คนไทยยังออมเงินด้วยวิธีการฝากเงินไว้ในบัญชีธนาคารเป็นหลัก เพราะเรียนรู้มาจากบรรพบุรุษรุ่นต่อรุ่นจนเกิดความเคยชิน และรู้ว่าเงินต้นไม่หายได้รับดอกเบี้ยครบตามที่ตกลงไว้จนเกิดความรู้สึกอุ่นใจ แต่การฝากเงินไว้ในบัญชีธนาคารอาจทำให้พลาดโอกาสได้รับผลตอบแทนที่ดีกว่าจากการออมเงินรูปแบบอื่นนะครับ Show "สมัยนี้มีช่องทางใช้เงินอนาคตมากมายเพื่อซื้อสินค้าและบริการที่เรา ยังมีเงินไม่พอ ... เราจึงควรใช้เงินอนาคตอย่างรอบคอบในสิ่งที่จำเป็นและรู้ตัวว่าสามารถชำระคืนได้" หลังจากประเทศไทยผ่านวิกฤตเศรษฐกิจครั้งร้ายแรง ที่เรียกขานกันว่า “วิกฤติต้มยำกุ้ง” อัตราดอกเบี้ยเงินฝากทยอยปรับลดลงจนอยู่ในระดับต่ำเป็นเวลายาวนานถึงปัจจุบัน สวรรค์ของนักออมเงินก็หมดลงเพราะอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำทั่วไปเหลือไม่เกิน 3% ต่อปี โดยเฉพาะอัตราดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ทั่วไปเหลือนิดเดียวแต่เป็นบัญชีที่คนไทยนิยมฝากเงินมากที่สุด ทำให้มูลค่าเงินออมที่แท้จริงแทบไม่เพิ่มขึ้นเลย นอกจากต้องเจอกับภาวะอัตราดอกเบี้ยเงินฝากต่ำแล้ว ยังต้องเผชิญกับศัตรูการออมเงิน ที่มีชื่อว่า “เงินเฟ้อ” ทำให้ค่าของเงินออมลดลงจากการที่สินค้าและบริการมีราคาสูงขึ้น โดยเฉพาะรายการใช้จ่ายค่าอาหาร ค่าเดินทาง ค่าบ้าน และค่ารักษาพยาบาล ราคาแพงขึ้นมาก ดังนั้นเราจึงควรหาวิธีออมเงินรูปแบบอื่นที่ให้ผลตอบแทนชนะเงินเฟ้อและรับความเสี่ยงได้ เคล็ดลับออมเงิน เก็บเก่งรวยเร็ว” เพื่อสามารถนำแนวคิดนี้ไปใช้ให้เกิดผลประโยชน์สูงสุด 1. จงมีอัตราการออมเป็นบวกและเพิ่มขึ้นเรื่อยๆสูตรคำนวณ “อัตราการออม = (1 – ค่าใช้จ่าย/รายได้) x 100” ตัวอย่างเช่น นาย เอ มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน 30,000 บาทและค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อเดือน 20,000 บาท เท่ากับมีอัตราการออมอยู่ที่ 33% หลังจากนั้นอีก 5 ปี นาย เอ มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน 50,000 บาทและค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อเดือน 45,000 บาท เท่ากับมีอัตราการออมอยู่ที่ 10% ดังนั้น นาย เอ มีอัตราการออมเป็นบวก เพราะมีความสามารถหารายได้ทันกับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น แต่อัตราการออมลดลงจาก 33% เหลือ 10% เป็นสัญญาณที่ไม่ดี หากปล่อยไว้นาน นาย เอ อาจเป็นคนที่มีรายได้ดีแต่แทบไม่มีเงินออมเพิ่มเลย ข้อแนะนำเพิ่มเติม การคำนวณรายได้ควรใช้รายได้สุทธิหลังหักภาษีเงินได้ จึงควรศึกษาวิธีการลดหย่อนภาษีอย่างถูกต้อง และการคำนวณค่าใช้จ่ายควรคิดเฉพาะเงินที่ใช้เพื่อการบริโภคเท่านั้น ไม่รวมเงินที่ใช้ในการออมและลงทุน เพื่อให้เห็นอัตราการออมที่แท้จริงครับ 2. จงจัดสรรเงินออมให้เหมาะสมแบ่งกองเป็น “เงินออมทั้งหมด = เงินเพื่อใช้จ่าย + เงินเผื่อฉุกเฉิน + เงินเพื่อลงทุน” เงินออมแต่ละกองมีหน้าที่แตกต่างกัน “กองแรก เงินออมเพื่อใช้จ่าย” มีหน้าที่สร้างสภาพคล่องและมีเงินใช้ตามที่เราต้องการ ดังนั้นต้องสามารถเข้าถึงเงินกองนี้ได้ทันที โดยปกติควรมีปริมาณให้เพียงพอกับค่าใช้จ่ายอย่างน้อย 3 เดือน “กองสอง เงินออมเผื่อฉุกเฉิน” มีหน้าที่เสริมสภาพคล่องในช่วงที่มีความต้องการใช้เงินเกินปกติ ดังนั้นต้องสามารถเข้าถึงเงินกองนี้ได้ไม่นานนัก โดยปกติควรมีปริมาณให้เพียงพอกับค่าใช้จ่ายอย่างน้อย 3 เดือน “กองสุดท้าย เงินออมเพื่อลงทุน” มีหน้าที่สร้างผลตอบแทนที่ดี ดังนั้นต้องเป็นเงินเย็นสามารถนำไปลงทุนได้นาน โดยนำไปลงทุนในสิ่งที่ตนเองรู้ลึกรู้จริงและรับความเสี่ยงได้ 3. จงจัดสมดุลการออมในปัจจุบันและอนาคตสมัยนี้มีช่องทางใช้เงินอนาคตมากมายเพื่อซื้อสินค้าและบริการที่เรายังมีเงินไม่พอ เช่น บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด สินเชื่อรถยนต์ สินเชื่อที่อยู่อาศัย สินเชื่อนอกระบบ เป็นต้น ซึ่งอนาคตต้องจ่ายเงินต้นคืนพร้อมดอกเบี้ยก็นำมาจากเงินออมในอนาคตของคุณนั่นเอง เราจึงควรใช้เงินอนาคตอย่างรอบคอบในสิ่งที่จำเป็นและรู้ตัวว่าสามารถชำระคืนได้ ขอยกตัวอย่าง บ้านพักอาศัยเป็นการใช้จ่ายเงินมากที่สุดในชีวิต ทาวน์โฮมใหม่ 3 ชั้นในเขตกรุงเทพชั้นกลางราคาขยับจากหลังละ 3 ล้านบาท เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเป็น 5 ล้านบาท ภายในระยะเวลา 5 ปีเท่านั้น ดังนั้นหากรอเก็บเงินให้ครบแล้วค่อยซื้อน่าจะต้องใช้เงินมากกว่า คนส่วนใหญ่จึงเลือกใช้บริการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อให้เป็นเจ้าของบ้านได้ในราคาปัจจุบัน แต่ก็มีบางคนวางแผนผิดการเงินสะดุดไม่สามารถผ่อนบ้านต่อไปได้ การจัดสมดุลเงินออมในปัจจุบันและอนาคตจึงเป็นเรื่องสำคัญต้องจัดการให้เหมาะสมกับคุณเอง 4. จงเรียนรู้การออมเงินรูปแบบอื่นรู้หรือไม่ว่าช่องทางการออมมีมากกว่าการฝากเงินในบัญชีธนาคาร มีหลายช่องทางที่ให้ผลตอบแทนดีกว่าและมีความเสี่ยงอยู่ในระดับต่ำ ผมขอเสนอ 4 รูปแบบการออมที่น่าสนใจ 4.1 กองทุนรวมตราสารหนี้ คือ การลงทุนในกองทุนรวมที่นำเงินเราไปลงทุนในตราสารหนี้ เช่น พันธบัตร ตั๋วเงินคลัง บัตรเงินฝาก ตั๋วสัญญาใช้เงิน ตั๋วแลกเงิน หุ้นกู้ เป็นต้น ซึ่งนโยบายชัดเจนไม่ลงทุนในตราสารหุ้นที่มีความเสี่ยงสูงกว่า โดยกองทุนตราสารหนี้ซื้อขายได้ทุกวันมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่มากกว่าการฝากเงินขึ้นอยู่กับนโยบายการลงทุนของแต่ละกองทุนและได้รับการยกเว้นไม่ต้องเสียภาษี "ช่องทางการออมมีมากกว่าการฝากเงินในบัญชีธนาคาร มีหลายช่องทางที่ให้ผลตอบแทนดีกว่าและมีความเสี่ยงอยู่ในระดับต่ำ" 4.2 หุ้นกู้บริษัทเอกชน คือ การลงทุนในตั๋วสัญญาใช้เงินระยะยาวที่ออกโดยบริษัทเอกชนที่ต้องการกู้ยืม โดยปกติซื้อขายผ่านธนาคารพาณิชย์ที่ได้รับการจัดตั้งเป็นตัวแทน ผลตอบแทนที่ได้รับเป็นดอกเบี้ยกู้ยืมตามที่หุ้นกู้ระบุไว้ มักขึ้นอยู่กับความน่าเชื่อถือของบริษัทที่ต้องการกู้ยืม ระยะเวลาครบกำหนด และอัตราดอกเบี้ยตลาด 4.3 พันธบัตรรัฐบาล คือ การลงทุนในตราสารหนี้ระยะยาวที่รัฐบาลโดยกระทรวงการคลังเป็นผู้ออก โดยปกติซื้อขายผ่านธนาคารพาณิชย์ที่ได้รับการจัดตั้งเป็นตัวแทน ผลตอบแทนที่ได้รับเป็นดอกเบี้ยกู้ยืมตามที่พันธบัตรรัฐบาลระบุไว้ มักขึ้นอยู่กับระยะเวลาครบกำหนด และอัตราดอกเบี้ยตลาด จัดว่ามีความเสี่ยงน้อยกว่าหุ้นกู้บริษัทเอกชน 4.4 ประกันชีวิตที่เน้นการออมทรัพย์ คือ การลงทุนในประกันชีวิตที่มีรูปแบบกรมธรรม์เน้นผลตอบแทนมากกว่าความคุ้มครอง โดยปกติซื้อขายผ่านธนาคารพาณิชย์หรือตัวแทนประกันชีวิต ผลตอบแทนได้รับเป็นไปตามที่กรมธรรม์ระบุไว้ และหากมีระยะเวลาคุ้มครองครบ 10 ปีขึ้นไปสามารถนำค่าเบี้ยประกันไปใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีเงินได้สูงสุด 100,000 บาทต่อปี และหากเป็นกรรมธรรม์ที่สามารถชำระด้วยบัตรเครดิตก็จะได้รับสิทธิ์ประโยชน์เพิ่มเติมตามโปรโมชั่นที่บัตรเครดิตนั้นๆกำหนดไว้ ทำให้มีสิทธิ์ได้รับผลตอบแทนคุ้มถึง 3 ต่อนะครับ สุดท้ายนี้ ขอขอบคุณธนาคารกรุงศรีอยุธยาที่เปิดโอกาสให้แชร์แนวคิดการเงินส่วนบุคคล และขอย้ำเพื่อนๆว่า การออมเป็นพื้นฐานอย่างหนึ่งของความมั่งคั่งและมั่นคง ขอให้ประสบความสำเร็จในการลงทุนกันนะครับ เก็บเงินไว้ไหนปลอดภัยที่สุดเราฝากที่ไหนดีที่ไม่อยู่ภายใต้การคุ้มครองเงินฝากของสถาบันคุ้มครองเงินฝาก แต่ยังอยู่ภายใต้การค้ำประกันของรัฐบาล ที่ซึ่งทำให้เรามั่นใจว่าแม้จะเกิดวิกฤต เงินฝากของเราก็ยังปลอดภัยหายห่วงคำตอบ คือ สถาบันการเงินภายใต้การดูแลของรัฐบาล เช่น ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร เป็นต้น
เก็บเงินไว้ในธนาคารไหนดีเงินฝากออมทรัพย์ดอกเบี้ยสูง แบบมีสมุด ปี 2566. 1. บัญชีเงินฝากออมทรัพย์เต็มกระปุก ธนาคารไทยเครดิต เพื่อรายย่อย ... . 2. บัญชีเงินฝากจัดเต็ม ธนาคารไทยพาณิชย์ ... . 3. บัญชีเงินฝากออมทรัพย์มีแต่ได้ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ... . 4. บัญชี ทีทีบี โนฟิกซ์ ธนาคารทหารไทยธนชาต ... . 5. บัญชีเงินฝากออมทรัพย์พิเศษ Gold Savings ธนาคารไอซีบีซี ไทย. เก็บเงินกี่เปอร์เซ็นต์ ของเงินเดือนกฎการออมเงิน 80/20 เหมาะกับมนุษย์เงินเดือนหรือคนที่มีรายได้สม่ำเสมอในแต่ละเดือนมากเพราะประมาณการรายรับรายจ่ายแต่ละเดือนได้ค่อนข้างแม่นยำ โดยตัวเลขเงินออม 20% นี้อาจจะปรับเพิ่มได้ตามความเหมาะสม ที่สำคัญต้องไม่กระทบกับการใช้ชีวิตประจำวันจนเกินไปนัก ออมไว้ก็ดีแต่ออมทั้งที่ต้องใช้ชีวิตได้มีความสุขด้วย 80% จ่ายไปกับอะไร
เก็บเงินยังไงให้ได้10000วิธีเก็บเงิน 10,000 ภายใน 1 เดือน. เก็บเงินให้ได้วันละ 333 บาท จนครบ 30 วัน ใน 1 เดือนก็จะได้เงินเก็บทั้งหมด 9,990 บาท (วันสุดท้ายก็ออมเพิ่มไปอีก 10 ครบ 10,000 พอดี). เก็บเงินให้ได้อาทิตย์ละ 2,000 บาท เดือนหนึ่งก็จะได้ 5*2000 = 10,000 พอดีเป๊ะ. ใช้ตารางเก็บเงินช่วย. |