ก ก รายงานวิจยั ในชน้ั เรียน เรือ่ ง การสรา้ ง Google site เพอ่ื เปน็ เครอ่ื งมือช่วยอำนวยความสะดวกต่อการเรียนรู้รายวชิ า ในชว่ งการแพร่ระบาดของโรคตดิ ต่อเชอ้ื ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) นายวีรภัฏศาสตรา ชมภู กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นประชามงคล สารบัญ ก สารบญั หน้า สารบญั ข เร่อื ง หน้า บทท่ี 4 สรปุ ผลการศึกษา 22 บรรณานุกรม ค สารบญั ตาราง หน้า สารบัญภาพ ง เรื่อง
หน้า จ งานวจิ ัยในช้นั เรียน : การสรา้ ง Google site เพ่ือเป็นเครื่องมือชว่ ยอำนวยความสะดวกต่อการเรียนรู้รายวิชา ผูว้ จิ ัย : นายวีรภัฏศาสตรา ชมภู บทคดั ยอ่ งานวิจัยในชั้นเรียนนี้มีวัตถุประสงค์ของการศึกษา คือ 1) เพื่อสร้างเว็บไซต์ Google site
เพื่ออำนวย คร้ังน้ีได้กลุ่มตัวอย่างของการศึกษาได้แก่นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/3 ภาคเรียนที่ 1 ผลการศกึ ษา พบวา่ ชีวภาพ หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 เร่ือง การดำรงชีวิตของพืช ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 4/3 ก่อนการจัดการ เรียนรู้ ( =5.23) และหลังการจัดการเรียนรู้ ( =15.03) ซ่งึ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังได้รับการจัดการเรียนรู้ 2. ผลการประเมินความพึงพอใจพบว่า ผู้เรียนมีความพึงพอใจต่อการใช้ Google site เพ่ือเป็น ภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า นักเรียนได้ลงมือปฏิบัติจริงอยู่ในระดับมาก ( = 4.40, S.D.= 0.76) รองลงมาคือ เน้ือหามีความเหมาะสมกับนักเรียน อยู่ในระดับมาก ( = 4.10, S.D.= 0.72) และ บทเรียนมีใบกิจกรรมทม่ี ีชวี ิต มคี วามนา่ ต่นื เต้น อย่ใู นระดบั มาก ( = 3.98, S.D.= 0.90) นวตั
กรรมทส่ี รา้ งขนึ้ ชว่ ยทำใหผ้ ลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนกั เรียนเพิ่มสงู ข้ึน อยา่ งมนี ัยสำคัญทางสถิติทร่ี ะดับ .05 1 บทท่ี 1 ทมี่ าและความสำคญั ต่อวิถีการดำรงชีพของสังคมในทุกมิติรอบด้าน ในขณะท่ีการเรียนรู้ได้เปลี่ยนจากการเรียนรู้อะไร (Know จากสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรสั โคโรนา 2019
ที่กำลังแพร่ระบาดและส่งผลทำ 2 วตั ถุประสงคข์ องการวิจยั วิทยาศาสตร์ชีวภาพ จำนวน 35 คน กอ่ นและหลงั การจดั การเรียนรู้ รายวิชาวิทยาศาสตร์ชีวภาพ ของนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 4/3
จำนวน 35 คน โรงเรียนประชามงคล สมมติฐานการวจิ ัย 1. การจัดการเรียนการสอนโดยใช้ส่ือการสอนออนไลน์ Google site เคร่ืองมืออำนวยความสะดวก 2. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนของนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 4/3 รายวิชา 3. ความพึงพอใจต่อการใช้ Google site
เป็นเครื่องมืออำนวยความสะดวกในการเรียนรู้รายวิชา ขอบเขตของการวจิ ยั ประชามงคล จำนวน 186 คน ประชามงคล จำนวน 35 คน โดยการสมุ่ แบบง่าย (Simple random sampling) ระยะเวลาในการศึกษา นยิ ามศพั ท์เฉพาะ ของผู้เรียนที่สามารถทำให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ได้ทุกที่ทุกเวลา และทำให้ผู้เรียนรู้สึกสะดวกสบายในการ 3. การจัดการเรียนรู้ผ่านบทเรียนออนไลน์ หมายถึง
การเรียนรู้และทำกิจกรรมบนระบบเครือข่าย 3 4. ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนรู้ หมายถึง คะแนน เฉลีย่ จากการทำใบงาน/ช้ินงาน การทำแบบทดสอบ 5. ความพึง พอใจ หมายถึง ระดับความคิดเห็นของผู้เรียนท่ีมีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้บทเรียน ประโยชนท์ ไ่ี ด้รบั จากการวิจยั ประโยชน์ในเชงิ วชิ าการ ประโยชน์ในการนำไปใช้ 4 บทที่ 2 เอกสารและงานวจิ ยั ท่ีเกี่ยวข้อง
งานวิจัยนี้เป็นงานวิจัยในชั้นเรียน เร่ือง การสร้าง Google site เพื่อเป็นเครื่องมือช่วยอำนวยความ 1. การจดั การเรียนรู้รูปแบบออนไลน์ การจดั การเรียนรู้รปู แบบออนไลน์ (สำนักงานเขตพ้นื ท่กี ารศกึ ษาประถมศึกษาเพชรบูรณ์ เขต 3, ออนไลน)์ 1. ความหมายของการสอนออนไลน์ ซึ่งสามารถเปล่ียนแปลงวิธีเรียนในรูปแบบเดิม ๆ ให้เป็นการเรียนใหม่
ที่ใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยทำการสอน การเรียนการสอนแบบออนไลน์ (Online learning) จะเป็นเรียนทางผ่านทางอินเทอร์เน็ต โดยอยู่ใน การเรียนการสอนแบบออนไลน์ เป็นการศึกษาผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ด้วยตนเอง
ผู้เรียนสามารถ 5 1. ลักษณะสำคัญของการเรยี
นการสอนแบบออนไลน์ (Online learning) เนือ่ งจากโรงเรียนออนไลนไ์ ดเ้ ปดิ เวบ็ ไซต์ให้บรกิ ารตลอด 24 ชั่วโมง VDO ซึ่งจะช่วยกระตุ้นความสนใจ ในการเรียนรู้ของผู้เรียนได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังทำให้เหตุภาพของเนื้อหา 3. ผู้เรียนสามารถเลอื กวชิ าเรยี นได้ตามความตอ้ งการ 2. ประโยชน์ของการเรียนการสอนแบบออนไลน์ (Online learning) สรุปแล้ว การเรยี นรู้แบบการเรยี นรู้แบบออนไลน์
เป็นการเรียนทม่ี คี วามมีความยึดหยุ่นสูง เพราะฉะน้ัน 3. ขอ้ จำกัดของกำรจดั กำรสอน online 6 ความร้เู กยี่ วกบั โปรแกรม Google Site และสามารถ
รวบรวมความหลากหลายของข้อมูลไว้ในท่ีเดียว (สุกิจ สุวิริยะชัยกุล. 2558) และ กนกพร Google Sites คือ โปรแกรมออนไลน์ใช้ในการสร้างเว็บไซต์ให้ง่ายขึ้นเหมือนกับการแก้ไขเอกสาร ธรี พันธ คําขันธ์ อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย ได้จัดทำคูมือการสรางเว็บไซตดวย 1. ออกแบบหนาเว็บเพจ ภาพท่ี 1 การออกแบบหน้าเว็บเพ็จ 7 ขัน้ ตอนการสรางเวบ็ ไซตใหม โดยกรอก Email และ Password คลิกปมุ “ลงชื่อเขาใชงาน” ภาพท่ี 2 การสมัครเข้าใช้งานเว็บไซตใ์ หม่ แสดงขึ้นมาพรอมใชงาน ภาพที่ 3 การเลือก site 1. สรางไซตแบบใหม 8 ภาพท่ี 4 การเลือกรปู แบบ site ภาพท่ี 5 สรางเว็บไซตใหมj • การต้ังชื่อเว็บไซต (title) เราสรางหนาเพจข้ึนมา สาหรับสวนของตาแหนงไซต google sites • การสรางหนาแรกเพจของเว็บไซต ภาพที่ 6 การตัง้ ชื่อเว็บไซต 9 3. ขนั้ ตอนการเพม่ิ หนาเพจเวบ็ ไซต ภาพท่ี 7 การเพมิ่ หนาเพจเวบ็ ไซต 1. เร่มิ ตนสรางเมนูหนาเพจ หนาเว็บ โดยคลกิ ทีป่ ุม ดานบนของหนาจอเมนูมุมดานขวาหนาเว็บ กรอกช่ือ ตั้งชื่อหนาเว็บเพจ เมนู เลอื กตําแหนงเมนทู ตี่ องการ ภาพท่ี 8 การสรางเมนหู นาเพจ 10 5. การใชงานธมี Theme Google Sites ภาพท่ี 9 การใชงานธีม Theme
Google Sites • การออกแบบเอกสาร จะใสรูปหรือขอความเน้ือหา ทําไดตามรูปแบบท่ี Google Sites กําหนด ภาพที่ 10 การสรางเนอ้ื หาในเว็บไซต์ มีใหและปรบั ขนาดของภาพไดตามทเี่ ราตองการ 11 ภาพที่ 11 การใสรปู ภาพ องการลิงค แลวเลอื ก URL เวบ็ ที่ตองการลิงคไปหา ภาพท่ี 12 การสรางลิงคในเว็บไซต์ แทรกลงในหนาเพจของเราไดเลย ภาพท่ี 13 การเช่ือมขอมูลจากไดรฟ์ เราไดเลย 12 ภาพที่ 14 การสรางวีดโี อ • คลิกปมุ่ เผยแพร่ หรือ Pubphisher จะขน้ึ หนา้
เว็บไซตท์ ี่เราต้องการเผยแพร่ ภาพท่ี 15 การเผยแพรเวบ็ ไซต์ 13 ขอ้ ดีและข้อเสยี ของโปรแกรม Google site ข้อดี ขอ้ เสีย 1. สามารถทำหน้าเว็บเพจของตัวเองอะไรก็ได้ 1. ไม่สามารถนำเอาตัวอกั ษรเลอ่ื นตา่ งๆมาใช้ได้ ขึ้นมา โดยเน้นท่ีความง่าย มี app. ให้ใช้อย่าง 2. ไม่มีท่ีแสดงความคิดเห็น ให้ผู้ที่เข้ามาชมได้ สะดวกโดยไมจ่ ำเป็นตอ้ งรเู้ ร่ือง html แลกเปลยี่ นความคดิ เห็นซ่งึ กนั และกนั 2. สามารถเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ และเป็น 3. ละเมิดกฎของ Google site ไซตจ์ ะถกู ปดิ ทันที ความรู้ หรือบทเรียน อะไรอีกหลายๆอย่างได้ใน 4. ขาดความน่าเช่ือถือ เพราะดูเหมือน เราอาศัย SITE ได้ เว็บคนอื่น 3. มีพื้นที่ให้บริการเยอะประมาณ 100 เมกะไบต์ 5. Google site จำกัดปริมาณการโหลดไฟล์ต่อวัน ตอ่ site หรือตอ่ ชั่วโมง 4. มี Gadget เยอะแยะมากมาย และสามารถทำใน รปู แบบที่เราต้องการได้ 5. รูปแบบไซต์ ดูเป็นแบบมาตรฐานของเว็บไซต์ ท่วั ไป 6. พัฒนาได้ง่าย ปรับปรุงรูปแบบ ปรับแต่งข้อมูล แบบออนไลน์ 7. สามารถท่ีจะเก็บไฟล์ภาพ หรือไฟล์ชนิดต่างๆ ไวใ้ นไซต์ของเราได้ 8. ทำ link ภายในและภายนอกของไซตไ์ ด้ 9. การตั้งคา่ สำหรับการเข้าถงึ และใชข้ อ้ มลู ร่วมกัน 10. เป็นที่รวมเข้ากับเคร่ืองมืออื่น ๆ ของ Google เพื่อให้คุณ สามารถแบ่งปันวิดีโอภาพถ่าย งาน นำเสนอและปฏทิ ิน ตารางที่ 1 ข้อดแี ละข้อเสียของโปรแกรม Google site ผลสมั ฤทธ์ิทางการเรยี น 1. ความหมายของผลสมั ฤทธทิ์ างการเรยี น พิมพันธ์ เตชะคุปต์ (2544 : 20) กล่าวว่า ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ (Learning Achievement In Science) หมายถึง ความรู้ความสามารถที่ผู้เรียนได้รับหลังการเรียนวิชา วิทยาศาสตร์ ซ่ึงจะทราบว่ามีปริมาณมากน้อยเพียงใด ก็อาจจะกระทำได้โดยวัดได้จากการสอบแบบทดสอบ วดั ผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนวิชาวทิ ยาศาสตร์ 14 กระทรวงศึกษาธิการ (2542 : 4) ได้ระบุผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนไว้ในหนังสือประมวลศัพท์ พรรณี ชูทยั เจนจติ (2545 : 58) ให้ความหมายว่า ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนเปน็ คุณลกั ษณะ ผลสัมฤท ธิ์ท างการเรียน (Academic Achievement) ห มายถึง คุณ ลักษ ณ ะและ 1. การวัดด้านปฏิบัติ เป็นการตรวจสอบระดับความสามารถในการปฏิบัติหรือทักษะของผู้เรียน 2. การวัดด้านเนื้อหา เป็นการตรวจสอบความสามารถเกี่ยวกับเน้ือหาความรู้ (Content) อันเป็น จากท่ีกล่าวมาแล้วเกี่ยวกับผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน สรุปได้ว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หมายถึง 2. แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี น ทางการเรียนไว้ว่า “เป็นแบบทดสอบท่ีมุ่งวัดว่านักเรียนมีความรู้ หรือความสามารถท่ีเกิดจากการเรียน วรพจน์ นวลสกุล (2540 : 25) ได้กล่าวว่า
แบบทดสอบที่ใช้วัดผลสัมฤทธิ์ทาง การเรียน หมายถึง สมศักดิ์ สินธุระเวชญ์ (2542 : 34) ได้ให้ความหมายแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ว่าเป็นแบบทดสอบท่ี ชาตรี เกิดธรรม (2542 : 16) ได้ให้ความหมายของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธ์ิว่า หมายถึง 15 มากน้อยเพียงไร โดยท่ัวไปแล้วมักใช้วัดหลังจากทำกิจกรรมเรียบร้อยแล้วเพื่อประเมินการเรียนการสอนว่า จากที่กล่าวมาแล้วเก่ียวกับแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน สรุปได้ว่าแบบทดสอบวัดผล ความพึงพอใจ กบั ผลประโยชน์ทไี่ ด้รบั บุคคลท่ีมีต่อการทำงานหรือการปฏิบัติกิจกรรมการเรียนการสอน
และต้องการดำเนินกิจกรรมน้ัน ๆ วิวัฒน์ กุศล (2547 : 33) กล่าวว่า ความพึงพอใจ หมายถึง ความรู้สึกที่ดีหรือทัศนคติท่ีดีของ จากความหมายท่ีกล่าวข้างต้น สรุปได้ว่า ความพึงพอใจ หมายถึง ความรู้สึกนึกคิดของบุคคลที่มี 2. ทฤษฎีเก่ียวกับความพงึ พอใจ น้อย ขึ้นอยู่กับส่ิงจูงใจในการทำงานท่ีมีอยู่ การสร้างสิ่งจูงใจหรือแรงกระตุ้นให้เกิดกับผู้ปฏิบัติงานจึงเป็น สก็อตต์ (Scott. 1970 : 124) ได้เสนอแนวคิดในเร่ืองการจูงใจให้เกิดความพึงพอใจ ต่อการทำงานท่ี 1. งานควรมีสว่ นสัมพันธ์กบั ความปรารถนาสว่ นตัว งานนั้นจะมคี วามหมายสำหรับผ้ทู ำ 3. การประเมินผลความพงึ พอใจ ลักษณะภาพรวมของบทเรียนที่ไม่ซับซ้อน ซ่ึงเป็นการสอบถามความรู้สึก หรือความชอบเก่ียวกับบทเรียนที่ 16 พัฒนาข้ึน ซึ่งไม่มีเกณฑ์พิจารณาว่าควรสอบถามในประเด็นใดหรือ มีกรอบของประเด็นคำถามอย่างไร 1. แนวทางการประเมนิ ภาพรวมทัว่ ๆ ไป เช่น สอบถามเกีย่ วกับสว่ นนำเข้าส่วนประมวลผล 2. แนวทางการใช้ทฤษฎีประเมินผล เช่น อาจประยุกต์ใช้ CIPP Model หรือ Alkin การเก็บรวบรวมข้อมูลจะนิยมใช้แบบสอบถามมากกว่าการสัมภาษณ์ โดยการกระทำกับกลุ่ม ตัวอย่างท่ีเป็นผู้ท่ีใช้บทเรียนโดยตรง เพื่อประเมินความพึงพอใจหลังจากที่ทดลองใช้บทเรยี นแล้ว ผลที่ได้จาก การประเมินจะเป็นดัชนีบ่งชี้ความพึงพอใจของผู้เรียน สำหรับสถิติท่ีใช้ในการวิเคราะห์ความพึงพอใจท่ีได้จาก แบบสอบถาม จะใช้ค่าเฉลี่ย มัธยฐาน ฐานนิยมและส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน หรือใช้สถิติเปรียบเทียบความพึง พอใจของผูเ้ รียนแตล่ ะกลุ่มกไ็ ด้ แบบประเมินความพึงพอใจในการเรียนรูข้ องผู้เรียนมีลักษณะเป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า ซึ่งมี 5 ระดบั คอื พงึ พอใจมากทสี่ ุด พงึ พอใจมาก พงึ พอใจปานกลาง พึงพอใจน้อย พึงพอใจน้อยทสี่ ดุ โดยกำหนด เกณฑก์ ารประเมิน ดงั น้ี พงึ พอใจมากท่สี ดุ ใหค้ ะแนน 5 คะแนน พึงพอใจมาก ใหค้ ะแนน 4 คะแนน พึงพอใจปานกลาง ให้คะแนน 3 คะแนน พงึ พอใจน้อย ให้คะแนน 2 คะแนน พึงพอใจน้อยท่สี ุด ใหค้ ะแนน 1 คะแนน ค่าเฉลี่ยท่ีผู้เช่ียวชาญประเมินแต่ละข้อแล้วเทียบเกณฑ์การประเมิน โดยใช้เกณฑ์ การแ ปล ความหมายคะแนนของ Likert ดังน้ี 4.50 – 5.00 หมายถงึ มีความพงึ พอใจอยู่ในระดบั มากทส่ี ดุ 3.50 – 4.49 หมายถึง มีความพงึ พอใจอยู่ในระดับมาก 2.50 – 3.49 หมายถึง มคี วามพงึ พอใจอยู่ในระดับปานกลาง 1.50 – 2.49 หมายถงึ มคี วามพงึ พอใจอยใู่ นระดับน้อย ตำ่ กวา่ 1.50 หมายถงึ มีความพึงพอใจอยใู่ นระดบั น้อยทีส่ ุด จากหลักการทฤษฎีที่กล่าวมาข้างต้น จะเห็นว่าความพึงพ อใจในการเรียนรู้เป็นสิ่งสำคัญ 17 เช่น
ความรู้สึกต่อความสำเร็จที่เกิดข้ึน เพ่ือเอาชนะความยุ่งยากต่าง ๆ ทำให้เกิดความภาคภูมิใจความม่ันใจ งานวิจยั ทเ่ี ก่ียวขอ้ ง ในสถานศึกษา พบวา่ รูปแบบการเรียนด้วยบทเรียนการแสวงรบู้ นเวบ็ น้ีชว่ ยเพ่มิ คณุ ลักษณะที่พึงประสงค์ให้แก่ ปาณิสรา สิงหพงษ์ (2560) ได้ทำการศึกษาวิจัยในช้ันเรียน เร่ือง การจัดการเรียนรู้ผ่านบทเรียน กณิการ์ ปัญญาอ่ินแก้ว(2559) ได้ทำการศึกษาทำวิจัยในช้ันเรียน เรื่อง การพัฒนาบทเรียน 18 ปรีณาพรรณ พิมพ์พิศาล (2562) ได้ทำการศึกษาวิจัยในช้ันเรียน เร่ือง การพัฒนาบทเรียน กรอบแนวคิดในการวิจัย ตัวแปรอสิ ระ การจัดการเรียนร้ดู ว้ ยเน้ือหา ตัวแปรตาม อำนวยความสะดวกใน วทิ ยาศาสตร์ชีวภาพ สูงขึน้ ความพงึ พอใจตอ่ การจัดการเรียนรโู้ ดยใช้ผ่านเวบ็ ไซตด์ ้วย ภาพท่ี 16 กรอบแนวคิดในการวจิ ยั 19 บทที่ 3 การวิจัยน้ีผู้วิจัยมุ่งท่ีจะศึกษาเก่ียวกับการสร้าง Google site เพื่อเป็นเครื่องมือช่วยอำนวยความ 1. ประชากรและกลุม่ ตัวอย่าง/กลุม่ เป้าหมาย 1. ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง/กล่มุ เปา้ หมาย มงคล อำเภอหนองปรอื จงั หวดั กาญจนบุรี จำนวน 6 ห้องเรียน นักเรยี นจำนวน 186 คน • กลุม่ ตัวอย่างทใ่ี ชใ้ นการศึกษา 2. เครอ่ื งมอื ท่ีใช้ในการศกึ ษา 3. ขน้ั ตอนการสรา้ งเครอ่ื งมือ 20 2) แผนการจัดการเรียนรู้ ได้ศึกษาโครงสร้างหลักสูตร มาตรฐานการเรียนรู้ คำอธิบายรายวิชา 3) แบบประเมินความพึงพอใจ ได้ศึกษาทฤษฎีวิธีการสร้างแบบประเมินความพึงพอใจ สร้างแบบ 5 หมายถึง ความพงึ พอใจมากท่สี ดุ 4. วธิ ีการเกบ็ รวบรวมข้อมลู 5. การวเิ คราะห์ข้อมลู ในการวิเคราะห์ขอ้ มลู ผู้ศึกษาได้ดำเนินการดงั น้ี 1. ศึกษาผลของความพึงพอใจของนักเรียนท่ีมีต่อการใช้ Google site โดยการเก็บข้อมูลโดยใช้แบบ สำรวจความพึงพอใจแบบประเมินคา่ 5 ระดับ (Rating scale) ของลิเคิร์ท 2. ทดสอบหาคา่ T-Test โดยเปรยี บเทียบเทยี บกบั ค่า T-score เพอ่ื ทดสอบสมมตฐิ าน 3. คำนวณหาค่า เฉล่ีย และคา่ เบ่ยี งเบนมาตรฐาน โดยเปรยี บเทียบกบั เกณฑ์ ดงั นี้ ตารางท่ี 2 เกณฑก์ ารประเมินผลความพึงพอใจ ชว่ งค่าเฉลย่ี (ค่าเฉลีย่ ) ความหมาย 4.51 – 5.00 มีความพงึ พอใจมากท่ีสุด 3.51 – 4.50 มคี วามพงึ พอใจมาก 1.00 – 1.50 มีความพงึ พอใจน้อยทส่ี ุด ที่มา : บุญชม ศรสี ะอาด (2545 : 166 ) อ้างถึงใน (วันเพญ็ ศรีมะโรง และสมุ ัทนา รตั นกลุ ,2557) 21 6. สถติ ทิ ใ่ี ช้ในการวิเคราะหข์ อ้
มูล เมอื่ X หมายถึง คา่ เฉลี่ย 6.2 .ค่าเบย่ี งเบนมาตรฐาน (บุญชม ศรสี ะอาด, 2535, หน้า 103) เมอื่ S.D. หมายถึง สว่ นเบ่ียงเบนมาตรฐาน 6.3 การคำนวณ t-test dependent (บญุ ชม ศรีสะอาด, 2554) โดย t แทน คา่ t - distribution 2 แทน ผลรวมของความต่างกำลังสองของคะแนนสอบกอ่ นเรียนและหลังเรยี น 22 บทที่ 4 การวิจัยนี้ผู้วิจัยมุ่งที่จะศึกษาเกี่ยวกับการสร้าง Google site เพ่ือเป็นเคร่ืองมือช่วยอำนวยความ ตอนที่ 1 ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนในรายวิชา วิทยาศาสตร์ชีวภาพ ตอนที่ 2 ผลการศึกษาความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้ Google site เป็นเครื่องมือช่วย ผลการวิจยั เร่ือง การดำรงชีวิตของพืช ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/3 โรงเรียนประชามงคล ก่อนและหลังการจัด ตารางท่ี 3 ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนในรายวิชา วิทยาศาสตร์ชีวภาพ คะแนน จำนวน (n) คะแนนเตม็ คา่ เฉลีย่ ( X ) ค่ า เบี่ ย ง เบ น * มีนัยสำคัญทางสถิตทิ รี่ ะดับ 0.05 จากตารางท่ี 2 พบว่า ผลการเปรียบเทยี บผลสัมฤทธ์ทิ างการเรียนหลังไดร้ บั การจดั การเรียนรูส้ งู กว่า 23 ตอนที่ 2
ผลการศึกษาความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้ Google site เป็นเคร่ืองมอื ช่วยอำนวยความ ตารางท่ี 4 ความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้ Google site เป็นเครื่องมือช่วยอำนวยความ สะดวกในการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์ชีวภาพ เรอ่ื ง การดำรงชีวติ ของพืช ของนักเรียนชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 4/3 ข้อท่ี รายการประเมนิ ค่าเฉลี่ย S.D. ระดับความ ด้าน 1 คำแนะนำในการใช้บทเรียน X พึงพอใจ 1 มตี วั หนังสือ ขอ้ ความ บอกชดั เจน 3.85 0.79 มาก 2 คำแนะนำในบทเรียนสะดวกตอ่ การใช้ 3.87 0.82 มาก 3 คำแนะนำในบทเรียนช่วยให้เข้าใจวิธีการเรียนเพ่ือบรรลุ 3.66 0.96 มาก วตั ถปุ ระสงค์ 4 นักเรียนเข้าใจการใช้บทเรียนได้ด้วยตนเองโดยไม่ต้องมีผู้ 3.19 0.97 ปานกลาง แนะนำ คา่ เฉลี่ยรวม 3.64 0.89 มาก ด้าน 2 เน้อื หาในบทเรียน 1 เนือ้ หามีความเหมาะสมกบั นกั เรยี น 4.10 0.72 มาก 2 เนื้อหาทำให้นักเรียนสามารถเรียนได้ตามความแตกต่าง 3.56 1.00 มาก ระหวา่ งบคุ คล เชน่ เรยี นรชู้ า้ เรียนร้เู รว็ 3 ภาษาทใ่ี ชใ้ นบทเรียนเขา้ ใจงา่ ย 3.52 1.00 มาก 4 เนอ้ื หาในบทเรียนใหท้ ัง้ ความรู้และความเพลิดเพลนิ นา่ สนใจ 3.44 1.02 ปานกลาง 5 นักเรียนสามารถอ่านและทำความเข้าใจในเน้ือหาได้ด้วย 3.40 1.06 ปานกลาง ตนเอง 6 ความเหมาะสมของจำนวนข้อสอบและความยากง่ายของ 3.52 0.94 มาก ข้อสอบ 7 กิจกรรมในเนอื้ หามีความเหมาะสม 3.73 0.94 มาก คา่ เฉลีย่ รวม 3.61 0.94 มาก ตารางท่ี 4 (ตอ่ ) รายการประเมิน 24 ได้จรงิ ใหส้ ามารถมองเห็นได้ชัดเจน 3.86 0.95 มาก 25 จากตาราง 4 แสดงผลการศึกษาความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้ Google site เป็น ดา้ นที่ 1 คำแนะนำในการใชบ้ ทเรียน มีผแู้ นะนำ ( X = 3.19, S.D.= 0.97) ดา้ นที่ 2 เน้ือหาในบทเรยี น ด้านท่ี 3 การออกแบบบทเรยี น ดา้ นที่ 4 การเกบ็ บนั ทกึ ขอ้ มลู และการจดั การในบทเรยี น 26 บทท่ี 5 การวิจัยนี้ผู้วิจัยมุ่งที่จะศึกษาเกี่ยวกับการสร้าง Google site เพ่ือเป็นเคร่ืองมือช่วยอำนวยความ สรปุ ผลการวจิ ยั วทิ ยาศาสตรช์ ีวภาพ ของนักเรียนชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 4/3 ในการจดั การเรียนร้รู ปู แบบออนไลน์ ในชว่ งการแพร่ 1. ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน พบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในรายวิชา กอ่ นการจัดการเรยี นรู้ ( =5.23) และหลงั การจัดการเรียนรู้ ( =15.03) ซ่ึงผลสัมฤทธทิ์ างการเรยี นหลงั ไดร้ ับ 2. ผลการประเมินความพึงพอใจพบว่า
ผู้เรียนมีความพึงพอใจต่อการใช้ Google site เพื่อเป็น ระดับมาก ( = 4.40, S.D.= 0.76) รองลงมาคือ เนื้อหามีความเหมาะสมกับนักเรียน อยู่ในระดับมาก ( = 4.10, S.D.= 0.72) และบทเรียนมีใบกิจกรรมที่มีชีวิต
มีความน่าตื่นเต้น อยู่ในระดับมาก ( = 3.98, อภิปรายผลการวิจัย วทิ ยาศาสตรช์ ีวภาพ ของนักเรียนช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 4/3 ในการจดั การเรยี นรรู้ ูปแบบออนไลน์ ในชว่ งการแพร่ ผลการเปรียบเทียบผลสมั ฤทธ์ิทางการเรยี น พบวา่ ผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี นในรายวชิ า วิทยาศาสตร์ ชีวภาพ หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 เร่ือง การดำรงชีวิตของพืช ก่อนการจัดการเรียนรู้ ( =5.23) และหลังการ จัดการเรียนรู้ ( =15.03) ซ่ึงผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนหลังได้รับการจัดการเรียนรู้สูงกว่าก่อนได้รับการจัดการ 27 เรียนรู้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ซ่ึงสอดคล้องกับงานวิจัยของ เพชราวลัย ถิระวณัฐพงค์ (2556) ผลการประเมินความพึงพอใจ พบว่า ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการใช้ Google
site ข้อเสนอแนะ วทิ ยาศาสตรช์ ีวภาพ
ของนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ 4/3 ในการจดั การเรียนรรู้ ปู แบบออนไลน์ ในชว่ งการแพร่ 1. การสร้าง Google site เพื่อเป็นเครื่องมือช่วยอำนวยความสะดวกต่อการเรียนรู้ สามารถนำไป 2. ระบบอินเทอร์ควรมีความเร็ว 1.1 Mbps เป็นขั้นต่ำ เพ่ือไม่ให้เกิดปัญหาเวลานักเรียนเข้าสู่ 3. ตอ่ ยอดและเพ่มิ กจิ กรรมใหม้ ากขึ้น ใหน้ กั เรียนไดม้ ีพื้นทีก่ ารทำกิจกรรมบทโลกออนไลน์ 28 บรรณานุกรม กรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการ. (2545). คู่มือการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ กาญจนา อรณุ สุขรจุ .ี (2546). ความพึงพอใจของสมาชกิ สหกรณ์ต่อการดำเนินงานของสหกรณ์. และเขียนสำหรับนักเรียนขั้นมัธ ยมศึกษาปีที่ 5. การศึกษาค้นคว้าด้วยตน เอง กศ.ม. 29
ส่งเสริมศักยภาพการเรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์ วิทยานิพนธ์สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์ 30 ภาคผนวก 31 ตารางท่ี 5 การเปรยี บเทียบผลสัมฤทธทิ์ างการเรยี นก่อนเรียนและหลงั เรียน คนที่ คะแนนก่อนเรียน คะแนนหลังเรยี น ผลตา่ ง (ผลตา่ ง)2 16 5 12 7 17 4 17 13 18 6 14 8 19 5 18 13 20 7 20 13 21 8 15 7 22 4 16 12 23 6 17 11 24 6 11 5 25 3 11 8 26 3 20 17 27 8 15 7 28 5 12 7 29 4 18 14 32 คนท่ี คะแนนกอ่ นเรยี น คะแนนหลังเรยี น ผลตา่ ง (ผลต่าง)2 35 3 รวม 183 เฉลี่ย 5.23 S.D. 1.56 สมมติฐานในการวิจัยคือ พบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในรายวิชาวิทยาศาสตร์ชีวภาพ ขัน้ ที1่ การตง้ั สมมตฐิ านหลักและสมมตฐิ านรอง โดย คือ คะแนนสอบก่อนเรียน จากสมการ 33 ขนั้ ท่ี 2 เปิดตารางหาค่าวกิ ฤตของ t (บญุ ชม ศรีสะอาด, 2554) เมือ่ df = n-1 (n คือจำนวนนักเรยี นเท่ากบั 35 คน) จะไดว้ ่า df = 35 – 1 ดงั นน้ั df = 34 ระดับนัยสำคัญที่ .05 และเป็นกรณี Dependent Sample พบว่าค่าวิกฤติของ t จากตาราง ข้ันที่ 3 เปรียบเทียบค่า t ที่คำนวณได้จากข้ันที่ 1 คือ 23.06 กับค่าวิกฤตของ t จากตาราง คือ 1.6909 ค่า t ท่ีคำนวณได้มีค่ามากกว่าค่าวิกฤตของ t จึงปฏิเสธสมมติฐานหลักท่ีว่า H0 : และยอมรับ สมมตฐิ านตรงขา้ มท่ีว่า H1: > นน่ั คอื ค่าเฉลี่ยหลงั เรียนมีคา่ มากกว่าค่าเฉล่ยี ก่อนเรียน สรปุ ได้วา่ ผลการสอนโดยใช้ Google site เพื่อเป็นเครอ่ื งมือช่วยอำนวยความสะดวกต่อการเรียนรู้ 34 ตารางแจกแจงค่า t 35 ตัวอยา่ งการสร้าง Google site เพอ่ื เปน็ เครอื่ งมือชว่ ยอำนวยความสะดวกต่อการเรยี นร้รู ายวชิ าวิทยาศาสตร์ 36 |