เงินเดือน ไม่ พอใช้ ทํา ไง ดี

เชื่อว่าปัญหาของมนุษย์เงินเดือนหลายคนก็คือ เงินเดือนไม่พอใช้ หมุนเงินไม่ทัน จนเกิดเป็นหนี้สินเยอะมากและจ่ายไม่ไหว และสุดท้ายต้องไปหยิบยืมหรือกู้เงินเพื่อมาโปะหนี้ก้อนนั้น แต่ก็กลายเป็นหนี้อีกก้อน วนเวียนไม่จบไม่สิ้น ถ้าอยากหลุดพ้นจากวงจรนี้ มาดูกันดีกว่าว่ามีแนวทางการแก้ปัญหาอย่างไรบ้าง

แนวทางการหมุนเงินเมื่อเงินเดือนไม่พอใช้

1. ลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น

สิ่งแรกที่ต้องมาสำรวจเวลาเกิดหนี้สิน หรือเงินเดือนไม่พอใช้ หมุนเงินไม่ทัน คือ พฤติกรรมการใช้จ่ายของตนเอง โดยสำรวจดูว่าชอบใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ซื้อสิ่งของมาแล้วไม่ได้ใช้งานให้เกิดประโยชน์หรือไม่ ถ้าพบก็ให้ตัดรายจ่ายด้านนั้นทันที และสำรวจดูด้วยว่าสามารถลดรายจ่ายอะไรในชีวิตประจำวันได้บ้าง เช่น การกินข้าวนอกบ้าน การขึ้นรถแท็กซี่บ่อยๆ การซื้อเสื้อผ้า เครื่องสำอาง เป็นต้น วิธีการลดรายจ่ายคือ ลองเปลี่ยนมาทำกับข้าวกินเองหรือเลือกร้านที่ราคาถูกลง ใช้บริการรถขนส่งสาธารณะเพื่อลดรายจ่าย ลดการช้อปปิ้งต่างๆ ซื้อเฉพาะเท่าที่จำเป็น

2. ถอนเงินออม

ใครที่มีเงินออมแล้วตั้งใจไว้ว่าถ้าไม่ฉุกเฉินจริงๆ จะไม่นำออกมาใช้เด็ดขาด ซึ่งตอนที่หมุนเงินไม่ทัน เงินเดือนไม่พอใช้นี่แหละ ถือเป็นสถานการณ์ฉุกเฉินอย่างหนึ่ง ไม่จำเป็นต้องรอให้เจ็บป่วยหรือเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันถึงค่อยถอนเงินออมออกมาใช้ เพราะถ้าไม่มีเงินเราก็จะไปกู้หนี้ยืมสินมาเพิ่ม แถมต้องเสียดอกเบี้ยภายหลัง หรือใครมีหนี้อยู่แล้วก็กลายเป็นสร้างหนี้เข้าไปอีกต่างหาก

3. กดเงินจากบัตรเงินสด

ถ้าต้องการเบิกเงินสดมาใช้หนี้ ไม่ควรเลือกกดเงินสดจากบัตรเครดิต เพราะมีค่าธรรมเนียมการกดเงินสดด้วย ให้เลือกบัตรกดเงินสดเพราะไม่มีค่าธรรมเนียมการกดเงิน และไม่กำหนดวงเงินขั้นต่ำ ข้อควรระวังคืออัตราดอกเบี้ยที่สูง แต่ก็นับว่ายังดีกว่าไปกู้นอกระบบที่ดอกเบี้ยแพงกว่า และถ้าชำระหนี้บัตรกดเงินสดได้เร็วก็จะเสียดอกเบี้ยน้อยลงเพราะคิดดอกเบี้ยเป็นรายวัน (อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับบัตรกดเงินสด)

4. จำนำทอง

ใครที่มีทรัพย์สินเป็นทอง ให้นำทองไปจำนำที่ร้านทองหรือที่เรียกว่าขายฝากทองหรือไปที่โรงรับจำนำ ซึ่งการจำนำทองคือการใช้ทองเป็นหลักประกันในการกู้ยืม แต่อาจจะได้ราคาต่ำกว่าราคาทองในขณะนั้นเพราะถือว่าเป็นทองที่ผ่านการใช้งานมาแล้ว โดยการจำนำต้องจ่ายดอกเบี้ยทุกเดือนจนกว่าจะครบกำหนดไถ่ถอน แต่ก็ถือว่ามีอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าบัตรเครดิตหรือการกู้ยืมประเภทอื่นๆ รายวัน (อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจำนำทอง)

5. จำนำทะเบียนรถ

ใครที่มีรถยนต์เป็นทรัพย์สินและผ่อนหมดแล้ว สามารถใช้ทะเบียนรถยนต์เป็นหลักประกันในการกู้เงินได้ โดยเงินที่กู้ได้จะประเมินตามอายุของรถซึ่งไม่เกิน 20 ปี ถ้ารถอายุการใช้งานน้อยก็จะได้วงเงินสูงขึ้น ส่วนข้อดีคือไม่ต้องโอนเล่มทะเบียนรถยนต์ เรายังสามารถใช้รถยนต์ทำธุระต่างๆ ได้ระหว่างจำนำทะเบียนรถ ได้เงินกู้เร็วมากเทียบกับสินเชื่อประเภทอื่นๆ และอัตราดอกเบี้ยน้อยกว่าดอกเบี้ยบัตรเครดิต (อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจํานําทะเบียนรถ)

6. ขอประนอมหนี้

ถ้าเป็นหนี้แล้วผ่อนต่อไม่ไหว อย่างแรกที่ต้องทำคือแสดงตัวกับธนาคารหรือสถาบันการเงินเพื่อขอประนอมหนี้ เพราะถ้าปล่อยไว้ดอกเบี้ยอาจบานปลายและอาจถูกฟ้องร้องได้ในที่สุด จากนั้นผู้เป็นหนี้ต้องวางแผนชำระหนี้ร่วมกับธนาคาร เช่น ขยายเวลาผ่อนชำระ ลดจำนวนเงินผ่อนชำระในแต่ละงวด เป็นต้น ซึ่งไม่ต้องกังวลไปว่าธนาคารจะไม่ยินดีให้ความช่วยเหลือ เพราะธนาคารเองก็อยากได้เงินคืนและไม่ต้องการให้เรื่องถึงศาลเช่นกัน

7. ขายของมือสอง

ถ้าเป็นเมื่อก่อน การเช่าที่ในตลาดนัดแล้วเปิดท้ายขายของคงเป็นทางเลือกที่ดีอย่างหนึ่ง แต่ปัจจุบันมีแพลตฟอร์มออนไลน์ที่สามารถลงขายสินค้ามือสองได้ง่ายๆ เช่น Marketplace และ กรุ๊ปต่างๆ ใน Facebook หรือจะไลฟ์สดใน Facebook ขายของก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน ตลอดจนการโพสขายใน Social Media ของตัวเองอย่าง Twitter, Instagram การขายของแบบนี้ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาไปนั่งขายโดยไม่รู้ว่าจะขายได้คุ้มทุนกับค่าเช่าที่ในแต่ละวันหรือไม่ด้วย

8. หารายได้เสริม

หลังจากทำทุกอย่างแล้ว เราก็ต้องหารายได้เสริมจากเงินเดือนประจำเพื่อนำมาใช้จ่ายด้วย แต่ควรมองหาสิ่งที่ไม่ต้องใช้เงินลงทุนเพราะเสี่ยงต่อการขาดทุน และกลายเป็นว่าเพิ่มหนี้ขึ้นมาอีกก้อน ซึ่งการหารายได้เสริมที่แนะนำก็เป็นงานใช้ความสามารถของตัวเอง เช่น การเป็นติวเตอร์ การเป็นพนักงาน Part-time การขายภาพออนไลน์ การรับแปลบทความ รับเขียนบล็อกออนไลน์ หรือสร้างบล็อกหรือแชแนลวิดีโอของตัวเองให้มียอดผู้ติดตามเยอะๆ เพื่อรอรับโฆษณาเข้า เป็นต้น  (อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับการหารายได้เสริม)

สิ่งสำคัญหลังจากปลดหนี้สำเร็จ หรือกลับมาหมุนเงินได้ทันจนมีเงินพอใช้จ่าย คือการปรับพฤติกรรมการใช้เงินของตนเอง เพราะถ้ายังทำพฤติกรรมเหมือนเดิม ก็จะกลับมาเป็นหนี้เหมือนเดิม มีเงินเดือนเท่าไหร่ก็ไม่พอใช้ และต้องดิ้นรนหาทางหมุนเงินหรือหาทางปลดหนี้ไม่จบไม่สิ้น ดังนั้นถ้าอยากให้วงจรการเป็นหนี้สินนี้จบลง ต้องมีวินัยในตัวเองให้มาก และรู้จักเก็บออมเงินให้เป็น

ปัญหาเงินเดือนไม่พอใช้คงจะกลายเป็นปัญหาสามัญประจำตัวของผู้คนยุคใหม่อย่างสุดๆ! เพราะไหนจะต้องจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าบัตรเครดิต ค่านู้นค่านี่ จนสุดท้ายแทบจะไม่เหลือเงินเก็บ ทำให้หลายๆ คนเกิดความเครียดว่าจะทำยังไงให้ปัญหาเงินเดือนไม่พอใช้หมดไปจากชีวิตสักที ซึ่งบอกเลยว่าคุณมาถูกทางแล้ว

เพราะในบทความนี้ เราได้รวบรวม 8 วิธีที่จะหยุดปัญหาเงินเดือนไม่พอใช้มาฝาก! โดยแต่ละวิธีที่เราหยิบยกมานั้น มันสามารถทำได้จริงๆ ไม่ใช่เพียงแค่ทฤษฏีขายฝันแบบทั่วไป อีกทั้ง 8 วิธีที่เรากำลังจะกล่าวถึง มันจะเป็นตัวช่วยสำคัญให้คุณมีเงินเก็บอีกด้วย! เกริ่นมาขนาดนี้แล้วอย่ามั่วแต่เสียเวลา เราไปพบกับวิธีหยุดปัญหาเงินเดือนไม่พอใช้กันได้เลย!

สารบัญ

1.วางแผนทางการเงินให้เป็นระบบ

ปัญหาเงินเดือนไม่พอใช้คงจะไม่ใช่ปัญหาใหญ่ในชีวิตของคุณอีกต่อไป ถ้าคุณได้ลองจัดการวางแผนทางการเงินให้เป็นระบบระเบียบ! ซึ่งการวางแผนทางการเงินนั้น จะช่วยให้คุณเห็นรายรับ-รายจ่าย ที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ซึ่งพอคุณเห็นภาพทางการเงินที่เป็นรูปเป็นร่างแล้ว การวางแผนก็จะง่ายขึ้นเป็นเท่าตัว ว่าเดือนๆ หนึ่งคุณเสียเงินไปกับค่าใช้จ่ายอะไรมากที่สุด แล้วสามารถลดค่าใช้จ่ายพวกนั้นลงได้หรือไม่ ? ซึ่งถ้าไม่ได้คุณก็จะเริ่มมองหารายได้เสริมเข้ามาทดแทน โดยทั้งหมดทั้งมวลนี้จะช่วยให้การเงินของคุณดีขึ้นได้อย่างไม่น่าเชื่อเลยล่ะ

2.เริ่มเก็บเงินทีละเล็กละน้อย

ถ้าเงินเดือนของคุณไม่ได้มีมากถึงขนาดที่ว่าจะแบ่งเก็บได้เป็นก้อน คุณอาจจะเริ่มเก็บเงินทีละเล็กละน้อย สะสมไปเรื่อยๆ เช่น เงินเดือนของคุณออกมา 15,598 บาท คุณก็อาจจะแบ่งเก็บ 598 บาท เดือนต่อไปเงินเดือนออกมา 15,632 คุณก็อาจจะแบ่งเก็บ 632 บาท ซึ่งถ้าทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ ครบ 1 ปี คุณจะมีเงินเก็บหลายพันบาทเลยล่ะ! อีกทั้งเงินเก็บก้อนนี้จะไม่เข้าไปเบียดเบียนหรือสร้างความเดือดร้อนให้คุณอย่างแน่นอน

แต่! คุณต้องห้ามใจตัวเองให้ได้ ว่าอย่านำเงินเก็บก้อนนี้อย่ามาใช้อย่างเด็ดขาด โดยอาจจะเปิดบัญชีสะสมทรัพย์เพื่อเก็บเงินก้อนนี้ไว้โดยเฉพาะ ซึ่งวิธีการเก็บเงินแบบนี้จะส่งผลดีต่ออนาคตของคุณ 100%

3.วางแผนการชำระหนี้สินอย่างเป็นระบบ

ปัญหาเงินเดือนไม่พอใช้ส่วนหนึ่งอาจจะมาจากหนี้สินที่คุณจะต้องจ่ายอยู่เป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าบ้าน ค่าโทรศัพท์ ค่าบัตรเครดิต ฯลฯ ซึ่งแน่นอนว่าคุณไม่สามารถหลีกเลี่ยงหนี้พวกนี้ได้ แต่! คุณสามารถวางแผนการชำระหนี้อย่างเป็นระบบได้ โดยถ้าเป็นหนี้สินที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิต เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ก็ให้คุณประมาณการไว้ว่าจะชำระในช่วงเวลาไหน หักแบ่งออกจากเงินทันทีหลักจากได้รับเงินเดือนมา

ส่วนพวกค่าบัตรเครดิต คุณอาจจะต้องเร่งปิดหนี้ให้เร็วที่สุด หรือทางที่ดีปิดบัตรเครดิตไปเลย! เพราะผู้คนส่วนใหญ่มักจะมีความคิดว่า รูดไปก่อน สิ้นเดือนเดี๋ยวค่อยจ่าย โดยความคิดประเภทนี้จะทำให้คุณต้องพบเจอกับปัญหาเงินเดือนไม่พอใช้ หมุนเดือนชนเดือนอยู่เป็นประจำ ดังนั้นใครที่มีหนี้บัตรเครดิตอยู่ ก็เร่งหาเงินและทำการปิดมันซะ!

4.ลองเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ในชีวิต!

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ! ว่าผู้ที่มีปัญหาเงินเดือนไม่พอใช้นั้น มักจะไม่ค่อยรู้ตัวว่าทำไมเงินเดือนที่ได้มาถึงไม่พอใช้สักที ทั้งๆ ที่ก็ไม่ได้ซื้อของที่ไร้สาระ ซึ่งที่เป็นแบบนั้นก็เพราะว่าความเคยชินในการใช้ชีวิตต่างๆ ทำให้คุณหมดเงินไปอย่างไม่รู้ตัว ดังนั้นให้คุณลองทบทวนพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันให้ดี ว่ามีจุดไหนบ้างที่ทำให้ค่าใช้จ่ายรายเดือนของคุณสูงขึ้น เช่น นิสัยการดื่มกาแฟ ที่แก้วหนึ่งตก 65 บาท ก็ลองให้เอา 65 * 30 วัน ก็จะเป็นเงิน 1,950 บาท ซึ่งถ้าคุณเลิกดื่มกาแฟได้ คุณก็จะมีเงินเก็บเพิ่มขึ้น 1,950 บาท

แต่ถ้าคุณไม่สามารถเลิกดื่มได้จริงๆ ก็อาจจะมองหากาแฟที่ราคาถูกลงประมาณ 30 บาท คุณก็จะมีเงินเก็บไว้ใช้เพิ่มขึ้นประมาณ 1,000 บาทเลยทีเดียว หรือโปรค่าโทรศัพท์มือถือจากที่ใช้เดือนละ 899 บาท ก็อาจจะลดลงมาเหลือ 399 บาท นี่เป็นวิธีง่ายๆ ที่จะทำให้คุณมีเงินใช้จ่ายต่อเดือนเพิ่มมากขึ้นจากเดิมนั่นเอง

5.แบ่งเงินใช้เป็นวันๆ

บางคนพกเงินติดตัวทีละเยอะๆ พอควักมาจ่ายที ก็เพลิน! จนสุดท้ายก็กลายเป็นคนถังแตกในยามสิ้นเดือน และวิธีแก้ไขปัญหานี้แบบง่ายๆ เลยคือ ให้คุณพกเงินไปใช้ในแต่ละวันอย่างจำกัด โดย 1 วัน ให้คุณพกเงินไปทำงานให้พอต่อการใช้ชีวิต เช่น ค่ารถ 100 ค่าอาหาร 100 ค่าจิปาถะ 50 ก็รวมเป็น 250 ต่อวัน ซึ่งวิธีการแบบนี้จะช่วยให้คุณวางแผนการใช้จ่ายเงินได้อย่างเป็นระบบมากยิ่งขึ้น และมันจะช่วยลดปัญหาเงินเดือนไม่พอใช้ได้อย่างแน่นอนเลยล่ะ

6.ประหยัดให้มากขึ้น!

แม้ว่าจะดูเหมือนง่ายแต่หลายๆ คนก็ยังไม่สามารถทำได้เช่นกัน โดยการประหยัดให้มากขึ้นนั้น มันเป็นเรื่องใกล้ตัว แต่สามารถช่วยให้คุณมีเงินเหลือกินเหลือใช้ได้อย่างไม่น่าเชื่อจากเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ไม่ว่าจะเป็นการปิดไฟดวงที่ไม่จำเป็น การปิดน้ำในขณะที่แปรงฟันอยู่ การซื้อกับข้าวมาทำกินเอง หรือการเลือกซื้อของลดราคา สิ่งต่างๆ เหล่านี้ ดูเป็นเรื่องผิวเผิน แต่ถ้าคุณใส่ใจและตั้งมั่นว่าจะประหยัดค่าใช้จ่าย มันก็จะสามารถทำให้คุณไม่ต้องพบเจอกับปัญหาเงินเดือนไม่พอใช้ได้เป็นอย่างดีเลยล่ะ

7.หารายได้ให้มากขึ้นจากเดิม

บอกได้เลยว่าวิธีนี้ เป็นหัวใจหลักสำหรับการแก้ปัญหาเงินเดือนไม่พอใช้ได้เป็นอย่างดี เพราะเมื่อเงินเดือนไม่พอใช้ ค่าใช้จ่ายต่างๆ ก็ไม่สามารถลดทอนลงมาได้ ทางออกสุดท้ายคือคุณต้องหารายได้เพิ่มขึ้นจากเดิม! ซึ่งในปัจจุบันนี้งานพิเศษหรืองานเสริมที่สามารถทำนอกเวลางานมีอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการเขียนบทความ การรับงานฟรีแลนซ์ การทำขนมขาย เป็นยูทูปเบอร์ ทำธุรกิจออนไลน์ เป็นต้น

โดยการหารายได้เสริมจะช่วยเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินของคุณได้เป็นอย่างดี อีกทั้งคุณยังใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์อีกด้วย มีแต่ได้กับได้แบบนี้คงไม่ต้องแปลกใจเลยว่าทำไม ผู้ที่ทำงานเสริม มักจะไม่ค่อยพบเจอกับปัญหาเงินเดือนไม่พอใช้

8.ลดอบายมุขรอบตัว

ผู้ที่ชอบปาร์ตี้เป็นชีวิตจิตใจหลายๆ คน คงจะต้องพบเจอกับปัญหาเงินเดือนไม่พอใช้ ซึ่งถามว่าแปลกไหม ? เราบอกเลยว่าไม่แปลก! เพราะเมื่อเงินเดือนออกมาทีไร คุณก็เอาไปใช้จ่ายค่าเครื่องดื่ม ค่ามิกซ์เซอร์จนหมด ยิ่งถ้าเมาได้ที่ด้วยแล้ว บางคนก็จะแปลงร่างเป็นสายเปย์ พอสร่างขึ้นมาก็ลมแทบจับ! เพราะใช้จ่ายเงินไปอย่างไม่มีสติ ดังนั้นถ้าเลิกได้ก็เลิก! ถ้าลดได้ก็ลด! เพื่อที่คุณจะได้ไม่ต้องเจอกับปัญหาเงินเดือนไม่พอใช้

แต่! ถ้าเลิกไม่ได้จริงๆ ก็อาจจะเริ่มต้นจากการลดปาร์ตี้ลง จากอาทิตย์ละ 3-4 วัน ให้เหลือสักอาทิตย์ละ 1 วัน ซึ่งถ้าคุณทำได้ รับรองเลยว่าคุณจะมีเงินเอาไปใช้จ่ายอย่างอื่นได้อีกเยอะเลยล่ะ

เพียงแค่คุณใน 8 วิธีข้างต้นไปปรับประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน ปัญหาเงินเดือนไม่พอใช้ก็จะค่อยๆ หมดไปจากชีวิตของคุณอย่างแน่นอน ซึ่งทั้ง 8 วิธีนั้น ได้มีการพิสูจน์มาแล้วว่ามันสามารถหยุด! ปัญหาใช้เงินแบบเดือนชนเดือนได้จริงๆ แต่สิ่งที่จะทำให้ทั้ง 8 วิธีประสบความสำเร็จได้อย่างงดงาม ก็คงจะหนี้ไม่พ้นตัวของคุณเอง ที่ต้องอดทนและฝึกระเบียบวินัยในการใช้จ่ายเงินอย่างเป็นระบบ

เพื่ออย่างน้อยๆ คุณจะได้มีเงินในบัญชีติดตัวเอาไว้ใช้จ่ายในยามฉุกเฉิน เพราะฉะนั้นแล้วใครที่กำลังประสบกับปัญหาเงินเดือนไม่พอใช้ อย่าลืมนำ 8 วิธีที่เรากล่าวไปนั้น ไปลองใช้ดู แล้วคุณจะรู้ว่าอิสระทางการเงิน มันไม่ได้อยู่ไกลเกินเอื้อมเลย ถ้าคุณตั้งใจที่จะทำมันจริงๆ!

GeLending.com

Gelending.com เว็บไซต์การเงินส่วนบุคคล ทั้งการเงินปัจจุบัน และ Cryptocurrencies ก่อตั้งขึ้นปี 2020 เกี่ยวกับเรา