SSF ย่อมาจากคำว่า Super Savings Fund เป็น กองทุน น้องใหม่เพิ่งมาแทนที่ กองทุน LTF ได้ไม่นาน แม้จะมีความคล้ายคลึงกับ LTF อยู่บ้าง แต่ได้รับการปรับปรุงให้ยืดหยุ่นมากกว่า โดยยังคงให้ผลประโยชน์ด้านภาษีไม่แพ้กัน มากกว่าการลดหย่อยภาษี กองทุน SSF คือเครื่องมือสร้างความมั่งคั่งในระยะยาว SSF ลงทุนในหลักทรัพย์ได้ทุกประเภทแตกต่างจาก LTF เดิมที่ถูกจำกัดให้ลงทุนในหุ้นไทยเป็นหลัก ช่วยให้นักลงทุนสามารถเลือกนโยบายการลงทุนได้หลากหลายมากขึ้น หากลองดูในเว็บไซต์ของ บลจ. ไทยพาณิชย์ จะพบระดับความเสี่ยงของกองทุนนี้เริ่มตั้งแต่ความเสี่ยงปานกลางค่อนข้างต่ำ (ระดับ 4) เรื่อยไปจนถึงความเสี่ยงสูงมาก (ระดับ 8) โดยกองทุน Super Savings Fund ขายดีอันดับ 1 ของ บลจ. ไทยพาณิชย์ ขณะนี้ ได้แก่ SCBLT1-SSF กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นระยะยาวปันผล 70/30 (ชนิดเพื่อการออม) ความเสี่ยงสูงระดับ 6 โดยเป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในหุ้นที่มีพื้นฐานดีมีการจ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงมีการนำไปลงทุนในตราสารหนี้ที่มีคุณภาพ โดยมีสัดส่วนการลงทุนอยู่ที่ 70% ต่อ 30% จากนโยบายการลงทุนสรุปได้ว่า SCBLT1-SSF เป็นกองทุนผสม ลงทุนในหุ้นเพื่อรับผลตอบแทนสูงในระยะยาว และลงทุนในตราสารหนี้เพื่อลดความเสี่ยงจากการลงทุนในหุ้นซึ่งมีความผันผวนสูง สมมติว่าคุณ S เลือกลงทุนใน SCBLT1-SSF เพื่อ ลดหย่อนภาษี ในปี 2564 คุณ S ควรซื้อหน่วยลงทุนไม่เกิน 30% ของรายได้พึงประเมินในปี 2564 และไม่เกิน 2 แสนบาท หน่วยลงทุนในส่วนนี้คุณ S ต้องถือครองไม่น้อยกว่า 10 ปี นับตั้งแต่วันที่ซื้อจึงจะขายหน่วยลงทุนออกไปได้ ซึ่งข้อบังคับนี้บ่งบอกถึงเจตนาของกองทุน Super Savings Fund ชัดเจนว่าต้องการให้ผู้ลงทุนได้สร้างความมั่งคั่งในระยะยาวมากกว่าการลงทุนในระยะสั้นซึ่งเทียบแล้วอาจมีความเสี่ยงมากกว่า วิธีซื้อหน่วยลงทุนผ่านแอปพลิเคชัน SCB Easy หลายๆ คนเวลาเข้าแอปพลิเคชัน SCB Easy ก็อาจจะทำเพียงโอนหรือถอนเงินเพียงอย่างเดียวไม่เคยกดเข้าไปดูเมนูอื่น ๆ เลย แต่ที่จริงแล้วนอกจากบริการ โอนเงิน แล้วยังสามารถเปิดบัญชีกองทุน ซื้อ ขาย และโอนหน่วยลงทุนผ่านทางแอป SCB Easy ได้สะดวกสบายมากๆ
ลูกค้าของธนาคารไทยพาณิชย์สามารถเปิดบัญชีกองทุนไว้ก่อนโดยยังไม่เลือกลงทุนในกองทุนไหนเลยก็ได้ แล้วเมื่อพร้อมค่อยมากด “การลงทุนของฉัน” ในแอป SCB Easy ได้ นั่นหมายความว่าผู้ลงทุนมีเวลาศึกษานโยบายการลงทุนและเงื่อนไขข้อกำหนดของแต่ละกองทุนอย่างละเอียดก่อนลงทุนได้ไม่จำเป็นต้องรีบร้อน เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังสนใจในการลงทุน บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที ค่าที่แสดงไม่รวมมูลค่าเงินปันผล ราคามูลค่าทรัพย์สินสุทธิ กราฟเทคนิค ผลตอบแทน 3.16% 3M 5.79% 6M 1.88% 1Y ดูทั้งหมด รายละเอียดกองทุนหนังสือชี้ชวน หนังสือชี้ชวน บลจ SCBAM ประเภทกอง Equity General ค่าความเสี่ยง 6 - กองทุนรวมตราสารทุน Feeder Fund - นโยบายค่าเงิน - นโยบายการจ่ายปันผล จ่าย ค่าธรรมเนียมขาย - ค่าธรรมเนียมรับซื้อคืน - ค่าใช้จ่ายกองทุนรวม - ลงทุนครั้งแรกขั้นต่ำ 1,000 บาท ลงทุนครั้งต่อไปขั้นต่ำ 1,000 บาท วันที่จดทะเบียนกองทุน 1 ก.ค. 63 มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 405,760,974.18 บาท
จังหวะเช่นนี้ SCB จึงไม่พลาดที่จะคัดสรรกองทุน RMF และ SSF ซึ่งเป็นหมัดเด็ดมาติดเป็นอาวุธปลายนวมแก่นักลงทุน เพื่อปั้นพอร์ตให้ทำคะแนนได้ในทุกมุม ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
โดย 4 กองทุน RMF และ SSF ที่โค้ชมากประสบการณ์อย่าง SCB CIO แนะนำ* มีดังนี้
1. SCB GLOBAL HEALTH CARE RMF หรือกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ โกลบอลเฮลธ์แคร์ เพื่อการเลี้ยงชีพ (SCBRMGHC) ความเสี่ยงระดับ 7 ซึ่งจัดว่ามีความเสี่ยงสูง
SCBRMGHC เป็นกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ หรือ RMF ที่ลงทุนเกาะเทรนด์สุขภาพ โดยคัดสรรหุ้นจากทั่วทุกมุมโลกในกลุ่ม Health Care ครอบคลุมถึงบริษัทที่วิจัย พัฒนา และผลิตผลิตภัณฑ์เพื่อการดูแลสุขภาพ ตลอดจนผู้ให้บริการที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ ซึ่งเทรนด์สุขภาพเป็นหนึ่งในเมกะเทรนด์การลงทุนทั่วโลก เพราะเป็น 1 ในปัจจัย 4 ที่ทุกคนล้วนมีความต้องการใช้ในทุกสภาวะเศรษฐกิจ
กองทุน SCBRMGHC เหมาะกับนักลงทุนที่สามารถรับความผันผวนของราคาหุ้นที่กองทุนรวมไปลงทุน ซึ่งอาจจะปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นหรือลดลงจนต่ำกว่ามูลค่าที่ลงทุนและทำให้ขาดทุนได้ และควรเป็นนักลงทุนที่สามารถลงทุนในระยะกลางถึงระยะยาว โดยคาดหวังผลตอบแทนในระยะยาวที่ดีกว่าการลงทุนในตราสารหนี้ทั่วไป นักลงทุนที่ต้องการกระจายการลงทุนไปยังหุ้นกลุ่ม Health Care
2. SCB CHINA A-SHARE RMF หรือกองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นจีนเอแชร์ เพื่อการเลี้ยงชีพ (SCBRMCHA) ความเสี่ยงระดับ 6 ซึ่งจัดว่ามีความเสี่ยงสูง
SCBRMCHA มีนโยบายเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนต่างประเทศเพียงกองทุนเดียว (Feeder Fund) คือ ChinaAMC CSI 300 Index ETF (กองทุนหลัก) ซึ่งดัชนี CSI 300 สะท้อนถึง 300 บริษัทชั้นนำในตลาดหุ้นจีนที่พร้อมเติบโตไปกับความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจของจีน และนโยบาย Made in China 2025 อันเป็นยุทธศาสตร์สำคัญของประเทศจีนที่มีเป้าหมายเพื่อพัฒนาประเทศอย่างรอบด้าน
3. SCB SELECTS EQUITY FUND (Super Saving Fund) หรือกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ ซีเล็คท์ อิควิตี้ ฟันด์ (ชนิดเพื่อการออม) (SCBSE-SSF) ความเสี่ยงระดับ 6 ซึ่งจัดว่ามีความเสี่ยงสูง
มีนโยบายเน้นการลงทุนในหลักทรัพย์ประเภทหุ้นจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จำนวนไม่เกิน 30 หลักทรัพย์ ทั้งนี้ กองทุนอาจลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารการลงทุน (Efficient Portfolio Management) ตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุนรวม และตราสารที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง (Structured Note) ได้
4. SCB LOW VOLATILITY EQUITY FUND (Super Saving fund) หรือกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ หุ้น LOW VOLATILITY (ชนิดเพื่อการออม) (SCBLEQ-SSF) ความเสี่ยงระดับ 6 ซึ่งจัดว่าความเสี่ยงสูง
SCBLEQ-SSF มีนโยบายเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองทุนเดียว (Feeder Fund) ได้แก่ Low Volatility Equity Portfolio (กองทุนหลัก) ชนิดหน่วยลงทุน I (สำหรับนักลงทุนสถาบันเท่านั้น) ในรูปสกุลเงินดอลลาร์
กองทุนหลักบริหารโดย AllianceBernstein L.P. จดทะเบียนภายใต้กฎหมายของประเทศลักเซมเบิร์ก และจะทำหน้าที่คัดเลือกหุ้นทั่วโลกจากปัจจัยพื้นฐานพร้อมทั้งมีความผันผวนที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยตลาด
แถมท้ายเอาไว้ติดปลายนวม ด้วยกองทุน RMF-SSF ขายดีระดับแชมป์* อีก 2 กองทุน คือ
โดย SCBRM4 ลงทุนหุ้นไทยพื้นฐานดีที่ผ่านการคัดเลือกหุ้นจากผู้จัดการกองทุนผู้มากประสบการณ์ เพื่อจัดสรรการลงทุนให้เหมาะสมตามสภาวะตลาด
SCBLT1-SSF เป็นกองทุน Top Hit การันตีด้วยการครองแชมป์กองทุน SSF ขายดีของ SCB 2 ปีซ้อน (2563-2564) โดย SCBLT1-SSF มีนโยบายลงทุนหุ้นไทยไม่เกิน 70% ที่เหลือกระจายลงทุนในตราสารหนี้พร้อมโอกาสรับปันผล
สรุปหมัดเด็ดของกองเด่นทั้ง 6 กอง เพื่อนักลงทุนได้ตัดสินใจคว้ากองที่ชอบมาช่วยทำคะแนนให้พอร์ต แบ่งตาม ประเภทของ RMF และ SSF ได้ดังนี้
หมายเหตุ: *ข้อมูลยอดการซื้อผ่านช่องทางธนาคารไทยพาณิชย์ ตั้งแต่วันที่ 4 มกราคม 2564 – 2 กันยายน 2564 **กองทุนแนะนำโดย SCB Chief Investment Office ***ข้อมูลโดย SCB Chief Investment Office และเอกสาร Fund Fact Sheet ของกองทุนจาก SCBAM ****ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.scb.co.th/th/personal-banking/investment/fund/mutual-funds/ssf-rmf-investment.html
คำเตือน:
|