ความ แตก ต่าง ระหว่าง เกษตรอินทรีย์ กับ เกษตรเคมี

เข้าใจใหม่ !
เกษตรอินทรีย์ & GAP
(สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรเเละอาหารเเห่งชาติ)

ประจำเดือนมกราคม 2564

     เกษตรอินทรีย์ Organic Agricultural : ไม่ใช้สารเคมี

     × ยาฆ่าเเมลง

     × ยากำจัดวัชพืช

     × ปุ๋ยเคมี

     × ฮอร์โมน

     × สารเคมีสังเคราะห์

     × GMO

     × ฉายรังสี

     เกษตรปลอดภัย GAP (Good Agricultural Practice) : ใช้สารเคมี (เท่าที่จำเป็น)

     × ยาฆ่าเเมลง/ยากำจัดวัชพืช (ใช้ได้เเต่ต้องใช้อย่างถูกต้องเเละมีสารตกค้างไม่เกินค่ามาตรฐาน)

     × ปุ๋ยเคมี

     × ฮอร์โมน

     × ฉายรังสี

 **ควรรู้ : การทำเกษตรอินทรีย์ไม่จำเป็นต้องทำ GAP มาก่อน สามารถเริ่มทำเกษตรอินทรีย์ได้เลย

เกษตรอินทรีย์

                เป็นระบบการผลิตที่ไม่ใช้สารเคมีสารสังเคราะห์ทุกชนิด ไม่ใช้สารกำจัดศัตรูพืช ไม่ใช้ยาฆ่าเเมลง ไม่ใช้ปุ๋ย ไม่ใช้ฮอร์โมน ไม่ใช้ GMO เเละในขั้นตอนการเเปรรูปก็ไม่ให้ใช้สารสังเคราะห์ เเละไม่ใช้วิธีการฉายรังสี โดยเน้นให้คำนึงถึงสิ่งเเวดล้อม รักษาสมดุลของระบบนิเวศ เเละรักษาความหลากหลายทางชีวภาพรวมถึงการผลิตแบบผสมผสาน

เกษตรปลอดภัย (GAP)

                เกษตรปลอดภัย (GAP) หรือการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี เป็นระบบการผลิตที่อนุญาตให้ใช้สารเคมีทางการเกษตร ปุ๋ยเคมี ในกระบวนการผลิตได้เเต่ต้องใช้ในปริมาณที่ถูกต้องตามคำเเนะนำของกรมวิชาการเกษตรหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะทำให้ผลิตผล/สินค้าเกษตรที่เมื่อเก็บเกี่ยวแล้วอาจมีปริมาณสารพิษตกค้างอยู่ในระดับต่ำเเต่มีความปลอดภัยต่อผู้บริโภค ซึ่งเเตกต่างกับเกษตรอินทรีย์ที่ไม่อนุญาตให้ใช้สารเคมีสังเคราะห์ใดๆ

เครื่องหมายรับรอง

มาตราฐานเกษตรอินทรีย์

มาตราฐาน GAP

          *ติดต่อสอบถาม : สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรเเละอาหารเเห่งชาติ (มกอช.) กระทรวงเกษตรเเละสหกรณ์ เลขที่ 50 ถนนพหลโยธิน เเขวงลาดลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900   โทร. 02 561 2277 ต่อ 1431 1422   โทรสาร. 02 561 3928

          มกอช.-2562-กสม. -4

          พิมพ์ครั้งที่ 2 ฉบับปรับปรุงใหม่

          กรกฏาคม 2562 จำนวน 12,500 แผ่น

ที่มา : สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษ๖รเเละอาหารเเห่งชาติ

ข้ามไปยังเนื้อหา

ความ แตก ต่าง ระหว่าง เกษตรอินทรีย์ กับ เกษตรเคมี
รูปภาพจาก : pinterest

เกษตรอินทรีย์แตกต่างอย่างไร

เกษตรอินทรีย์ ถือการทำงานร่วมกับธรรมชาติ ที่ไม่ใช่การฝืนธรรมชาติ โดยอาจจะหมายถึงการทำงานที่ดีร่วมกันระหว่างสัตว์ในฟาร์ม เป็นต้น โดยการทำเกษตรอินทรีย์เราก็จะไม่มีการใช้สารเคมีต่างๆ ในการกำจัดวัชพืช หรือ ปุ๋ยเคมีต่างๆ แถมยังมีการจัดสรรการใช้ที่ดินและทรัพยากรธรรมชาติให้เกิดความยั่งยืนและมีความคุ้มค่าเป็นอย่างมากอีกด้วย ฉะนั้นแล้วการทำการเกษตรอินทรีย์เราก็ควรที่จะต้องมุ่งมั่นและให้ความใส่ใจในรายละเอียดต่างๆ อย่างตั้งใจเพื่อที่เราจะได้สามารถที่จะตรวจสอบได้ เพราะการทำการเกษตรอินทรีย์ที่ดีและได้มาตรฐานก็จะต้องทำให้ทุกคนที่ได้เลือกซื้อผลิตภัณฑ์ของเราไปรู้สึกมั่นใจขึ้นมาด้วย

การทำการเกษตรชนิดนี้เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ยากอยู่พอสมควร สิ่งที่สำคัญคือ การลดใช้ยาฆ่าแมลง

ทำฟาร์มแบบเกษตรอินทรีย์

ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ดีและตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดีเลยนะครับ เพราะบางทีพืชผักผลผลิตต่างๆ ในทุกวันนี้เราก็แทบไม่รู้ว่ามันจะมีสารพิษอะไรปนเจืออยู่บ้าง เพราะผู้ทำการเกษตรส่วนใหญ่ก็มักจะเลือกใช้สารเคมีต่างๆ เข้ามาเป็นส่วนสำคัญในการดูแลรักษาพืชผล แต่การใช้สารเคมีมันก็ย่อมจะทิ้งสารพิษตกค้างไว้อย่างมากมาย

การที่เราได้เลือกผลิตภัณฑ์อาหารที่ได้มาจากฟาร์มเกษตรอินทรีย์

ทำให้การใช้ชีวิตของเราดูดีและมีคุณภาพอีกด้วย แต่การที่เราจะเลือกสินค้าที่มาจากเกษตรอินทรีย์เราก็จะต้องดูด้วยว่าฟาร์มที่ผลิตสินค้ามาได้รับการตรวจสอบและตรงเป็นไปตามมาตรฐานการผลิตหรือเปล่า เพราะบางที่การทำเกษตรอินทรีย์บางฟาร์มไม่ค่อยจะคำนึงถึงผู้บริโภคสักเท่าไร


ความ แตก ต่าง ระหว่าง เกษตรอินทรีย์ กับ เกษตรเคมี
รูปภาพจาก : pinterest

สรุป : เกษตรอินทรีย์

ในทุกวันนี้มาตรฐานของการทำเกษตรอินทรีย์ ก็จะลดการแทรกแซงธรรมชาติลง โดยจะมีการปลูกพืชต่างๆ หมุนเวียนกันไปในฟาร์มเดียวกัน เพื่อที่จะได้สร้างความหลากหลายที่ดีโดยก็จะต้องเลือกพืชที่ต้านทานโรคและแมลงศัตรูพืช เกษตรอินทรีย์ก็จะช่วยทำให้ลดปัญหาโรคที่เกี่ยวกับพืชได้เป็นอย่างดี และที่สำคัญเมื่อเราลดปัญหาโรคต่างๆ ได้ก็ย่อมจะทำให้เราลดใช้สารเคมีต่างๆ ไปด้วย ดังนั้นการทำฟาร์มเกษตรอินทรีย์ถ้าหากเราศึกษามาดีๆ ย่อมจะทำให้การทำฟาร์มสามารถที่จะตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี การทำฟาร์มเกษตรอินทรีย์ก็ควรที่จะต้องศึกษารายละเอียดทุกครั้งก่อนการทำ เพื่อที่ฟาร์มของเราจะได้ออกมาดีและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น