กอง หลัง ลิเวอร์พูล ที่ ดี ที่สุด

            เดิมที แกรี กิลเลสพี กลายเป็นลูกไล่ของดูโอเซ็นเตอร์แบ็คระดับตำนานอย่างมาร์ค ลอว์เรนสัน และ อลัน แฮนเซ่น ในช่วงแรกที่มาถึงแอนฟิลด์ แต่ในไม่ช้าเขาก็สามารถสถาปนาตัวเองกลายเป็นคู่หูกับแฮนเซ่นเมื่อช่วยให้ลิเวอร์พูลเถลิงแชมป์ลีกเมื่อฤดูกาล 1987/88 โดยพลาดไม่ได้ลงสนามแค่ 3 เกมตลอดทั้งฤดูกาล รวมแล้วกิลเลสพี ได้ลงเล่นกว่า 150 นัดในลีกระหว่างปี 1983–1991 คว้าแชมป์ลีก 3 สมัยและแชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ ปี 1983–84

มีนักเตะคนเดียวที่ลงเล่นให้กับหงส์แดงมากกว่าเจ้าของเสื้อเบอร์ 23 และเราจะย้อนกลับไปเช็กสถิติกันอีกครั้งในตอนล่าสุดของค็อป 10

1.เอียน คัลลาแฮน - 857

กอง หลัง ลิเวอร์พูล ที่ ดี ที่สุด

เจ้าของสถิติตลอดกาลของสโมสรมีสถิติที่น่าทึ่ง 857 เกมในระยะเวลา 18 ปีระหว่างปี 1960 ถึง 1978 รวมถึงช่วงเวลาที่หงส์แดงตกต่ำในดิวิชั่น 2 ก่อนการเข้ามาของบิลล์ แชงคลีย์ และอำลาทีมในวันที่บ็อบ เพรสลีย์นำทีมคว้าแชมป์ยุโรเปียน คัพ มาครองติดต่อกัน

ในช่วงเวลาดังกล่าวกองกลางรายนี้ทำไป 68 ประตู รวมถึงคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ สมัยแรกของสโมสร แชมป์ลีก 5 สมัย ยูฟ่า คัพ 2 สมัย และยังรวมถึงฟุตบอลโลกกับทีมชาติอังกฤษ

ซึ่งสถิติของเขาอาจจะไม่มีวันถูกทำลาย

2.เจมี คาร์ราเกอร์ – 737 เกม

คาร์ราเกอร์เป็นนักเตะลิเวอร์พูลคนที่สองที่ลงเล่นผ่าน 700 เกมในช่วงต้นฤดูกาล 2012-13 ฤดูกาลสุดท้ายของเขากับสโมสร

ดาวเตะเลือดสเก๊าเซอร์ลงเล่นมากกว่า 50 เกม 9 ฤดูกาล รวมถึง 6 ฤดูกาลในยุคของราฟาเอล เบนิเตซ ที่เขาได้รับการยอมรับในฐานะกองหลังตัวกลาง และตอนนี้ยังรั้งสถิติลงเล่นเกมยุโรปมากที่สุดของหงส์แดงรวม 150 นัด ที่เขาชูทั้งถ้วยยูฟา คัพ และแชมเปียนส์ลีก

3.สตีเวน เจอร์ราร์ด – 710 เกม

เพื่อนซี้ของคาร์ราเกอร์ข้ามสถิติ 700 นัด เป็นคนที่ 3 ในระหว่างฤดูกาล 2014-15 ฤดูกาลสุดท้ายของเจอร์ราร์ดในแอนฟิลด์

กองกลางตัวรุกรายนี้ยังเป็นนักเตะคนเดียวที่ติดท็อป 5 ทั้งการลงสนาม และประตูที่ 186 นัด เขาเป็นกัปตันทีม 12 จาก 17 ปีในทีมชุดใหญ่ และเป็นคนชูถ้วยยูโรเปียน คัพ, เอฟเอ คัพ และลีก คัพ ในฐานะกัปตันทีม

กอง หลัง ลิเวอร์พูล ที่ ดี ที่สุด

4.เรย์ คลีเมนซ์ และเอ็มลีน ฮิวจ์ส – 665 เกม

มีความคล้ายคลึงกันอย่างมากในอาชีพกับลิเวอร์พูลของคลีเมนซ์ และฮิวจ์ส เมื่อทั้งคู่ลงเล่นนัดสุดท้ายให้กับสโมสรในวันเดียวกัน

ทั้งคู่ถูกแซงคลีย์เซ็นสัญญาเข้ามาในปี 1967 เหมือนกัน และยังเป็นกำลังสำคัญในทีมที่คว้าแชมป์ลีก และยุโรปตลอดทศวรรษถัดมา

สองนักเตะทีมชาติตอังกฤษอยู่ในทีมรวมกันที่หงส์แดงได้แชมป์ลีก 4 สมัย, ยูโรเปียน คัพ 2 สมัย, ยูฟา คัพ 2 สมัย และเอฟเอ คัพ 1 สมัย

6.เอียน รัช – 660 เกม

ไม่มีศูนย์หน้าคนใดลงเล่นให้กับลิเวอร์พูลมากกว่ารัช รวมถึงสถิติ 346 ประตูในทุกรายการ โดยเว้นเพียงซีซั่นเดียวกับยูเวนตุส นักเตะเวลส์ลงเล่น 16 ปีในทีมชุดใหญ่ที่แอนฟิลด์

เกือบ 10 เปอร์เซ็นต์ของการลงเล่นทั้งหมดของเขามาจากฤดูกาลที่ยากจะลืมเลือน รัชลงเล่น 65 เกมในฤดูกาลที่ทีมคว้าแชมป์ลีก, ลีก คัพ และยูโรเปียน คัพ ในปี 1983-84

กอง หลัง ลิเวอร์พูล ที่ ดี ที่สุด

7. ฟิล นีล – 650 เกม

11 ปีของนีลกับลิเวอร์พูลเป็นช่วงที่พวกเขาครองความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง รวมถึงแชมป์ลีก 8 สมัย และยูโรเปียน คัพ 4 สมัย

โดยอดีตนักเตะที่เพสลีย์ถึงตัวจากนอร์ทแฮมป์ตัน และเป็นหนึ่งในการเซ็นสัญญาที่คุ้มค่าที่สุดเมื่อเขาพลาดแค่เกมดิวิชั่น 1 แค่นัดเดียวจาก 10 ฤดูกาลในระหว่างปี 1975 ถึง 1985

ฟูลแบ็กรายนี้ยังทำไปอีก 59 ประตู ซึ่ง 38 ประตูมากจากจุดโทษ รวมถึงในนัดชิงชนะเลิศ ยูโรเปียน คัพ 1977 และ 1984

8.ทอมมี่ สมิธ – 638 เกม

หลังจากประเดิมสนามกับลิเวอร์พูลในเดือนพฤษภาคม 1960 ‘คนเหล็กแห่งแอนฟิลด์’ ลงเล่น 40 ประตูขึ้นไป 11 ฤดูกาลติดต่อกันระหว่างปี 1964 และ 1975

เขาช่วยให้ทีมของแชงคลีย์ได้แชมป์เอฟเอ คัพ สมัยแรกในฤดูกาลแรกที่เขาเป็นตัวจริงอย่างสม่ำเสมอ เขาทำ 48 ประตู คว้าแชมป์ลีก 4 สมัย และยูโรเปียน คัพ หนึ่งสมัย รวมถึงเป็นกัปตันทีมอีก 3 ปี

9. บรูซ กร็อบเบลาร์ – 628 เกม

กร็อบเบลาร์กลายเป็นหนึ่งในผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดตลอดกาลของสโมสรจาก 13 ฤดูกาลในทีมชุดใหญ่ของลิเวอร์พูล

เขาย้ายมาในเดือนมีนาคม 1981  หลังจากปรับตัวได้เขาลงเล่นกว่า 60 แกมต่อฤดูกาลใน 5 ปีแรกในฐานะตัวจริง รวมถึงลงเล่นเกมลีกครบทุกนัด

จนถึงวันสุดท้ายในอาชีพ กร็อบเบลลาร์คว้าแชมป์ลีก 6 สมัย, ยูโรเปียน คัพ 1 สมัย, เอฟเอ คัพ 3 สมัย และลีก คัพ 3 สมัย

กอง หลัง ลิเวอร์พูล ที่ ดี ที่สุด

10. อลัน แฮนเซ่น – 620 เกม

แฮนเซ่นคือ คนสุดท้ายใน 10 อันดับ เขาเข้าไปอยู่ในนักเตะที่ลงเล่นมากกว่า 600 เกมให้กับหงส์แดงระหว่างฤดูกาล 1989-90

เซนเตอร์แบ็กที่เล่นได้อย่างสง่างามไม่แพ้ความมุ่งมั่น และอดทนคว้าแชมป์ลีก 8 สมัย, ยูโรเปียน คัพ 3 สมัย, เอฟเอ คัพ 2 สมัย และลีก คัพ 1 สมัยระหว่างช่วงเวลาในแอนฟิลด์ รวมถึง 1 ใน 3 ในฐานะกัปตันทีมตั้งแต่ฤดูกาล 1985-86 ที่ทีมคว้าดับเบิลแชมป์

วันที่ 14 เม.ย. 65 ควันหลงการแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2021-22 รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดสอง ซึ่ง “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล จากพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เปิดสนามแอนฟิลด์ เสมอ เบนฟิกา จากโปรตุเกส 3-3 แต่เมื่อรวมกับสกอร์นัดแรกทำให้ “หงส์แดง” เอาชนะไปได้ 6-4 ลิ่วรอบรองชนะเลิศ UCL ไปพบกับ บียาร์เรอัล ได้สำเร็จ

ด้าน “เจมี คาร์ราเกอร์” อดีตกัปตันทีมของ ลิเวอร์พูล ที่ปัจจุบันผันตัวไปเป็นกูรูลูกหนัง เผยว่า “มีเพียงสามคนในทีมปัจจุบันเท่านั้นที่จะเข้าสู่ 11 ตัวจริงของผม” หลังจากนั้นเขาก็ถูกถามว่าใครคือ 11 ตัวจริงตลอดกาลของเขา

คาร์ราเกอร์ กล่าวว่า “แน่นอนว่ามันต้องเริ่มจากผู้รักษาประตู ผมเลือกเรย์ คลีเมนซ์ เขาเป็นนักเตะที่ดีที่สุดในยุโรปตลอดช่วงทศวรรษ 1970 และต้นทศวรรษ 1980 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ลิเวอร์พูลคว้าแชมป์ลีก 5 สมัยและถ้วยยุโรป 3 สมัย”

“ส่วนกองหลัง ผมเลือก สตีฟ นิโคล, เฟอร์จิล ฟาน ไดจ์ค, อลัน แฮนเซน และ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ เพราะ ฟาน ไดจ์ค เป็นกองหลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เคยเล่นให้กับลิเวอร์พูล ขณะที่อาร์โนลด์ แสดงให้เห็นแล้วว่าเขาคือฟูลแบ็กที่สมบูรณ์แบบ ในขณะเดียวกันแฮนเซน และ นิโคล คือสตาร์ในตำนานที่มีบทบาทอย่างมากในช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดของสโมสร”

“ด้านกองกลาง ผมเลือก จอห์น บาร์นส์, แกรม ซูเนสส์, สตีเวน เจอร์ราร์ด และโมฮาเหม็ด พวกเขาคือผู้เล่นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เคยเล่นให้กับลิเวอร์พูลในความคิดของผม”

สุดท้าย กองหน้า ผมเลือก เอียน รัช และ เคนนี ดัลกลิช บุคคลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของลิเวอร์พูลและสิ่งที่เขาทำในช่วงภัยพิบัติฮิลส์โบโรห์ (ที่มีแฟนบอลของสโมสรลิเวอร์พูลเสียชีวิต 96 ราย เนื่องจากเหตุชุลมุนพังรั้วของสนามแข่งขัน จนผู้คนเหยียบกันตาย).