ครีม ทา กันแดด ที่ ดี ที่สุด

คุณรู้หรือไม่ว่ารังสีอัลตราไวโอเลตหรือรังสียูวีจากแสงแดดสามารถทำร้ายผิวพรรณของคุณได้มากขนาดไหน? ยิ่งคุณเพลิดเพลินกับกิจกรรมสนุก ๆ กลางแจ้งนานเท่าไหร่ รังสียูวีก็ยิ่งแผดเผาผิวหนังของคุณมากเท่านั้น แม้ว่าคุณอาจจะเคยได้ยินมาบ้างว่าการออกไปรับแสงแดดก็เป็นประโยชน์ต่อผิวหนังในการสังเคราะห์ Vitamin D3 แต่แสงแดดที่ว่านั้นควรจะเป็นแดดอ่อน ๆ ในตอนเช้า () เพราะหากเป็นช่วงเวลาที่แดดจัด ๆ และคุณได้รับรังสียูวีมากเกินไป ก็จะมีผลกระทบตามมา อาทิเช่น ฝ้า, กระ, ริ้วรอย, ผิวไหม้แดด, มะเร็งผิวหนัง รวมไปถึงอาจได้รับความเสียหายโดยต่อดวงตาได้ค่ะ () ซึ่งถ้าหากคุณยังคงใช้ชีวิตปกติโดยไม่มีการป้องกันใด ๆ จากรังสียูวีเลย ในไม่ช้าคุณอาจจะได้รับผลกระทบจากอันตรายของรังสียูวีอย่างคาดไม่ถึง

ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นการไปเที่ยวพักผ่อนทำกิจกรรมกลางแจ้งหรือการจะใช้ชีวิตประจำวัน คุณจะต้องรักษาสุขภาพของผิวพรรรณตัวเองควบคู่ไปด้วย ซึ่งสิ่งที่จะช่วยคุณป้องกันผิวหนังจากรังสียูวีที่ดีที่สุดก็คือ “” 

หลายคนอาจจะคิดว่าตัวเองไม่ได้ทำงานกลางแจ้งหรือออกแดดบ่อย ๆ ก็ไม่จำเป็นต้องใช้ครีมกันแดดก็ได้ แต่เชื่อเถอะว่าคุณกำลังเข้าใจผิดอยู่ เพราะรังสียูวีที่เป็นสารก่อมะเร็งผิวหนังชั้นดีไม่ได้พบได้แต่เพียงในแสงแดดเท่านั้น แต่ยังพบได้จากหลอดไฟหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ที่มนุษย์สร้างขึ้นอีกด้วย () เมื่อเรารู้ถึงภัยร้ายใกล้ตัวขนาดนี้แล้ว เราก็ไม่ควรปล่อยให้ผิวของเราโดนทำร้ายไปเรื่อย ๆ ใช่ไหมคะ?

ซึ่งในวันนี้เราก็อยากจะแนะนำครีมกันแดดที่ดีที่สุดให้คุณได้มีตัวเลือกในการตัดสินใจ รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับและ เพื่อให้คุณได้ตระหนักและเรียนรู้วิธีป้องกันตัวเองจากแสงแดดที่ถูกต้องกันค่ะ

ครีมกันแดดทาหน้า ยี่ห้อไหนดี?

• ครีมกันแดดแบบน้ำ ซึมง่าย แห้งไว เหมาะสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันและสามารถใช้งานได้ทุกสภาพผิว:
• ครีมกันแดดเนื้อเจล ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอมและพาราเบน มีความอ่อนโยนสูงเหมาะสำหรับคนที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย, ไวต่อแสง, ผู้ที่มีปัญหาหน้ามัน และผู้ที่มีแนวโน้มเป็นสิวง่าย:
• ครีมกันแดดที่มีอนุภาคเล็กพิเศษช่วยป้องกันรังสีได้ลึกถึงชั้นคอลลาเจน เนื้อบางเบา ไม่เหนอะหนะ และสามารถทาทับเมคอัพระหว่างวันได้:
• ครีมกันแดดที่มีส่วนผสมของวิตามินซีเข้มข้นมีกลิ่มหอมเลมอนอ่อน ๆ เนื้อบางเบาเกลี่ยง่าย แถมยังมีส่วนช่วยป้องกันและลดเลือนจุดด่างดำ:
• ครีมกันแดด สูตรอ่อนโยนเหมาะสำหรับคนที่มีผิวมันและผิวแพ้ง่าย ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอมและพาราเบน พร้อมช่วยคุมมันนานถึง 8 ชม.:
• ครีมกันแดดที่มาพร้อมกับการป้องกันแบบ Double Protection เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องทำกิจกรรมกลางแจ้ง, ผู้ที่ผิวมีแนวโน้มไวต่อแสง และผู้ที่มีบอบบางแพ้ง่าย:
• ครีมกันแดดเนื้อน้ำนม บางเบา เกลี่ยง่าย และซึมไว ไม่อุดตันผิว พร้อมทั้งช่วยป้องกันน้ำและเหงื่อได้เป็นอย่างดี ทั้งยังมีประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นเมื่อเจอกับแสงแดดจัด ๆ:
• ครีมกันแดดที่ช่วยป้องกันการถูกทำลายของอีลาสตินและคอลลาเจนและให้ฟินิชที่ดูแมตต์ ไม่เยิ้ม เหมาะสำหรับผู้มีผิวมันและมีแนวโน้มเป็นสิวง่าย:
• ครีมกันแดดที่มีส่วนช่วยปกป้องผิวไม่ให้ถูกทำลายและไม่ให้ดูแก่ก่อนวัย เหมาะสำหรับผู้มีผิวแพ้ง่ายและผู้ที่ไม่ชอบความมันวาวรวมถึงคราบขาวหลังทาครีม:
• ครีมกันแดดเนื้อฟลูอิดเบาสบายผิว มีส่วนช่วยป้องกันรังสีและแสงสีฟ้า เหมาะสำหรับผู้ต้องทำงานกับหน้าจอตลอดเวลา:

ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับครีมกันแดด

ครีมกันแดดในท้องตลาด มักจะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันไปตามการใช้งาน อย่างเช่น ครีมกันแดดควบคุมความมัน, ครีมกันแดดสำหรับคนเป็นสิว, ครีมกันแดดสำหรับผิวแพ้ง่าย, ครีมกันแดดสำหรับเด็ก, ครีมกันแดดสำหรับผู้ชาย รวมถึงสเปรย์กันแดดที่ไม่เหนียวเหนอะหนะ ซึ่งจะมีส่วนประกอบที่แตกต่างกันไปตามคุณสมบัติในการใช้งาน แต่มีสิ่งหนึ่งที่ทุกครีมกันแดดจะต้องมีเหมือนกันก็คือหน้าที่ที่จะช่วยป้องกันรังสียูวีนั้นเองค่ะ ซึ่งเราจะต้องรู้ก่อนว่าในรังสียูวีนั้นมีรังสีประเภทใดที่เราควรให้ความสนใจในการป้องกันเป็นพิเศษหรือไม่? เพราะรังสียูวีแต่ละประเภทก็สร้างความเสียหายที่ต่างกัน ดังนั้นเมื่อรู้ถึงแล้ว ก็จะได้ถูกต้องนั่นเองค่ะ

ประเภทของรังสียูวี : รังสี UVA , UVB , UVC คืออะไร ()

รังสียูวีที่พบมากที่สุดคือรังสียูวีในแสงแดด ซึ่งจะมี 3 ประเภทหลัก ได้แก่ UVA, UVB และ UVC หากเราดูความยาวของคลื่นรังสีเป็นหลักจะพบว่าใน UVA และ UVB มีความยาวคลื่นที่สูงจึงสามารถผ่านชั้นบรรยากาศโอโซนของโลกมาได้ ส่วนรังสี UVC เป็นรังสีที่เราจะพบได้น้อยสุด เพราะมีความยาวคลื่นสั้นทำให้ชั้นบรรยากาศดูดซับรังสี UVC ไว้ได้ ดังนั้นรังสีจากดวงอาทิตย์ที่เรามักพบได้โดยส่วนใหญ่แล้วคือ UVA ประมาณ 90-95% และ UVB ประมาณ 5-10%

ดังนั้นหากให้เปรียบเทียบว่า UVA – UVB – UVC อันไหนอันตรายและร้ายแรงมากกว่ากัน ต้องบอกเลยว่าเป็นรังสี UVA ค่ะ เพราะรังสี UVA จะเข้าไปทำลายเซลล์ผิวอย่างถาวร เป็นต้นเหตุให้เกิดฝ้า ริ้วรอย มะเร็งผิวหนัง เป็นต้น คุณสามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้จากหัวข้อ ในหัวข้อข้างล่าง

ค่า SPF และ PA คืออะไร ()

เมื่อเรารู้ถึงอันตรายจากรังสียูวี UVA-UVB กันแล้ว ต่อมาก็คือเราต้องทราบค่าป้องกันรังสียูวีของครีมกันแดดกันค่ะ ซึ่งร้อยทั้งร้อยเรามักจะพบค่า PA และ SPF ในครีมกันแดดแทบทุกตัว แต่จะมีใครรู้บ้างว่า PA และ SPF นั้นตัวไหนใช้ป้องกันรังสีอะไร

Protection Grade of UVA หรือ PA ป้องกันรังสี UVA
Sun Protection Factor หรือ SPF ป้องกันรังสี UVB

ซึ่งวิธีการเลือกค่า SPF และ PA ที่เหมาะสมนั้นก็จะขึ้นอยู่กับกิจวัตรประจำวันของคุณ และเพื่อให้คุณได้รู้ว่าควรจะเลือก SPF และ PA เท่าไหร่ เราจะมาบอกถึงวิธีการเลือกครีมกันแดดที่เหมาะสมกับคุณกันในหัวข้อถัดไปค่ะ

วิธีการเลือกครีมกันแดด ที่เหมาะสมกับคุณ ที่ดีที่สุด

1. เลือกค่า SPF / PA ตามลักษณะการใช้งาน ()

ครีมกันแดดที่ดี ควรมีค่า SPF เท่าไหร่ ? (SPF ป้องกันรังสี UVB)

ค่า SPF ที่ส่วนใหญ่มักจะเป็นตัวเลข SPF 15, SPF 30 หรือ SPF 50 ที่เราเห็นกันบ่อย ๆ นั้น หลาย ๆ คนอาจจะยังไม่ทราบว่าตัวเลขที่ระบุต่อท้าย SPF มันคืออะไร? สำหรับตัวเลขที่ต่อท้ายนั้นหมายถึงปริมาณการป้องกันรังสี UVB นั้นเองค่ะ ยิ่งตัวเลขสูงประสิทธิภาพการป้องกันรังสี UVB ก็จะยิ่งมากขึ้น อาทิเช่น

• SPF 15 = ป้องกัน UVB ได้ 93.3 เปอร์เซ็นต์
• SPF 30 = ป้องกัน UVB ได้ 96.7 เปอร์เซ็นต์
• SPF 50 = ป้องกัน UVB ได้ 98 เปอร์เซ็นต์
• ไม่มีครีมกันแดดไหนที่สามารถป้องกันรังสี UVB ของดวงอาทิตย์ได้ 100 เปอร์เซ็นต์

ครีมกันแดดที่ดี ควรมีค่า PA เท่าไหร่ ? (PA ป้องกันรังสี UVA)

ค่า PA ไม่มีหน่วยวัดที่เป็นมาตรฐาน ดังนั้นจึงไม่มีตัวเลขแสดงให้เราเห็น แต่จะมาในรูปแบบเครื่องหมายบวก (+) ที่ถือเป็นระดับการป้องกันรังสี UVA นั้นเอง ยิ่งเครื่องหมาย + มากก็ยิ่งป้องกันรังสี UVA ได้สูง

สรุปเลือกค่า SPF / PA เท่าไหร่ดี ()

• ค่า SPF อย่างน้อย 30 สำหรับการป้องกัน UVB
• ค่า PA อย่างน้อย +++ สำหรับการป้องกัน UVA
• หากต้องออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้งตากแดดเป็นเวลานาน ๆ แนะนำ SPF 50 ขึ้นไป และค่า PA ++++

2. ส่วนผสมที่อาจทำให้เกิดอาการแพ้ ()

• สำหรับผิวบอบบางเซ็นซิทีฟแพ้ง่าย : ต้องระวังน้ำหอม, พาราเบน, แอลกอฮอล์ และสีสังเคราะห์ ที่อาจจะทำให้เกิดอาการระคายเคืองต่อผิวได้
• สำหรับผิวเป็นสิว : แนะนำให้มองหาส่วนผสมของ Zinc Oxide และ Titanium Dioxide ซึ่งเป็นส่วนผสมที่เหมาะสำหรับคนเป็นสิวหรือผิวแพ้ง่ายและนอกจากจะสามารถป้องกันทั้งรังสี UVA และ UVB ได้ดีแล้วยังมีน้ำหนักเบาและไม่อุดตันรูขุมขนอีกด้วย  แต่สำหรับ Avobenzone, Oxybenzone หรือ Para-Aminobenzoic Acid (PABA) เป็นส่วนผสมที่อาจจะดูดซับรังสียูวีได้ดี แต่ก็ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นสิวหรือผิวแพ้ง่าย หากหลีกเลี่ยงได้เราขอแนะนำว่าควรเลี่ยงค่ะ แต่สำหรับคนที่มีผิวหน้าปกติสามารถใช้ได้นะคะ
• สำหรับป้องกันการเกิดสิว : น้ำมันและซิลิโคน (Silicone) จะทำให้อุดตันรูขุมขนได้เป็นส่วนผสมที่ควรหลีกเลี่ยงที่สุด

3. เลือกปริมาณของครีมกันแดดที่เหมาะสม ()

ปริมาณของครีมกันแดดก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่คุณไม่ควรมองข้าม หลาย ๆ คน ชอบซื้อครีมกันแดดที่มีค่า SPF / PA สูง ๆ มาในปริมาณเยอะ ๆ เพื่อความคุ้มค่าคุ้มราคา แต่พอถึงเวลาใช้จริง ๆ กลับไม่ค่อยได้ใช้สักเท่าไหร่ เพราะคุณไม่ได้มีกิจกรรมที่ต้องออกแดดบ่อย ๆ เป็นประจำ ทำให้ครีมกันแดดมาเหลือใช้และหมดอายุก่อนทุกครั้งไป โดยส่วนใหญ่แล้วครีมกันแดดแต่ละแบรนด์จะระบุอายุประมาณ 2-3 ปีนับจากวันผลิต แต่เพื่อให้แน่ใจแนะนำให้เปลี่ยนครีมกันแดดทุก 1 ปี เพราะยิ่งเก็บไว้นานประสิทธิภาพของครีมกันแดดก็จะยิ่งลดลงไปเรื่อย ๆ แต่หากคุณเน้นไปทริปเที่ยวทะเลสั้น ๆ เราแนะนำให้ใช้เป็นครีมกันแดดขนาด 200 มิลลิลิตร ก็ถือว่าเพียงพอสำหรับการทาผิวหน้าและผิวกายได้หนึ่งอาทิตย์แล้วค่ะ

4. แยกให้ออกระหว่างครีดกันแดดแบบ Sunscreen กับ Sunblock

• Sunscreen : ดูดซับรังสียูวีก่อนถึงผิวหนัง มักดูดซับรังสี UVA ได้ดี จะต้องทาซ้ำทุก 2-3 ชั่วโมง และต้องรออย่างน้อย 30 นาทีก่อนออกแดด
• Sunblock : สร้างเกราะป้องกันรังสีวีไม่ให้เข้าสู้ผิวหนัง ใช้หลักการกระเจิงและสะท้อนรังสีออกไปจากผิวหนัง  มักจะป้องกันรังสี UVB ได้ดี มีเนื้อครีมที่หนาและหนัก สามารถทาแล้วออกแดดได้เลย และไม่จำเป็นต้องทาซ้ำทุก 2-3 ชั่วโมง

ในปัจจุบันนี้ มีครีมกันแดดให้เลือกมากมายตามที่เราได้กล่าวไปแล้วข้างต้น ไม่ว่าจะเป็นครีมกันแดดสำหรับทาหน้า ซึ่งก็จะมีสูตรควบความมัน, สูตรสำหรับผิวบอบบางแพ้ง่าย หรือครีมกันแดดที่สามารถทาได้ทั้งผิวหน้าและผิวกาย นอกจากนี้ยังมีครีมกันแดดที่เน้นสำหรับใช้ในกิจกรรมกลางแจ้ง ซึ่งคุณควรจะเลือกครีมกันแดดให้ตรงกับสภาพผิวนั่นคือทางเลือกที่ดีที่สุด และในวันนี้เราคัดสรรครีมกันแดดที่มีประสิทธิภาพยอดเยี่ยมที่เป็นแบรนด์ชั้นนำ และเราได้ลองพิสูจน์การใช้งานแล้วว่า สามารถกันแดดได้จริง! มาให้คุณเลือกซื้อออน์ไลน์ง่าย ๆ ถ้าพร้อมแล้ว มาดูกันเลยค่ะว่าตัวไหนจะเหมาะกับคุณบ้าง

MizuMi UV Water Serum SPF50+ PA++++ ครีมกันแดด มิซูมิ (หลอดสีฟ้า)

ราคา 1,099 บาท*

ครีมกันแดดยี่ห้อนี้เหมาะสำหรับทุกสภาพผิวโดยเฉพาะผิวที่แพ้ง่าย เพราะมันไม่มีสารอันตรายที่ทำให้ระคายเคืองผิว ทำให้มันอ่อนโยนต่อผิวเนื้อครีมเป็นสูตรน้ำให้ความรู้สึกเบา สามารถเกลี่ยได้ง่ายไม่ทิ้งคราบ สามารถปกป้องแสงแดดได้อยากมีประสิทธิภาพ สามารถใช้ทั้งทั้งตัว อีกทั้งยังเป็นกันแดดยอดนิยมที่หลายคนชอบใช้อีกด้วยค่ะ

จุดเด่น

• ปกป้องผิวจากรังสี UVA1, UVA และ UVB
• เหมาะกับผิวแห้งแพ้ง่าย และคนที่เกิดสิวอุดตันง่าย
• เนื้อครีมเกลี่ยง่าย ไม่เหนียวเหนอะหนะ
• ล้างออกด้วยเจลหรือโฟมล้างหน้าได้ง่าย ไม่ต้องใช้คลีนซิ่ง

ข้อพิจารณา

• ราคาสูง
• ไม่กันน้ำหรืออาจกันน้ำได้ไม่มาก

อ่านรีวิวฉบับเต็มได้ที่ รีวิว ครีมกันแดด MizuMi UV Water Serum

ดูได้ที่ Lazada

ดูได้ที่ Shopee

ครีมกันแดดแบบเจล La Roche-Posay Anthelios XL Dry Touch Gel-Cream SPF 50+ ผิวแพ้ง่าย

ราคา 1,145 บาท*

ครีมกันแดดเนื้อเจลจาก  La Roche-Posay เป็นครีมกันแดดที่ช่วยคุมความมันและลดการอุดตัน ปราศจากน้ำหอมและพาราเบน เหมาะกับคนที่ผิวมัน เป็นสิวง่าย ผ่านการทดสอบมาแล้วว่าไม่ก่อให้เกิดการแพ้ ปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB และครอบคลุมไปถึงอินฟราเรด A เนื้อครีมเกลี่ยง่ายซึมซาบสู่ผิวทันที แห้งภายหลังการใช้ ไม่ทิ้งคราบขาว

จุดเด่น

• ปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB
• เหมาะกับคนที่ผิวมัน เป็นสิวง่ายเป็นอย่างมาก
• เนื้อครีมเบาบางเกลี่ยง่าย
• ช่วยดูดซับความมันและสามารถคุมมันได้นานถึง 8 ชม.

ข้อพิจารณา

• ราคาค่อนข้างสูง

ดูได้ที่ Lazada

ดูได้ที่ Shopee

ดูได้ที่ Central

ครีมกันแดด บิโอเร ยูวี อะควา ริช วอเตอร์รี่ เอสเซ้นส์ SPF50+ PA++++

ราคา 399 บาท*

ครีมกันแดดบิโอเรมาพร้อมกับนวัตกรรม Micro Defense ที่ปรับให้อนุภาคเล็กลงระดับไมโคร ซึ่งหลังจากทาครีมกันแดดนั้นเนื้อครีมจะแปรสภาพคล้าย ๆ กับน้ำและสร้างเกราะป้องกันรังสีได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อไม่ให้รังสีทำร้ายลึกถึงชั้นคอลลาเจนไม่ทำให้ผิวแลดูก่อนวัย และยังป้องกันการเกิดฝ้า กระ จุดด่างดำ และไม่ทำให้ผิวหมองคล้ำ เนื้อครีมมีความบางเบามากเป็นพิเศษจึงทำให้เกลี่ยง่าย ซึมไว ทั้งยังช่วยป้องกันน้ำและเหงื่อได้อย่างยอดเยี่ยม

ข้อดี

• กันน้ำและเหงื่อได้เป็นอย่างดี
• สามารถทาทับเครื่องสำอางระหว่างวันได้เลยทันที โดยที่ไม่มีผลต่อเมคอัพ
• ปกป้องได้ลึกถึงชั้นคอลลาเจน
• เนื้อครีมบางเบา เกลี่ยง่าย ไม่หนักหน้า และไม่เป็นคราบ

อ่านรีวิวฉบับเต็มได้ที่: รีวิว ครีมกันแดด Biore UV Aqua Rich Watery Essence

ดูได้ที่ Lazada

ดูได้ที่ Shopee

ครีมกันแดด การ์นิเย่ ไลท์ คอมพลีท ยูวี SPF50+/PA++++

ราคา 409 บาท*

เนื้อครีมบางเบาพิเศษ พร้อมมอบการบำรุงผิวอย่างล้ำลึกทั้งปกป้องและบำรุง ช่วยลดปัญหาผิวหมองคล้ำ จุดด่างดำ ฝ้าแดด และริ้วรอยก่อนวัย ฟื้นฟูบำรุงผิวจากการทำร้ายของแสงแดดและมลภาวะ ช่วยบำรุงผิวได้ยาวนาน สามารถกันแดดได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังกันน้ำได้ดีมาก ๆ อีกด้วย

จุดเด่น

• ปกป้องผิวจากรังสี UVA, UVB และ UVA1 อย่างมีประสิทธิภาพ
• ผิวดูสุขภาพดี จบปัญหาผิวหมองคล้ำ ฝ้า จุดด่างดำ และริ้วรอยแห่งวัย
• สีเบจ กลมกลืนเข้ากับสีผิว ช่วยอำพรางข้อบกพร่อง
• มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ไม่ฉุนมากจนเกินไป
• เนื้อเกลี่ยง่ายและซึมไว

ข้อพิจารณา 

• มีส่วนผสมของน้ำหอมแต่อยู่ในปริมาณที่พอเหมาะ

อ่านรีวิวฉบับเต็มได้ที่ รีวิว ครีมกันแดด Garnier Bright Complete Vitamun C Super UV

ดูได้ที่ Lazada

ดูได้ที่ Shopee

Nivea Sun Protect & Sensitive Oil Control Serum SPF50+ PA+++ ครีมกันแดดนีเวียสูตรคุมมัน

ราคา 251 บาท*

ครีมกันแดดชนิดเซรั่มที่ช่วยป้องกันแสงแดดได้ดี สามารถใช้ได้ทุกวัน เหมาะกับทุกสภาพผิวเพราะไม่มีสารที่เป็นอันตราย ทั้งยังผสานส่วนผสมสำคัญอย่างแอล คาร์นิทีนที่ช่วยในเรื่องของการควบคุมความมันได้ยาวนานถึง 8 ชั่วโมง อีกทั้งยังช่วยเบลอรูขุมขนได้เป็นอย่างดี ช่วยปกป้องผิวคุณจากแสงแดดด้วย SPF50+ และ PA+++ ตัวเนื้อครีมบางเบา ทาแล้วไม่เหนียวเหนอะหนะ ซึมซาบลงสู่ผิวได้รวดเร็ว

จุดเด่น

• เซรั่มกันแดดเนื้อบางเบา ซึมซาบเร็ว
• อ่อนโยนแม้ผิวแพ้ง่าย
• ปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB
• ลดความมันในรูขุมขน ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของสิว
• ปราศจากน้ำหอมและพาราเบน

ข้อพิจารณา

• ยังมีส่วนผสมของแอลกอฮอร์แต่อยู่ในปริมาณที่ค่อนข้างน้อย

ดูได้ที่ Lazada

ดูได้ที่ Shopee

ครีมกันแดด สเปคตร้าแบน SpectraBan SPF50+ /PA+++ ขนาด 100 กรัม

ราคา 679 บาท*

กันแดดตัวนี้เหมาะมากสำหรับคนเป็นสิว เพราะมันปราศจากน้ำหอมและสารที่ทำให้ระคายเคือง เนื้อครีมเป็นแบบบางเบา สามารถซึมซาบได้เร็วมาก ๆ ช่วยปกป้องใบหน้าคุณจากอันตรายของแดดได้ดี มีส่วนผสมจากธรรมชาติและวิตามินที่สำคัญต่าง ๆ ที่ช่วยบำรุงผิวไปพร้อมกับการกันแดดในตัว ใครที่เป็นกระหรือเกิดฝ้าได้ง่ายก็สามารถใช้กันแดดตัวนี้ได้นะคะ

จุดเด่น

• สำหรับคนเป็นสิว
• ปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB
• ไม่ทิ้งคราบขาวและไม่มัน
• ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยและป้องกันจุดด่างดำ ฝ้าและกระ เป็นพิเศษ
• ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม
• ได้ปริมาณค่อนข้างมาก ใช้งานได้นาน

ข้อพิจารณา

• เนื้อครีมค่อนข้างหนัก อาจเกลี่ยได้ยากและอาจจะรู้สึกเหนอะหนะบ้างเล็กน้อย แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับผิวหน้าของผู้ใช้งานแต่ละคนด้วยค่ะ

ดูได้ที่ Lazada

ดูได้ที่ Shopee

ครีมกันแดด อเนสซ่า Anessa Perfect UV Sunscreen SPF 50+ PA++++

ราคา 875 บาท*

ครีมกันแดดสีทองสูตรปรับปรุงใหม่ด้วยเทคโนโลยีใหม่ทำให้เนื้อครีมบางเบามากผลิตภัณฑ์ Anessa สามารถปกป้องผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าแดดจะแรงแค่ไหนก็เอาอยู่ สามารถปกป้องผิวคุณจากแสงแดดได้นานขึ้นถึง 8 ชั่วโมง ตัวกันแดดไม่มีสีและสารที่เป็นอันตรายต่อผิว และเป็นสูตรที่กันทั้งน้ำอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมไหน ๆ ก็สามารถกันแดดได้อย่างดีเยี่ยม

จุดเด่น

• ปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB
• เนื้อครีมบางเบาซึมเร็ว ไม่ทิ้งคราบมัน
• ล้างออกง่าย
• เนื้อค่อนข้างเหลวจึงทำให้เกลี่ยค่อนข้างง่าย
• ประสิทธิภาพในการทำงานจะเพิ่มมากขึ้น หากต้องเจอกับน้ำ, เหงื่อ หรือต้องเผชิญกับแดดแรง

อ่านรีวิวฉบับเต็มได้ที่ รีวิว ครีมกันแดด Anessa Perfect UV Sunscreen Skincare Milk

ดูได้ที่ Lazada

ดูได้ที่ Shopee

ครีมกันแดด ลอรีอัล ปารีส ยูวี ดีเฟนเดอร์ SPF50+ PA++++ สูตรแมทท์แอนด์เฟรช

ราคา 589 บาท*

ครีมกันแดดตัวใหม่จากลอรีอัลมาพร้อมกับประสิทธิภาพในการป้องกันแดดที่มากยิ่งขึ้น ด้วยการป้องกันรังสี Long UVA ที่อาจเข้าไปทำลายถึงชั้นอีลาสตินและคอลลาเจนในผิวหนังได้ค่ะ โดยสูตรที่เราเลือกมาในวันนี้คือสูตร Matt & Fresh ที่ช่วยให้ฟินิชลุคของคุณดูแมตต์ ไม่มันวาว พร้อมกับมีส่วนผสมของ Airlicium ที่ช่วยควบคุมความมันส่วนไม่ทำให้หน้าเยิ้มระหว่างวัน และยิ่งกว่านั้นคือยังทำให้ผิวหน้าชุ่มชื้นยาวนานถึง 8 ชม. เลยทีเดียว

จุดเด่น

• สามารถช่วยป้องกันได้ทั้งรังสี  UVA, UVB และ Long UVA (รังสีที่มีคลื่นยาวที่สุด)
• เนื้อครีมเข้มข้น แต่เกลี่ยง่ายแถมยังซึมเข้าผิวได้ไว
• ให้ผิวหน้าดูแมตต์ ไม่มันเยิ้ม พร้อมกับมอบความชุ่มชื้นให้แก่ผิวหน้า
• เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวหน้ามันโดยเฉพาะ

อ่านรีวิวฉบับเต็มได้ที่: รีวิว ครีมกันแดด L’oreal Paris UV Defender Matte & Fresh

ดูได้ที่ Lazada

ดูได้ที่ Shopee

ไบโอเดอร์ม่า ครีมกันแดด Bioderma Photoderm Aquafluide Neutral SPF 50+ (PA++++)

ราคา 799 บาท*

ครีมกันแดดจากไบโอเดอม่ามีเนื้อสัมผัสที่บางเบาราวกับน้ำ ช่วยลดการเกิดผิวแก่ก่อนวัยจากรังสียูวี และปกป้องสารต้านอนุมูลอิสระในผิว ช่วยปรับสมดุลในผิวได้ดี อีกทั้งยังช่วยเรื่องจุดด่างดำ ชะลอริ้วรอย ถือได้ว่าเหมาะสำหรับทุกสภาพผิว สามารถกันแดดได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้

จุดเด่น

• ปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB
• ลดการเกิดจุดด่างดำ
• ชะลอผิวไม่ให้แก่ก่อนวัย
• มีประสิทธิภาพในการกันน้ำและสามารถป้องกันแสงแดดได้นานถึง 8 ชม.
• ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม, วัตถุกันเสีย, แอลกอฮอล์ และส่วนผสมที่มีส่วนทำให้เกิดการอุดตันและก่อให้เกิดอาการแพ้

ดูได้ที่ Lazada

ดูได้ที่ Shopee

ดูได้ที่ Central

ครีมกันแดดยูเซอริน Eucerin Sun Protection Sensitive Protect Fluid Mattifying SPF 50+

ราคา 1,170 บาท*

อีกหนึ่งครีมกันแดดที่น่าลงทุนสำหรับคนที่มีผิวธรรมดาไปจนถึงผิวมัน ตลอดจนผู้ที่มีผิวบอบบางหรือมีแนวโน้มเป็นสิวง่าย เพราะว่ากันแดดตัวนี้มีส่วนผสมที่เป็นมิตรกับผิวหน้า ทั้งยังสามารถป้องกันแสงแดด, รังสีและแสงสีฟ้าได้ยาวนานโดยที่ประสิทธิภาพในการป้องกันก็ยังคงสูงและต่อเนื่องยาวนานตลอดวัน นอกจากนี้แล้วกันแดดของยูเซอรินก็ยังช่วยลดและป้องการกันทำร้ายผิวจากรังสี ซึ่งผลพลอยได้ก็คือช่วยให้จุดด่างดำและฝ้าแดดลดลงนั่นเองค่ะ

จุดเด่น

• เนื้อฟลูอิด บางเบา และซึมง่าย
• ไม่มีส่วนผสมของสี, น้ำหอม และพาราเบน
• ป้องกันน้ำได้ดี 
• ไม่อุดตันรูขุมขน 
• มีประสิทธิภาพในการช่วยป้องกันรังสีได้ยาวนานถึง 8 ชม.

ข้อพิจารณา

• ราคาค่อนข้างสูง

ดูได้ที่ Lazada

ดูได้ที่ Shopee

ครีมกันแดด SRICHAND กันแดดเนื้อบางเบา ลูมิเนสเซนส์ แฟบูลัส ยูวี ชิลด์

ราคา 159 บาท*

ครีมกันแดดจาก SRICHAND กันแดดคุณภาพดีแถมยังมีราคาเข้าถึงง่าย ตัวครีมกันแดดจะมาในลักษณะเนื้อครีมสีขาว ไม่ข้นและก็ไม่เหลวจนเกินไปทำให้เกลี่ยง่าย อีกทั้งเนื้อก็ค่อนข้างที่จะบางเบา ทาแล้วไม่ทำให้รู้สึกเหนอะหนะหน้าและไม่ทำให้หน้าวอก นอกจากนี้เนื้อครีมก็ยังมาพร้อมกลิ่นที่หอมละมุนทำให้รู้สึกสบายผิว ส่วนผสมของตัวครีมกันแดดถูกคัดสรรมาเป็นอย่างดีและยังผ่านการทดสอบการระคายเคืองมาแล้วด้วยนะคะ

ข้อดี

• เหมาะสำหรับผิวสาวเอเชียที่มีผิวมันหรือผิวผสมโดยเฉพาะ
• ราคาประหยัด เข้าถึงได้ง่าย
• ไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน, น้ำหอม และพาราเบน
• เนื้อครีมเกลี่ยง่าย ไม่ทำให้หน้าเป็นคราบ
• เนื้อครีมไม่หนัก สามารถใช้งานได้ทุกวัน

ข้อพิจารณา

• สำหรับผู้ที่มีผิวหน้ามันมาก ๆ อาจช่วยคุมมันได้เพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ทั้งนี้ผลลัพธ์ก็ขึ้นอยู่กับผิวหน้าของผู้ใช้แต่ละคนด้วยเช่นกัน

ดูได้ที่ Lazada

ดูได้ที่ Shopee

* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า

อีกทางเลือก 5 อันดับ ครีมกันแดด ราคาประหยัดและดี (DrugStore)

เคล็ดลับการใช้ครีมกันแดดให้เกิดประสิทธิภาพที่สุด

ค่า SPF สูงไม่ใช่ทุกอย่าง

การเลือกค่า SPF สูง ๆ นั้น ไม่ได้หมายความว่าจะปกป้องแสดงแดดได้ดีกว่า SPF ค่าที่ต่ำ ๆ เสมอไป และสำหรับคนที่มีผิวแพ้ง่ายแต่กลับเลือกค่า SPF สูง อาจจะก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนังมากกว่าSPF ค่าที่ต่ำ

การทาครีมกันแดดค่า SPF ต่างกันไม่ได้เพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกัน

สำหรับใครที่คิดว่าการทาครีมกันแดด SPF หลาย ๆ ค่าทับซ้อนกันจะยิ่งเพิ่มประสิทธิการกันแดดนั้น ให้หยุดพฤติกรรมเหล่านี้ไปได้เลยค่ะ เพราะหากเดิมทีคุณทาครีมกันแดด SPF 50+ และไปทา SPF 15 ทับอีกชั้น ประสิทธิภาพในการกันแดดไม่ได้หมายความว่าป้องกันเพิ่มเป็น SPF 65 นะคะ!

ช่วงเวลาที่แดดอันตรายที่สุด ()

พยายามใช้ชีวิตในที่ร่มเมื่อเจอแดดแรงในช่วงเวลาระหว่าง 10.00 น. ถึง 14.00 น. โดยเฉพาะยิ่งหน้าร้อนคือต้องหลบแดดให้มากที่สุดและควรทาครีมกันแดดอย่างน้อยที่สุด SPF 30 เป็นประจำทุกวัน หากมีความจำเป็นต้องออกแดดให้ปกปิดผิวหนังของคุณด้วยด้วยเสื้อผ้าที่เหมาะสมและอย่าลืมแว่นตากันแดดด้วย หากเป็นไปได้คุณควรหาอุปกรณ์เสริมในการป้องกันแสงแดดที่นอกเหนือจากครีมกันแดด อาทิเช่น ร่มกันแดด, ปลอกแขนกันแดด หรือสวมหมวก เป็นต้น

ปริมาณในการทาครีมกันแดด ()

ผู้คนส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าควรทาครีมมากน้อยแค่ไหน เอาเป็นว่าสำหรับผู้ใหญ่ควรจะใช้ครีมกันแดดอย่างน้อยในปริมาณ 2 ช้อนชา สำหรับการป้องกันแขนและคอ และปริมาณ 2 ช้อนโต๊ะสำหรับการทาทั้งตัว เพราะหากทาครีมกันแดดบางเกินไปประสิทธิภาพการป้องกันจะลดลง หากในกรณีที่คุณต้องออกแดดแรงจ้า ถ้าคุณกังวลว่าการทาครีมกันแดด SPF 30 ไม่เพียงพอคุณสามารถใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงกว่านี้ได้ค่ะ

ระยะเวลาที่ต้องทาครีมกันแดดก่อนออกแดด ()

อย่างที่บอกไปแล้วว่าครีมกันแดดประเภท Sunscreen ต้องรออย่างน้อย 30 นาทีก่อนออกแดด และครีมกันแดดแบบ Sunblock ไม่จำเป็นต้องรอสามารถออกแดดได้เลย แต่หากคุณไม่แน่ใจว่ามันเป็นครีมกันแดดชนิดไหน ก็โปรดจำไว้ว่าให้รออย่างน้อย 30 นาทีก่อนออกแดดค่ะ

ต้องทาครีมกันแดดซ้ำทุก ๆ กี่ชั่วโมง? ()

กลับมาที่ปัญหาโลกแตก คือต้องทาซ้ำกี่ชั่วโมงกี่นาที ก่อนอื่นเรามาทบทวนความจำอีกรอบนะคะสำหรับครีมกันแดดประเภท Sunscreen ต้องซ้ำทุก 2-3 ชั่วโมง และครีมกันแดดแบบ Sunblock ไม่จำเป็นต้องทาซ้ำ แต่หากคุณรู้สึกแสบร้อนที่ผิวหนัง คุณก็สามารถหยิบครีมกันแดดออกมาทาซ้ำได้ทุกเมื่อที่คุณต้องการ แต่เพื่อให้การป้องกันมีประสิทธิภาพสูงสุด คุณควรจะทากันครีมแดดซ้ำทุก 2 ชั่วโมงหรือบ่อยกว่านั้นจะดีที่สุดเลยค่ะ ยิ่งกรณีที่ออกแดดแรง ๆ การทาทับบ่อย ๆ เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันแสงแดดให้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย

จุดบนร่างกายที่คนมักพลาด ลืมทาครีมกันแดด

มะเร็งผิวหนังสามารถเกิดขึ้นได้ที่ส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายก็ได้ แม้แต่คนที่ไม่ได้สัมผัสกับรังสียูวีก็ตาม แต่ก็ยังมีผู้คนจำนวนมากที่มักจะลืมทาครีมกันแดดตรงบริเวณปลายหู, หลังหู, หนังศีรษะ (กรณีไม่มีเส้นผม), หลังคอ, รอบดวงตา และส่วนบนของมือกับเท้า ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดเพื่อให้แน่ใจว่าคุณได้รับป้องกันจากครีมกันแดดอย่างเต็มที่ควรทาครีมกันแดดก่อนแต่งตัวแล้วให้ทาใหม่อีกครั้งบนผิวที่เสื้อผ้าไม่ได้ปกคลุม สำหรับริมฝีปากแนะนำให้ทาลิปบาล์มหรือลิปสติกที่มีกันแดดในตัวที่มีค่า SPF ตั้งแต่ 15-30 ขึ้นไป

ใครควรดูแลได้รับการป้องกันแสงแดดเป็นพิเศษ? ()

• ผู้ที่มีผิวซีดขาวหรือน้ำตาลอ่อน
• มีไฝจำนวนมาก
• ผู้ที่มีปัญหาผิวหนังที่เกี่ยวข้องกับสภาวะทางการแพทย์
• ผู้ที่จำเป็นต้องสัมผัสกับแสงแดดจัด
• ผู้ที่อยู่ในประเทศอากาศร้อน ซึ่งแสงแดดจัดเป็นพิเศษ อย่างประเทศไทย
• ผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งผิวหนัง
• ผู้ที่ใช้เวลาอยู่กลางแดดเป็นเวลานานไม่ว่าจะเป็นการทำงานหรือการเล่น มักมีความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งผิวหนัง
• คนที่มีผิวสีน้ำตาลหรือสีดำคล้ำตามธรรมชาติ มีโอกาสน้อยที่จะเป็นมะเร็งผิวหนัง เนื่องจากคนผิวคล้ำจะมีการป้องกันรังสียูวีได้ดีกว่า แต่ทั้งนี้และทั้งนั้นมะเร็งผิวหนังก็ยังสามารถเกิดขึ้นได้นะคะ อย่าชะล่าใจไป

ควรใช้ครีมกันแดดชนิดกันน้ำเมื่อใด?

สูตร “กันน้ำ” เหมาะสำหรับวันที่อากาศร้อนหรือขณะที่คุณกำลังเล่นกีฬาที่ต้องออกเหงื่อ รวมถึงกิจกรรมว่ายน้ำด้วยค่ะ ซึ่งครีมกันแดดกันน้ำนั้นจะไม่หมาะกับทาในชีวิตประจำวันนะคะ เพราะสูตรกันน้ำมักจะเหนียวมาก ทำให้คุณรู้สึกไม่สบายตัว ทั้งยังทำให้แต่งหน้าไม่ติดด้วยนะคะ

สกินแคร์และเครื่องสำอางที่มี SPF 15 ถือว่าปลอดภัยหรือไม่?

มอยส์เจอร์ไรเซอร์หลายชนิด มีส่วนผสมบางอย่างที่สามารถให้มีค่า SPF 15 ขึ้นไป ซึ่งถือว่าเพียงพอแล้วสำหรับการใช้ชีวิตประจำวันที่ไม่ได้เน้นออกแดดเป็นพิเศษ แต่หากคุณจำเป็นต้องออกแดดที่แรงหน่อยก็อาจจะยกระดับเป็น SPF 30 ขึ้นไปได้ค่ะ สำหรับพวกเครื่องสำอางอย่างการใช้รองพื้นหรือไพรเมอร์ที่มีส่วนผสมของครีมกันแดดอยู่ด้วย ถือเป็นทางเลือกที่ดีในการป้องกันแสงแดดมาก ๆ แต่ทางที่ดีการทาครีมกันแดดก่อนใต้การแต่งหน้าจะดีที่สุดค่ะ

ครีมกันแดดทาหน้ากับมอยส์เจอร์ไรเซอร์ควรทาอะไรก่อน

โดยทั่วไปแล้วในครีมกันแดดสำหรับผิวหน้ามีสารที่สามารถมอบความชุ่มชื้นให้ผิวได้และในมอยส์เจอร์ไรเซอร์เองก็มีค่า SPF ป้องกัน UAB เช่นกัน แต่หากคุณรู้สึกว่าผิวแห้งขาดน้ำมาก ต้องการใช้ทั้งมอยส์เจอร์ไรเซอร์และครีมกันแดดด้วย ก็สามารถทาครีมบำรุงผิวตามปกติก่อนแล้วจากนั้นลงครีมกันแดดตามทีหลังทับลงไป

อันตรายหากคุณไม่ทาครีมกันแดด!!

การมองข้ามความสำคัญของครีมกันแดดอาจมีผลต่อผิวของคุณในระยะยาว เพราะสิ่งที่น่ากลัวที่สุดการเป็นมะเร็งผิวหนัง รวมถึงอาจจะทำให้เกิดริ้วรอย, ฝ้า, กระ, ผิวอักเสบ และผิวไหม้ได้ () แม้ว่าคุณจะอยู่แค่ภายในบ้านไม่ด้ออกไปไหนเลยก็ตาม แต่คุณก็ต้องทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ เพราะในหลอดไฟ หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างเตาไมโครเวฟก็สามารถปล่อยรังสี UVC และรังสี UVB ออกมาได้ ซึ่งอาจทำให้เกิดมะเร็งผิวหนังได้ในที่สุดค่ะ () นอกจากนี้ในกรณีที่ออกไปข้างนอกและคุณรู้สึกว่าวันนี้มีเมฆครอบคลุมมากเป็นพิเศษคงไม่มีอันตรายอะไรหรอก แต่แท้ที่จริงแล้วคุณก็ยังมีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งผิวหนังอยู่ดีค่ะ ()  ดังนั้นหากคุณไม่ทาครีมกันแดด คุณอาจจะต้องเจอกับปัญหาเหล่านี้ค่ะ ()

1. การเกิดฝ้า: บริเวณที่เป็นฝ้าจะมีลักษณะสีผิวที่คล้ำกว่าสีผิวจริงของคุณ นอกจากนี้ฝ้ายังช่วยเร่งผลกระทบโดยรวมของริ้วรอยที่จะตามอีกด้วยนะคะ
2. ริ้วรอยที่เพิ่มขึ้น: หากคุณไม่ทาครีมกันแดด แสงแดดจะเข้าไปทำลายคอลลาเจนและเนื้อเยื่อเกี่ยวกับสุขภาพผิวของคุณทั้งหมด ซึ่งจะนำไปสู่การสูญเสียความยืดหยุ่นของผิว หรือต้นเหตุของการเกิดริ้วรอยที่เพิ่มขึ้นนั่นเองค่ะ
3. ผิวหน้าแสบร้อน: การถูกแดดแรง ๆ แผดเผาเป็นระยะเวลานาน ๆ อาจจะเกิดแผลพุพอง ซึ่งจะสร้างจ็บปวดได้ในที่สุด คุณจะต้องใช้ครีมบำรุงที่มีส่วนผสมของว่านหางจระเข้เพื่อบรรเทาอาการ
4. รอยแผลเป็น: รอยแผลเป็นมักเกิดกับผู้ป่วยที่ผิวไวต่อแสงมาก ๆ จนสามารถสร้างความรุนแรงต่อผิวที่อาจจะทำให้เกิดแผลเป็นได้ค่ะ

หมายเหตุ : แนะนำสำหรับคนที่มีปัญหาด้านฝ้าและริ้วรอยให้ใช้ครีมรักษาฝ้า เซรั่มลดริ้วรอย และทานอาหารเสริมคอลลาเจนควบคู่ไปด้วยนะคะ

บทสรุป การเลือกซื้อครีมกันแดด 

จากที่ได้อ่านบทความจากเราไปแล้ว หวังว่าคุณจะตระหนักได้ว่าครีมกันแดดเป็นสิ่งที่เราควรมีไว้เพื่อปกป้องแสงแดดและดูแลผิวของเรา การเลือกซื้อครีมกันแดดก็ต้องดูที่ลักษณะการใช้งานที่ต่างกัน แล้วจึงเลือกตามคุณสมบัติของครีมกันแดดแต่ละสูตร นอกจากนี้สำหรับคนที่แพ้ง่ายยิ่งต้องระวังในการเลือกซื้อ คุณควรหารีวิวต่าง ๆ อ่านเยอะ ๆ และควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังก่อน เพราะผิวของแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน หากใช้ครีมกันแดดที่ไม่เหมาะกับผิวเรา อาจก่อให้เกิดการแพ้ตามมาในภายหลังได้นะคะ 🙂