กลุ่มเป้าหมายของร้านเบเกอรี่

ในยุคที่ธุรกิจร้านอาหารมีการแข่งขันสูง ทางร้านย่อมจะต้องหาวิธีดึงดูดและจูงใจลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการ แต่ผู้บริโภคแต่ละกลุ่มมีความต้องการที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้น การทำความเข้าใจลูกค้าแต่ละกลุ่มจึงเป็นเรื่องสำคัญ ที่จะช่วยให้พนักงานบริการลูกค้าที่ต่างกันอย่างเหมาะสม ทำให้ได้รับประสบการณ์ที่ดีจากร้าน ในบทความนี้เราจึง เจาะกลุ่มลูกค้า แต่ละแบบในร้านอาหาร เพื่อแนะนำแนวทางในการบริการให้เหมาะสม และเพิ่มโอกาสในการขายของร้านอาหารครับ

เจาะกลุ่มลูกค้า ในร้านอาหาร บริการให้ตรงใจ

1. ลูกค้าที่มาเป็นคู่

ลูกค้าที่มากันสองคนหรือเป็นคู่รัก มักจะต้องการใช้เวลาด้วยกันมากกว่าต้องการให้พนักงานบริการเพิ่มเติม ดังนั้น พนักงานควรจะเลือกที่นั่งที่ให้ความรู้สึกค่อนข้างส่วนตัว เช่น โต๊ะที่อยู่ด้านในของร้าน หรือโต๊ะที่ห่างออกไปจากกลุ่มลูกค้าที่มาด้วยกัน เพื่อลดเสียงรบกวน
หลังจากลูกค้าสั่งอาหารแล้วก็คอยสังเกตห่างๆ ว่าลูกค้าต้องการบริการใดเพิ่มเติมแล้วค่อยเข้าไปบริการ โดยเมื่อลูกค้ารับประทานอาหารหลักใกล้เสร็จ อาจจะขออนุญาตเข้าไปเก็บจานที่ไม่ใช้แล้ว พร้อมกับแนะนำเมนูของหวานเพิ่มเติม เพื่อเพิ่มยอดขายให้กับร้านอาหารได้

กลุ่มเป้าหมายของร้านเบเกอรี่

2. กลุ่มคนทำงาน พนักงานออฟฟิศ

สำหรับร้านที่อยู่บริเวณที่ทำงานในเมือง พนักงานออฟฟิศคงเป็นกลุ่มลูกค้าหลักในร้าน  ส่วนใหญ่จะมาในเวลาพักกลางวัน หรือหลังเลิกงานในตอนเย็น จากเวลาพักที่ใกล้เคียงกันของพนักงานออฟฟิศ ทำให้ร้านอาหารต้องบริหารจัดการโต๊ะให้ดีเพื่อเพิ่มจำนวนลูกค้าต่อวันให้มากขึ้น และหาวิธีทำงานที่รวดเร็วขึ้น เช่น อาจจะปรุงวัตถุดิบบางส่วนล่วงหน้าไว้ เพื่อลดระยะเวลาการทำอาหาร หรือมีกระดาษให้เลือกเมนูอยู่ที่โต๊ะเพื่อลดภาระของพนักงาน

ลูกค้ากลุ่มนี้มักจะมาเป็นกลุ่มย่อยๆ ประมาณ 3-4 คน โดยสั่งอาหารจานหลักคนละจาน และอาจจะสั่งเมนูอื่นๆ มาแชร์กัน พนักงานอาจจะแนะนำเมนูทานเล่นอื่นๆ ที่มีขายภายในร้านนอกเหนือจากอาหารจานหลัก เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าอยากสั่ง และเพิ่มยอดขายต่อโต๊ะให้มากขึ้น 

3. กลุ่มนักเรียน/นักศึกษา 

ลูกค้ากลุ่มนี้มักจะมาด้วยกันหลายคน สิ่งที่ลูกค้ากลุ่มนี้ต้องการคือ โต๊ะขนาดใหญ่ที่สามารถนั่งด้วยกันได้ทั้งหมด เพื่อให้พูดคุยกันได้สะดวกระหว่างทานอาหาร ดังนั้น หากร้านอยู่ในละแวกโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัย และเน้นลูกค้ากลุ่มนี้เป็นลูกค้าเป้าหมาย ก็ควรจะใช้โต๊ะและที่นั่งที่น้ำหนักเบา สามารถเคลื่อนย้ายสะดวกและปรับเปลี่ยนได้ง่าย เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าในกลุ่มนี้

พนักงานเสิร์ฟสามารถบริการลูกค้ากลุ่มนี้แบบเป็นมิตร เข้าถึงง่าย และสร้างความเป็นกันเองกับลูกค้ากลุ่มนี้ได้ง่ายกว่ากลุ่มอื่นๆ ส่วนมากลูกค้ากลุ่มนี้มักจะสั่งอาหารมาลองทานด้วยกันแล้วค่อยแชร์ค่าอาหาร จึงสั่งอาหารได้หลากหลายเมนู พนักงานจึงสามารถแนะนำเมนูได้เยอะ และอย่าลืมแนะนำของหวานเพิ่มเติมหลังจากมื้อหลัก อย่างพวกบิงซู ฮันนี่โทสต์  ซึ่งที่แบ่งกันทานได้ จะช่วยเพิ่มยอดขายได้มาก

สิ่งสำคัญนอกจากรสชาติอาหารที่ดีแล้ว ยังต้องหมั่นสังเกตความต้องการของลูกค้า และให้บริการอย่างรวดเร็ว เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกประทับใจ ซึ่งมีโอกาสสูงที่จะกลับมาเป็นลูกค้าประจำในภายหลัง และแนะนำบอกต่อกับเพื่อนกลุ่มอื่นๆ หรือรีวิวลงในโซเซียลมีเดียอีกด้วย 

กลุ่มเป้าหมายของร้านเบเกอรี่

4. กลุ่มครอบครัว

ลูกค้าที่มาเป็นครอบครัวก็มักจะมากันหลายคน และมีกำลังซื้อสูง สิ่งที่พนักงานควรทำคือใส่ใจเกี่ยวกับการบริการ โดยเฉพาะครอบครัวที่มีเด็ก หรือผู้สูงอายุ ที่อาจจะต้องการเก้าอี้เสริม หรือความช่วยเหลือต่างๆ รวมถึงแนะนำเมนูที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ หรือเมนูสำหรับเด็ก ก็จะช่วยให้ตัดสินใจสั่งอาหารได้เร็วขึ้น แน่นอนว่าต้องไม่พลาดการแนะนำเมนูของหวานด้วย

5. ลูกค้าที่มาคนเดียว

สำหรับลูกค้าที่มาคนเดียว พนักงานควรทำให้ลูกค้ารู้สึกผ่อนคลายและไม่ต้องเสนอเมนูมากมาย เพราะสั่งอาหารได้จำกัด แต่หากต้องการอยากเพิ่มยอดขายจากลูกค้าที่มีคนเดียว อาจจะแนะนำเมนูเครื่องดื่มเพิ่มเติม หรือเสนอขายเซตเมนูภายในร้านได้
(อ่านเพิ่มเติม >> วิธีเพิ่มยอดขายจากลูกค้าที่มาคนเดียว)

กลุ่มเป้าหมายของร้านเบเกอรี่

6. กลุ่มลูกค้าที่คุยงานหรือธุรกิจ

สำหรับลูกค้าวัยทำงานบางส่วน อาจจะเลือกเลี้ยงรับรองลูกค้า หรือเจรจาธุรกิจในร้านอาหาร เพื่อให้ความรู้สึกที่ไม่เคร่งเครียด และสร้างความสนิทสนมกันมากขึ้น  ดังนั้น ทางร้านควรจะให้ความเป็นส่วนตัวแก่ลูกค้ากลุ่มนี้ โดยเลือกโต๊ะที่อยู่ในมุมสงบ ไม่มีคนพลุกพล่าน และพนักงานควรให้บริการอย่างสุภาพ ไม่จำเป็นต้องเสนอโปรโมชันอะไรมาก แต่ควรแนะนำเมนูเด็ดของร้านที่ดูดีมีราคา ให้ลูกค้าสั่งครั้งเดียวจบ และพนักงานควรหมั่นสังเกตอยู่ห่างๆ เพื่อให้บริการอย่างเหมาะสม

จะเห็นว่ากลุ่มลูกค้าในร้านอาหารนั้น มีความหลากหลายและความต้องการที่แตกต่างกันไป พนักงานที่เป็นคนมีปฎิสัมพันธ์กับลูกค้าโดยตรง ควรจะมีความเข้าใจในลูกค้า เพื่อจะแนะนำเมนูและให้บริการได้ตรงใจมากที่สุด เจ้าของร้านไม่ควรพลาดจุดนี้และเน้นกับทางทีมงานนะครับ

แผนธุรกิจ ร้านเบเกอรี่ (Bakery Shop)

Bakery หมายถึง ร้านเบเกอรี่ ร้านขายขนมปัง-ขนมเค้กและขนมอบที่อบด้วยเตา ชาวตะวันตกนิยมรับประทานขนมปัง-ขน มอบมานานแล้ว และได้เผยแพร่จนได้รับความนิยมแพร่หลายกลายมาเป็นอาหารหลักประจำ วัน มีการพัฒนารูปแบบของขนมออกเป็นอาหารเช้า-กลางวัน-เย็น-เค้กและของหวานต่างๆ และสามารถรับประทานร่วมกับชากาแฟได้ด้วย ปัจจุบันขนมอบเบเกอรี่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก มีการพัฒนารูปแบบของขนมอย่างต่อเนื่อง ให้สามารถรับประทานได้ในทุกโอกาส ทุกเวลาและทุกสถานที่

ร้านขนมอบเบเกอรี่ หรือ ร้านเบเกอรี่ ความมีเสน่ห์ของขนมอบเบเกอรี่ไม่ใช่แค่เพียงรสชาติดี อร่อยกลมกล่อมเท่านั้น รูปลักษณ์และสีสันการตกแต่งตัวผลิตภัณฑ์ก็เป็นปัจจัยสำ คัญที่ทำ ให้ผู้บริโภครู้สึกประทับใจ รูปแบบของบรรจุภัณฑ์ที่ดูสวยงามมีชีวิตชิวาจะทำ ให้ผลิตภัณฑ์ดูน่ารับประทานมากยิ่งขึ้นหรือเหมาะที่จะใช้เป็นของฝากของขวัญในงานเทศกาลต่างๆ ถือเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของขนมอบเบเกอรี่ที่ทำ ให้ผู้บริโภคติดอกติดใจและได้รับความนิยมตลอดมา

ในประเทศไทย ร้านเบเกอรี่ หรือ ร้านขนมอบเบเกอรี่ ยังได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องตลอดมา ผู้คนทุกเพศทุกวัยให้ความสนใจหันมารับประทานขนมอบเบเกอรี่กันมากขึ้น ทำ ให้แนวโน้มความนิยมรับประทานขนมอบเบเกอรี่มีมากขึ้นใในปัจจุบัน การเปิด ร้านขนมอบเบเกอรี่ ก็จะมีมากขึ้นตามมา สิ่งสำ คัญของผูประกอบการ ก็คือการรักษาร้านให้ดำ รงอยู่อย่างตลอดรอดฝั่งได้ ผู้ประกอบการจะต้องให้ความเอาใจใส่ในการรักษาคุณภาพและมาตรฐานของผลิตภัณฑ์ การพัฒนาสินค้าควบคู่ไปกับการสร้างเอกลักษณ์ให้กับตราสินค้า การใช้บรรจุภัณฑ์ที่สวยงามมีลูกเล่นให้สินค้ามีชีวิตชีวา รวมถึงการให้บริการที่สร้างความประทับใจให้กับลูกค้า การที่ผู้ประกอบการสามารถสร้างและรักษาคุณค่าของธุรกิจของตนเองไว้ได้อย่างเหนียวแน่น ถึงแม้ว่าจะเป็นขนาดกลางหรือขนาดเล็กก็ตาม ก็จะสามารถยืนหยัดอยู่ได้ในกระแสพายุทางเศรษฐกิจอย่างมั่นคง

รายงานฉบับนี้เป็นเพียงแนวทางให้ผู้ประกอบการที่สนใจใน ธุรกิจร้านเบเกอรี่ ได้ศึกษาเป็นข้อมูลเบื้องต้นถึงปัจจัยต่างๆที่ผู้ประกอบการควรเอาใจใส่ ข้อควรปฏิบัติและข้อพึงระวัง ดังนี้

ศักยภาพของผู้ประกอบการ “ร้านเบเกอรี่”

  1. จะต้องมีความรักในอาชีพหรืองานที่ตนทำ อยู่
  2. จะต้องมีความรู้เกี่ยวกับการทำ ขนมอบชนิดต่างๆ
  3. ต้องมีความซื่อสัตย์ต่อลูกค้า
  4. เปิดใจให้กว้าง พร้อมรับคำ ติชม
  5. กิริยามารยาทเรียบร้อย พูดจาอ่อนหวาน
  6. มีเหตุผลและรับผิดชอบในงานของตน
  7. มีความอดทน
  8. รักษาเวลา รู้คุณค่าและวิธีการประหยัดเวลา แรงงานและวัสดุ
  9. มีความขยันหมั่นเพียร
  10. แต่งกายสุภาพเรียบร้อย
  11. รู้จักเอาใจลูกค้า
  12. มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี มีความเป็นกันเองกับลูกค้า
  13. มีความสนใจในข่าวสารข้อมูลและสถานการณ์ปัจจุบัน ที่อาจจะมีผลต่อการประกอบธุรกิจ
  14. ค้นคว้าวิธีการใหม่ๆที่จะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนางานและสินค้าอยู่เสมอ

การตลาด ร้านเบเกอรี่ภาพรวมของตลาดเบเกอรี่

ตลาดเบเกอรี่ในปัจจุบันนับว่าเป็นตลาดที่น่าสนใจมากขึ้น ด้วยมูลค่าตลาดในปี 2539 ที่สูงถึง 4,200 ล้านบาท และมีอัตราการขยายตัวในแต่ละปีร้อยละ 30-40 โดยแบ่งออกเป็นเบเกอรี่ตลาดล่างมูลค่า 2,400 ล้านบาท หรือร้อยละ 57.1 และเบเกอรี่ตลาดบนมูลค่า 1,800 ล้านบาท หรือร้อยละ 42.9 (บ.ศูนย์วิจัยกสิกรไทย,2539)

ถึงแม้ว่าในช่วงปี 2541-2542 ที่ผ่านมา มูลค่าตลาดจะหดตัวลงบ้างจากภาวะวิกฤตทางเศรษฐกิจ ทำ ให้ผู้ประกอบการต่างลดกำ ลังการผลิตลงตามกำ ลังซื้อของผู้บริโภค แต่จากการคาดการณ์ของ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทยในช่วงปีใหม่ 2544 ตลาดเค้กและเบเกอรี่จะมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นไม่ตํ่ากว่าร้อยละ 10 โดยเฉพาะตลาดในกรุงเทพฯ คาดว่ามูลค่าตลาดเติบโตเพิ่มขึ้นประมาณ 2,750 ล้านบาท

สถานการณ์การแข่งขัน

ร้านเบเกอรี่ในตลาดระดับบน มีการแข่งขันที่ค่อนข้างสูงทั้งจากตราสินค้าในประเทศ และตราสินค้าจากต่างประเทศเนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภคนิยมรับประทานเบเกอรี่กันมากขึ้น ทำ ให้อัตราการขยายตัวของตลาดเบเกอรี่ระดับบนอยู่ในเกณฑ์ที่สูงกว่า รวมทั้งการนำ กลยุทธ์รูปแบบต่างๆมาใช้ โดยเฉพาะการเปิดร้านแฟรนไซส์โดยอิงกับห้างสรรพสินค้าที่มีอยู่ทั่วประเทศ การบริการจัดส่งถึงที่ การรับจัดเลี้ยงนอกสถานที่ และการรับสมัครสมาชิกเพื่อสร้างกลุ่มลูกค้าประจำ

ตลาดเบเกอรี่ สามารถแบ่งออกได้เป็น 4 ประเภท คือ1. ร้านเบเกอรี่ ในโรงแรม

ถือว่าเป็นตลาดเบเกอรี่ในระดับบน ซึ่งโรงแรมใหญ่ๆ ที่มีชื่อเสียงมักจะมีแผนกเบเกอรี่อยู่ด้วย สำ หรับบริการลูกค้าของโรงแรมโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าต่างชาติที่เข้าพัก ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการจัดเลี้ยงหรือสัมมนา และอาจจัดให้มีการจำ หน่ายปลีกกับลูกค้าข้างนอกที่ติดใจรสชาติความอร่อย ร้านเบเกอรี่ ในโรงแรมมีการใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพดี ทำ ให้ราคาของขนมอบในโรงแรมมีราคาสูงกว่าตามท้องตลาดทั่วไป