น้ำมัน ที่ ดี ที่สุด ใน ไทย

จะเติมน้ำมัน ควรไปปั๊มไหนดี?  เชื่อว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่หลายคนต้องเคยสงสัย เพราะในปัจจุบัน ปั๊มน้ำมันมีให้เลือกหลากหลาย หลายคนอาจมีปั๊มน้ำมันในดวงใจ หรือเลือกเพราะความสะดวกสบาย อยู่ใกล้ รวมไปถึงโปรโมชั่น และค่าน้ำมันที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละที่

ซึ่งเรื่องนึงที่เป็นประเด็นและน่าสนใจ ที่ใครหลายคนยังสงสัยกันมาจนถึงปัจจุบัน คือ น้ำมันเชื้อเพลิงในแต่ละปั๊มน้ำมัน มีคุณภาพแตกต่างกันจริงไหม?  ซึ่งในบทความนี้ เราจะมาไขข้อข้องใจเหล่านี้ไปพร้อม ๆ กัน

น้ำมันชนิดเดียวกัน แต่สารเติมแต่งแตกต่างกัน

หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า ถึงแม้เราจะเติมน้ำมันชนิดเดียวกัน แต่คุณภาพน้ำมันในแต่ละปั๊มน้ำมันนั้นแตกต่างกัน แม้น้ำมันเชื้อเพลิงจะผ่านกระบวนการกลั่นมาจากน้ำมันดิบเหมือนกัน แต่ก่อนที่จะกลายมาเป็นน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานหลักในการขับเคลื่อนของรถยนต์ โดยผู้ผลิตในแต่ละปั๊มต่างใส่สารเติมแต่งเข้าไป เพื่อให้ได้น้ำมันเชื้อเพลิงชนิดพิเศษ ที่สามารถเพิ่มสมรรถนะในการขับขี่ที่เหนือชั้นได้ดีที่สุด

นั่นจึงเป็นเหตุผลว่า ทำไมน้ำมันชนิดเดียวกัน แต่ราคาน้ำมันของแต่ละปั๊มมีความแตกต่างกัน ส่วนหนึ่งก็เพราะสารเติมแต่งที่แตกต่างกัน แต่ถึงอย่างนั้น เราก็ยังสามารถเติมน้ำมันชนิดเดียวกันที่มีให้บริการในแต่ละปั๊มน้ำมันได้ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อเครื่องยนต์

เลือกปั๊มน้ำมันที่มีคุณภาพ

ปั๊มน้ำมันแต่ละปั๊มจะมีจุดเด่น และความพิเศษของสารเติมแต่งน้ำมันเชื้อเพลิงที่แตกต่างกัน เราขอยกตัวอย่าง 2 ปั๊มใหญ่ ๆ ที่เชื่อว่าหลายคนรู้จักกันดี เพื่อให้เห็นภาพชัดเจน และเข้าใจกันมากยิ่งขึ้น

1. ปั๊มน้ำมันคาลเท็กซ์ (Caltex)

น้ำมันเชื้อเพลิงมีความโดดเด่นในเรื่องการปกป้องเครื่องยนต์ และเพิ่มสมรรถนะในการขับขี่ที่ดีเยี่ยมอย่าง อัตราการเร่งเครื่องดี ขับเคลื่อนได้ไกลไม่สะดุด ซึ่งน้ำมันสูตรใหม่นี้ได้รับการพิสูจน์ และทดสอบแล้วว่าสามารถช่วยปกป้องเครื่องยนต์ และทำให้เครื่องยนต์สะอาดมากขึ้น ทำงานได้เต็มที่ เต็มประสิทธิภาพ

2.ปั๊มน้ำมันบางจาก (Bangchak)

 น้ำมันเชื้อเพลิงที่นี่ ขึ้นชื่อเรื่องการรักษาเครื่องยนต์ เพื่อยืดอายุการใช้งานเครื่องยนต์ ด้วยเทคโนโลยี Green S Revolution ผ่านการวิจัย และทดสอบมาแล้วว่า น้ำมันเชื้อเพลิงของบางจาก ทั้ง 91 S และ 95 S ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของเครื่องยนต์ ทำความสะอาดหัวฉีดได้ดีกว่าเดิม ลดการสึกหรอของเครื่องยนต์ ยืดอายุการใช้งานได้ยาวนาน

คุณภาพของน้ำมัน ถังเก็บน้ำมัน และหัวจ่าย

ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นปัจจัยที่มีผลต่อคุณภาพน้ำมันโดยตรง แม้หลายครั้งเวลาไปเติมน้ำมัน เราจะไม่ได้สังเกตสิ่งเหล่านี้ก็ตาม แต่รู้ไว้ก่อนย่อมดีกว่า เพราะหากน้ำมันมีคุณสมบัติที่ใกล้เคียงกัน ส่วนต่อมาที่ต้องดูคือ วิธีการจัดเก็บน้ำมันเช่น ถังกักเก็บน้ำมันที่มีความสะอาดไร้สารเจือปน ปริมาณน้ำหนักบรรจุที่ไม่มากจนเกินไป ส่วนเรื่องของหัวจ่ายน้ำมันก็สำคัญ ต้องเป็นหัวจ่ายที่ได้มาตรฐาน เพื่อให้เครื่องยนต์ได้รับน้ำมันที่ดีมีคุณภาพ ไร้สารเจือปน 

กล่าวโดยสรุปก็คือ น้ำมันเชื้อเพลิงชนิดเดียวกัน แต่กลับมีคุณภาพที่ต่างกันในแต่ละปั๊ม นั่นก็เพราะสารเติมแต่งที่แตกต่างกัน รวมถึงวิธีการจัดเก็บ ดูแลรักษา และการนำจ่าย ดังนั้นก่อนเติมน้ำมัน ควรเลือกปั๊มน้ำมันที่ได้มาตรฐาน รับรองว่าคุณจะได้น้ำมันที่ดีมีคุณภาพอย่างแน่นอน อีกทั้งยังช่วยยืดอายุการใช้งานเครื่องยนต์ได้ยาวนาน 

ที่ แพนด้า สตาร์ ออยล์ ใส่ใจดูแลทุกขั้นตอน จำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงทั้ง น้ำมันแก๊สโซฮอล์ (Gasohol) และ น้ำมันดีเซล (Diesel) จากโรงกลั่นที่ได้มาตรฐาน ได้รับความไว้วางใจครอบคลุมทั่วภาคเหนือกว่า 9 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ น่าน พะเยา แพร่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง ลำพูน และอุตรดิตถ์ คิดถึงน้ำมันมีคุณภาพได้มาตรฐานไร้สารเจือปน คิดถึงเรา แพนด้า สตาร์ ออยล์

ช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เรื่องของน้ำมันพืชที่ใช้ในครัว ยังมีกระแสโจมตีกันไปมาไม่หยุดระหว่างผู้ผลิตน้ำมันด้วยกันเอง หมอจะขอเล่าข้อเท็จจริงแบบเข้าใจง่ายด้วยความเป็นกลางและใช้เหตุผลบนหลักฐานทางวิทยาศาสตร์มาอธิบาย ส่วนใครจะเลือกน้ำมันอะไร ก็สามารถเลือกใช้ตามสะดวกนะคะ

• สีของนำมันไม่เกี่ยวกับเรื่องคุณภาพ สีที่อ่อนหรือสีเข้มของน้ำมันมาจากสีของวัตถุดิบที่นำมาผลิตไม่ได้เป็นตัวบ่งบอกคุณภาพหรือประโยชน์ของน้ำมัน เช่น ผลมะกอกสีเขียว – น้ำมันมันมะกอกจึงมีสีเหลืองอมเขียว , รำข้าวมีสีน้ำตาล – น้ำมันรำข้าวจึงมีสีเหลือง อมน้ำตาลอ่อน เป็นต้น
• น้ำมันทุกชนิดประกอบไปด้วยกรดไขมันทั้ง 3 ชนิดเหมือนกัน คือ กรดไขมันอิ่มตัว (Saturated Fatty Acid) กรดไขมันไม่อิ่มตัวตำแหน่งเดียว (Mono Unsaturated Fatty Acid) และกรดไขมันไม่อิ่มตัวหลายตำแหน่ง (Polyunsaturated Fatty Acid ) ในสัดส่วนที่ต่างกัน
• มูลนิธิหัวใจแห่งประเทศไทยในพระบรมราชชูปถัมภ์ แนะนำให้บริโภคน้ำมันและไขมันที่มีสัดส่วนของกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว หรือ MUFA สูง (โอเมก้า 9) เพราะจะช่วยลดแต่คอเลสเตอรอลตัวร้าย (LDL – C) โดยไม่ลดคอเลสเตอรอลตัวดี (HDL –C) ในร่างกายซึ่งจะช่วยลดปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ น้ำมันพืชที่จัดอยู่ในกลุ่ม MUFA สูง ได้แก่ น้ำมันมะกอก น้ำมันคาโนลา และน้ำรำข้าว
• จุดเกิดควัน (Smoke Point) ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ผู้บริโภคต้องรู้ เพราะเป็นตัวใช้วัดระดับการทนต่อความร้อนของน้ำมัน คือเมื่อเราให้ความร้อนแก่น้ำมัน ณ อุณหภูมิหนึ่ง ๆ จะทำให้น้ำมันเกิดควันและมีกลิ่นเหม็นไหม้ ทำให้รสชาติของสีและอาหารเปลี่ยนไป น้ำมันพืชโดยทั่วไปมีจุดเกิดควันที่ 227-237 องศาเซลเซียส
• กรดไขมันโอเมก้า 3และ 6 นั้นมีในน้ำมันพืช นั่นคือกรดไขมันกลุ่ม PUFA หรือไม่อิ่มตัวหลายตำแหน่ง นั่นเอง และกรดไขมันโอเมก้า 9 ก็คือกรดไขมันกลุ่ม MUFA หรือไม่อิ่มตัวหนึ่งตำแหน่ง จึงสรุปได้ว่า นำมันพืชส่วนใหญ่มีทั้งโอเมก้า 3,6,9 จะต่างกันที่สัดส่วนของโอเมก้าแต่ละชนิด ถ้าจะเลือกน้ำมันพืชที่ดีต่อสุขภาพ ก็ควรเลือกน้ำมันพืชที่มีโอเมก้า 9 สูง หรือมีกรดไขมัน MUFA สูงนั่นเอง เช่น น้ำมันมะกอก แต่น้ำมันมะกอกชนิด Extra virgin ไม่เหมาะกับการทอดเพราะจุดเกิดควันต่ำ แต่สามารถทานกับสลัดได้ หากต้องการเลือกแบบผัดได้ ให้เลือกชนิด Extra Light
• สำหรับโอเมก้า 3 ที่มีในน้ำมันพืช เป็นคนละตัวกับโอเมก้า 3 ที่มีอยู่ในน้ำมันตับปลาหรือตับปลา (EPA และ DHA) เพราะมีโครงสร้างในเลกุลต่างกัน โดยที่โอเมก้า 3 ในน้ำมันพืชคือ ALA ซึ่งเมื่อรับเข้าสู่ร่างกายจะเปลี่ยนเป็น EPA และ DHA ต่อไป
• หากบ้านไหนชอบการทอดหรือผัดเป็นพิเศษ ให้มองหาน้ำมันที่ผัดไฟแรงปานกลาง-แรง โดยน้ำมันในกลุ่มนี้มีชนิดที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายเพราะมีโอเมก้า 3 และ 9 สูง เช่น น้ำมันรำข้าว น้ำมันเมล็ดชา น้ำมันอะโวคาโด น้ำมันคาโนล่า น้ำมันอัลมอนด์ น้ำมันวอลนัท ส่วนราคาจะค่อนข้างสูง โปรดเลือกตามฐานะทางการเงินของผู้ใช้
• แม้ว่าน้ำมันมะพร้าวจะมีกรดไขมันแบบสายกลาง ย่อยง่าย แต่เนื่องจากประกอบด้วยไขมันอิ่มตัว จึงไม่เหมาะในผู้ที่มีระดับคอเลสเตอรอลในเลือดสูง
• น้ำมันอิ่มตัวที่ควรงดในผู้ที่มีระดับคอเลสเตอรอลโดยรวม หรือระดับคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดีสูง คือ น้ำมันหมู น้ำมันปาล์ม น้ำมันมะพร้าว

น้ำมัน ยี่ห้อไหนดีต่อสุขภาพ

น้ำมันพืชชนิดไหนดีที่สุด

น้ำมันปาล์มยี่ห้อไหนดีสุด

เติมน้ำมันชนิดไหนประหยัดสุด