ขาย อะไร ดี ถนน คน เดิน

ไหนใครอยากขายของกิน แต่ไม่รู้จะทำอะไรขายดี เรารวบรวม “เมนูทำขายตลาดนัด” มาให้แล้ว รับรองว่าเป็นเมนูอาหารทําง่ายขายคล่องแน่นอน ไปเตรียมตัวรวยกันเลยจ้า!

เวลาเตรียม

30 นาที

เวลาปรุง

30 นาที

แคลอรี่

400 Kcal/เสิร์ฟ

สำหรับ

10 เสิร์ฟ

ใครกำลังอาหารอาชีพเสริม หรืออาชีพหลักในการขายของกิน แต่ยังไม่รู้จะทําอะไรขายดีเก็บได้นาน ๆ อีกด้วย วันนี้พิมขอเสนอ 50 สูตร “เมนูทำขายตลาดนัด” ที่จะหมดคำถามแน่นอนว่าขายของกินอะไรดีแน่นอน! และที่สำคัญเป็นเมนูอาหารทําง่ายขายคล่อง และปังสุด ๆ ถ้าพร้อมที่จะเป็นพ่อค้า แม่ขายกันแล้วก็เตรียมมาจดสูตร “เมนูทำขายตลาดนัด” กันเลยจ้า

1เมนูข้าวโพดคลุกเนย

วัตถุดิบข้าวโพดคลุกเนย

1. ข้าวโพดแกะเมล็ด 2 ฝัก
   
2. เนยเค็ม 2 ช้อนชา
   
3. น้ำตาล 2 ช้อนโต๊ะ
   
4. นมข้นหวานสำหรับใส่ตอนท้ายตามชอบ
   

วิธีทำข้าวโพดคลุกเนย

• แกะข้าวโพดหวานออกเป็นเมล็ด ๆ แนะนำให้ใช้วิธีแกะออกจากฝัก ไม่ใช่วิธีฝาน เพราะจะทำให้ข้าวโพดขาดไม่เป็นเมล็ด
  
• ต้มน้ำให้ร้อน นำข้าวโพดที่แกะแล้วใส่ลงไปในหม้อ ต้มจนข้าวโพดลอยขึ้นเหนือน้ำ เป็นอันว่าข้าวโพดสุกแล้ว
  
• ตักข้าวโพดใส่ชามเตรียมรอคลุก ตักเนยเค็มใส่ข้าวโพด เติมน้ำตาลทรายลงไป คลุกจนทุกอย่างเข้ากัน (การคลุกทั้งหมด ข้าวโพดต้องมีความร้อนอยู่เสมอ เพื่อให้ส่วนผสมทุกอย่างละลาย) ตักขึ้นใส่ภาชนะเสิร์ฟ บีบนมข้นหวานเพื่อเพิ่มความเข้มข้นหอมมัน
  

2เมนูชีสบอล

วัตถุดิบชีสบอล

1. มันฝรั่ง 500 กรัม
   
2. ไข่แดง 1 ฟอง
   
3. เนย 3 ช้อนโต๊ะ
   
4. เกลือ 1 ช้อนชา
   
5. พริกไทย 1 ช้อนชา
   
6. มอซซาเรลล่าชนิดขูดเส้น 1 ถ้วยตวง
   
7. แป้งอเนกประสงค์ 1 ถ้วยตวง
   
8. ไข่สำหรับคลุก 2 ฟอง
   
9. เกล็ดขนมปัง 1 ถ้วยตวง
   
10. น้ำมันสำหรับทอด
    

วิธีทำชีสบอล

• ตั้งหม้อ ใส่น้ำเปล่าแล้วเปิดไฟ รอให้น้ำเดือดแล้วใส่มันฝรั่งลงไป ต้มให้สุกแล้วตักขึ้น
  
• บดให้มันฝรั่งละเอียด ปรุงรสด้วย เนย ไข่แดง เกลือ และพริกไทย คลุกเคล้าให้เข้ากัน เตรียมไว้ นำมันบดที่ปรุงรสแล้วมาห่อมอซซาเรลล่าชนิดขูดเส้นแล้วนำไปแช่เย็น 10 นาทีให้เซตตัว
  
• หลังจากนั้นนำมาคลุกแป้ง ไข่ และเกล็ดขนมปังเตรียมไว้
  
• ตั้งกระทะใส่น้ำมัน แล้วเปิดไฟ รอให้น้ำมันร้อนแล้วนำชีสบอลลงทอดให้สวยงาม ตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำมัน จัดวางใส่จานพร้อมจัดเสิร์ฟแล้วจ้า!
  

3เมนูเกี๊ยวทอดรวมมิตร

วัตถุดิบเกี๊ยวทอดรวมมิตร

1. แผ่นแป้งเกี๊ยว 150 กรัม
   
2. ปูอัด 6 ชิ้น
   
3. ไส้กรอก 5 ชิ้น
   
4. ลูกชิ้นหมู 80 กรัม
   
5. หมูยอ 80 กรัม
   
6. น้ำจิ้มไก่สำหรับราด
   

วิธีทำเกี๊ยวทอดรวมมิตร

• หั่นปูอัด ไส้กรอก หมูยอ เตรียมไว้ จากนั้นนำมาห่อปูอัด ไส้กรอก หมูยอ และลูกชิ้นหมู เป็นรูปทรงต่าง ๆ
  
• ตั้งกระทะใส่น้ำมัน รอจนน้ำมันร้อน แล้วปรับเป็นไฟกลาง ใส่เกี๊ยวที่ห่อไว้ลงไปทอด คอยคนไม่ให้เกี๊ยวไหม้ด้านใดด้านหนึ่ง เมื่อเกี๊ยวเหลืองกรอบได้ที่แล้วตักขึ้นพักไว้
  
• นำเกี๊ยวที่ทอดแล้วใส่ภาชนะสำหรับเสิร์ฟ ราดด้วยน้ำจิ้มไก่เท่านี้ก็พร้อมรับประทาน!
  

4เมนูน้ำเต้าหู้

วัตถุดิบน้ำเต้าหู้

1. ถั่วเหลือง 500 กรัม
   
2. น้ำสะอาด 1,500 มิลลิลิตร
   

วิธีทำน้ำเต้าหู้

• นำถั่วเหลืองมาล้างให้สะอาดแล้วหยิบเม็ดถั่วเหลืองเสียออก
  
• ล้างจนหมดกลิ่นเหม็นเขียว จากนั้นแช่ไว้เป็นเวลาอย่างน้อย 3 ชั่วโมงเพื่อให้ถั่วนิ่มแล้วพองตัว
  
• นำถั่วเหลืองที่แช่มาใส่เครื่องปั่น เติมน้ำสะอาด จากนั้นปั่นให้ละเอียด แล้วนำมากรองผ่านผ้าขาวบาง บีบเอาแต่น้ำ
  
• นำน้ำเต้าหู้ขึ้นตั้งไฟต้มจนเดือด คอยคนเรื่อย ๆ ตักใส่แก้วก็สามารถดื่มได้แล้วจ้า
  

5เมนูปาท่องโก๋

วัตถุดิบปาท่องโก๋

1. แป้งสาลีอเนกประสงค์ 225 กรัม
   
2. น้ำตาลทราย 20 กรัม
   
3. ยีสต์ 1 ช้อนชา
   
4. เบกกิ้งโซดา ¼ ช้อนชา
   
5. นมผง 20 กรัม
   
6. เกลือป่น 1 ช้อนชา
   
7. น้ำอุ่น 170 กรัม
   
8. ผงฟู 1 ช้อนชา
   
9. น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
   
10. น้ำมันสำหรับทอด
    

วิธีทำปาท่องโก๋

• นำน้ำตาล เกลือ น้ำมัน และน้ำอุ่นใส่ลงไปในชามผสมแล้วคนให้เข้ากัน
  
• นำแป้งสาลีอเนกประสงค์ เบกกิ้งโซดา ผงฟู นมผงร่อนรวมกัน แล้วใส่ยีสต์ลงไปแล้วใช้ไม้พายคนให้เข้ากัน
  
• จากนั้นนำของเหลวที่ผสมไว้มาเทในชามแป้ง คนให้เข้ากันแล้วนำไปพัก 1 ชั่วโมง
  
• นำแป้งที่พักไว้มากลับด้าน เพื่อให้แป้งขึ้นฟูเท่ากัน จากนั้นพักแป้งไว้อีก 6 ชั่วโมง หรือข้ามคืน
  
• นำแป้งปาท่องโก๋ที่พักไว้มาตัดแบ่งจากก้อนใหญ่ให้เป็นส่วน ๆ แล้วคลึงให้เป็นชิ้นยาวเนียนสวย จากนั้นกดให้มีความหนาประมาณ 0.5 เซนติเมตร แล้วตัดเป็นชิ้นให้เท่า ๆ กัน
  
• นำไม้แหลมจุ่มน้ำมาแตะบริเวณกลางแผ่นแป้งที่ตัดไว้ เพื่อให้เป็นตัวเชื่อมกับแผ่นแป้งอีกชิ้น
  
• นำปาท่องโก๋ที่จับเข้าคู่แล้วลงทอดที่น้ำมันร้อนไฟปานกลาง หมั่นพลิกตัวปาท่องโก๋บ่อย ๆ เพื่อให้สีเสมอกัน เมื่อสุกแล้วตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน เพียงเท่านี้ “ปาท่องโก๋” สด ๆ ใหม่ ๆ พร้อมกินแล้วจ้า
  

6เมนูไข่ปิ้ง

วัตถุดิบไข่ปิ้ง

1. ไข่ไก่ 15 ฟอง
   
2. ซอสปรุงรส 3 ช้อนโต๊ะ
   
3. ซอสหอยนางรม 3 ช้อนโต๊ะ
   
4. พริกไทย 1 ช้อนโต๊ะ
   
5. น้ำสะอาด ½ ถ้วยตวง
   

วิธีทำไข่ปิ้ง

• เจาะเปลือกไก่เป็นรูด้านบนเพียงด้านเดียว ขนาดปานกลาง ใส่ลงในชามที่รองด้วยผ้าขาวบาง เก็บเปลือกไข่ไว้ จนครบ
  
• ปรุงรสด้วย ซอสปรุงรส ซอสหอยนางรม พริกไทย และ น้ำสะอาด เจียวให้เข้ากัน
  
• กรอกไข่ที่เจียวลงเปลือกไข่ด้วยไซริงค์ และนำไปนึ่ง โดยตั้งซึ้งให้น้ำเดือด และลดไฟอ่อน นึ่งประมาณ 50 นาที
  
• นำไข่ที่นึ่งพักให้เย็นแล้วนำไปย่างไฟอ่อน เพื่อความหอมยิ่งขึ้น เสิร์ฟร้อน พร้อมกินละจ้า
  

7เมนูหมูปิ้ง

วัตถุดิบหมูปิ้ง

1. สะโพกหมู 500 กรัม
   
2. มันหมูแข็ง 100 กรัม
   
3. กระเทียม 15 กรัม
   
4. พริกไทยขาวเม็ด 1 ช้อนชา
   
5. รากผักชี 10 กรัม
   
6. แป้งข้าวโพด 1 ช้อนโต๊ะ
   
7. เบคกิ้งโซดา 1 ช้อนชา
   
8. น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
   
9. ซอสปรุงรสฝาเขียว 2 ช้อนโต๊ะ
   
10. น้ำตาลมะพร้าว 1 ½ ช้อนโต๊ะ
    
11. ข้าวเหนียว (สำหรับทานเคียง)
    

วิธีทำหมูปิ้ง

• หุงข้าวเหนียวสำหรับทานเคียง โดยการนำข้าวเหนียวแช่น้ำร้อนประมาณ 30 นาที ลงไปนึ่งในหวดประมาณ 20 นาทีหรือจนข้าวเหนียวสุก จากนั้นพักไว้มาทำหมูปิ้งกันต่อเล้ย
  
• หั่นสะโพกหมูเป็นชิ้นบางๆ เตรียมไว้ จากนั้นโขลกพริกไทย รากผักชีและกระเทียมให้แหลก นำมาหมักกับสะโพกและมันหมู จากนั้นปรุงรสด้วยน้ำปลา ซอสปรุงรสฝาเขียว น้ำตาลมะพร้าว เบคกิ้งโซดา และแป้งข้าวโพด ขยำทุกอย่างให้เข้ากัน แล้วพักไว้ประมาณ 20 นาที เพื่อให้เครื่องปรุงเข้าเนื้อหมู
  
• นำเนื้อหมูที่หั่นไว้เสียบในไม้ที่ผ่านการแช่น้ำ โดยเสียบส่วนมันก่อน จากนั้นค่อยเสียบเนื้อสะโพก เมื่อเสียบจนเสร็จ นำไปย่างบนเตาถ่านไฟอ่อนๆ จนสุก จากนั้นนำมาเสิร์ฟเคียงข้าวเหนียวที่หุงไว้

8เมนูหมูปิ้งกะทิ

วัตถุดิบหมูปิ้งกะทิ

1. หมูสันคอหั่นชิ้น 1 กิโลกรัม
   
2. กะทิ 1 ถ้วยตวง
   
3. กระเทียม 8 กลีบ
   
4. พริกไทยขาว 1 ช้อนชา
   
5. พริกไทยดำ 1 ช้อนชา
   
6. รากผักชี 3 ราก
   
7. น้ำตาลปี๊บ 4 ช้อนโต๊ะ
   
8. น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
   
9. เกลือ ½ ช้อนชา
   
10. ซีอิ๊วขาว 3 ช้อนโต๊ะ
    
11. ซอสหอยนางรม 3 ช้อนโต๊ะ
    
12. ซีอิ๊วดำ 1 ช้อนชา
    

วิธีทำหมูปิ้งกะทิ

• นำไม้สำหรับเสียบไปแช่น้ำเตรียมไว้ เพื่อไม่ให้ไหม้เวลาปิ้ง
  
• โขลกรากผักชี กระเทียม พริกไทยขาว และพริกไทยดำ ให้ละเอียด
  
• ผสมกะทิ และส่วนผสมที่โขลกไว้ รวมถึง น้ำตาลปี๊บ น้ำตาลทราย เกลือ ซีอิ๊วขาว ซอสหอยนางรม และซีอิ๊วดำ คนส่วนผสมทุกอย่างให้เข้ากัน
  
• นำหมูสันคอหั่นชิ้นลงไปคลุกกับเครื่องหมักให้เข้ากัน แล้วหมักทิ้งไว้ในตู้เย็น 3 ชั่วโมง
  
• เมื่อหมักจนครบเวลาแล้ว นำหมูมาเสียบไม้
  
• นำหมูที่เสียบไม้ไว้ขึ้นเตาย่างจนสุกดี ถ้ามีส่วนที่ไหม้เกรียมให้ตัดแต่งออก แล้วยกขึ้นจัดเสิร์ฟพร้อมกับข้าวเหนียว
  

9เมนูเมี่ยงเบคอนพันเห็ดเข็มทอง

วัตถุดิบเมี่ยงเบคอนพันเห็ดเข็มทอง

1. เบคอน ½ กิโลกรัม
   
2. เห็ดเข็มทอง ½ กิโลกรัม
   
3. พริกขี้หนูสวน ½ ถ้วย
   
4. กระเทียมไทย 10 กลีบ
   
5. รากผักชี 3 ราก
   
6. มะนาว 3 ลูก
   
7. น้ำปลา ½ ถ้วย
   
8. น้ำตาลปี๊บ ⅓ ถ้วย
   
9. ถั่วตัด ⅓ ถ้วย
   

วิธีทำเมี่ยงเบคอนพันเห็ดเข็มทอง

• นำเบคอนมาพันกับเห็ดเข็มทอง ใช้ไม้จิ้มฟันกลัดไว้ แล้วนำไปย่างให้สุกบนเตาย่าง โดยให้ไฟกลางเพื่อให้เห็ดมีความสุกที่ทั่วถึงฃ
  
• ตำกระเทียม พริกขี้หนู ถัวตัด รากผักชี จนละเอียด ปรุงรสน้ำปลา น้ำตาลปี๊ป น้ำมะนาว ชิมรสตามชอบ
  
• จัดเสริฟใส่ถาดใหญ่ คู่กับน้ำจิ้มเมี่ยง และผักเคียงตามชอบ
  

10เมนูก๋วยเตี๋ยวลุยสวนหมูสับ

วัตถุดิบก๋วยเตี๋ยวลุยสวนหมูสับ

1. แผ่นก๋วยเตี๋ยว 300 กรัม
   
2. หมูสับ 200 กรัม
   
3. แครอทหั่นเต๋า 100 กรัม
   
4. เห็ดหอมแห้ง 3 ดอก
   
5. กระเทียม 20 กลีบ
   
6. น้ำมันรำข้าว 2 ช้อนโต๊ะ
   
7. ซอสหอยนางรม 2 ช้อนโต๊ะ
   
8. ซอสปรุงรส 2 ช้อนโต๊ะ
   
9. เกลือ ⅛ ช้อนชา
   
10. น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา
    
11. พริกไทยป่น ½ ช้อนชา
    
12. ผักกาดหอม
    
13. แครอท
    
14. ใบสะระแหน่
    
15. ผักชีฝรั่ง
    

วัตถุดิบน้ำจิ้มก๋วยเตี๋ยวลุยสวน

1. น้ำส้มสายชู 4 ช้อนโต๊ะ
   
2. เกลือ ½ ช้อนโต๊ะ
   
3. น้ำตาลทราย 2 ½ ช้อนโต๊ะ
   
4. น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
   
5. กระเทียมกลีบเล็ก 15 กลีบ
   
6. พริกขี้หนูสวน 10 เม็ด
   
7. ผักชีไทย 1 ต้นเล็ก
   
8. รากผักชี 1 ต้น
   
9. ใบโหระพา 15 ใบ
   
10. ใบสะระแหน่ 15 ใบ
    

วิธีทำก๋วยเตี๋ยวลุยสวนหมูสับ

• ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันลงไป ตามด้วยกระเทียม หากสังเกตกระเทียมเริ่มเหลือง ให้ใส่เห็ดหอมลงไปผัดให้หอม ตามด้วยหมูสับ ใช้ตะหลิวขยี้หมูสับให้กระจายตัว แล้วตามด้วยแครอท
  
• ปรุงรสด้วยซอสหอยนางรม ซีอิ๊วขาว ตามด้วยน้ำตาลทราย เกลือ พริกไทยป่น
  
• คลี่แป้งออก วางผักกาดหอม ผักชีฝรั่ง ใบสะระแหน่ และแครอท ตามด้วยไส้หมูที่ทำเสร็จแล้ว ห่อแป้งโดยการพับหัวและท้ายของตัวแป้งและม้วนปิด จัดวางผักและหมูสับ ห่อผักและหมูสับ ตัดเป็นชิ้นพอดีคำ
  
• เตรียมหม้อเทน้ำส้มสายชูลงไป ตามด้วยน้ำตาล และเกลือ คนให้น้ำตาลและเกลือละลาย จากนั้นพักให้เย็น
  
• เมื่อน้ำเชื่อมเย็นตัวลงแล้วให้ใส่ลงโถปั่น ตามด้วยผักชี รากผักชี กระเทียม พริกขี้หนูสวน ใบโหระพา ใบสะระแหน่ ปั่นให้ละเอียด
  
• จากนั้นเทน้ำจิ้มใส่ถ้วย พร้อมเสิร์ฟคู่กับก๋วยเตี๋ยวลุยสวนหมูสับ 
  

11เมนูลูกชิ้นกุ้ง

วัตถุดิบลูกชิ้นกุ้ง

1. กุ้งบด 1 กิโลกรัม
   
2. หมูสับ 300 กรัม
   
3. กุ้งหั่นชิ้น 300 กรัม
   
4. ไข่ไก่ 2 ฟอง
   
5. รากผักชี 3 ราก
   
6. พริกไทยเม็ด ½ ช้อนโต๊ะ
   
7. กระเทียม 2 หัว
   
8. เกลือ 1 ช้อนชา
   
9. ซอสปรุงรส ¼ ถ้วย
   
10. น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
    
11. น้ำมันพืช 500 มิลลิลิตร
    

วิธีทำลูกชิ้นกุ้ง

• โขลกกระเทียม พริกไทยเม็ด และรากผักชี ให้ละเอียด
  
• ใส่กุ้งบดลงในชามผสม ตามด้วยหมูสับ ไข่ไก่ ปรุงรสด้วยสามเกลอ เกลือ น้ำตาลทราย และซอสปรุงรส คนให้เข้ากัน ใส่กุ้งหั่นชิ้นลงไป และคนให้เข้ากันอีกครั้ง ปั้นเป็นลูกกลม ๆ ขนาดตามชอบ
  
• นำกระทะขึ้นตั้งไฟปานกลาง เทน้ำมันพืชลงไป และรอจนร้อน
  
• นำลูกชิ้นกุ้งลงไปทอดจนสุกเหลืองกรอบ และจัดใส่จานพร้อมเสิร์ฟ
  

12เมนูลูกชิ้นหมู

วัตถุดิบลูกชิ้นหมู

1. หมูบด 500 กรัม
   
2. มันหมู 200 กรัม
   
3. รากผักชี 30 กรัม
   
4. กระเทียม 30 กรัม
   
5. พริกไทยดำ 1 ช้อนโต๊ะ
   
6. น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา
   
7. แป้งมัน 1 ช้อนโต๊ะ
   
8. เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ
   
9. น้ำแข็ง 100 กรัม
   

วิธีทำลูกชิ้นหมู

• นำหมูบด มันหมู รากผักชี กระเทียม พริกไทยดำ แป้งมัน เกลือ และน้ำตาลทราย ใส่ลงในโถปั่น ปั่นให้เข้ากันสักครู่ให้ทยอยใส่น้ำแข็งลงไปเป็นระยะ ๆ ปั่นต่อจนทุกอย่างละเอียดเข้ากันดี
  
• ตั้งน้ำรอให้เดือด ระหว่างนั้นนำส่วนผสมของลูกชิ้นหมูที่ทำไว้ มาปั้นเป็นก้อนกลมใส่ลงไปในหม้อน้ำเดือด ใช้เวลาประมาณ 10 นาที หรือสังเกตว่าเมื่อลูกชิ้นหมูสุกจะลอยขึ้นมาตักลูกชิ้นหมูขึ้นให้สะเด็ดน้ำ
  
• นำลูกชิ้นหมูที่ได้มาเสียบไม้ จากนั้นนำมาย่างไฟให้สีสวย เตรียมจัดเสิร์ฟ
  
• นำลูกชิ้นหมูที่ย่างไว้มาจัดเสิร์ฟใส่จาน พร้อมกับน้ำจิ้มลูกชิ้น และผัดสดที่เพื่อน ๆ ชอบ เพียงเท่านี้ “ลูกชิ้นหมู” ของเราพร้อมรับประทานแล้วค่า!
  

13เมนูลูกชิ้นทอด

วัตถุดิบลูกชิ้นทอด

1. ลูกชิ้น 1 กิโลกรัม
   
2. แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วยตวง
   
3. น้ำเย็นจัด 1 ถ้วยตวง
   
4. น้ำปูนใส 4 ช้อนโต๊ะ
   
5. พริกไทย 1 ช้อนโต๊ะ
   
6. สีผสมอาหาร 4 หยด
   

วัตถุดิบน้ำจิ้มลูกชิ้น

1. พริกแดง 7 เม็ด
   
2. กระเทียมดอง 3 หัว
   
3. น้ำเปล่า 1 ถ้วยตวง
   
4. น้ำมะขามเปียก 1 ถ้วยตวง
   
5. น้ำตาลปี๊บ ½ ถ้วยตวง
   
6. พริกป่น 2 ช้อนโต๊ะ
   
7. ผักชี 1 ต้น
   
8. แป้งมัน 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำลูกชิ้นทอด

• สับพริก กระเทียมดอง ให้ละเอียด
  
• ตั้งหม้อบนเตา ใช้ไฟอ่อน ใส่น้ำเปล่า น้ำมะขามเปียก น้ำตาลปี๊บ คนจนละลายเข้ากัน ใส่พริก กระเทียมดอง พริกป่น คนให้เข้ากันอีกรอบ รอจนเดือด ใส่แป้งมันผสมน้ำลงไป คนจนน้ำจิ้มข้นได้ที่ ปิดไฟใส่ผักชี
  
• นำแป้งข้าวเจ้าใส่ถ้วย เทน้ำเย็นจัดลงไป คนให้เข้ากัน เติมน้ำปูนใส พริกไทย และสีผสมอาหารสีส้มคนให้เข้ากัน นำลูกชิ้นที่เสียบไม้แล้วมาลงชุบ
  
• ตั้งน้ำมันไฟกลาง รอจนน้ำมันร้อนจัด ใส่ลูกชิ้นที่ชุบแป้งเรียบร้อบแล้วลงไป คอยคีบไม่ให้ลูกชิ้นไปติดกับไม้อื่น ทอดจนสีเหลืองกรอบสวยงาม
  
• จัดใส่จานเสิร์ฟคู่กับน้ำจิ้มรสแซ่บ และผักสดตามใจชอบ อิ่ม ๆ ย้อนวันวานกันไป กับเมนู "ลูกชิ้นทอด"
  

14เมนูน้ำจิ้มลูกชิ้น

วัตถุดิบน้ำจิ้มลูกชิ้น

1. น้ำมะขามเปียก 1 ถ้วยตวง
   
2. น้ำตาลปี๊บ 3 ช้อนโต๊ะ
   
3. พริกขี้หนู 8 เม็ด
   
4. กระเทียมจีน 8 กลีบ
   
5. กระเทียมดอง 3 หัว
   
6. น้ำกระเทียมดอง 3 ช้อนโต๊ะ
   
7. ซอสพริกศรีราชา 3 ช้อนโต๊ะ
   
8. แป้งข้าวโพด 1 ช้อนโต๊ะ
   
9. เกลือ 1 ½ ช้อนโต๊ะ
   

วิธีทำน้ำจิ้มลูกชิ้น

• ละลายน้ำตาลปี๊บและน้ำมะขามเปียก ใช้ไฟอ่อน ๆ คนให้ละลาย แล้วใส่ซอสพริกศรีราชา และน้ำกระเทียมดอง
  
• โขลก พริกขี้หนู กระเทียม กรเทียมดอง ให้ละเอียด แล้วนำลงหม้อ คนให้เข้ากัน
  
• ละลายแป้งข้าวโพดกับน้ำสะอาดค่อย ๆ ใส่ในหม้อน้ำจิ้มของเรา พักไว้ให้เย็น พร้อมนำไปจิ้มกับลูกชิ้นได้เลยจ้า
  

15เมนูขนมปังหน้าหมูอบ

วัตถุดิบขนมปังหน้าหมูอบ

1. ขนมปังโฮลวีต 5 แผ่น
   
2. หมูสับ 1 ถ้วย
   
3. ไข่ไก่ 1 ฟอง
   
4. ผงปรุงรสหมู 1 ช้อนโต๊ะ
   
5. รากผักชี 3 ราก
   
6. กระเทียม 1 หัว
   
7. พริกไทยเม็ด 1 ช้อนชา
   
8. ต้นหอมซอย 2 ช้อนโต๊ะ
   
9. พริกแดงสไลซ์ 2 เม็ด
   
10. น้ำจิ้มไก่ ตามชอบ
    

วิธีทำขนมปังหน้าหมูอบ

• วอร์มเตาอบไฟบน - ล่าง 200 องศาเซลเซียส 15 นาที แล้วปรับเป็น 180 องศาเซลเซียส
  
• โขลกสามเกลอให้ละเอียด ได้แก่ รากผักชี กระเทียม และพริกไทยเม็ด
  
• นำหมูสับใส่ในชามผสม ตามด้วยสามเกลอ ไข่ไก่ ผงปรุงรสหมู และต้นหอมซอย คนให้เข้ากัน
  
• หั่นขนมปังแผ่นเป็น 4 ชิ้น ตักหมูที่ปรุงรสไว้ใส่ลงไป และเกลี่ยให้เท่ากัน
  
• วางพริกแดงสไลซ์ลงไป และนำไปอบ 15 นาที จากนั้นนำออกจากเตาและพักไว้สักพัก เพื่อให้ขนมปังกรอบขึ้น จัดใส่จาน และเสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มไก่
  

16เมนูแซนด์วิชกุ้งทอด

วัตถุดิบแซนด์วิชกุ้งทอด

1. ขนมปัง 10-12 แผ่น
   
2. เนื้อกุ้ง 400 กรัม
   
3. รากผักชี 2 ราก
   
4. กระเทียม 20-25 กรัม
   
5. พริกไทย 1 ช้อนชา
   
6. แป้งมัน 2 ช้อนโต๊ะ
   
7. ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ
   
8. ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ
   
9. ต้นหอม 2 ช้อนโต๊ะ
   

วิธีทำแซนด์วิชกุ้งทอด

• นำเนื้อกุ้งใส่ในเครื่องปั่น ตามด้วยรากผักชี กระเทียม พริกไทย ปั่นพอหยาบ
  
• จากนั้นใส่แป้งมัน ปรุงรสด้วยซอยหอยนางรม ซอสปรุงรสแล้วปั่นให้เข้ากันดี
  
• ใส่ต้นหอม ปั่นให้เข้ากันอีกครั้งและเนื้อเนียนขึ้น
  
• นำเนื้อกุ้งที่ปั่นไว้มาปาดลงบนขนมปังให้ทั่วชิ้น แล้วนำขนมปังอีกแผ่นมาประกบให้เป็นแซนด์วิช
  
• นำแซนด์วิชมาตัดขอบขนมปังออก จากนั้นแบ่งเป็น 4 ชิ้นเท่ากัน
  
• ตั้งน้ำมันให้ร้อนแล้วนำแซนด์วิชกุ้งลงทอดให้สุก ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมันแล้วจัดเสิร์ฟ
  

17เมนูแซนด์วิชโบราณ

วัตถุดิบแซนด์วิชโบราณ

วัตถุดิบน้ำสลัด

1. ไข่ไก่ 2 ฟอง
   
2. น้ำตาลทราย 120 กรัม
   
3. นมข้นหวาน 120 กรัม
   
4. น้ำตาลทรายแดง 1 ช้อนโต๊ะ
   
5. เกลือ 1 ช้อนชา
   
6. มัสตาร์ด 1 ช้อนชา
   
7. สีผสมอาหารสีเหลือง 1-2 หยด
   
8. น้ำส้มสายชู 3 ช้อนโต๊ะ
   
9. น้ำมันรำข้าว 300 มิลลิลิตร
   

วัตถุดิบแซนด์วิช

1. ขนมปังขาวไม่ตัดขอบ ตามชอบ
   
2. น้ำสลัดแซนด์วิช
   
3. โบโลน่า ตามชอบ
   
4. หมูหยอง ตามชอบ
   

วิธีทำแซนด์วิชโบราณ

• ต้มน้ำในหม้อทรงสูงให้เดือด ระหว่างนั้นตีไข่ตีกับน้ำตาลทราย นมข้นหวาน น้ำตาลทรายแดง และเกลือในหม้อให้เข้ากัน
  
• นำส่วนผสมขึ้นตั้งบนหม้อน้ำจากนั้น คนเรื่อย ๆ จนไข่แดงสุกและน้ำตาลละลายหมด
  
• จากนั้นใส่มัสตาร์ด และสีผสมอาหาร คนให้เข้ากันอีกครั้ง ใส่น้ำส้มสายชู และน้ำมันรำข้าว โดยทยอยใส่ทีละน้อย คนเข้ากันจนส่วนผสมเข้ากันดี
  
• ทาน้ำสลัดลงบนขนมปังบาง ๆ วางโบโลน่า
  
• แผ่นที่ 2 วางขนมปังบนชั้นก่อนหน้านี้ทาน้ำสลัดและโรยหมูหยองตรงกลาง
  
• แผ่นที่ 3 วางขนมปังบนชั้นก่อนหน้าทาน้ำสลัด แล้วหั่นครึ่งแล้วจัดเสิร์ฟ
  

18เมนูสลัดโรลล์ปูอัด

วัตถุดิบสลัดโรลล์ปูอัด

1. ปูอัด 12 ชิ้น
   
2. กรีนโอ๊ก 120 กรัม
   
3. เร้ดโอ๊ก 120 กรัม
   
4. แตงกวาหั่นยาว 120 กรัม
   
5. แครอทหั่นยาว 120 กรัม
   
6. ผักชี 60 กรัม
   
7. กระเทียม 30 กรัม
   
8. รากผักชี 3 ราก
   
9. น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
   
10. พริกขี้หนู 30 กรัม
    
11. น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
    
12. น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
    
13. มายองเนส 50 กรัม
    
14. แผ่นเปาะเปี๊ยะญวน 12 แผ่น
    

วิธีทำสลัดโรลล์ปูอัด

• ทำน้ำจิ้มโดยการโขลกพริกขี้หนู กระเทียม และรากผักชีให้ละเอียด จากนั้นตักใส่ชามผสมไว้
  
• ปรุงรสด้วย น้ำตาล น้ำมะนาว น้ำปลา และมายองเนส คนให้เข้ากันแล้วตักใส่ถ้วยพักไว้
  
• นำแผ่นเปาะเปี๊ยะญวนชุบน้ำเพื่อให้นิ่ม จากนั้นวางกรีนโอ๊ก เร้ดโอ๊ก แครอท แตงกวา ผักชี และปูอัดลงไปบนแผ่นแป้ง ม้วนเข้าด้วยกัน เรียงใส่จานและวางน้ำจิ้มที่ทำไว้ พร้อมเสิร์ฟค่ะ
  

19เมนูทาโกะยากิ

วัตถุดิบทาโกะยากิ

1. แป้งเค้ก 100 กรัม
   
2. เกลือ ¼ ช้อนชา
   
3. น้ำสต็อกดาชิ 200 กรัม
   
4. นมข้นจืด 100 กรัม
   
5. โชยุ 1 ช้อนชา
   
6. ไข่ไก่ 1 ฟอง
   
7. หมึกยักษ์หั่นชิ้นพอคำ 100 กรัม
   
8. วัตถุดิบสำหรับจัดเสิร์ฟ
   
9. ปลาแห้งป่น 1 ช้อนโต๊ะ
   
10. ขิงดองสับ 12 กรัม
    
11. กะหล่ำปลีสับ 70 กรัม
    
12. ต้นหอมซอย 20 กรัม
    
13. ซอสโอโคโนมิยากิ สำหรับเสิร์ฟ
    
14. มายองเนส สำหรับเสิร์ฟ
    
15. ปลาโออบแห้ง สำหรับเสิร์ฟ
    
16. สาหร่าย สำหรับเสิร์ฟ
    
17. พริกป่น สำหรับเสิร์ฟ
    

วิธีทำทาโกะยากิ

• เทแป้งเค้กลงในชามผสม ไข่ไก่ เกลือ ปรุงรสด้วยโชยุ นมข้นจืด และใส่น้ำสต็อกดาชิทีละครึ่ง คนให้เข้ากันจนหมดแล้วพักแป้งไว้อย่างน้อย 30 นาที ก่อนนำมาหยอดในกระทะ
  
• เปิดไฟเตาทาโกะยากิให้ร้อน โดยใช้แปรงทาน้ำมันให้ทั่วๆ จากนั้นใส่แป้งให้เกือบเต็มหลุม
  
• ใส่กะหล่ำปลีสับ ต้นหอมซอย ขิงดองสับ และเติมแป้งซ้ำจนกว่าจะได้ลูกกลมๆ
  
• ใส่ปลาหมึกยักษ์ แล้วพลิกตัวแป้งให้กลมและเก็บส่วนที่ติดอยู่ตามขอบให้หมด เมื่อแป้งสุกแล้วจัดเสิร์ฟได้เลย
  
• จัดเสิร์ฟทาโกะยากิใส่จานให้สวยงาม ราดด้วยซอสโอโคโนมิยากิ มายองเนส โรยด้วยปลาโออบแห้ง สาหร่าย และพริกป่น (สำหรับใครที่ต้องการความเผ็ด) ฟินกันทั้งแก๊งเลยงานนี้
  

20เมนูสาคูไส้หมู

วัตถุดิบสาคูไส้หมู

1. สาคูเม็ดเล็ก 250 กรัม
   
2. หมูสับ 270 กรัม
   
3. รากผักชี 2 ราก
   
4. กระเทียม 3 กลีบ
   
5. พริกไทย 1 ช้อนชา
   
6. หอมแดงสับ 5 หัว
   
7. น้ำตาลปี๊บ 150 กรัม
   
8. ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
   
9. ถั่วลิสงคั่วบด 55 กรัม
   
10. หัวไชโป๊เค็ม 100 กรัม
    
11. น้ำอัญชัน สำหรับแช่สาคู
    
12. น้ำกระเจี๊ยบ สำหรับแช่สาคู
    
13. กระเทียมเจียว สำหรับโรยหน้า
    
14. ผักกาดหอมและพริกสดสำหรับกินเคียง
    

วิธีทำสาคูไส้หมู

• นำรากผักชี กระเทียมและพริกไทย มาโขลกให้ละเอียด แล้วนำลงผัดในน้ำมันให้ส่งกลิ่นหอม ตามด้วยหอมแดง และหมูสับผัดจนพอสุก
  
• ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บ ซีอิ๊วขาว ใส่ถั่วลิสงคั่วบด หัวไชโป๊เค็มลงไปผัดให้เข้ากัน แล้วพักไว้จนเย็น
  
• นำสาคูมาแบ่งเป็น 3 ส่วน แล้วนำไปแช่ใน น้ำอัญชัน น้ำกระเจี๊ยบ และน้ำเปล่า เพื่อให้ได้สีที่แตกต่างกัน แช่ประมาณ 10 นาที แล้วรินน้ำออก
  
• ปั้นไส้ที่พักไว้จนเย็นให้เป็นก้อน เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1 เซนติเมตร แล้วนำเม็ดสาคูที่แช่น้ำไว้มาห่อคลุมให้รอบ
  
• ทาน้ำมันให้ทั่วลังถึง แล้วนำสาคูไส้หมูที่ปั้นไว้ไปนึ่ง 10 นาที หรือจนกระทั่งสาคูสุกใส
  
• นำขึ้นคลุกน้ำมันกระเทียมเจียวแล้วจัดเสิร์ฟพร้อมกับผักเคียง
  

21เมนูขนมโตเกียว

วัตถุดิบขนมโตเกียว

1. ไข่ไก่ 2 ฟอง
   
2. น้ำตาลป่น 80 กรัม
   
3. นมสด 100 กรัม
   
4. น้ำปูนใสหรือน้ำสะอาด 80 กรัม
   
5. กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
   
6. แป้งเอนกประสงค์ 140 กรัม
   
7. แป้งข้าวเจ้าหรือแป้งมันสำปะหลัง 30 กรัม
   
8. ผงฟู 1 ช้อนชา
   
9. เกลือ 1/2 ช้อนชา
   
10. น้ำมัน หรือ เนยละลาย 15 กรัม
    
11. ไข่นกกระทา ตามชอบ
    
12. ไส้กรอก ตามชอบ
    
13. หมูสับลวก ตามชอบ
    
14. ต้นหอมซอย ตามชอบ
    
15. ซอสปรุงรสฝาเหลือง ตามชอบ
    
16. ซอสมะเขือเทศ ตามชอบ
    
17. ซอสพริก ตามชอบ
    
18. ปูอัด ตามชอบ
    
19. ซอสพิซซ่า ตามชอบ
    
20. ชีสขูด ตามชอบ
    
21. เนยละลายสำหรับย่างแผ่นแป้ง
    

วิธีทำขนมโตเกียว

• นำไข่ตีกับน้ำตาลให้ละลายเข้ากันดี จากนั้นร่อนแป้ง ผงฟู เกลือ ลงไปแล้วผสมให้เข้ากันจนเหนียวข้น ขั้นตอนนี้สำคัญเพราะจะทำให้แป้งเหนียวนุ่ม
  
• จากนั้นจึงใส่น้ำปูนใสหรือน้ำเปล่าลงไปผสมต่อจนเข้ากัน ใส่นมแล้วคนให้เข้ากัน หรือกรองด้วยกระชอนเพื่อความเนียนละเอียดของแป้ง
  
• ทาเนยบางๆ ที่กระทะ ให้ร้อนจนพอดีแล้วจึงใส่แป้งลงไป เกลี่ยให้หนาหรือบางก็ได้ตามที่เราชอบ พอแป้งใกล้สุก ใส่ไส้ตามชอบเช่น ไส้พิซซ่าที่ใส่ซอสมะเขือเทศเข้มข้น ปูอัด และชีส
  
• ค่อย ๆ ม้วนเป็นรูปทรงกระบอก จัดเสิร์ฟ
  

22เมนูโตเกียวสังขยาสูตรโบราณ

วัตถุดิบโตเกียวสังขยาสูตรโบราณ

วัตถุดิบแป้งโตเกียว

1. ไข่ไก่ 4 ฟอง
   
2. แป้งสาลีเอนกประสงค์ 195 กรัม
   
3. น้ำตาลทราย 185 กรัม
   
4. น้ำ ¾ ถ้วยตวง
   
5. เบคกิ้งโซดา 1 ช้อนชา
   

วัตถุดิบไส้ขนมโตเกียว

1. ไข่ไก่ 4 ฟอง
   
2. น้ำตาล 120 กรัม
   
3. เนย 1 ½ ช้อนโต๊ะ
   
4. นม ¾ ถ้วยตวง
   
5. แป้งข้าวโพด 3 ช้อนโต๊ะ
   
6. เกลือป่น ½ ช้อนชา
   
7. กลิ่นวานิลา 1 ช้อนโต๊ะ
   

วิธีทำโตเกียวสังขยาสูตรโบราณ

• นำเบคกิ้งโซดาเทใส่ในแป้งเอนกประสงค์ตามด้วยน้ำ คนให้ละลาย ตอกไข่และตามด้วยน้ำตาลทราย คนจนแป้งละลายดีและส่วนผสมเข้ากัน เสร็จแล้วพักไว้
  
• ตีไข่และน้ำตาลให้น้ำตาลละลายเทนมอุ่นคนจนส่วนผสมเข้ากัน ยกขึ้นตังไฟคนให้ส่วนผสมหนืดและจับเป็นก้อนขึ้น ใส่เนยลงไป คนจนส่วนผสมเข้ากันดีจึงปิดไฟ และทิ้งไว้ให้เย็น
  
• ตักส่วนผสมตัวแป้งและละเลงบนกระทะแบน พอแป้งสุกจึงตักไส้ขนมใส่บนตัวแป้ง ม้วนปิดไส้ แซะออกจากกระทะ จัดใส่จานเสริฟได้ทันที
  

23เมนูขนมครก

วัตถุดิบขนมครก

วัตถุดิบแป้งขนมครก

1. แป้งข้าวเจ้า 200 กรัม
   
2. แป้งข้าวเหนียว 25 กรัม
   
3. หัวกะทิ 1 ½ ถ้วยตวง
   
4. น้ำร้อนจัด 1 ½ ถ้วยตวง
   
5. น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
   
6. เกลือ 1 ช้อนชา
   
7. น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ (สำหรับทาเตาขนมครก)
   

วัตถุดิบหน้าขนมครก

1. หัวกะทิ 1 ½ ถ้วยตวง
   
2. น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วยตวง
   
3. เกลือ 1 ช้อนชา
   
4. แป้งข้าวเจ้า 1 ช้อนโต๊ะ
   
5. เครื่องโรยหน้าขนมครก (ต้นหอมซอย ข้าวโพด)
   

วิธีทำขนมครก

• ผสมแป้งข้าวจ้าว แป้งข้าวเหนียว น้ำตาล และเกลือรวมกันไว้ ค่อย ๆ ใส่หัวกะทิลงไป คอยตะล่อมส่วนผสมไปด้วย แล้วก็ค่อย ๆ ใส่น้ำร้อนจัดตามลงไป คอยคนส่วนผสมไปด้วยจนเข้ากันดีพักไว้
  
• จากนั้นมาทำหน้ากะทิกันค่ะ ใส่น้ำตาลทรายเกลือ และแป้งข้าวเจ้าลงในชามผสมอีกใบ ตะล่อมส่วนผสมแล้วค่อย ๆ ใส่หัวกะทิลงไปด้วย คนจนเข้ากันดีแล้วพักไว้ค่ะ
  
• ใช้ผ้าชุบน้ำมันพืชทาหน้าเตาขนมครกให้ทั่ว ตั้งไฟร้อนปานกลาง ค่อย ๆ หยอดแป้งขนมครกลงไปในหลุม เหลือขอบไว้เล็กน้อยสำหรับโรยหน้ากะทิ
  
• เมื่อแป้งเริ่มสุกเล็กน้อย หยอดหน้ากะทิตามลงไปอย่าให้เกินขอบหลุม จากนั้นปิดฝาเตาไว้สักครู่ โรยเครื่องขนมครกลงไปในแต่ละหลุม มากน้อยตามใจชอบ แล้วปิดฝาอีกรอบค่ะ
  
• รอจนขอบขนมครกเริ่มสุกกรอบเป็นสีน้ำตาล จากนั้นใช้ช้อนแคะออกจากหลุม จัดเสิร์ฟได้เลยค่ะ
  

24เมนูขนมครกสิงคโปร์

วัตถุดิบขนมครกสิงคโปร์

1. แป้งสาลีอเนกประสงค์ 180 กรัม
   
2. แป้งมันสำปะหลัง 90 กรัม
   
3. เกลือป่น ½ ช้อนชา
   
4. ผงฟู 1 ½ ช้อนชา
   
5. ไข่ไก่ 2 ฟอง
   
6. น้ำมันพืช 100 มิลลิลิตร
   
7. น้ำใบเตยเข้มข้น 2 ช้อนโต๊ะ
   
8. นมสด 180 มิลลิลิตร
   
9. เนื้อมะพร้าวอ่อน 1 ถ้วย
   
10. ฟักทองบด 1 ถ้วย
    
11. มันม่วงบด 1 ถ้วย
    
12. น้ำตาลทราย 180 กรัม
    

วิธีทำขนมครกสิงคโปร์

• ตีไข่ไก่กับน้ำตาลทราย จนน้ำตาลทรายละลาย จากนั้นเทนมสดลงไป และตีให้พอเข้ากัน
  
• ร่อนแป้งสาลีอเนกประสงค์ แป้งมัน ผงฟู และเกลือป่นลงไป และตีให้พอเข้ากัน ค่อย ๆ เทน้ำมันพืชลงไป และตีให้เข้ากัน
  
• ตีไข่ไก่กับน้ำตาลทราย จนน้ำตาลทรายละลาย จากนั้นเทนมสดลงไป และตีให้พอเข้ากัน
  
• ร่อนแป้งสาลีอเนกประสงค์ แป้งมัน ผงฟู และเกลือป่นลงไป และตีให้พอเข้ากัน
  
• ค่อย ๆ เทน้ำมันพืชลงไป และตีให้เข้ากัน
  
• นำกระทะขึ้นตั้งไฟเบา และรอจนร้อน ทาน้ำมันพืชให้ทั่ว
  
• จากนั้นตักแป้งหยอดลงไปในหลุมให้สูงประมาณ ¾ ของหลุม หยอดจนครบทุกหลุม ปิดฝา และรอให้สุกประมาณ 2 นาที จากนั้นคีบขนมครกออกจากหลุม แล้วทอดกระทะใหม่จนแป้งหมด จัดใส่จาน พร้อมเสิร์ฟจ้า
  

25เมนูขนมไข่เต่าสามสหาย

วัตถุดิบขนมไข่เต่าสามสหาย

วัตถุดิบสำหรับขนมไข่เต่าสีม่วง

1. มันม่วง 500 กรัม
   
2. แป้งมัน 200 กรัม
   
3. แป้งสาลี 3 ช้อนโต๊ะ
   
4. ผงฟู 1 ช้อนชา
   
5. เกลือ 1 ช้อนชา
   
6. กะทิ 60 มิลลิลิตร
   
7. น้ำตาลทราย 80 กรัม
   

วัตถุดิบสำหรับขนมไข่เต่าสีเหลือง

1. ฟักทอง 500 กรัม
   
2. แป้งมัน 200 กรัม
   
3. แป้งสาลี 3 ช้อนโต๊ะ
   
4. ผงฟู 1 ช้อนชา
   
5. เกลือ 1 ช้อนชา
   
6. กะทิ 40 มิลลิลิตร
   
7. น้ำตาลทราย 80 กรัม
   

วัตถุดิบสำหรับขนมไข่เต่าสีเขียว

1. มันเทศ 500 กรัม
   
2. แป้งมัน 200 กรัม
   
3. แป้งสาลี 3 ช้อนโต๊ะ
   
4. ผงฟู 1 ช้อนชา
   
5. เกลือ 1 ช้อนชา
   
6. กะทิ 20 มิลลิลิตร
   
7. น้ำใบเตย 30 มิลลิลิตร
   
8. น้ำตาลทราย 80 กรัม
   

วิธีทำขนมไข่เต่าสามสหาย

• นำฟักทอง มันเทศ และมันม่วงไปนึ่ง 15 นาที จนสุก แล้วนำไปบดให้ละเอียด
• นำมันม่วงที่บด ผสมแป้งสาลี แป้งมัน ผงฟู เกลือ น้ำตาลทราย และกะทินวดให้เข้ากัน และพักไว้
  
• นำฟักทองที่นึ่ง ผสมแป้งสาลี แป้งมัน ผงฟู เกลือ น้ำตาลทราย และกะทินวดให้เข้ากัน และพักไว้
  
• นำมันเทศ ผสมแป้งสาลี แป้งมัน ผงฟู เกลือ น้ำตาลทราย น้ำใบเตยและกะทินวดให้เข้ากัน และพักไว้
  
• ปั้นแป้งเป็นลักษณะกลม ๆ แล้วนำลงทอดให้เหลืองสุกกรอบ ตักขึ้น พร้อมจัดเสิร์ฟ
  

26เมนูมันทิพย์

วัตถุดิบมันทิพย์

1. กะทิ 150 มิลลิลิตร
   
2. ผงฟู 1 ช้อนชา
   
3. เกลือ 1/2 ช้อนชา
   
4. น้ำตาลทราย 100 กรัม
   
5. มันม่วงนึ่ง 400 กรัม
   
6. มันเทศนึ่ง 400 กรัม
   
7. ข้าวโพดต้ม 300 กรัม
   

วิธีทำมันทิพย์

• เตรียมน้ำกะทิ โดยตั้งหม้อโดยใช้ไฟปานกลาง ใส่น้ำกะทิลงไปในหม้อ ตามด้วยน้ำตาลทรายและเกลือคนให้เข้ากัน รอให้น้ำกะทิเริ่มร้อนแล้วปิดไฟยกลงจากเตา พักให้อุ่น ๆ ก่อนนำไปผสมกับมันม่วง และมันเทศ
  
• นำมันม่วงนึ่งใส่ลงในชามผสม ตามด้วยผงฟูและข้าวโพด ใช้มือคลุกเคล้าและบีบมันม่วงให้เข้ากัน จากนั้นใส่น้ำกะทิที่เตรียมไว้ลงไป 1 ทัพพี แล้วคลุกเคล้าให้เข้ากัน แล้วนำมาปั้นเป็นลูก ๆ พักไว้ เพื่อนำไปย่าง
  
• นำมันเทศนึ่งใส่ลงในชามผสม ตามด้วยผงฟูและข้าวโพด ใช้มือคลุกเคล้าและบีบมันเทศให้เข้ากัน จากนั้นใส่น้ำกะทิที่เตรียมไว้ลงไป 1 ทัพพี แล้วคลุกเคล้าให้เข้ากัน แล้วนำมาปั้นเป็นลูก ๆ พักไว้ เพื่อนำไปย่าง
  
• นำมันม่วงและมันเทศมาย่างโดยใช้ไฟกลางค่อนอ่อน เพื่อให้ได้กลิ่นหอม ๆ และสีเข้มขึ้น เมื่อได้มันทิพย์ที่ต้องการแล้ว ก็เอาออกจากเตาเตรียมจัดเสิร์ฟได้เลยค่ะ
  
• นำมันทิพย์ใส่ลงในจาน เท่านี้ก็พร้อมเสิร์ฟแล้วค่ะ ฟินสุด ๆ ไปเลย
  

27เมนูเผือกทิพย์

วัตถุดิบเผือกทิพย์

1. เผือก 500 กรัม
   
2. ข้าวโพดต้ม 300 กรัม
   
3. กะทิ 150 มิลลิลิตร
   
4. ผงฟู ½ ช้อนชา
   
5. เกลือ ½ ช้อนชา
   
6. น้ำตาลทราย 100 กรัม
   

วิธีทำเผือกทิพย์

• ตั้งลังถึงรอจนน้ำเดือด จากนั้นนำเผือกลงไปนึ่งประมาณ 20 นาที หรือจนเผือกสุก
  
• ใส่น้ำกะทิลงไปในหม้อ ตามด้วยน้ำตาลทราย และเกลือคนให้เข้ากัน รอให้น้ำกะทิเริ่มร้อนแล้วปิดไฟยกลงจากเตา พักให้อุ่น
  
• นำเผือกนึ่งใส่ลงในชามผสม ตามด้วยผงฟู และข้าวโพด ใช้มือคลุกเคล้า และบีบให้ทุกอย่างเข้ากัน จากนั้นทยอยเทน้ำกะทิที่เราพักไว้ให้อุ่นลงไป คลุกเคล้าให้ทุกอย่างเข้ากัน นำมาปั้นเป็นลูก ๆ พักไว้ เพื่อนำไปย่าง
  
• นำ “เผือกทิพย์” ที่ปั้นไว้มาย่างโดยใช้ไฟอ่อน เพื่อให้ได้กลิ่นหอม ๆ และสีเข้มขึ้น เพียงเท่านี้เมนูขนมไทยเด็ด ๆ อย่าง “เผือกทิพย์” ก็พร้อมเสิร์ฟแล้วค่ะ!
  

28เมนูข้าวต้มมัด

วัตถุดิบข้าวต้มมัด

1. ข้าวเหนียวเขี้ยวงูแช่น้ำ 1 ถ้วย
   
2. กะทิ 650 มิลลิลิตร
   
3. น้ำตาลทราย 150 กรัม
   
4. เกลือสมุทร 1 ช้อนชา
   
5. ใบเตย 2 ใบ
   
6. ถั่วดำต้มสุก ¼ ถ้วย
   
7. กล้วยน้ำว้า 1 หวี
   

วิธีทำข้าวต้มมัด

• ปลอกกล้วยน้ำว้า หั่นเป็นสองส่วน หรือสี่ส่วนตามใจชอบ
  
• นำหม้อขึ้นตั้งไฟเบา เทกะทิลงไป ตามด้วยใบเตย และรอจนเดือด
  
• ใส่ข้าวเหนียวเขี้ยวงูแช่ลงไป ผัดจนข้าวเกือบสุก และเหลือน้ำกะทิขลุกขลิก
  
• ใส่น้ำตาลทราย และเกลือลงไป ผัดต่อจนละลาย จากนั้นยกออกพักไว้ให้เย็น
  
• ตัดใบตองเป็น 2 แผ่น โดยใบตองแผ่นแรก ตักข้าวใส่ลงไปประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ ตามด้วยกล้วยน้ำว้า 1 ส่วน และถั่วดำเล็กน้อย ม้วนพับใบตองประกบกัน
  
• นำใบตองแผ่นที่สองมาห่อทับ โดยเอาด้านตะเข็บของใบตองอันแรกลงไป ม้วน และพับหัวท้ายเข้าหากัน
  
• จากนั้นนำข้าวต้มมัด 2 ชิ้นมาประกบกัน และมัดด้วยตอกให้แน่น (ดูวิธีกับห่อและการมัดด้วยตอกอย่างละเอียดได้ในวิดีโอ) ทำจนครบทุกชิ้น
  
• นำเรียงบนลังถึง และนึ่งจนสุก ใช้เวลาประมาณ 25 นาที พร้อมเสิร์ฟจ้า
  

29เมนูกล้วยไข่เชื่อม

วัตถุดิบกล้วยไข่เชื่อม

1. กล้วยไข่ 1 หวี
   
2. น้ำปูนใส 1 ลิตร
   
3. น้ำตาลทราย 300 กรัม
   
4. เกลือ (สำหรับกล้วย) ½ ช้อนชา
   
5. น้ำเปล่า 150 มิลลิลิตร
   
6. น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
   
7. กะทิ 400 มิลลิลิตร
   
8. เกลือ (สำหรับกะทิ) ½ ช้อนชา
   
9. แป้งข้าวเจ้า 1 ช้อนโต๊ะ
   
10. ใบเตย 3 ใบ
    

วิธีทำกล้วยไข่เชื่อม

• นำเกลือ (สำหรับกล้วย) ผสมกับน้ำปูนใส ปอกกล้วยไข่ แล้วแช่น้ำปูนใสประมาณ 1 ชั่วโมง
  
• นำกระทะขึ้นตั้งไฟปานกลาง เทน้ำเปล่าลงไป ตามด้วยใบเตย แล้วรอจนเดือด
  
• ใส่น้ำตาลทราย และน้ำมะนาว รอจนน้ำตาลละลาย ไม่ต้องคน
  
• ใส่กล้วยไข่ลงไปเชื่อม ต้มด้วยไฟเบาประมาณ 30 นาที จนกล้วยไข่เงา
  
• นำกระทะขึ้นตั้งไฟปานกลาง เทกะทิลงไป ตามด้วยแป้งข้าวเจ้า และเกลือ (สำหรับกะทิ) คนให้เข้ากัน แล้วรอจนเดือด ยกออกพักไว้
  
• ตักกล้วยไข่เชื่อมใส่จาน ราดด้วยกะทิ พร้อมเสิร์ฟจ้า
  

30เมนูข้าวเหนียวกล้วยปิ้ง

วัตถุดิบข้าวเหนียวกล้วยปิ้ง

1. ข้าวเหนียวเขี้ยวงู 2 ถ้วยตวง
   
2. น้ำเปล่า 2 ¼ ถ้วยตวง
   
3. กะทิ 1 ถ้วยตวง
   
4. น้ำตาลทราย ¾ ถ้วยตวง
   
5. เกลือ 1 ช้อนชา
   
6. ใบเตย 3 ใบ
   
7. กล้วยน้ำว้า 1 หวี
   

วิธีทำข้าวเหนียวกล้วยปิ้ง

• นำข้าวเหนียวเขี้ยวงูแช่น้ำทิ้งไว้ 30 นาที แล้วนำไปหุงในหม้อที่รองผ้าขาวบางชุบน้ำให้สุก 15 นาที เตรียมไว้
  
• ตั้งหม้อเปิดไฟใส่กะทิ น้ำตาลทราย เกลือ และใบเตย คนให้น้ำตาลละลายดี ปิดไฟ แล้วใส่ข้าวเหนียวที่นึ่งเตรียมไว้ลงไป คลุกให้เข้ากัน ปิดฝาทิ้งไว้ 15 นาที
  
• เผาใบตอง เตรียมไว้ หลังจากนั้นปอกกล้วย และหั่นกล้วยครึ่งเตรียมไว้
  
• ตักข้าวเหนียวมูนใส่ใบตอง ตามด้วยกล้วย และข้าวเหนียวมูนอีกชั้นแล้วห่อใบตอง กลัดด้วยไม้กลัดไว้
  
• นำข้าวเหนียวกล้วยไปปิ้ง 10 นาทีทั้งสองด้านให้มีกลิ่นหอม พร้อมจัดเสิร์ฟ 
  

31 เมนูกล้วยทับน้ำกะทิ

วัตถุดิบกล้วยทับน้ำกะทิ

1. กล้วยน้ำว้าห่าม 1 หวี
   
2. กะทิ 1 ถ้วยตวง
   
3. น้ำตาลปี๊บ 3 ช้อนโต๊ะ
   
4. เกลือ 1 ช้อนชา
   
5. ใบเตย 2 ใบ
   

วิธีทำกล้วยทับน้ำกะทิ

• นำกล้วยน้ำว้าห่าม มาปอกเปลือกหั่นเป็นท่อน แล้วนำไปเสียบไม้ ขึ้นเตาปิ้ง จนกล้วยเริ่มขึ้นสีน้ำตาลเกรียมนิด ๆ จึงยกขึ้น
  
• รองถุงพลาสติกบนเขียงไม้ป้องกันกล้วยติดเขียง แล้วนำเขียงไม้อีกอันทับให้กล้วยแบน
  
• ตั้งหม้อ ใส่กะทิ น้ำตาลปี๊บ เกลือ และใบเตยลงไป เคี้ยวจนกะทิเริ่มข้นเล็กน้อย แล้วยกขึ้นพักไว้
  
• นำกล้วยที่ทับไว้มารูดออกจากไม้ แล้วเสียบทับให้เป็นตับ ราดด้วยน้ำราดกะทิ พร้อมอร่อย!
  

32เมนูไก่ทอดหาดใหญ่

วัตถุดิบไก่ทอดหาดใหญ่

1. พริกไทยขาวเม็ด 2 ช้อนโต๊ะ
   
2. ลูกผักชี 1 ช้อนโต๊ะ
   
3. ยี่หร่า 2 ช้อนชา
   
4. กระเทียม ¼ ถ้วย
   
5. รากผักชี 5 ราก
   
6. ซอสหอยนางรม 3 ช้อนโต๊ะ
   
7. ซีอิ๊วขาว 3 ช้อนโต๊ะ
   
8. เกลือป่น 1 ช้อนชา
   
9. น้ําตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
   
10. แป้งสาลี ½ ถ้วย
    

วิธีทำไก่ทอดหาดใหญ่

• โขลก พริกไทยขาว ลูกผักชี กระเทียม รากผักชี และยี่หร่า ให้ละเอียดเข้ากัน
  
• นำเครื่องเทศที่โขลกไปมักกับน่องไก่ติดสะโพก ปรุงรสด้วย ซีอิ๊วขาว ซอสหอยนางรม เกลือป่น และน้ำตาล โรยแป้งสาลี เติมน้ำเล็กน้อย แล้วคลุกให้เข้ากัน หมักทิ้งไว้ 1-2 ชั่วโมง หรือจะหมักข้ามคืนก็ได้
  
• เมื่อหมักจนเข้าเนื้อแล้ว นำไก่ลงทอดในน้ำมันท่วม ใช้ไฟกลาง ทอดจนไก่เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล จึงยกขึ้นพักไว้ จัดเสิร์ฟพร้อม หอมเจียว เท่านี้ก็พร้อมรับประทาน!
  

33เมนูไก่ทอดเกาหลี

วัตถุดิบไก่ทอดเกาหลี

วัตถุดิบสำหรับหมักไก่

1. ปีกไก่ 7 ชิ้น
   
2. เกลือ 1 ช้อนชา
   
3. ขิงป่น 1 ช้อนชา
   
4. พริกป่นเกาหลี 1 ช้อนชา
   
5. กระเทียมป่น 2 ช้อนชา
   
6. เหล้าโซจู ½ ถ้วยตวง
   

วัตถุดิบสำหรับแป้งชุบทอด

1. แป้งมันฝรั่ง 1 ถ้วยตวง
   
2. แป้งอเนกประสงค์ 1 ถ้วยตวง
   
3. เกลือ 1 ช้อนชา
   
4. น้ำตาล 1 ช้อนชา
   
5. ขิงป่น 1 ช้อนชา
   
6. พริกป่นเกาหลี 1 ช้อนชา
   
7. กระเทียมป่น 2 ช้อนชา
   
8. เหล้าโซจู ¼ ถ้วยตวง
   
9. นำ้เย็นจัด 2 ถ้วยตวง
   
10. เบกกิ้งโซดา ½ ช้อนชา
    

วัตถุดิบสำหรับแป้งคลุก

1. แป้งมันฝรั่ง
   

วัตถุดิบสำหรับซอสไก่เกาหลี

1. น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
   
2. กระเทียมสับละเอียด 2 หัว
   
3. ซีอิ๊วขาว ¼ ถ้วยตวง
   
4. น้ำผึ้ง ⅓ ถ้วยตวง
   
5. งาขาวคั่ว
   

วิธีทำไก่ทอดเกาหลี

• หมักไก่กับส่วนผสมสำหรับหมักไก่ทั้งหมด หมักทิ้งไว้เป็นเวลา 2 ชั่วโมง
  
• ผสมส่วนผสมแป้งชุบทอดทั้งหมดเข้าด้วยกัน คนให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียว นำปีกไก่ชุบลงในแป้งชุบทอด แล้วนำมาคลุกแป้งมันฝรั่ง พักไว้ 10 - 15 นาที
  
• นำปีกไก่ที่พักทิ้งไว้ลงทอดในน้ำมันร้อนปานกลาง จนพอขึ้นสี นำขึ้นสะเด็ดน้ำมัน พักไว้
  
• นำปีกไก่ที่ทอดไว้แล้วลงทอดซ้ำอีกรอบ จนขึ้นสีสวย
  
• ถัดมาเป็นการทำซอสเคลือบไก่เกาหลีเริ่มต้นด้วยการตั้งกระทะไฟอ่อน ผสมส่วนผสมซอสไก่เกาหลีเข้าด้วยกัน ตั้งต่อไปเรื่อย ๆ จนพองวด
  
• นำปีกไก่ที่ทอดเสร็จแล้วสองรอบ มาทาซอสให้ทั่ว พร้อมเสิร์ฟ
  

34เมนูข้าวเหนียวไก่ทอด

วัตถุดิบข้าวเหนียวไก่ทอด

1. ข้าวเหนียวขาว 500 กรัม
   
2. ปีกไก่ 3-4 ชิ้น
   
3. น่องไก่ 3-4 ชิ้น
   
4. สามเกลอ (รากผักชี กระเทียม พริกไทย) 2 ช้อนโต๊ะ
   
5. ซอสปรุงรส 2 ช้อนโต๊ะ
   
6. เกลือ ½ ช้อนชา
   
7. แป้งทอดกรอบ 1 ถ้วยตวง
   
8. น้ำสะอาดเย็น ½ ถ้วยตวง
   
9. หอมเจียว สำหรับตกแต่ง
   

วิธีทำข้าวเหนียวไก่ทอด

• ซาวข้าวเหนียวขาว 1-2 ครั้งจนน้ำสะอาด แช่ข้าวเหนียวไว้ 4 ชั่วโมง
  
• นำหวดที่เปียกน้ำมาใส่ข้าวเหนียว และนำไปวางบนหม้อน้ำเดือด ปิดฝาไว้ 10 นาที เมื่อครบเวลาให้ตวัดข้าวกลับด้านและนึ่งต่ออีก 5 นาที
  
• เมื่อข้าวเหนียวสุกดีแล้วให้นำออกมาใส่ในกระด้งเพื่อส่ายข้าว พรมน้ำเล็กน้อยและใช้ทัพพีไม้เกลี่ยข้าวเหนียวออกเพื่อระบายไอความร้อน จากนั้นปิดไว้ด้วยผ้าขาวบางชุบน้ำหมาด ๆ ไม่ให้ข้าวแห้ง
  
• นำชิ้นส่วนไก่ใส่ลงชามผสม ตามด้วยสามเกลอ ซอสปรุงรส และเกลือ นวดให้เข้ากัน จากนั้นใส่แป้งทอดกรอบและน้ำสะอาดเย็น นวดให้เข้ากันอีกครั้งแล้วปิดพลาสติดแรป หมักในตู้เย็น 20-30 นาที อ่านต่อได้ที่
  
• ตั้งหม้อทอดไฟกลาง ใส่น้ำมันลงไปจนถึงครึ่งหม้อ เมื่อน้ำมันร้อนให้ใส่ไก่ลงไป เพื่อทอดจนสุกเหลืองดี
  
• ตักข้าวเหนียวใส่จาน วางไก่ทอดด้านข้าง โรยหอมเจียวและวางใบผักชีตกแต่ง
  

35เมนูข้าวยำไก่แซ่บ

วัตถุดิบข้าวยำไก่แซ่บ

วัตถุดิบสำหรับหมักไก่

1. สะโพกไก่ (เลาะกระดูกออก) 400 กรัม
   
2. แป้งทอดกรอบ ½ ถ้วยตวง
   
3. เกลือ 1 ช้อนชา
   
4. ซีอี๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
   
5. น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
   

วัตถุดิบสำหรับทำยำไก่

1. พริกป่น 1 ช้อนโต๊ะ
   
2. ข้าวคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ
   
3. น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
   
4. น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
   
5. น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
   
6. หอมแดงซอย 2 ช้อนโต๊ะ
   
7. ผักชีซอย 1 ช้อนโต๊ะ
   
8. ต้นหอมซอย 1 ช้อนโต๊ะ
   
9. ผักชีฝรั่งซอย 1 ช้อนโต๊ะ
   
10. ใบสะระแหน่ 1 ช้อนโต๊ะ
    
11. น้ำเปล่า 1 ช้อนโต๊ะ
    

วิธีทำข้าวยำไก่แซ่บ

• ทำความสะอาดสะโพกไก่ จากนั้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ แล้วมาทำการหมักกับซีอิ๊วขาว เกลือ และน้ำมันพืช จากนั้นคลุกเคล้าให้เข้ากัน พักทิ้งไว้เป็นเวลา 30 นาทีค่ะ
  
• นำไก่ที่หมักไว้จนได้ที่แล้ว มาผสมแป้งทอดกรอบกับน้ำเปล่า (น้ำเย็นจัด) คลุกเคล้าให้เข้ากัน
  
• ตั้งกระทะโดยใช้ไฟปานกลาง ใส่น้ำมันพืชลงไปให้พอท่วมชิ้นไก่นะคะ รอจนน้ำมันร้อน แล้วนำไก่ที่ชุบแป้งแล้วลงทอดเลยค่ะ รอให้ด้านในสุก ด้านนอกเป็นสีเหลืองกรอบทั้งสองด้าน นำขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน และลดความร้อนลงค่ะ
  
• เมื่อไก่ทอดเย็นตัวลงแล้ว นำมาหั่นเป็นชิ้นพอคำก่อนนำไปคลุกเคล้ากับน้ำยำค่ะ
  
• นำน้ำตาลปี๊บ น้ำมะนาว และน้ำปลาคนให้เข้ากันจนน้ำตาลละลาย จากนั้นใส่ข้าวคั่วและพริกป่นลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากันแล้วชิมรสตามชอบค่ะ
  
• เมื่อได้น้ำยำแล้วใส่หอมแดงซอย ผักชีซอย ต้นหอมซอย ผักชีฝรั่งซอย และไก่ที่หั่นเตรียมไว้ลงตามไปค่ะ คลุกเคล้าทุกอย่างให้เข้ากัน - ใส่ใบสะระแหน่ เป็นขั้นตอนสุดท้ายค่ะ
  
• ตักยำไก่แซ่บนำขึ้นใส่จานที่เตรียมข้าวสวยร้อน ๆ ไว้แล้ว เสิร์ฟคู่กับแตงกวา ตกแต่งด้วยใบสะระแหน่ เท่านี้ก็เสิร์ฟได้เลยจ้า
  

36เมนูยำวุ้นเส้น

วัตถุดิบยำวุ้นเส้น

1. วุ้นเส้นสด 100 กรัม
   
2. กุ้งสด 10 ตัว
   
3. หมึกหั่นชิ้น 2 ตัว
   
4. หมูสับ 200 กรัม
   
5. พริกแดง 25 เม็ด
   
6. น้ำมะนาว 3 ลูก
   
7. น้ำปลา 5 ช้อนโต๊ะ
   
8. กระเทียมดองซอย 4 ลูก
   
9. น้ำกระเทียมดอง 2 ช้อนโต๊ะ
   
10. น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
    
11. หอมแขกซอย 1 ลูก
    
12. มะเขือเทศท้อหั่นชิ้น 1 ลูก
    
13. ต้นหอมหั่นท่อน 30 กรัม
    
14. ผักชีหั่นท่อน 30 กรัม
    
15. ขึ้นฉ่ายหั่นท่อน 30 กรัม
    

วิธีทำยำวุ้นเส้น

• โขลกพริกให้แหลก แล้วเริ่มทำน้ำยำ โดยการผสมน้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาลทราย เนื้อกระเทียมดอง น้ำกระเทียมดองและพริกโขลกเข้าด้วยกัน แล้วพักไว้
  
• ลวกกุ้ง หมึก วุ้นเส้น และหมูสับให้สุก ใส่ลงน้ำยำที่เตรียมไว้ ตามด้วยหอมแขก มะเขือเทศ ผักใบต่าง ๆ
  
• คลุกเคล้าให้ส่วนผสมทุกอย่างเข้ากัน แล้วจัดเสิร์ฟ
  

37เมนูยำมาม่า

วัตถุดิบยำมาม่า

1. มาม่าลวก 2 ซอง
   
2. หมูบด 150 กรัม
   
3. หมูยอ 70 กรัม
   
4. ลูกชิ้น 60 กรัม
   
5. กุ้งลวก 50 กรัม
   
6. หอมใหญ่หั่น 1 หัว
   
7. มะเขือเทศ 1 ลูก
   
8. ขึ้นฉ่าย 1 ต้น
   
9. ต้นหอมซอย 1ช้อนโต๊ะ
   
10. แครอทหั่นฝอย 1 ช้อนโต๊ะ
    
11. ผักชีซอย 1 ช้อนโต๊ะ
    
12. น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
    
13. น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
    
14. น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
    
15. กระเทียมและพริกขี้หนูโขลกหยาบ 2 ช้อนโต๊ะ
    

วิธีทำยำมาม่า

• นำน้ำตาลทราย น้ำปลา น้ำมะนาว กระเทียม และพริกขี้หนูโขลกหยาบ ผสมให้เข้ากันดีแล้วพักไว้ค่ะ
  
• นำเส้นมาม่าที่ลวกแล้วใส่ภาชนะที่ใหญ่หน่อยนะคะ เสร็จแล้วใส่หมูสับลวก หมูยอ ลูกชิ้น และกุ้งลวกลงไปค่ะ
  
• ตามด้วยมะเขือเทศ แครอท หอมหัวใหญ่ ต้นหอมซอย ผักชีซอย และขึ้นฉ่าย
  
• นำน้ำยำที่ผสมไว้แล้วราดลงเลยค่ะ คลุกเคล้าให้เข้ากันจนทั่วดีเลยค่ะ ชิมรสชาติให้มีรสเปรี้ยวนำหน่อยนะคะ ตามด้วยรสเผ็ดและรสเค็มค่ะ
  
• นำยำมาม่าจัดใส่จาน ตกแต่งด้วยผักชี แค่นี้ก็พร้อมเสิร์ฟได้เลยค่า

38เมนูยำมะม่วงปูม้าไข่แดงเค็ม

วัตถุดิบยำมะม่วงปูม้าไข่แดงเค็ม

1. ปูม้าสด 4 ตัว
   
2. มะม่วงเปรี้ยว 2 ลูก
   
3. ไข่แดงเค็ม 5 ลูก
   
4. พริกแดงสับหยาบ 2 ทัพพี
   
5. น้ำปลา ¼ ถ้วยตวง
   
6. น้ำมะนาว ¼ ถ้วยตวง
   
7. หอมแดง ¼ ถ้วยตวง
   
8. น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ
   
9. ขึ้นฉ่ายหั่น 1 ต้น
   

วิธีทำยำมะม่วงปูม้าไข่แดงเค็ม

• ล้างปูให้สะอาด แกะกระดองปูออก แกะนมปูออกให้เรียบร้อย แล้วสับออกเป็น 4 ส่วน ใช้สันมีดเคาะตามก้ามเล็กน้อยให้พอร้าว จะได้สะดวกตอนกิน
  
• ใส่ พริกแดงสับหยาบ น้ำปลา น้ำมะนาว หอมแดง และน้ำตาลปี๊บ ลงในขามผสม คลุกให้ละลายเข้ากัน
  
• ปอกเปลือกมะม่วงเปรี้ยว สับให้เป็นเส้น ใส่ลงในชามผสม ตามด้วยปูม้าที่สับไว้ ไข่แดงเค็ม โรยขึ้นฉ่าย แล้วคลุกให้ทุกอย่างผสมเข้ากันดี ตักใส่ถาด จัดเสิร์ฟ เท่านี้ก็พร้อมแซ่บ!
  

39เมนูยำหมึกไข่

วัตถุดิบยำหมึกไข่

1. หมึกไข่ 10 ตัว
   
2. พริกแดงจินดา 15 เม็ด
   
3. กระเทียมไทย 10 กรัม
   
4. รากผักชี 3 ราก
   
5. น้ำเชื่อม ½ ถ้วยตวง
   
6. น้ำปลา 1 ถ้วยตวง
   
7. น้ำมะนาว 4 ลูก
   
8. น้ำกระเทียมดอง ½ ถ้วยตวง
   
9. หอมแขก 1 หัว
   
10. ผักชีใบเลื่อย 3 ต้น
    
11. ขึ้นฉ่าย 3 ต้น
    
12. ผักกาดแก้ว (สำหรับตกแต่ง)
    

วิธีทำยำหมึกไข่

• ใช้มีดบั้งปลาหมึกให้ครบทุกตัว แล้วโรยขึ้นฉ่ายเพิ่มความหอม จากนั้นนำใส่ซึ้งนึ่งในน้ำเดือดประมาณ 15 นาที จากนั้นยกออกจากเตาพักไว้
  
• นำรากผักชี พริกแดงจินดา กระเทียมมาตำให้เข้ากัน และพักไว้
  
• จากนั้นผสมน้ำเชื่อม น้ำปลา น้ำกระเทียมดอง น้ำมะนาว และตักพริกที่ตำไว้มาผสมให้เข้ากัน ใส่หอมแขก ผักชีใบเลื่อยและขึ้นฉ่ายตามลงไป
  
• นำผักกาดแก้วมาวางรองที่จาน ตักปลาหมึกไข่เรียงให้สวยงาม และราดน้ำยำที่เตรียมไว้ให้ทั่ว พร้อมจัดเสิร์ฟ
  

40เมนูคอร์นด็อกปัง

วัตถุดิบคอร์นด็อกปัง

1. ขนมปัง 5 แผ่น
   
2. ไส้กรอก 5 ชิ้น
   
3. ชีสเชดดาร์สีส้ม 20 กรัม
   
4. ชีสเชดดาร์แบบสไลซ์ 5 แผ่น
   
5. แป้งสาลีอเนกประสงค์ 50 กรัม
   
6. ไข่ไก่ 2 ฟอง
   
7. เกล็ดขนมปังแบบละเอียด 20 กรัม
   
8. น้ำมัน (สำหรับทอด)
   

วิธีทำคอร์นด็อกปัง

• ตอกไข่ไก่ลงถ้วยแล้วตีให้เข้ากัน แล้วพักไว้
  
• รีดขนมปังให้เป็นแผ่นบาง จากนั้นวางชีสเชดดาร์แบบสไลซ์ ตามด้วยชีสเชดดาร์สีส้ม และไส้กรอก แล้วม้วนให้เป็นแท่งกลม
  
• ก่อนคลุกด้วยแป้งอเนกประสงค์ ไข่ไก่ และเกล็ดขนมปังให้ทั่วทั้งชิ้น
  
• ตั้งน้ำมันให้ร้อน นำคอร์นด็อกปังที่ทำเตรียมไว้ลงทอดให้สีออกน้ำตาลทอง จากนั้นจัดเสิร์ฟพร้อมซอสมะเขือเทศและมัสตาร์ด 
  

41เมนูกุ้งดองซีอิ๊ว

วัตถุดิบกุ้งดองซีอิ๊ว

1. กุ้งขาว10 ตัว
   
2. โชยุ 150 กรัม
   
3. น้ำตาลทราย1 ช้อนชา
   
4. น้ำเปล่า100 กรัม
   
5. น้ำปลา2 ช้อนโต๊ะ
   
6. กระเทียมจีน 20 กรัม
   
7. พริกจินดาแดง 20 กรัม
   
8. พริกชีฟ้าเขียว สำหรับตกแต่ง
   
9. โซดา สำหรับล้างกุ้ง
   

วิธีทำกุ้งดองซีอิ๊ว

• เคี่ยวน้ำสำหรับใส่กุ้งดองซีอิ๊วเกาหลีโดยเริ่มจากใส่โชยุ น้ำปลา น้ำเปล่า น้ำตาลทราย ลงในหม้อ แล้วเปิดไฟอ่อน ตั้งไว้จนเดือด พอเดือดยกลงพักไว้ให้เย็น
  
• แกะเปลือกกุ้ง ล้างให้สะอาด นำกุ้งที่แกะแล้ว แช่ในโซดา ประมาณ 3-5 นาที เพื่อให้ได้ผิวสัมผัสที่กรุบกรอบ
  
• นำกุ้งที่เตรียมไว้ จัดเรียงลงในภาชนะที่เตรียมไว้
  
• เทโชยุที่พักไว้ลงบนกุ้งให้ท่วม โรยกระเทียมและพริกบนกุ้งแล้วปิดฝา แช่ในตู้เย็นทิ้งไว้ 2-3 ชั่วโมง

42เมนูกุยช่ายทอด

วัตถุดิบกุยช่ายทอด

1. ใบกุยช่าย 1 กิโลกรัม
   
2. แป้งข้าวเจ้า 360 กรัม
   
3. แป้งมัน 45 กรัม
   
4. น้ำเปล่า 500 กรัม
   
5. เบคกิ้งโซดา ½ ช้อนชา
   
6. กระเทียมสับหยาบ 2 ช้อนชา
   
7. เกลือ 2 ช้อนชา
   
8. วัตถุดิบน้ำจิ้มกุยช่าย
   
9. น้ำตาลทราย 60 กรัม
   
10. ซีอิ๊วดำหวาน 2 ช้อนโต๊ะ
    
11. น้ำส้มสายชู 2 ช้อนโต๊ะ
    
12. น้ำเปล่า 100 มิลลิลิตร
    
13. พริกขี้หนูสดบด 1 ช้อนโต๊ะ
    
14. เกลือ 1 ช้อนชา
    

วิธีทำกุยช่ายทอด

• หั่นใบกุยช่ายเป็นท่อนเล็ก ๆ แล้วผึ่งให้สะเด็ดน้ำ
  
• ตั้งกระทะเจียวกระเทียมให้หอม ใส่ใบกุยช่าย เบกกิงโซดาอีก ปรุงรสด้วยเกลือ ผัดจนกระทั่งใบกุยช่ายนิ่ม
  
• ผสมแป้งมัน แป้งข้าวเจ้า และน้ำเปล่า ใส่ใบกุยช่ายที่ผัด และปรุงรสให้เรียบร้อย ผสมให้ทุกอย่างเข้ากันดี ตักใส่ถาดสี่เหลี่ยมแล้วนำไปนึ่งใช้ไฟแรงให้สุกประมาณ 20 นาที
  
• พอนึ่งเสร็จแล้วก็ตัดเป็นชิ้น ๆ ขนาดพอดีคำ จะได้ทอดสุกง่าย นำกุยช่ายลงทอดในน้ำมันที่ร้อนจัดให้เหลืองกรอบ
  

43เมนูกุยช่ายไข่ตอก

วัตถุดิบกุยช่ายไข่ตอก

วัตถุดิบขนมกุยช่าย

1. ใบกุยช่ายหั่นท่อน 500 กรัม
   
2. แป้งข้าวเจ้า 100 กรัม
   
3. แป้งมัน 250 กรัม
   
4. น้ำเปล่า 500 มิลลิลิตร
   
5. กระเทียมสับหยาบ 2 ช้อนชา
   
6. เกลือ 1 ช้อนชา
   
7. น้ำตาล 1 ช้อนชา
   
8. ไข่เป็ด 1 ฟอง
   
9. กระเทียมเจียว (สำหรับตกแต่ง)
   
10. น้ำมันสำหรับผัด
    

วัตถุดิบน้ำจิ้มกุยช่าย

1. น้ำตาลทราย 80 กรัม
   
2. ซีอิ๊วดำหวาน 2 ช้อนโต๊ะ
   
3. น้ำส้มสายชู 2 ช้อนโต๊ะ
   
4. น้ำเปล่า 100 มิลลิลิตร
   
5. พริกจินดาแดงซอย 6 เม็ด
   
6. เกลือ 1 ช้อนชา
   

วิธีทำกุยช่ายไข่ตอก

• ตั้งกระทะใส่น้ำมัน ผัดกระเทียมจนสุกหอม จากนั้นใส่ใบกุยช่ายลงไปผัดจนสุก ปรุงรสด้วยเกลือ และน้ำตาล ปิดไฟใส่แป้งข้าวเจ้า แป้งมัน และน้ำเปล่า คนให้ส่วนผสมเข้ากัน นำไปนึ่งจนสุกหรือนึ่งประมาณ 20 นาที
  
• นำน้ำตาลทราย น้ำส้มสายชู น้ำเปล่า ซีอิ๊วดำ และเกลือตั้งให้ส่วนผสมเข้ากัน จากนั้นใส่พริกซอยลงไป เมื่อส่วนผสมเดือด ปิดไฟพักไว้ให้เย็น
  
• นำกุยช่ายที่นึ่งจนสุกมาตัดชิ้น แล้วนำลงทอดให้กรอบจากนั้นตอกไข่เป็ดลงไปด้านบน ทอดจนไข่เป็ดสุก จัดเสิร์ฟโรยกระเทียมเจียว กินกับน้ำจิ้ม
  

44เมนูขนมปังปิ้งไส้นมสด

วัตถุดิบขนมปังปิ้งไส้นมสด

1. ขนมปังกะโหลก 12 ชิ้น
   
2. ครีมนมสด 150 กรัม
   
3. นมสด 150 กรัม
   
4. ไข่แดง 2 ฟอง
   
5. น้ำตาลทราย 100 กรัม
   
6. แป้งข้าวโพด 2 ช้อนโต๊ะ
   
7. น้ำเปล่า 2 ช้อนโต๊ะ
   
8. เนยจืดละลาย 120 กรัม
   
9. เนยจืด (สำหรับใส่ไส้) 20 กรัม
   

วิธีทำขนมปังปิ้งไส้นมสด

• ละลายแป้งข้าวโพดด้วยน้ำเปล่า และพักไว้
  
• ใส่ไข่แดงลงไปในชามผสม ตามด้วยน้ำตาลทราย จากนั้นตีให้ขึ้นฟูด้วยตะกร้อมือจนเป็นสีเหลืองนวล ประมาณ 5 นาที
  
• ใส่นมสด แป้งข้าวโพดที่ละลายเตรียมไว้ และ ผลิตภัณฑ์ปรุงแต่งอาหารและเครื่องดื่ม ตรา เคเอมแอล ลงไป จากนั้นคนให้เข้ากัน นำไปตุ๋นบนหม้อที่ตั้งน้ำเดือดไว้ คนไปเรื่อย ๆ จนหนืด จากนั้นใส่เนยจืด (สำหรับใส่ไส้) ลงไป และคนจนเนยจืดละลาย พักไว้
  
• ทาเนยบนขนมปังกะโหลก จากนั้นนำไปปิ้งไฟเบาจนเหลืองกรอบ
  
• นำไส้นมสดที่เตรียมไว้ บีบลงไปในขนมปังปิ้ง เพียงเท่านี้ก็พร้อมเสิร์ฟแล้วจ้า
  

45เมนูเค้กโบราณ

วัตถุดิบเค้กโบราณ

วัตถุดิบสำหรับเค้ก

1. เนยสดละลาย 140 กรัม
   
2. แป้งเค้กพัดโบก 170 กรัม
   
3. ผงฟู 1 ช้อนชา
   
4. กลิ่นวนิลา 2 ช้อนชา
   
5. ไข่ไก่ 5 ฟอง
   
6. น้ำตาล 1 ถ้วยตวง
   
7. นมข้นจืด ½ ถ้วยตวง
   
8. SP 15 กรัม
   

วัตถุดิบสำหรับแยมเคลือบหน้าเค้ก

1. แยมส้ม 300 กรัม
   
2. น้ำส้ม 30 กรัม
   
3. เกลือ ¼ ช้อนชา
   

วัตถุดิบสำหรับบัตเตอร์ครีม

1. เนยสด 150 มิลลิลิตร
   
2. แป้งอเนกประสงค์ 3 ช้อนโต๊ะ
   
3. น้ำตาลทราย ½ ถ้วยตวง
   
4. กลินวนิลา 1 ช้อนชา
   
5. นม ½ ถ้วยตวง
   

วิธีทำเค้กโบราณ

• ผสมไข่ น้ำตาล และกลิ่นวนิลาตีให้เข้ากัน หลังจากนั้นใส่ SP ตีให้ขึ้นฟู 10 นาที หลังจากนั้นใส่นมสดแล้วตีให้เข้ากัน
  
• ร่อนแป้งและผงฟูใส่ในเค้ก ตีให้เข้ากันตามด้วยเนยละลาย ตีให้เข้ากันอีกครั้ง
  
• เทใส่พิมพ์ นำเข้าอบ 20 นาทีที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียสจนสุก แล้วนำออกมาพักบนตะแกรง
  
• ตั้งหม้อใส่แยมส้ม น้ำส้ม และเกลือ คนให้เข้ากันหลังจากนั้นนำมากรองเปลือกส้มออก
  
• ตั้งหม้อใส่นม แป้งอเนกประสงค์คนให้แป้งละลาย แล้วใส่กลิ่นวนิลาคนให้เข้ากัน ยกออกจากเตาเตรียมไว้
  
• ตีเนยและน้ำตาลให้ฟู หลังจากนั้นใส่นมที่ละลายแป้งเตรียมไว้ ตีให้เข้ากัน หลังจากนั้นนำมาผสมสีตามต้องการ แล้วใส่ถุงบีบเตรียมไว้
  
• นำเค้กที่พักเย็นแล้ว ราดด้วยแยมส้มแล้วใช้ช้อนเกลี่ยให้ทั่ว ตกแต่งด้วยบัตเตอร์ครีม หลักจากนั้นแช่ให้เย็น พร้อมจัดเสิร์ฟ
  

46เมนูเครปกรอบ

วัตถุดิบเครปกรอบ

1. ไข่ไก่ 2 ฟอง
   
2. น้ำตาล 100 กรัม
   
3. กลิ่นวนิลลา 2 ช้อนชา
   
4. แป้งสาลีเอนกประสงค์ 200 กรัม
   
5. น้ำมันพืช 50 มิลลิลิตร
   
6. เนยละลาย 50 มิลลิลิตร
   
7. น้ำสะอาด 100 มิลลิลิตร
   
8. นม 100 มิลลิลิตร
   
9. เกลือ 1 ช้อนชา
   
10. กล้วยหอม ตามชอบ
    
11. ครีมชอคโกแลต ตามชอบ
    

วิธีทำเครปกรอบ

• ตีไข่กับน้ำตาลให้ขึ้นฟู (จนสีไข่ขาวขึ้น) ใส่แป้งสาลีเอนกประสงค์ เกลือค่อย ๆ ตะล่อมให้เข้ากัน จากนั้นใส่เนยละลาย น้ำมันพืช นม และน้ำคนให้เข้ากัน พักแป้งในตู้เย็นประมาณ 30 นาที
  
• นำแป้งที่ผสมไว้ วนแป้งในกระทะร้อนไฟอ่อนรอแป้งสุกทาครีมช็อคโกแลต จากนั้นตามด้วยกล้วยหอมตามชอบ
  
• รอให้แป้งสุกแล้วพับครึ่ง ให้ได้ทรงสามเหลี่ยม จากนั้นก็ฟินกับ “เครปกรอบ” เมนูของว่างโฮมเมดได้เลย!
  

47เมนูเครปเค้กชาไทย

วัตถุดิบเครปเค้กชาไทย

วัตถุดิบแป้งเครป

1. แป้งอเนกประสงค์ 300 กรัม
   
2. ไข่ไก่ 4 ฟอง
   
3. นมสด 360 กรัม
   
4. ชาไทยแบบถุง 3 ถุง
   
5. น้ำเปล่า 120 กรัม
   
6. เนยจืดละลาย 6 ช้อนโต๊ะ
   
7. เนยจืดสำหรับทอดเครป
   

วัตถุดิบครีมซอสชาไทย

1. ชาไทยแบบถุง 3 ถุง
   
2. น้ำเปล่า 240 กรัม
   
3. นมสด 420 มิลลิลิตร
   
4. ไข่แดง 6 ฟอง
   
5. น้ำตาลทราย 100 กรัม
   
6. นมข้นหวาน 50 กรัม
   
7. แป้งข้าวโพด 35 กรัม
   
8. เกลือป่น ¼ ช้อนชา
   
9. วิปปิงครีม 200 มิลลิลิตร
   

วิธีทำเครปเค้กชาไทย

• ผสมแป้งเครป โดยเริ่มจากใส่แป้งสาลีอเนกประสงค์ลงในชามผสม ตามด้วยไข่ไก่ และนม
  
• ชงชาไทยแบบถุงกับน้ำร้อนให้ได้น้ำชาไทย แล้วใส่ลงไปในชามแป้ง ตามด้วยเนยละลาย คนให้เข้ากันดีด้วยตะกร้อมือ จากนั้นพักไว้ประมาณ 30 นาที
  
• ทำครีมสดโดยตีวิปปิ้งครีมด้วยตะกร้อมือให้ขึ้นฟูตั้งยอดแข็ง แล้วพักไว้ในตู้เย็น
  
• ทำซอสชาไทย โดยต้มน้ำให้เดือด จากนั้นใส่ชาไทยลงไปชง แล้วตักถุงชาออก หลังจากนั้นใส่นม เกลือ และนมข้นหวานลงไปในหม้อ ต้มจนเดือดอ่อน ๆ
  
• ในชามผสมอีกใบ ตีไข่แดง กับน้ำตาลเข้าด้วยกัน ใส่แป้งข้าวโพดตามลงไป ตีให้เข้ากัน
  
• เทส่วนผสมนมส่วนหนึ่งลงมาผสมในชามไข่ ระหว่างเทให้ใช้ตะกร้อมือคนไปด้วย จากนั้นเทกลับลงหม้อ นำไปตั้งไฟอีกครั้งแล้วคนต่อจนเดือดและเป็นซอสข้น พอได้ที่ยกลงแล้วแช่ตู้เย็นพักไว้ให้เย็น
  
• ทากระทะเทฟลอนด้วยเนย จากนั้นตักแป้งเครปลงไปทอดให้สุกทั้งสองด้าน และนำมาวางพักไว้ ทอดให้ครบทุกแผ่น
  
• ประกอบร่างเค้กโดยวางแป้งเครปสลับกับปาดครีมที่เตรียมเอาไว้เป็นชั้น ๆ จนสูงพอประมาณ จากนั้นนำไปแช่เย็นให้เซตตัวประมาณ 1 ชั่วโมง นำออกมาตัดเสิร์ฟ พร้อมราดซอสชาไทยที่ทำไว้
  

48เมนูวาฟเฟิลไส้ทะลัก

วัตถุดิบวาฟเฟิลไส้ทะลัก

1. แป้งอเนกประสงค์ 225 กรัม
   
2. ไข่ไก่ 2 ฟอง
   
3. ไข่ขาว 1 ฟอง
   
4. ผงฟู 1 ช้อนโต๊ะ
   
5. น้ำตาล 30 กรัม
   
6. นมข้นจืด 340 กรัม
   
7. เนยชนิดจืด 110 กรัม
   
8. วิปครีมสำหรับใส่ไส้ตามชอบ
   
9. สตรอว์เบอร์รีสำหรับใส่ไส้ตามชอบ
   
10. น้ำผึ้งสำหรับจัดเสิร์ฟ
    
11. ใบสะระแหน่ สำหรับตกแต่ง
    

วิธีทำวาฟเฟิลไส้ทะลัก

• เทแป้งอเนกประสงค์และผงฟูลงในชามผสม จากนั้นใส่ไข่ไก่ นมข้นจืด และเนยชนิดจืด ให้เข้ากันแล้วพักไว้ จากนั้นนำไข่ขาวใส่ลงในชามผสม แล้วตีด้วยตะกร้อมือให้ไข่ขาวขึ้นฟู และเงาสวย
  
• จากนั้นเติมน้ำตาลทรายลงไปตีกับไข่ขาวจนตั้งยอดอ่อน แล้วพักไว้ใส่ลงในแป้งวาฟเฟิลที่เตรียมไว้ให้เข้ากัน แล้วพักแป้งเป็นเวลา 30 นาที ก่อนนำไปเทลงในเครื่องทำวาฟเฟิล
  
• วอร์มเครื่องทำวาฟเฟิลให้ร้อน จากนั้นนำแป้งวาฟเฟิลเทลงไปตรงกลางของพิมพ์โดยไม่ต้องเกลี่ยให้เต็ม แล้วปิดฝาเครื่องทำวาฟเฟิล รอเป็นเวลา 2-3 นาที เพื่อให้สีของวาฟเฟิลเข้มขึ้น เมื่อครบเวลาแล้วนำวาฟเฟิลที่ได้มาพักบนตระแกรงให้เย็นก่อนจัดเสิร์ฟ
  
• นำวาฟเฟิลที่ได้วางลงบนจานที่ต้องการจัดเสิร์ฟ พับวาฟเฟิลครึ่งหนึ่ง แล้วตามด้วยการบีบวิปครีมลงไปบนวาฟเฟิล และวางสตรอว์เบอร์รีหั่นชิ้น ตกแต่งด้วยใบสะระแหน่ เสิร์ฟพร้อมน้ำผึ้ง เย้!! เสร็จพร้อมทานแล้วจ้า
  

49เมนูวาฟเฟิลครีมสด

วัตถุดิบวาฟเฟิลครีมสด

1. วิปปิงครีม 200 มิลลิลิตร
   
2. แป้งอเนกประสงค์ 225 กรัม
   
3. ไข่ไก่ 2 ฟอง
   
4. ไข่ขาว 1 ฟอง
   
5. ผงฟู 1 ช้อนโต๊ะ
   
6. น้ำตาล 30 กรัม
   
7. นมข้นจืด 340 กรัม
   
8. เนยชนิดจืด 110 กรัม
   
9. ผลไม้สำหรับตกแต่ง
   
10. น้ำผึ้ง สำหรับจัดเสิร์ฟ
    
11. ใบสะระแหน่ สำหรับตกแต่ง
    
12. สีผสมอาหาร 1-2 หยด
    

วิธีทำวาฟเฟิลครีมสด

• เทแป้งอเนกประสงค์และผงฟูลงในชามผสม จากนั้นใส่ไข่ไก่ นมข้นจืด และเนยชนิดจืด ให้เข้ากันแล้วพักไว้
  
• จากนั้นนำไข่ขาวใส่ลงในชามผสม แล้วตีด้วยตะกร้อมือให้ไข่ขาวขึ้นฟู และเงาสวย
  
• จากนั้นเติมน้ำตาลทรายลงไปตีกับไข่ขาวจนตั้งยอดอ่อน นำไปตะล่อมไปกับแป้งที่ตีไว้ เมื่อได้เแป้งวาฟเฟิลแล้ว นำใส่เครื่องทำวาฟเฟิล
  
• ตีวิปปิงครีมให้ตั้งยอดแข็ง หลังจากนั้นผสมกับสีผสมอาหารตามใจชอบ
  
• นำวิปปิ้งครีมวางบนวาฟเฟิล ตกแต่งด้วยผลไม้หลากสีและยอดสะระแหน่ให้สวยงาม
  

50เมนูบลูเบอร์รี่ชีสพาย

วัตถุดิบบลูเบอร์รี่ชีสพาย

วัตถุดิบส่วนฐานบลูเบอร์รี่ชีสพาย

1. แครกเกอร์บดละเอียด 1 ถ้วย
   
2. น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
   
3. เนยละลาย ¼ ถ้วย
   

วัตถุดิบส่วนหน้าบลูเบอร์รี่ชีสพาย

1. บลูเบอร์รี่ฟิลลิ่ง 1 ถ้วย
   
2. ครีมชีส 1 ก้อน
   
3. น้ำตาลทราย ⅔ ถ้วย
   
4. เกลือ ¼ ช้อนชา
   
5. นม ⅓ ถ้วย
   
6. ไข่ 4 ฟอง
   
7. น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
   

วิธีทำบลูเบอร์รี่ชีสพาย

• นำแครกเกอร์ใส่ถุง บดให้ละเอียด แล้วเทใส่ชามผสม เทน้ำตาลและเนยละลายตามลงไป คลุกให้เข้ากัน
  
• นำภาชนะที่สามารถเข้าไมโครเวฟได้มาปูด้วยกระดาษไข ใส่แครกเกอร์ที่ผสมลงไปแล้วกดให้แน่น นำเข้าไมโครเวฟ โดยใช้ความร้อน 800 วัตต์ เป็นเวลา 2 นาที แล้วนำออกมาพักไว้
  
• นำครีมชีสออกจากตู้เย็น พักไว้ให้นุ่มแล้วนำมาตี ค่อย ๆ เติมน้ำตาลตีไปเรื่อย ๆ จนเข้ากัน เติมเกลือ นม แล้วตีอีกครั้งจนเป็นเนื้อเดียวกัน
  
• ตอกไข่ใส่ชามอีกใบ ใส่น้ำมะนาว ตีให้เข้ากัน แล้วนำไปเทผสมกับส่วนผสมครีมชีส คนให้เข้ากัน แล้วนำเข้าไมโครเวฟ ใช้ความร้อน 800 วัตต์ เป็นเวลา 2 นาที คอยนำออกมาคนทุก ๆ 30 วินาที จนเนื้อเนียน
  
• เทส่วนผสมครีมชีสลงบนฐานแครกเกอร์ที่เตรียมไว้ แล้วนำเข้าตู้เย็นประมาณ20นาที จนเซตตัว
  
• เมื่อเซตตัวแล้ว นำออกจากตู้เย็น ยกออกจากภาชนะ จัดเสิร์ฟโดยราดบลูเบอร์รี่ฟีลลิ่ง เท่านี้ก็ฟินกันกระจายยย
  

เรียกได้ว่าเตรียมตัวปังกันเลยจ้ากับ 50 สูตร “เมนูทำขายตลาดนัด” หมดคำถามที่ว่าทำอะไรขายดีเก็บได้นาน หรือจะขายของกินอะไรดีไปอย่างแน่นอน และทุกสูตรที่จัดให้เป็นอาหารทําง่ายขายคล่อง รับรองว่าปังค่ะ! สำหรับใครอยากได้สูตรเมนูทำขายอื่น ๆ อีก สามารถค้นหาเมนูได้ที่นี่เลยค่า