๑.ลักษณะการปกครอง ลักษณะการปกครองของสมัยสุโขทัยสามารถแบ่งออกเป็น 2 ระยะ คือ ๑) การปกครองสมัยสุโขทัยตอนต้น (พ.ศ. 1792-1841) ในช่วงต้นของการสถาปนากรุงสุโขทัย เริ่มจากสมัยพ่อขุนศรีอินทราทิตย์จนสิ้นสมัยพ่อขุนรามคำแหงมหาราชเป็นการปกครองแบบพ่อปกครองลูก ๒) การปกครองสมัยสุโขทัยตอนปลาย (พ.ศ. 1841-1981) หลังจากสมัยของพ่อขุนรามคำแหงมหาราชแล้ว กษัตริย์องต่อมา คือ พญาเลอไทย และพญางั่วนำถม ในช่วงนี้อาณาจักสุโขทัยเริ่มระส่ำระส่าย เมืองต่างๆ พากันแยกตัวเป็นอิสระ ไม่ขึ้นต่อกรุงสุโขทัย ภายในบ้านเมืองเกิดความไม่สงบเรียบร้อย มีการแย่งชิงราชสมบัติกันอยู่เนืองๆ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ลักษณะการปกครองแบบพ่อปกครองลูกเริ่มเสื่อมลง เมื่อพระมหาธรรมราชาที่ 1 (ลิไทย) ทรงขึ้นครองราชย์ใน พ.ศ. 1890พระองค์ทรงตระหนักถึงความไม่สงบเรียบร้อยดังกล่าว และทรงเห็นว่า การแก้ปัญหาการเมืองด้วยอำนาจทางทหารเพียงอย่างเดียว คงทำได้ยากเพราะกำลังทหารของกรุงสุโขทัยในขณะนั้นไม่เข้มแข็งพอ พระองค์จึงทรงดำเนินนโยบายใหม่ ด้วยการนำหลักธรรมทางพระพุทธศาสนามาใช้เป็นหลักปกครองอาณาจักรพร้อมกับได้ขยายอำนาจทางการเมืองออกไป การปกครองที่ใช้หลักทางพระพุทธศาสนาปกครองนี้เรียกว่า การปกครองแบบธรรมราชา กษัตริย์ผู้ปกครองอยู่ในฐานะธรรมราชาหรือราชาผู้ทรงธรรม ทรงปกครองบ้านเมืองด้วยหลักทศพิธราชธรรม ๒. การปกครองราชธานีและหัวเมือง การปกครองในสมัยสุโขทัยจะมีลักษณะเป็นแบบการกระจายอำนาจการบริหารจากราชธานีไปสู่หัวเมืองต่างๆ ซึ่งหัวเมืองในอาณาจักสุโขทัย แบ่งออกเป็น 4 ชั้น ในแต่ละชั้นกษัตริย์ทรงใช้อำนาจการปกครองดังนี้ เมืองหลวง (ราชธานี) เป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์ เมืองลูกหลวง (หัวเมืองชั้นใน) เป็นเมืองหน้าด่านตั้งอยู่รายรอบราชธานีทั้ง 4 ทิศ ประเทศราช (เมืองขึ้น) เป็นเมืองชายแดนที่อยู่นอกราชอาณาจักร ๓. ความสำคัญกับอาณาจักรสำคัญๆ ขณะที่อาราจักสุโขทัยก่อตั้งขึ้นโดยมีกรุงสุโขทัยเป็นราชธานี ได้มีเมืองของชนชาติไทย และชนชาติอื่นๆ ตังตนเป็นอิสระอยู่บริเวณใกล้เคียงกันอีกหลายเมือง ซึ่งอาณาจักสุโขทัยมีความสัมพันธ์กับเมืองต่างๆ ดังนี้ ๑) อาณาจักรล้านนา เป็นอาณาจักรที่อยู่ทางตอนเหนือของสุโขทัย และความเจริญรุ่งเรืองพอๆ กับอาณาจักสุโขทัย ด้วยเหตุที่อาณาจักทั้งสองต่างเป็นกลุ่มคนไทยด้วยกันจึงมีความสัมพันธ์อันดีต่อกันมาตลออด ๒) อาณาจักรนครศรีธรรมราช ตามตำนานกล่าวไว้ว่า พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ ได้เสด็จไปเยือนกษัตริย์แห่งแคว้นนครศรีธรรมราชและทรงติดต่อขอพระพุทธสิหิงค์จากลังกามาประดิษฐานยังกรุงสุโขทัย ส่วนในสมัยพ่อขุนรามคำแหง ได้ทรงนำพระพุทธศาสนานิกายเถรวาท อย่างลังกาวงศ์จากเมืองนครศรีธรรมราชมาเผยแพร่ในกรุงสุโขทัย ๓) จีน สุโขทัยได้มีการติดต่อค้าขายกับจีนมานาน ในรัชสมัยพ่อขุนรามคำแหงได้ส่งคณะทูตเดินทางไปสร้างสัมพันธไมตรีกับจีน มีไมตรีต่อกัน ซึ่งมีผลดีทั้งด้านเศรษฐกิจและด้านการเมือง คือ มีการติดต่อค้าขายกับจีน และได้รับอิทธิพลการทำเครื่องเคลือบจากจีน ซึ่งต่อมาเรียกว่า เครื่องสังคโลก ๔) ลังกา สุโขทัยมีความสัมพันธ์กับลังกา ด้วยเรื่องพระพุทธศาสนาเป็นส่วนใหญ่ ดังปรากฏในตำนานว่า กษัตริย์ของนครศรีธรรมราชร่วมกับกษัตริย์แห่งสุโขทัย ทรงส่งพระภิกษุเป็นทูตไปทูลขอพระพุทธสิหิงค์จากลังกา |