นอกจาก bolttech.co.th จะเป็นโบรกเกอร์ประกันภัยออนไลน์ที่จัดจำหน่ายประกันรถยนต์ ประกันจักรยานยนต์ รับต่อพ.ร.บ.ออนไลน์ ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล ประกันเดินทางต่างประเทศ ประกันบ้านและทรัพย์สิน รวมทั้งรับทำประกันกลุ่ม เรามาต่อยอดจากเรื่องราว เช็คประกันสังคมด้วยวิธีการชิลที่สุดในโลก ทั้งนี้สิทธิประกันสังคมจะมีความสำคัญอย่างมาก โดยเฉพาะในยุคโควิด - 19 แบบนี้ เพราะอย่างนั้นมาทำความเข้าใจกันดีกว่า Show
หากใครที่ต้องการทำความเข้าใจประกันสังคมให้มากขึ้นว่า ระหว่างประกันสังคมมาตรา 39 กับ 40 ต่างกันอย่างไร? แฟรงค์มีมาเล่าให้ฟังแบบชัด ๆ ตามนี้ ประกันสังคม มาตรา 39ที่มาภาพ : สำนักงานประกันสังคม 1. กรณีเจ็บป่วย 1.1 กรณีเจ็บป่วยปกติ ผู้ประกันตนที่ส่งเงินสมทบครบ 3 เดือน ภายใน 15 เดือนก่อนที่จะเจ็บป่วยสามารถเข้ารับการรักษาพยาบาลในสถานพยาบาลตามสิทธิหรือเครือข่ายสถานพยาบาลนั้นได้ฟรีโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ไม่ว่าจะเป็นค่าผู้ป่วยนอกหรือผู้ป่วยใน รวมทั้งค่าตรวจสุขภาพและฟื้นฟูสมรรถภาพ เว้นแต่มีความประสงค์สิ่งอำนวยความสะดวกเช่น ห้องพิเศษ แพทย์พิเศษ ซึ่งเหล่านี้ผู้ป่วยต้องจ่ายเพิ่มเอง ซึ่งสถานพยาบาลควรเป็นสถานพยาบาลใกล้บ้านหรือที่ทำงาน 1.2. กรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยฉุกเฉิน
สถานพยาบาลของรัฐ - ประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยฉุกเฉิน ขอรับค่าบริการทางการแพทย์ได้โดยไม่จำกัดจำนวนครั้งตามรายละเอียดดังนี้
*ยกเว้น ค่าห้องและค่าอาหารเบิกได้ไม่เกินวันละ 700 บาท สถานพยาบาลเอกชน - ประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยฉุกเฉิน สามารถเบิกได้ดังนี้
- เบิกค่าบริการทางการแพทย์เท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 1,000 บาท
- ค่ารักษาพยาบาล กรณีที่ไม่ได้รักษาในห้อง ICU เบิกได้ไม่เกินวันละ 2,000 บาท ที่มาภาพ : สำนักงานประกันสังคม 1.3. ประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต กรณีผู้ประตนประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤตตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขเรื่องหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการช่วยเหลือเยียวยาแก่ผู้ป่วยฉุกเฉิน การจัดให้มีการส่งต่อผู้ป่วยไปยังสถานพยาบาลอื่นจะมีอาการของผู้ป่วยที่เข้าเกณฑ์ดังนี้ 1. หมดสติ ไม่รู้สึกตัว ไม่หายใจ 2. หายใจเร็ว หอบเหนื่อยรุนแรง หายใจติดขัดมีเสียงดัง 3. เจ็บหน้าอกเฉียบพลัน รุนแรง 4. ซึมลง เหงื่อแตก ตัวเย็น หรือมีอาการชักร่วม 5. แขนขาอ่อนแรงครึ่งซีก พูดไม่ชัดแบบปัจจุบันทันด่วนหรือชักต่อเนื่องไม่หยุด 6. มีอาการอื่นร่วมที่มีผลต่อการหายใจ ระบบไหลเวียนโลหิตและระบบสมองที่อาจเป็นอันตรายต่อชีวิต 7. เมื่อไปรับบริการทางการแพทย์ที่สถานพยาบาลเอกชนอื่นที่มิใช่สถานพยาบาลตามสิทธิ ประกันสังคมจ่ายค่าบริการทางการแพทย์ให้แก่สถานพยาบาลที่ให้การรักษาจนพ้นวิกฤตไม่เกิน 72 ชั่วโมง โดยผู้ประกันตนไม่ต้องสำรองจ่าย ที่มาภาพ : สำนักงานประกันสังคม 1.4. กรณีทันตกรรม
ที่มาภาพ : สำนักงานประกันสังคม 2. กรณีคลอดบุตร ผู้ประกันตนที่ส่งเงินสมทบครบ 5 เดือนภายใน 15 เดือน ก่อนเดือนที่คลอดมีสิทธิได้รับค่าคลอดบุตรโดยไม่จำกัดจำนวนครั้ง โดยมีค่าตรวจและรับฝากครรภ์ดังนี้ - อายุครรภ์ไม่เกิน 12 สัปดาห์ จ่ายในอัตราเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 500 บาท - อายุครรภ์มากกว่า 12 สัปดาห์แต่ไม่เกิน 20 สัปดาห์ จ่ายในอัตรเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 300 บาท - อายุครรภ์มากกว่า 20 สัปดาห์แต่ไม่เกิน 28 สัปดาห์ จ่ายในอัตรเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 200 บาท ที่มาภาพ : สำนักงานประกันสังคม 3. กรณีทุพพลภาพ ผู้ประกันตนที่ส่งเงินสมทบครบ 3 เดือนภายใน 15 เดือนก่อนเดือนที่ทุพพลภาพ 3.1. เงินทดแทนการขาดรายได้
3.2. ค่าบริการทางการแพทย์
ที่มาภาพ : สำนักงานประกันสังคม 4. กรณีเสียชีวิต ผู้ประกันตนที่ส่งเงินสมทบครบ 1 เดือน ภายใน 6 เดือนก่อนเดือนถึงแก่ความตายจะได้รับสิทธิดังนี้ - ได้รับเงินค่าทำศพ 40,000 บาท - ได้รับเงินสงเคราะห์กรณีเสียชีวิต ที่มาภาพ : สำนักงานประกันสังคม 5. กรณีสงเคราะห์บุตร ผู้ประกันตนที่ส่งเงินสมทบครบ 12 เดือนภายใน 36 เดือน ก่อนเดือนที่มีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทน จะได้รับเงินสงเคราะห์บุตรเหมาจ่ายเดือนละ 600 บาท/บุตร 1 คน/เดือน คราวละไม่เกิน 3 คน ตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 6 ปีบริบูรณ์ **โดยต้องเป็นบุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย** ที่มาภาพ : สำนักงานประกันสังคม 6. กรณีชราภาพ 6.1 เงินบำเหน็จชราภาพ เป็นเงินก้อนที่จ่ายเพียงแค่ครั้งเดียว กรณีจ่ายเงินสมทบต่ำกว่า 12 เดือน จะได้รับเงินบำเหน็จชราภาพเท่ากับจำนวนเงินสมทบเฉพาะส่วนของผู้ประกันตน กรณีจ่ายเงินสมทบตั้งแต่ 12 เดือนขึ้นไปแต่ไม่ครบ 180 เดือน จะได้รับเงินบำเหน็จชราภาพเท่ากับจำนวนเงินสมทบที่ผู้ประกันตนและนายจ้างจ่ายสมทบ พร้อมผลประโยชน์ทดแทนที่ประกันสังคมกำหนด สูตรคำนวณเงินบำเหน็จชราภาพ - กรณีจ่ายเงินสมทบตั้งแต่ 1-11 เดือน = เงินสมทบของผู้ประกันตนฝ่ายเดียว - กรณีจ่ายเงินสมทบตั้งแต่ 12-179 เดือน = เงินสมทบผู้ประกันตน + เงินสมทบนายจ้าง + ผลประโยชน์ตอบแทน ที่มาภาพ : สำนักงานประกันสังคม 6.2 เงินบำนาญชราภาพ คือ ได้รับเงินบำนาญชราภาพร้อยละ 20 ของค่าจ้างเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้ายที่ใช้เป็นฐานคำนวณเงินสมทบก่อนเป็นผู้ประกันตนสิ้นสุดลง กรณีจ่ายเงินสมทบมากกว่า 180 เดือน (15 ปีขึ้นไป) ให้เพิ่มอัตราเงินบำนาญชราภาพขึ้นอีกร้อยละ 1.5 ต่อระยะเวลาการจ่ายเงินสมทบครบทุก 12 เดือน โดยเงินที่จ่ายจะเป็นรายเดือนตลอดชีวิต สูตรคำนวณเงินบำนาญชราภาพ ค่าจ้างเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้ายคูณด้วย 20% (+ จำนวน% ที่ให้เพิ่มอีกปีละ 1.5%) คุณสมบัติของผู้สมัคร ผู้ประกันตนมาตรา 39 ผู้มีคุณสมบัติในการสมัครเป็นผู้ประกันตนมาตรา 39 จะต้องเคยเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 และส่งเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 12 เดือน และออกจากงานแล้วไม่เกิน 6 เดือน โดยนับตั้งแต่วันแรกที่ออกจากงาน และต้องไม่เป็นผู้รับประโยชน์ทดแทนกรณีทุพพลภาพจากประกันสังคม ที่มาภาพ : สำนักงานประกันสังคม หลักฐานการสมัคร ผู้ประกันตนมาตรา 39 1. แบบคำขอเป็นผู้ประกันตนมาตรา 39 (สปส.1-20) 2. เงินสมทบที่ต้องนำส่งประกันสังคมเดือนละ 432 บาท ช่องทางการชำระเงินสมทบ ผู้ประกันตนมาตรา 39 1. ชำระเงิน ณ สำนักงานประกันสังคมทุกเขตใกล้บ้าน 2. หักเงินฝากผ่านบัญชีธนาคาร 3. จ่ายผ่านเคาน์เตอร์ธนาคาร 4. จ่ายผ่านเคาน์เตอร์หน่วยบริการ กรณีเหตุที่ทำให้ผู้ประกันตนมาตรา 39 สิ้นสภาพ
ทั้งนี้ ผู้ประกันตน มาตรา 39 สามารถนำเงินที่จ่ายให้กับประกันสังคมในปีนั้นๆ ไปยื่นหักลดหย่อนภาษีได้เหมือนผู้ประกันตน มาตรา 33 ได้ โดยสามารถติดต่อได้ที่สำนักงานประกันสังคมใกล้บ้านเพื่อให้เจ้าหน้าที่ออกหนังสือให้ ส่วนผู้ประกันตนมาตรา 33 สามารถเช็กสิทธิของตนเองได้ที่ >> เช็กประกันสังคมมาตรา 33 ได้สิทธิอะไรบ้าง |