มาตรฐาน การ ติด ตั้ง พัดลม ติด ผนัง

นอกจากพัดลมเป็นทางเลือกที่หนึ่งในการคลายความร้อนแล้ว เรายังมีทางเลือกอื่น ๆ ที่ให้ความเย็นสบายกายสบายใจได้อีกมากมาย เช่น พัดลมไอเย็น ที่ทำหน้าที่เหมือนพัดลมคลายความร้อนได้ดี แอร์เคลื่อนที่ ที่สามารถเคลื่อนย้ายแอร์ไปได้ทุกที่

แอร์เพดาน , แอร์ 4 ทิศทาง , แอร์อินเวอร์เตอร์ ที่ให้ความเย็นฉ่ำเย็นกายเย็นใจได้อย่างทั่วถึง ทำให้เราได้พักผ่อนในบ้านอย่างมีความสุข นั่งเล่นเกมส์บนเก้าอี้เกมมิ่ง กับ โต๊ะคอมเกมมิ่ง ต่อสัญญาณกับ เร้าเตอร์ไวไฟ กิน นมอัลมอนต์ , นมเปรี้ยว เสริมสุขภาพระหว่างการเล่นเกมส์ได้อย่างดี

แต่บทความนี้เราจะมาพูดถึง พัดลมติดผนังกันว่ามีลักษณะเป็นอย่างไร รวมถึงภาพรวมว่าพัดลมมีกี่ประเภท ส่วนประกอบของพัดลมติดผนัง ขนาด คุณสมบัติ การติดตั้งพัดลมติดผนัง รวมถึงการดูแลรักษาทำความสะอาด อ่านรายละเอียดกันอย่างแน่น ๆ กันได้ที่บทความนี้กันเลย

พัดลม คืออะไร

พัดลมเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ทุกบ้านจะต้องมี เพราะเป็นตัวช่วยสำคัญในการระบายความร้อนได้เป็นอย่างดี ราคาไม่แพง เรียกได้ว่าแทบจะทุกบ้านต้องมีพัดลมติดบ้านกันอย่างน้อย 2 เครื่องกันขึ้นไป และประเภทของพัดลมก็มีหลากหลายรูปแบบ มีทั้งพัดลมขนาดเล็ก ขนาดใหญ่ และแบบไอน้ำ สามารถเลือกให้ถูกแบบเหมาะสมกับการใช้งานในบ้าน

ประเภทของพัดลม

พัดลมเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่แบ่งออกเป็น 8 ประเภทใหญ่ ๆ ตามลักษณะการทำงาน และตำแหน่งในการติดตั้งของพัดลม ได้แก่ พัดลมแบบตั้งพื้น แบบตั้งโต๊ะ แบบติดผนัง แบบทาวเวอร์ แบบโคจร แบบไอน้ำ แบบมือถือ และแบบอุตสาหกรรม แต่ละประเภทมีการทำงานที่แตกต่างกัน ดังนี้

1.พัดลมแบบตั้งโต๊ะ

พัดลมตั้งโต๊ะ เป็นประเภทที่นิยมใช้งานในบ้านมากที่สุด เพราะมีทั้งขนาดเล็ก และแบบเคลื่อนย้ายได้สะดวก มีลักษณะเด่นคือ หน้าใบพัดกว้าง ลำตัวสั้น นำไปตั้งพื้น หรือ ตั้งบนเฟอร์นิเจอร์ เพื่อใช้งานแบบเคลื่อนที่ได้ รวมถึงมีแบบเคลื่อนที่ขนาดเล็กที่นิยมใช้กัน

2.พัดลมแบบตั้งพื้น

พัดลมแบบตั้งพื้นที่คล้ายกับแบบตั้งโต๊ะ โดยออกแบบลำตัวพัดลมให้ยาวขึ้น มีความแข็งแรงทนทาน เลื่อนปรับระดับความสูงต่ำได้ตามต้องการ เหมาะสำหรับการใช้งานอยู่กับที่ ไม่เคลื่อนที่ไปไหน เช่นตั้งพัดลมข้างโต๊ะรับแขก ข้างโต๊ะทานขาว

3.พัดลมแบบติดผนัง

พัดลมแบบติดผนัง ใช้สำหรับแขวนติดกับผนัง สามารถหมุนพัดลมได้ถึง 180 องศา มีลักษณะหน้ากว้าง ลำตัวสั้น มีสายดึงยาวสำหรับการเปิดปิดพัดลม และเลือกความแรงได้ตามต้องการ สามารถใช้ระบายอากาศภายในบ้านได้ดี เหมาะสำหรับการใช้งานในบ้านและสถานที่ทั่วไป

4.พัดลมแบบทาวเวอร์

พัดลมแบบนี้มีลักษณะสูงและแคบเหมือนทาวเวอร์ ลักษณะการทำงานสามารถหมุนซ้ายขวาได้ และปรับความแรงได้หลายระดับตามต้องการ  ให้ความเย็นแบบเป็นธรรมชาติ ไม่กินพื้นที่ และใช้พื้นที่น้อย

5.พัดลมแบบโคจร หรือ แบบติดเพดาน

พัดลมโคจรจะมีจุดเด่นคือ สามารถหมุนได้ทั่ว 360 องศา โดยมีลักษณะที่คล้ายกับแบบแขวนผนัง แต่จะใช้ติดเพดานไปเลย ควรติดพัดลมเพดานในพื้นที่โล่งกว้าง เช่นห้องประชุม ห้องโถง โรงอาหาร ห้องเรียน

6.พัดลมแบบไอน้ำ และไอเย็น

พัดลมไอน้ำ นจะให้ความเย็นได้ดีกว่าแบบทั่วไป ความเย็นจะมีลักษณะเป็นละอองน้ำเล็ก ๆ  โดยให้ลมเย็นสดชื่น เพื่อให้ไอน้ำระบายออกควรใช้งานในพื้นที่โล่งกว้าง ห้องนั่งเล่น ห้องทำงาน แต่ไม่เหมาะสำหรับใช้งานในห้องนอน เพราะจะเกิดความชื้น หรือ หากใช้ควรเปิดหน้าต่าง หรือ ประตูเพื่อช่วยระบายความชื้นออก

พัดลมไอเย็น ใช้หลักการเอาความร้อนในอากาศที่ระเหยออกมาไปสู่แผ่นทำความเย็น ปล่อยอากาศเย็นออกมา สามารถทำให้ห้องมีอุณหภูมิลดลงได้สูงสุด 10 องศา หน้าตาพัดลมอาจจะคล้ายกันแต่หลักการทำงานแตกต่างกัน

7.พัดลมแบบอุตสาหกรรม

พัดลมอุตสาหกรรมจะมีขนาดใหญ่ และให้ความเย็นได้มากกว่าแบบทั่วไปได้หลายเท่า เรานิยมใช้พัดลมนี้ในงานอุตสาหกรรม โรงงาน และยังถูกใช้ในโอกาสจัดงานนอกสถานที่ เช่น โต๊ะจีน งานบวช งานแต่ง งานวัด

8.พัดลมแบบมือถือใช้สาย USB

พัดลมแบบมือถือจะมีขนาดเล็ก สำหรับการพกพาติดตัวไป ทำงานโดยใช้ถ่านหรือแบตเตอรี่ ชาร์จแบตโดยใช้สาย USB โดยการชาร์จหนึ่งครั้งใช้งานได้ 30 นาทีขึ้นไปกันเลย

พัดลมติดผนัง คืออะไร

อุปกรณ์ที่ให้ความเย็นที่นิยมมากในบ้านเรา เนื่องจากสภาพอากาศที่ต้องเผชิญกับอากาศร้อนตลอดเวลา ทำให้ต้องมีการใช้พัดลมติดผนังตลอดเวลา นอกจากให้ความเย็นแล้ว ยังประหยัดพื้นที่อีก

ขนาดของพัดลมติดผนัง

ขนาดของพัดลมติดผนังโดยทั่วไปจะเป็นขนาดมาตรฐานคือ ขนาด 12/14/16/18/20/24 นิ้ว โดยมีตะแกรงครอบใบพัดเหล็ก กรอบฝาครอบผลิตจากพลาสติกคุณภาพดี มีความแข็งแรงทนทาน ปรับระดับแรงลมด้วยสายถึงสามระดับ ปรับซ้ายขวาได้ตามต้องการ

วิธีประกอบพัดลมติดผนัง

1.ให้ยึดฐานเหล็กแขวนพัดลมกับฝาผนังให้แน่นด้วยสกรู

• ฝาผนังควรมีความหนาอย่างน้อย ½ นิ้ว
• ระยะห่างจากผนังด้นข้างไมน้อยกว่า 38 ซม.
• ระยะห่างจากเพดานไม่น้อยกว่า 50 ซม.

2.นำชุดฐานพัดลมขึ้นติดตั้งบนฐานเหล็กแขวนพัดลม โดยให้ช่องนำที่อยู่ด้านหลังฐานพัดลม สวมเข้ากับฐานเหล็กแขวนพัดลม จัดตำแหน่งพัดลมให้ตั้งฉากกับพื้น

3.หมุนฝาครอบใบพัดออก

4.หมุนตัวล็อคตะแกรงหลังออกตามลูกศร

5.ใส่ตะแกรงหลัง แล้วใส่ตัวล็อคตะแกรงหลัง หมุนตามลูกศรให้แน่น

6.นำใบพัดสวมเข้ากับแกนมอเตอร์ โดยให้ร่องของใบพัดเลื่อนเข้ากับสลักล็อคใบพัด แล้วใส่ฝาครอบใบพัดหมุนเข้าตามลูกศรให้แน่น

7.ใส่ตะแกรงหน้า วางร่องของขอบล็อคตะแกรงให้เกี่ยวอยู่กับด้านบนสุดของตะแกรงหลัง ให้ซี่ลวดด้านหน้าอยู่ในแนวเดียวกัน แล้วใช้มือกดขอบตะแกรงล็อคให้สนิทรอบด้าน แล้วกดคลิปล็อคตะแกรงขึ้น เพื่อล็อคตะแกรงหน้าหลังเข้าด้วยกัน

วิธีการใช้งานพัดลมติดผนัง

1.ประกอบพัดลมและติดตั้งพัดลมในตำแหน่งที่ต้องการ

2.ต้องใช้ระบบไฟฟ้ากระแสสลับ 220V 50Hz

3.ปรับระดับความเร็วพัดลาม ด้วยการดึงสวติซืกระตุก โดยสามารถปรับแรงลมได้ 3 ระดับ ดูจากแป้นบนตัวเครื่อง ถัดจากระดับลมแรงสุดจะเป็นการปิดการใช้งาน

4.สำหรับพัดลมติดผนังปรับองศา การก้มเงยหรือปรับการส่ายให้ตรงกับความต้องการ พัดลมติดผนังให้ยึดติดกับผนังให้แข็.แรง แล้วปรับองศาก้มเงยและปรับส่ายให้ตรงกัน

5.พัดลมส่ายได้โดยการดึงสวิตว์กระตุกด้านซ้าย

6.ปรับการก้มเงยให้ใช้มือกดที่หน้าพัดลมดันขึ้นลง

ข้อควรระวังในการใช้พัดลมติดผนัง

1.ห้ามใช้พัดลมที่มีสายไฟชำรุดเสียหาย เพราะอาจทำให้เกิดอันตรายได้

2.ห้ามใช้พัดลมในขณะที่ตัวเครื่องเปียกน้ำ อาจได้รับอันตรายจากไฟฟ้าลัดวงจร ไฟฟ้าดูด

3.ห้ามดัดแปลงหรือทำการแก้ไขใด ๆ เพราะอาจทำให้เกิดอันตรายได้

4.ห้ามสัมผัสพัดลมหรือชิ้นส่วนที่มีกระแสไฟฟ้าขณะมือเปียกน้ำ

5.ต้องตัดกระแสไฟฟ้าทุกครั้งก่อนทำความสะอาดและการซ่อมแซมพัดลม

6.พัดลมต้องใช้แรงดันไฟฟ้า ความถี่ตามที่กำหนดไว้ ไม่ควรใช้ในที่มีความเปียกชื้น

7.ไม่ควรใช้ในพื้นที่มีความสูงเหนือระดับน้ำทะเลมากกว่า 1000 เมตร และมีอุณหภูมิมากกว่า 55 องศาเซลเซียส

8.เต้าเสียบที่ใช้ต่อฟ้า จะต้องมีคุณภาพได้มาตรฐานกับมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรม มอก. เพื่อเต้าเสียบที่ใช้งานไม่เกิดความเสี่ยงต่อการเสื่อมสภาพ

9.ปรับมุมสายของพัดลม สามารถทำได้โดยคลายสกรูและเลื่อนไปตำแหน่งที่ต้องการแล้วชันสกรูให้แน่น

10.ปรับระยะของมุมขึ้นลงของหน้าพัดลม ทำได้โดยการคลายสกรูแล้วเลื่อนมอเตอร์ไปยังตำแหน่งที่ต้องการแล้วขันสกรูให้แน่น

11.พัดลมเหมาะสำหรับใช้ภายในอาคาร

12.พัดลมติดผนัง ควรติดตั้งพัดลมให้อยู่สูงจากพื้นมากกว่า 2.3 เมตร

ข้อดีของพัดลมติดผนัง

• พัดลมติดผนังช่วยให้ประหยัดค่าไฟฟ้า
• พัดลมติดผนังมีราคาถูกกว่าเมื่อเทียบกับเครื่องปรับอากาศ
• พัดลมติดผนังเหมาะกับห้องทั้งแบบปิดและแบบเปิดโล่ง
• พัดลมติดผนังไม่กินพื้นที่ ไม่เกะกะ
• พัดลมติดผนังช่วยทำให้ห้องดูกว้างขึ้น
• พัดลมติดผนังช่วยทำให้การทำความสะอาดพื้นสะดวกง่ายดาย
• พัดลมติดผนังเพิ่มความปลอดภัยให้กับเด็ก ๆ โดยเฉพาะเด็กวัยกำลังซนที่อาจแหย่นิ้วเข้าไปใบพัดของพัดลม

วิธีการเลือกซื้อพัดลมติดผนัง

1.เลือกพัดลมติดผนังที่ได้มาตรฐานความปลอดภัย

ควรเลือกพัดลมติดผนังที่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัย มอก. เพื่อความมั่นใจในการใช้งาน ไม่เกิดอันตรายไฟไหม้เครื่องระหว่างการทำงาน

2.เลือกพัดลมติดผนังที่ตอบโจทย์การใช้งาน

สำรวจพื้นที่ในการติดตั้งพัดลมติดผนัง จำนวนคนในบ้าน ว่ามากน้อยเพียงใด หากห้องมีขนาดค่อนข้างใหญ๋ และมีจำนวนคนในห้องเยอะ ก็ควรพิจารณาพัดลมติดผนังที่มีขนาดใหญ่ขึ้น หรืออาจเพิ่มจำนวนพัดลมติดผนังอีกสองสามตัว เพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดได้ สามารถระบายความรอ้นออกได้อย่างเหมาะสม

3.เลือกพัดลมติดผนังที่ช่วยประหยัดพลังงาน

ควรพิจารณาพัดลมติดผนังที่ช่วยประหยัดพลังงาน หมายถึงเลือกผลิตภัณฑ์ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 จะทำให้ค่าไฟฟ้ารายเดือน รายปีลดลงได้เป็นอย่างมาก

4.เปรียบเทียบประสิทธิภาพการใช้งาน

พัดลมมีอยู่หลายประเภทด้วยกัน ทั้งพัดลมตั้งโต๊ะ พัดลมติดเพดาน ก่อนเลือกซื้อควรพิจารณาเปรียบเทียบประสิทธิภาพของพัดลมแต่ละแบบให้มั่นใจก่อนว่า แบบไหนเหมาะสมกับพื้นที่ที่เราจะนำไปวาง เช่นห้องขนาดเล็กก็อาจเลือกพัดลมติดผนังแทน เพราะจะช่วยประหยัดพื้นที่ไปได้มาก

คำถามที่พบบ่อยของพัดลมติดผนัง

oพัดลมติดผนัง กี่วัตต์

พัดลมติดผนังใช้แรงดันไฟฟ้า 220 โวลท์ กำลังไฟฟ้า 52 วัตต์ ใช้กระแสไฟฟ้า 0.25 แอมป์ และความเร็วรอบ 1220 รอบ/นาที

oพัดลมติดผนัง กินไฟไหม

หากใช้เบอร์ 1 กินไฟ 37.3 วัตต์ เปิดวันละ 8 ชั่วโมง ค่าไฟวันละ 1.19 บาท หรือเดือนละ 35.81 บาท

หากใช้เบอร์ 2 กินไฟ 40.0 วัตต์ เปิดวันละ 8 ชั่วโมง ค่าไฟวันละ 1.28 บาท หรือเดือนละ 38.40 บาท

หากใช้เบอร์ 3 กินไฟ 45.3 วัตต์ เปิดวันละ 8 ชั่วโมง ค่าไฟวันละ 1.45 บาท หรือเดือนละ 43.49 บาท

วิธีทำความความสะอาดพัดลมติดผนัง

ควรทำความสะอาดพัดลมอยู่เสมอ หรือประมาณเดือนละหนึ่งครั้ง เพราะพัดลมทำหน้าที่ให้ความเย็นแล้วยังเป็นแหล่งสะสมของฝุ่นละอองอีกมาก เนื่องจากการทำงานที่ดูดอากาศกลับเข้าไป ทำให้ฝุ่นละออง ขนสัตว์ เศษผงต่าง ๆ เข้าไปติดในใบพัดและตะแกรงได้

เกิดการจับตัวกันจนสกปรกฝังติดแน่น ซึ่งหากไม่ทำความสะอาดอาจทำให้เกิดอาการภูมิแพ้ ไอ จาม คัดจมูกได้ เนื่องจากลมที่ส่งออกมาจะพัดฝุ่นละอองสิ่งสกปรกต่าง ๆ ที่ติดบนตะแกรงออกมาด้วย

การทำความสะอาดไม่ได้ยากเย็นอะไรเลย เพียงถอด ปลั๊กไฟก่อน หรือถ้าใครใช้ ปลั๊กไฟอัจฉริยะ ก็ถอดออกมา แล้วถอดส่วนประกอบต่าง ๆ ได้แก่ ตะแกรงคลุม ใบพัด ตะแกรงหลัง ฝาปิดมอเตอร์ โดยการนำมาล้างด้วยแปรงขนอ่อน กับน้ำสบู่อ่อน ๆ

ล้างให้สะอาด แล้วเช็ดให้แห้ง นำไปผึ่งลม หรือ แดดให้แห้งสนิทเพื่อไม่ให้มีละอองน้ำเข้าไปในมอเตอร์ ก่อนสวมประกอบกลับเข้าไปใหม่ จากนั้นใช้ผ้าสะอาดเช็ดที่ลำตัว และปุ่มกด เมื่อทำความสะอาดครบทุกส่วนแล้ว จึงนำมาประกอบให้แน่นให้ดีพอ จึงค่อยเปิดใช้งาน

วิธีติดตั้งพัดลมติดผนัง ง่ายๆ ไม่ง้อช่าง ประหยัดเนื้อที่สุด

สรุป

เป็นอย่างไรกันบ้างกับเรื่องราวของพัดลมติดผนังที่เรามานำเสนอกันอย่างละเอียดสุด ๆ เรียกได้ว่าอ่านบทความนี้แล้วจะสามารถเลือกซื้อพัดลมติดผนังได้อย่างถูกใจถูกวิธีอย่างแน่นอน เพราะการเลือกใช้พัดลมติดผนังเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ถูกต้อง

โดยเฉพาะคนที่มีพื้นที่ในบ้านไม่มากนัก เช่นคอนโด ทาวนเฮ้าส์เล็ก ๆ เพราะพัดลมจะติดบนผนัง ทำให้ประหยัดพื้นที่ในการใช้งาน ไม่เกะกะพื้นที่ อีกทั้งประหยัดไฟมาก ๆ หากใช้เบอร์ 3 วันละ 8 ชั่วโมง ก็จะมีค่าไฟตกวันละ 1.45 บาท หรือเดือนละ 43.49 บาทเท่านั้นเอง

ดังนั้นหากใครกำลังมองหาพัดลมติดผนัง อย่าลืมอ่านบทความอย่างละเอียดที่เรานำเสนอด้านบนนี้ก่อน เพื่อการตัดสินใจซื้อพัดลมติดผนังได้อย่างถูกต้องเหมาะสมกับการใช้งานของคุณ ที่สำคัญควรเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัย มอก. และฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ด้วยทุกครั้ง เพื่อความปลอดภัยขณะใช้งานให้คุณได้อุ่นใจทุกครั้งเมื่อเปิดใช้งาน

ดูแลบทความโดย นัทนิกา

จบการศึกษาปริญญาตรี มหาวิทยาลัยกรุงเทพ คณะนิเทศศาสตร์ สาขาเอกประชาสัมพันธ์และวารสารศาสตร์ ปัจจุบันทำงานเป็นนักเขียนคอนเท้นท์ครีเอเตอร์ฟรีแลนซ์ ประสบการณ์มากกว่า 5 ปี ถนัดด้าน เครื่องใช้ไฟฟ้า เฟอร์นิเจอร์ และผลิตภัณฑ์ด้านอื่นๆ

พัดลมแขวนผนัง ติดตั้งยังไง

พัดลมติดผนัง ติดตั้งยากไหม

พัดลมติดผนังกี่บาท

พัดลมติดผนังดียังไง