ข้าวเหนียว มะม่วง กี่ แค ล อ รี่

     กระแสข้าวเหนียวมะม่วงกำลังมาแรงในตอนนี้ค่ะ เพราะพอเข้าช่วงหน้าร้อนทีไร ผลไม้ที่เรามักจะเห็นได้บ่อย ๆ และราคาถูกก็คือมะม่วงนั่นเอง มีมะมวงสุกหวานฉ่ำมากมายขนาดนี้ คนไทยจึงมะม่วงเข้าคู่กับข้าวเหนียวมูล ราดด้วยน้ำกะทิรสเค็มนิด ๆ  โรยหน้าด้วยถั่วทองอีกสักหน่อย บอกเลยว่าเข้ากันสุด ๆ ค่ะ

     แต่ถึงจะอร่อยถูกปากขนาดไหน ก็เลี่ยงความจริงไม่ได้ว่าเมนูของหวานอย่างข้าวเหนียวมะม่วงขนาด 100 กรัมนั้นให้พลังงานสูงถึง 200-300 แคลอรี่กันเลยทีเดียว และหากเผลอกินมากจนเกินไปนอกจากจะทำให้อ้วนขึ้นแบบไม่รู้ตัวแล้ว ยังส่งผลเสียกับร่างกายในด้านความเสี่ยงต่อการเกิดโรคอื่น ๆ ได้อีกด้วย ดังนั้นวันนี้เราจึงได้รวบรวมเทคนิควิธีในการกินข้าวเหนียวมะม่วงให้ดีต่อต่อสุขภาพ ไม่เพิ่มน้ำหนัก ไม่อ้วนขึ้นกว่าเดิม คราวนี้เรามาดูกันค่ะว่ากินข้าวเหนียวมะม่วงอย่างไรถึงจะไม่อ้วน ต้องทำแบบไหน ไปดูกันเลย !!

5 เทคนิคกินข้าวเหนียวมะม่วงไม่ให้อ้วน

1. กินแค่พอหายอยาก

     อยากจะกินข้าวเหนียวมะม่วงมาก ๆ แต่ไม่อยากให้น้ำหนักขึ้น เราก็สามารถกินแค่พอแก้อยากสัก 4-5 คำหลังมื้ออาหารก็ได้ค่ะ หรือเราอาจจะใช้วิธีกินอาหารอื่นให้น้อยลงหน่อยเพื่อจะได้เผื่อพื้นที่ในท้องสำหรับข้าวเหนียวมะม่วงก็ได้ค่ะ

2. กินมะม่วงมากกว่าข้าวเหนียว

     ข้าวเหนียวปกติก็ทำให้เราอ้วนได้มากเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ยิ่งหากมากินข้าวเหนียวที่ปรุงรสด้วยยิ่งต้องระวังให้ดีค่ะ เพราะข้าวเหนียวมูนที่กินคู่กับมะม่วงนั้นมีส่วนผสมทั้งน้ำตาลและกะทิซึ่งให้พลังงานค่อนข้างมาก เราจึงควรต้องระวังในเรื่องปริมาณค่ะ อยากจะกินข้าวเหนียวมะม่วงจริง ๆ ก็ใช้วิธีกินมะม่วงมากกว่าข้าวเหนียวก็ได้ เพราะมะม่วงให้พลังงานที่น้อยกว่านั่นเองค่ะ

3. เลือกกินข้าวเหนียวดำมากกว่าข้าวเหนียวขาว

     หากร้านขายข้าวเหนียวมะม่วงเจ้าประจำที่เราไปฝากท้องบ่อย ๆ เขามีข้าวเหนียวดำขาย ก็ให้เลือกข้าวเหนียวดำจะดีกว่าค่ะ เพราะมีไฟเบอร์ที่สูงกว่าข้าวเหนียวขาว รวมถึงยังมีสารอาหารสำคัญและสารแอนตี้ออกซิแดนท์ด้วย ไหน ๆ จะกินทั้งทีก็เลือกแบบที่มีประโยชน์กับร่างกายน่าจะดีกว่าค่ะ

4. ลดกะทิ

     ลดการราดน้ำกะทิลงไปสักครึ่งหนึ่งค่ะ เพราะในกะทินั้นมีไขมันอิ่มตัวสูงและส่งผลให้เราเสี่ยงกับโรคไขมันอุดตันในหลอดเลือดได้

5. กินแทนมื้ออาหาร

     ข้าวเหนียวมะม่วงนั้นให้พลังงานเท่ากับอาหาร 1 มื้อเลยค่ะ เพราะฉะนั้นเราจึงสามารถกินข้าวเหนียวมะม่วงแทนมื้ออาหารไปได้เลย แต่อย่างไรก็ตามหากเราตัดสินใจที่จะกินแทนมื้ออาหารแล้ว วันนั้นทั้งวันเราก็ควรจะงดขนมและเครื่องดื่มรสหวานอื่น ๆ ไปนะคะ ทั้งนี้ก็เพื่อไม่ให้ร่างกายรับน้ำตาลเกินกว่าที่ต้องการ และควรกินข้าวเหนียวมะม่วงในมื้อกลางวันเพราะร่างกายจะได้เผาผลาญพลังงานได้ทัน ดีกว่าการกินเป็นมื้อเย็นเพราะร่างกายจะไม่ค่อยได้ใช้พลังงานแล้วและอาจทำให้เกิดไขมันสะสมได้ง่ายค่ะ

บทความที่คุณอาจสนใจ

  • คิดก่อนกิน! 10 ของหวานยอดฮิต แคลอรีสูง กินแล้วน้ำหนักพุ่งปรี๊ด!
  • 8 แคลอรี่ในอาหาร ขนมไทยแบบถ้วย มีมากเท่าไหร่ กินแค่ไหนถึงไม่อ้วน
  • 16 ร้านข้าวเหนียวมะม่วง เจ้าดังกรุงเทพ หอมหวานมัน หน้าร้อนนี้ต้องโดน 🥭
  • สูตรข้าวเหนียวมะม่วง ข้าวเหนียวมูน 2022 หอมอร่อยหวานมัน รับหน้าร้อน

ข้อมูลโภชนาการ

ข้าวเหนียวมูน Glutinous rice steamed in coconut milk

ปริมาณของอาหาร : 1 x 100 กรัม

คุณค่าอาหารที่ได้รับ

Calories 285
Fat 54 g (65 g)*
Carbohydrate 54 g (300 g)*
Protein 3 g (50 g)*

*ปริมาณสารอาหารที่แนะนำไม่ให้รับเกินต่อวัน อ้างอิงจากคนที่ต้องการ 2,000 แคลอรี่/วัน โดยกระทรวงสาธารณสุข

แหล่งที่มา

  • กองโภชนาการ กรมอนามัย

          กินข้าวเหนียวมะม่วงเข้าไปแล้วจะทำให้อ้วนใช่ไหม กินแล้วจะเป็นร้อนในหรือเปล่า แล้วไขมันจะขึ้นไหม ฯลฯ ขอแนะนำเคล็ดลับการกินข้าวเหนียวมะม่วงเพื่อความอร่อย และสุขภาพที่ดี ดังนี้

          1. กินมะม่วงมากกว่าข้าวเหนียว เช่น กินมะม่วงสุกครึ่งลูก (ขนาดกลาง) จะได้พลังงานประมาณ 70 กิโลแคลอรี ส่วนข้าวเหนียวมูนให้กิน 100 กรัม หรือ 1 ขีด จะให้พลังงาน 280 กิโลแคลอรี เมื่อรวมกันแล้วจะเท่ากับ 350 กิโลแคลอรี

          2. กินข้าวเหนียวมะม่วงช่วงเวลากลางวัน เพราะกลางวันเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายต้องใช้พลังงานทำกิจกรรมต่างๆ ควรหลีกเลี่ยงการกินมื้อเย็น เนื่องจากมีกิจกรรมที่ต้องทำน้อยกว่าช่วงกลางวัน พลังงานที่ได้รับเข้าไปอาจเผาผลาญและนำไปใช้ไม่หมด เกิดเป็นไขมันสะสมตามร่างกายได้

          3. ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และไขมันในเลือดสูง ต้องระมัดระวัง เพราะข้าวเหนียวมะม่วงเป็นอาหารที่มีทั้งน้ำตาลและไขมันปริมาณที่ค่อนข้างสูง จึงแนะนำให้กินสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง และควรลดปริมาณข้าวเหนียวลงให้เหลือสักครึ่งขีดกรณีที่ต้องการกิน 2 ครั้งต่อสัปดาห์

          4. คนสุขภาพดี ไม่มีโรคประจำตัว อาจจะกินข้าวเหนียวมะม่วงได้มากกว่า 2 ครั้งต่อสัปดาห์ แต่ต้องไม่ลืมว่าข้าวเหนียวมะม่วงให้พลังงานเทียบเท่ากับการกินอาหารมื้อหลัก 1 มื้อเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นต้องไม่ลืมออกกำลังกายเพื่อเผาผลาญพลังงานที่กินเข้าไป

          5. เลือกกินข้าวเหนียวดำ (ถ้าเป็นไปได้) หรือข้าวเหนียวที่มูนด้วยน้ำกะทิที่ผสมสีที่ได้จากธรรมชาติ เช่น ดอกอัญชัน แครอต ขมิ้น และใบเตย เพราะจะได้รับสารพฤกษเคมีที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย มากกว่าการกินข้าวเหนียวขาว

          6. กินมะม่วงแก่จัด เพื่อให้ได้รสชาติดีและสารอาหารจากมะม่วงครบถ้วน ควรซื้อมะม่วงที่แก่จัด และควรปล่อยให้สุกตามธรรมชาติ เนื่องจากมะม่วงที่บ่มแก๊สจะให้กลิ่นและรสที่ไม่ดีเท่ากับมะม่วงสุกตามธรรมชาติ วิธีการสังเกตคือ มะม่วงที่แก่จัดนั้นผลจะอวบ ด้านล่างของมะม่วงจะไม่แหลม ส่วนมะม่วงที่เก็บมาตอนไม่แก่จัด แล้วนำมาบ่มแก๊สผิวจะเหี่ยว

          7. ผู้ป่วยโรคเบาหวาน หรือไขมันในเลือดสูง ควรกินมะม่วงสุกแต่น้อย กินครั้งละไม่เกิน 1 ผล ขนาดกลาง และใน 1 สัปดาห์ไม่ควรกินเกิน 2 ครั้ง ส่วนผู้ป่วยโรคไตควรงดกินมะม่วงสุกเพราะมีปริมาณโพแทสเซียมสูง

          หลายคนอาจจะคิดว่ากะทิ และข้าวเหนียว เหมือนตัววายร้าย คอยทำร้ายร่างกายของเรา กินเข้าไปแล้วก่อให้เกิดโทษแต่เพียงอย่างเดียว คงเป็นความเข้าใจที่ไม่ถูกต้องนัก และดูเป็นการกล่าวหากันเกินไป อันที่จริงแล้วกะทินั้นนอกจากเป็นแหล่งของพลังงานที่ดีแล้ว ยังมีสารที่สามารถกำจัดสารอนุมูลอิสระที่จะทำลายเซลล์ต่างๆ ร่างกายเราได้อีกด้วย และมีกรดอะมิโนจำเป็นอีกหลายชนิด

          กรณีของข้าวเหนียวมะม่วง กะทิเป็นตัวช่วยให้ร่างกายสามารถนำวิตามินเอที่มีอยู่ในเนื้อมะม่วงไปใช้ได้ เพราะวิตามินเอเป็นวิตามินที่ละลายในไขมัน ต้องอาศัยไขมันเป็นตัวช่วยพาเข้าร่างกาย จึงนับเป็นความฉลาดของคนไทยสมัยก่อนที่จับคู่ข้าวเหนียวมูนด้วยกะทิ คู่กับมะม่วง ส่วนข้าวเหนียวก็ไม่ได้มีแค่แป้ง เพราะถ้าเป็นข้าวเหนียวดำ ก็มีสารต้านมะเร็งชั้นเลิศอยู่เช่นกัน จะเห็นได้ว่ากะทิและข้าวเหนียวไม่ได้มีโทษต่อร่างกายอย่างเดียว หากแต่ยังมีประโยชน์ต่อร่างกายอีกด้วย

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ

ลดความอ้วนกินข้าวเหนียวมะม่วงได้ไหม

3. กินแต่พอเหมาะ ลำพังมะม่วงสุกครึ่งผลขนาดกลาง ก็ให้พลังงานประมาณ 70 กิโลแคลอรีแล้ว ส่วนข้าวเหนียวมูนรสกลมกล่อมปริมาณ 1 ขีด ก็ให้พลังงานมากถึง 280 กิโลแคลอรี รวม ๆ แล้วเมนูข้าวเหนียวมะม่วง 1 จาน ให้พลังงานประมาณ 350 กิโลแคลอรี กินบ่อย ๆ หลาย ๆ มื้อต่อวันก็เพิ่มแคลอรีไปอีกหลายเท่าตัว อ้วนชัวร์ไม่ต้องสืบ

ข้าวเหนียวมันกี่แคล

ข้อมูลโภชนาการ, แคลอรี่, พลังงาน และสารอาหาร ใน ข้าวเหนียวมูน ในปริมาณ 100 g มีพลังงานทั้งหมด 196.1 กิโลแคลอรี่, โปรตีน 2.6 กรัม, คาร์โบไฮเดรต 31.9 กรัม, ไขมัน 6.6 กรัม เราสามารถดูรายละเอียดข้อมูลอื่นๆ เข่น เกลือโซเดียม, คอเลสเตอรอล, วิตามิน, ไขมันอิ่มตัว, ไขมันไม่อิ่มตัว, น้ำตาล, กากไยอาหาร ฯลฯ ได้จากตารางด้านล่างครับ

ข้าวเหนียว1ขีดมีกี่แคล

เช่น กินมะม่วงสุกครึ่งลูก (ขนาดกลาง) จะได้พลังงานประมาณ 70 กิโลแคลอรี ส่วนข้าวเหนียวมูนให้กิน 100 กรัม หรือ 1 ขีด จะให้พลังงาน 280 กิโลแคลอรี เมื่อรวมกันแล้วจะเท่ากับ 350 กิโลแคลอรี

กินข้าวเหนียวมะม่วงแทนข้าวได้ไหม

ข้าวเหนียวมะม่วงนั้นให้พลังงานเท่ากับอาหาร 1 มื้อเลยค่ะ เพราะฉะนั้นเราจึงสามารถกินข้าวเหนียวมะม่วงแทนมื้ออาหารไปได้เลย แต่อย่างไรก็ตามหากเราตัดสินใจที่จะกินแทนมื้ออาหารแล้ว วันนั้นทั้งวันเราก็ควรจะงดขนมและเครื่องดื่มรสหวานอื่น ๆ ไปนะคะ ทั้งนี้ก็เพื่อไม่ให้ร่างกายรับน้ำตาลเกินกว่าที่ต้องการ และควรกินข้าวเหนียวมะม่วงใน ...