเลือดประจำเดือนจริงๆนั้น แทบจะไม่มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ เพราะช่วงมีประจำเดือนจะไม่มีไข่ตก

เป็นประจําเดือนวันสุดท้าย แล้วมีอะไรกับแฟน

เรื่องที่สอง ผู้หญิงที่มีเพศสัมพันธ์ในวันท้ายๆ ของประจำเดือนมีโอกาสท้องได้ครับ พบได้ในคนที่ประจำเดือนมาช่วง 21-24 วันเป็นรอบเดือนที่สั้นกว่าคนทั่วไป (คือ 28-30 วัน) ซึ่งทำให้ไข่จะตกเร็วกว่าเดิมเป็นช่วงวันที่ 10-12 ของรอบเดือน ทั้งนี้ อสุจิจะสามารถมีชีวิตอยู่ในท่อนำไข่ได้นาน 2-3 วันจนถึง 5 วัน ดังนั้น ถ้ามีประจำเดือนมา ...